ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณปลูกกระเทียมกินเองได้ง่ายๆ ในราคาย่อมเยา บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการปลูกกระเทียม ตั้งแต่คัดกระเทียมมาปลูก ไปจนถึงวิธีขุด และเก็บรักษาเลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

เตรียมปลูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แต่ส่วนใหญ่ควรปลูกในช่วงหน้าหนาว คือปลายปี หรือต้นปี
    • กระเทียมจริงๆ แล้วก็ทนได้ทุกสภาพอากาศ แต่บ้านเราค่อนข้างร้อนชื้น ฝนตกบ่อย เพราะฉะนั้นให้เน้นปลูกช่วงหน้าหนาวจะดีที่สุด
  2. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    ถึงจะชอบอากาศหนาว แต่กระเทียมก็ชอบแดด มีร่มเงาได้บ้าง แต่ต้องพยายามให้ถูกแดดระหว่างวัน ดินต้องร่วนซุย ใช้ดินร่วนปนทรายได้จะดีที่สุด
    • ก่อนจะใส่ปุ๋ย ควรเช็คสภาพดินก่อน คือหาชุดทดสอบแร่ธาตุต่างๆ ในดินมาใช้ จะติดต่อเกษตรจังหวัดหรือหาซื้อในเน็ตก็ได้ [1]
    • ดินต้องระบายน้ำได้ดี ถ้าเป็นดินโคลนจะไม่เหมาะใช้ปลูกกระเทียม
    • เพิ่มแร่ธาตุในดินด้วยปุ๋ยคอกและปุ๋ยอินทรีย์ก่อนลงมือปลูก
  3. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    ต้องเอากลีบกระเทียมสดมาปลูก หรือในที่นี่เราเรียกว่าเมล็ด โดยซื้อกระเทียมสดมาจากตลาดหรือแหล่งที่เขาปลูก สำคัญว่ากระเทียมหัวนั้นต้องสดและคุณภาพดี เป็นกระเทียมออร์แกนิกได้ยิ่งดี จะได้ไม่มียาฆ่าแมลง
    • เลือกกระเทียมที่หัวใหญ่กลีบใหญ่ ที่นิ่มแล้วอย่าเอา
    • แต่ละกลีบปลูกแล้วจะงอกมาเป็นต้น เพราะงั้นก็นับได้สะดวก ว่าอยากได้กี่ต้นต้องซื้อกี่หัว
    • ถ้ากระเทียมที่บ้านมีรากงอก ก็ใช้ได้เลย
    • ตามสถานีเกษตร แหล่งเพาะปลูก หรือกระทั่งตามเน็ต ก็มีหัวกระเทียมสำหรับใช้ปลูกโดยเฉพาะขายเหมือนกัน ลองแวะเข้าไปสอบถามดูจะได้ตรงจุด รวมถึงได้คำแนะนำในการเพาะปลูก
    • ยิ่งร้านออนไลน์จะยิ่งมีให้เลือกสารพัดพันธุ์ แถมมีวิธีการแนะนำเสร็จสรรพ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

ลงมือปลูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    แกะออกมาทั้งกลีบ ระวังอย่าให้ฉีกขาดตรงฐาน ไม่งั้นจะปลูกไม่ขึ้น
    • ปลูกกลีบใหญ่ๆ ก่อน กลีบเล็กๆ ก็งอก และต้องปลูกเว้นระยะเท่าๆ กัน แต่หัวที่ขึ้นจะเล็กกว่า
  2. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    ชี้ปลายขึ้นด้านบน และฝังลึกลงไปประมาณ 2 นิ้ว (5 ซม.)
    • แต่ละกลีบให้ปลูกห่างกันประมาณ 8 นิ้ว (20 ซม.) จะดีที่สุด
  3. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    เช่น ฟาง หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก หรือเศษหญ้าหมัก
  4. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    กระเทียมที่เพิ่งปลูกต้องได้รับสารอาหารเต็มที่
    • กระเทียมบ้านเราปลูกเดือนเดียวก็เก็บเกี่ยวได้ เพราะฉะนั้นถ้าปลูกอีกรอบตอนต้นปีก็ให้ใส่ปุ๋ยอีกที
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

ดูแล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    กระเทียมปลูกใหม่ๆ ต้องชื้นหน่อย รากจะได้งอกงาม แต่ก็อย่ารดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้เน่าก่อนโต โดยเฉพาะถ้าอากาศหนาวจัด
    • รดน้ำเยอะๆ อาทิตย์ละครั้งถ้าฝนไม่ตก ไม่ต้องรดบ่อย เว้นแต่เป็นหน้าแล้ง และอย่ารดเยอะเกินไปเพราะกระเทียมไม่ชอบดินที่ชื้นแฉะ
    • พออากาศเริ่มอุ่นหรือร้อนขึ้น ก็ค่อยๆ ลดการรดน้ำ เพราะหัวกระเทียมต้องอาศัยแสงแดดและอากาศแห้งๆ ถึงจะโต
  2. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    พวกแมลง หนู และอื่นๆ ที่อาจมากัดกินหรือทำรังด้านบน วิธีกำจัดก็เช่น
    • เพลี้ยอ่อนชอบกินใบกระเทียมและดอกตูม แต่กำจัดง่าย แค่บี้ทิ้งก็เรียบร้อย
    • หลายคนชอบปลูกกระเทียมใต้กุหลาบเพื่อดึงดูดความสนใจ ช่วยป้องกันเพลี้ยอ่อนได้
    • หนูและสัตว์เล็กๆ บางทีก็มาทำรังในวัสดุคลุมดิน แก้โดยใช้พลาสติกหรือผ้าใบคลุมแทน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

เก็บเกี่ยว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    ช่วงที่กระเทียมเริ่มโต จะมีกาบใบสีเขียวยาวๆ งอกออกมา เรียกว่า scape คุณดึงหรือตัดมากินได้เลย โดยเฉพาะยอดอ่อน
    • แต่ระวังส่งผลถึงหัวกระเทียม เพราะงั้นอย่าไล่ตัดกินมันซะทุกต้น
    • ตอนดึงกาบใบให้ใส่ถุงมือด้วย ไม่งั้นจะเหม็นติดมือไปทั้งวัน
  2. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    หัวกระเทียมจะพร้อมให้คุณเก็บเกี่ยวก็ต่อเมื่อ 1 หัวแยกออกมาเป็นหลายกลีบครบถ้วนสมบูรณ์ และใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล
    • พอกาบใบเริ่มแห้ง ให้รีบขุดหัวกระเทียม ไม่งั้นหัวจะ "แตก" หลุดออกมาเป็นกลีบๆ
    • อันนี้แล้วแต่สภาพอากาศ แต่เริ่มเก็บเกี่ยวกระเทียมได้ช่วงกลางปีไปจนถึงปลายปี
    • ถ้าอากาศร้อนแบบบ้านเรา ปลูกเดือนหนึ่งขึ้นไปก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว
  3. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    ใช้พลั่วหรือส้อมพรวนดินขุดดินรอบๆ หัวกระเทียม. แล้วดึงหัวกระเทียมขึ้นมา ถ้าใช้ส้อมพรวนต้องระวังอย่าไปแทงโดนหัวกระเทียมตอนขุด
    • ตอนขุดต้องระวังมากๆ เพราะกระเทียมช้ำง่าย
    • อย่าเพิ่งล้างกระเทียม ให้แขวน "ตาก" ไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ อุณหภูมิประมาณ 26-27 °C กำลังดี หลังตากแล้ว ก็แปรงเปลือกนอกแห้งๆ ให้หลุดลอกออกไปได้ เหลือแต่ผิวสะอาดๆ ด้านล่าง จากนั้นตัดขั้วและราก แล้วเก็บในที่แห้ง อากาศเย็น
    • ถ้าเก็บแล้วเอาไปล้างทันที กว่าจะตากแห้งเสร็จอาจเน่าซะก่อน และถ้าเก็บแล้วไม่แขวนตากไว้ จะเน่าเร็วจนใช้ไม่ทัน
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

จัดเก็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    หัวกระเทียมแห้งจะเก็บในหม้อดินเผามีรูระบาย หรือแกะมาเก็บเป็นกลีบๆ ก็ได้
  2. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    แล้วแขวนหัวกระเทียมไว้ในครัวก็ได้ ทั้งสวยงามและมีประโยชน์
  3. Watermark wikiHow to ปลูกกระเทียมไว้กินเอง
    จะดองกระเทียมในน้ำมันหรือน้ำส้มสายชูก็ได้ แต่ต้องเก็บในตู้เย็นและรีบกินให้หมด จะได้ไม่ทันเน่าเสีย
    • คำเตือน: ถ้าจะดองกระเทียมในน้ำมัน หรือทำน้ำมันรสกระเทียม ต้องระวังให้มาก ห้ามเก็บนอกตู้เย็นเด็ดขาด เพราะจะเกิดสารพิษ botulism toxin (เป็นผลมาจากความเป็นกรดต่ำ ขาดออกซิเจน และอุณหภูมิอุ่นๆ) ถึงจะย่างกระเทียมแล้วใส่ในน้ำมันก็ยังเกิดได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • กระเทียมกลีบใหญ่ปลูกแล้วก็ได้กระเทียมหัวใหญ่
  • ให้เก็บกระเทียมที่ปลูกปีนี้ไว้ 1 - 2 หัว จะได้แกะกลีบไปปลูกปีหน้า
  • ให้ผสมดินเหนียวกับทรายใช้ปลูกกระเทียม แล้วจะขึ้นงาม!
  • กระเทียมทนอากาศเย็นได้ดี ปลูกปลายปี ทิ้งไว้ข้ามปีแล้วค่อยเก็บเกี่ยวก็ยังได้
  • ปกติแค่ซื้อหัวกระเทียมจากตลาดหรือสวนมาปลูกก็ดีพอแล้ว แต่ถ้าอยากได้พันธุ์แปลกๆ จะลองแวะไปตามแหล่งที่เขาปลูกกันโดยเฉพาะ สถานีเกษตร หรือหาซื้อในเน็ตดูก็ได้
  • ถ้าปลูกแล้วได้กระเทียมหัวเล็กจิ๋วก็อย่าเพิ่งเซ็ง เอาไปปลูกต่อก็ดี!
  • ให้เก็บเกี่ยวตอนใบล่างๆ กลายเป็นสีน้ำตาล เหลือใบเขียวประมาณ 5 - 6 ใบ ใบเขียวพวกนี้พอแห้งแล้วจะกลายเป็นเปลือกแห้งๆ ป้องกันและยืดอายุกระเทียมได้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าปล่อยกระเทียมแห้งคาดิน เพราะหัวจะแตกออกมาเป็นกลีบๆ
  • อย่าเอาหัวกระเทียมไปแช่แข็ง เพราะจะนิ่มเละ เอาไปใช้ต่อไม่ได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • กลีบกระเทียม
  • ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์
  • ฟาง หญ้าแห้ง เศษหญ้าหมัก ไว้ใช้คลุมดิน
  • อุปกรณ์รดน้ำล
  • เสียม พลั่ว ส้อมพรวน

ข้อมูลอ้างอิง

  1. https://extension.umaine.edu/publications/2286e/
  2. Caroline Foley, Jill Nice and Marcus A. Webb, New Herb Bible , p. 51, (2001), ISBN 1-875-169-92-X – ข้อมูลอ้างอิง
  3. Bay Books Gardening Library, Herbs for Your Garden , p. 50, (1992), ISBN 1-86378-028-9 – ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,590 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา