ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการปิด Caps Lock ที่ปกติทำให้พิมพ์ทุกอย่างออกมาเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ วิธีนี้ใช้ได้ทั้งใน Windows และ Mac คุณปิด Caps Lock ของคอมทั่วไปได้ง่ายมาก แค่กด "Caps Lock" ซ้ำ แต่ถ้าปุ่ม Caps Lock ค้าง ก็ต้องซ่อมกันซะก่อน หรือจะปิดการใช้งาน Caps Lock ไปเลยก็ได้ ถ้าไม่คิดจะใช้ Caps Lock ในคอมเครื่องนั้นอีก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ปิด Caps Lock

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าตอนแรกเปิดโดยกดปุ่ม Caps Lock (ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ) ก็แค่กดปุ่มเดิมซ้ำ ถ้าคอมและคีย์บอร์ดใช้งานได้ตามปกติ เท่านี้ก็ปิด Caps Lock ได้แล้ว
    • บางคนเบื่อ Caps Lock เพราะอยู่ติดปุ่ม Shift กับ Tab จนเผลอกดไปโดนอยู่เรื่อย เพราะงั้นก็ปิดการใช้งานถาวรได้ (จนกว่าจะไปเปิดใช้งานอีกรอบเอง) ทั้งใน Windows และ Mac
  2. ทำความสะอาดปุ่มที่ค้าง . ถ้ากดปุ่ม Caps Lock ซ้ำแล้วไม่ยอมปิด เป็นไปได้ว่าข้างใต้ค้าง ให้ทำความสะอาดโดยฉีดอากาศอัดกระป๋อง หรือใช้คอตตอนบัดจุ่มแอลกอฮอล์ล้างแผลแล้วเช็ดอย่างระวัง
    • เป็นขั้นตอนที่ต้องระวังมาก เพราะถ้าตัวปุ่มหรือกลไกใต้ปุ่มเสีย ประกันของคอมจะขาดไปเลย
  3. โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ปิดการใช้งาน Caps Lock ใน Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อค้นหาโปรแกรม Notepad ในคอม ที่ใช้ปิดการทำงานของ Caps Lock ในคอมเครื่องนั้น
  2. ที่เป็นไอคอนสมุดโน้ตสีฟ้า ทางด้านบนของหน้าต่าง Start แล้วหน้าต่าง Notepad จะเปิดขึ้นมา
  3. ไฟล์ Notepad ใหม่นี้ จะมีหัวข้อ บรรทัดว่าง บรรทัดระบุตำแหน่ง และตัวโค้ด [1]
    • พิมพ์ Windows Registry Editor Version 5.00 แล้วกด Enter 2 ครั้ง
    • พิมพ์ [HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Keyboard Layout] แล้วกด Enter
    • พิมพ์ "Scancode Map"=hex:00,00,00,00,00,00,00,00,02,00,00,00,00,00,3a,00,00,00,00,00 ที่บรรทัดสุดท้ายของ Notepad
  4. ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Notepad แล้วเมนูจะขยายลงมา
  5. ท้ายเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง "Save As"
  6. พิมพ์ disable_caps_lock.reg ในช่อง "File name" ท้ายหน้าต่าง
  7. จะอยู่ใต้ช่อง "File name" คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
  8. ในเมนูที่ขยายลงมา
  9. คลิกโฟลเดอร์ที่หาง่ายๆ (เช่น Desktop ) ทางซ้ายของหน้าต่าง เลือกโฟลเดอร์ไหนก็จำไว้ เพราะเดี๋ยวต้องเปิดโฟลเดอร์นี้
  10. ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟไฟล์ลงโฟลเดอร์ที่เลือกไว้
  11. ไปยังโฟลเดอร์ที่เซฟไฟล์ไว้ (ถ้าเลือกหน้า Desktop ก็แค่ย่อหน้าต่างที่เปิดไว้) แล้วดับเบิลคลิกเพื่อเปิด จากนั้นคลิก Yes จนมีแจ้งเตือนว่า merge registry file แล้ว
  12. จะอยู่ในแจ้งเตือนว่าคุณเปลี่ยน registry เรียบร้อยแล้ว
  13. คลิก Start คลิก Power แล้วคลิก Restart ในเมนูที่โผล่มา พอคอมรีสตาร์ทเสร็จ จะเห็นว่าใช้งาน Caps Lock ไม่ได้แล้ว
    • คุณลบไฟล์ที่สร้างไว้ได้เลยหลังรีสตาร์ท
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปิดการใช้งาน Caps Lock ใน Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
  2. 2
    คลิก System Preferences… . ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง System Preferences
  3. 3
    คลิก Keyboard . ที่เป็นไอคอนรูปคีย์บอร์ด ในหน้าต่าง System Preferences เพื่อเปิดหน้าต่าง Keyboard
  4. 4
    คลิก tab Keyboard . ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Keyboard
  5. 5
    คลิก Modifier Keys… . ที่มุมขวาล่างของหน้าต่าง Keyboard แล้วหน้าต่าง pop-up จะโผล่มา
  6. 6
    คลิกช่อง Caps Lock ให้ขยายลงมา. ปกติจะอยู่กลางหน้าต่าง pop-up คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
  7. 7
    คลิก No Action . ในเมนูที่ขยายลงมา
    • ถ้าใช้ Mac แบบมี Touch Bar แทนปุ่มฟังก์ชั่นเป็นแถว ให้คลิก Escape แทน เพื่อตั้งฟังก์ชั่น "Escape" ให้ปุ่ม Caps Lock
  8. 8
    คลิก OK . ที่เป็นปุ่มสีฟ้าท้ายหน้าต่าง pop-up เพื่อเซฟค่าใหม่ ต่อไปนี้พอกด Caps Lock แล้วก็จะไม่เกิดอะไรเลย
    • ถ้าทำตามขั้นตอนแล้วยังใช้ Caps Lock ได้ ให้รีสตาร์ท Mac เพื่อยืนยันค่าใหม่ซ้ำ โดยคลิก Apple menu คลิก Restart… แล้วคลิก Restart ตอนที่ขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าจะเปิดใช้ Caps Lock ใน Windows ใหม่อีกรอบ ต้องลบไฟล์ disable_caps_lock.reg จาก "HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\Keyboard Layout" ของ Registry Editor ก่อน จากนั้นรีสตาร์ท
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าปุ่ม Caps Lock ค้างอยู่ที่ "On" แถมปิดการใช้งาน Caps Lock ถาวรไม่ได้ ก็ยกคอมไปให้ช่างซ่อมจะดีกว่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 29,735 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา