บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการปิด "Restricted Mode" ของ YouTube ที่ปกติใช้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหาไม่พึงประสงค์หรือล่อแหลม คุณปิดโหมดนี้ได้ทั้งในแอพและเว็บ YouTube เลย ถ้าเข้าบางวีดีโอของ YouTube ไม่ได้เพราะมีการบล็อกจากในเครือข่าย เช่น ตอนใช้เน็ตที่โรงเรียน หรือในคอมที่เปิด parental control ไว้ ก็ต้องหาทางลัดเลาะโดยเข้าเว็บ proxy แทน ข้อเสียคือถ้าเว็บหรือคลิปใน YouTube ถูกบล็อก ส่วนใหญ่เว็บ proxy ก็จะถูกบล็อกไปด้วย โอกาสที่จะปลดบล็อกเลยน้อยตามไปด้วย
ขั้นตอน
-
เข้าเว็บ YouTube. โดยพิมพ์ https://www.youtube.com/ ในเบราว์เซอร์ แล้วจะเห็นหน้า home ของ YouTube ถ้าล็อกอินบัญชี YouTube ไว้แล้ว
- ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน YouTube ให้คลิก SIGN IN ที่มุมขวาบนของหน้า แล้วใส่อีเมลกับรหัสผ่าน
-
คลิกไอคอนโปรไฟล์. ที่มุมขวาบนของหน้า YouTube แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Settings . ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้า Settings
- ถ้าใช้ YouTube เวอร์ชั่นเก่า ต้องคลิกไอคอนฟันเฟือง ในเมนูที่ขยายลงมาแทน
-
คลิกช่อง "Restricted Mode" ให้ขยายลงมา. ปกติจะอยู่ท้ายหน้า คลิกแล้วจะเห็นตัวเลือกเพิ่มเติม ทางด้านล่างของหน้าต่างเบราว์เซอร์
-
เลื่อนลงไปติ๊กช่อง "Off". ท้ายหน้า
-
คลิก Save . ท้ายหน้า ใต้หัวข้อ "Restricted Mode" เพื่อเซฟค่าใหม่และปิด Restricted Mode ของบัญชีคุณ
-
ปิดแล้วเปิด YouTube ขึ้นมาใหม่. ปิด tab ที่มีเว็บ YouTube แล้วเปิด tab ใหม่ จากนั้นเข้า YouTube อีกรอบ เพื่อรีเซ็ตแคชของ YouTube เท่านี้วีดีโอที่เคยเข้าไม่ได้ก่อนหน้า ก็จะโผล่มาตอนค้นหาโฆษณา
-
เปิดแอพ YouTube. แตะไอคอนของแอพ YouTube ที่เป็นสามเหลี่ยมสีขาวบนพื้นแดง แล้วจะเห็นหน้า home ของ YouTube ถ้าล็อกอินไว้
- ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน YouTube ให้แตะไอคอนโปรไฟล์รูปคน ที่มุมขวาบนของหน้าจอ แตะ Sign In แล้วใส่อีเมลกับรหัสผ่าน (หรือเลือกบัญชีถ้ามี)
-
แตะไอคอนโปรไฟล์. ที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
แตะ Settings . ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้า Settings
-
แตะสวิตช์ "Restricted Mode" สีฟ้า . แล้วจะกลายเป็นสีเทา แปลว่าปิด Restricted Mode เรียบร้อยแล้ว
- ถ้าใช้ Android ให้แตะ General ก่อน ถึงจะมีตัวเลือกนี้
-
ปิดแล้วเปิดแอพ YouTube ขึ้นมาใหม่. อาจต้องรอ 2 - 3 นาที วีดีโอที่ตอนแรกดูไม่ได้ถึงจะโผล่มาในแอพ YouTube แต่ถ้าอยากให้เร็วกว่านั้น ก็ปิดแล้วเปิดแอพ YouTube ขึ้นมาใหม่ได้เลยโฆษณา
-
1เว็บ proxy ใช้ยังไง. เว็บ proxy จะเปลี่ยนเส้นทางการค้นหาของคุณ ไปยังเซิร์ฟเวอร์อื่น ไม่ใช่ที่เครือข่ายปัจจุบันใช้อยู่ เลยไม่ติด restrictions หรือปลดบล็อกได้ แต่ปัญหาคือถ้าการใช้เน็ตของคุณถูกตรวจติดตาม หรือใช้เน็ตในเครือข่ายที่บล็อกเว็บหรือกรองบางเนื้อหา เว็บ proxy จะถูกมองว่าไม่ปลอดภัยหรือไม่น่าไว้ใจ เลยทำให้พลอยโดนบล็อกไปด้วย
- ข้อเสียของเว็บ proxy คือท่องเว็บได้ช้ากว่าเบราว์เซอร์ทั่วไป โดยเฉพาะการดูวีดีโอใน YouTube อาจจะไม่ค่อยลื่นไหลเท่าที่ควร
-
เลือกเว็บ proxy. มีเว็บ proxy ฟรีให้เลือกใช้ bypass เว็บที่ถูกบล็อกได้มากมาย ถ้าเน็ตที่ใช้บล็อกบางเว็บ proxy ก็ให้ลองเว็บต่อไปนี้ จนกว่าจะเจอเว็บที่ใช้การได้ดี
- HideMe - https://hide.me/en/proxy
- ProxySite - https://www.proxysite.com/
- Whoer - https://whoer.net/webproxy
- ProxFree - https://www.proxfree.com/youtube-proxy.php
- ถ้าไม่มีเว็บไหนด้านบนใช้ได้เลย ให้ลองค้นหาเว็บ proxy อื่น โดยพิมพ์ "free online proxy 2018" (หรืออะไรที่ใกล้เคียง) ใน Google แล้วเลือกจากผลลัพธ์ที่ได้ แต่ต้องเช็คให้ดีก่อนกรอกข้อมูลส่วนตัวในเว็บ proxy ที่เลือก
-
หาแถบค้นหา URL. ปกติจะอยู่กลางหน้าเว็บ proxy ใช้เข้าเว็บอื่นจากในเว็บ proxy ได้เลย
-
ใส่ address ของ YouTube. พิมพ์ www.youtube.com ในแถบค้นหา URL ของเว็บ proxy
-
ปรับ search properties ถ้าจำเป็น. หลายเว็บ proxy จะมีตัวเลือกการค้นหาเพิ่มเติม เช่น ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ ที่คุณเปลี่ยนได้ก่อนเริ่มค้นหาเว็บที่ต้องการ
- เช่น ถ้ามีตัวเลือกให้เปลี่ยนตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ ไปเป็นประเทศอื่นได้ ก็ทำเลย แต่ข้อเสียคือบางวีดีโออาจจะจำกัดให้ดูได้เฉพาะบางประเทศเท่านั้น (ไม่ได้เป็นเพราะ Restricted Mode แต่อย่างใด)
-
เริ่มค้นหา. คลิกปุ่ม Go หรือ Search หรือกด ↵ Enter เพื่อไปยังหน้าของ YouTube จากนั้นก็ค้นหาวีดีโอที่ปกติดูได้ในเครือข่ายที่ไม่บล็อกเว็บ
- YouTube จะค่อนข้างอืด โดยเฉพาะถ้าใช้เซิร์ฟเวอร์ของประเทศอื่นอยู่
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าเป็นไปได้ ให้ ใช้ VPN แต่ต้อง subscribe ชำระค่าบริการก่อน แล้วดาวน์โหลดโปรแกรมหลังต่อเน็ต
- ปิด Restricted mode แล้วไม่ได้ช่วยให้ bypass ฟิลเตอร์จำกัดประเทศเข้าชมของ YouTube ได้ เลยยังต้องเจอ error "Video is not available in your region"
- คอมสาธารณะหรือในห้องคอมของโรงเรียน/มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรมคัดกรองเนื้อหาอย่าง SafeSquid เพื่อบังคับใช้ Restricted Mode ของ YouTube ระดับ gateway เลย ทำให้ใครก็ปิดฟีเจอร์นี้เองไม่ได้
โฆษณา
คำเตือน
- การปิด Restricted mode ของ YouTube ส่วนใหญ่จะละเมิดเงื่อนไขการใช้งานคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนหรือที่ทำงาน กระทั่งข้อตกลงร่วมกันของบางครอบครัว
- ห้ามละเมิดกฎหรือกฎหมายของประเทศที่ใช้งานเด็ดขาด รวมถึงกฎของบริษัทหรือสถานศึกษา เพราะแน่นอนว่าจะมีบทลงโทษตามมาเสมอ
โฆษณา
โฆษณา