ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไม่มีอะไรน่าคับข้องใจมากเท่ากับการที่ล้างหน้าหลังจากโกนหนวดเกลี้ยงเกลาแล้ว แต่กลับต้องเจออาการเจ็บแสบทรมานจากการโกน ซึ่งเป็นอาการระคายเคืองที่พบได้ทั่วไปหลังจากการโกนขน ทั้งนี้ อาการเจ็บแสบดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นที่ใบหน้า รักแร้ ไปจนถึงขอบแนวบิกินี่คุณผู้หญิง แต่ก็มี หลาย วิธีที่สามารถจัดการกับอาการอันน่าหงุดหงิดและไม่น่ามองดังกล่าว หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่าง คุณก็จะสามารถลดผลกระทบอันเจ็บแสบจากการโกน และการระคายเคืองผิวหนังบริเวณที่โกนได้
ขั้นตอน
-
ใช้ใบมีดโกนใหม่. ใบมีดโกนที่ถูกใช้บ่อยเกินไป จะมีความทื่อและเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นสองปัจจัยที่ทำให้อาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนยิ่งเลวร้ายลงไปอีก คุณควรเปลี่ยนไปใช้ใบมีดโกนใหม่ทุก 2 สัปดาห์ หรือใบละ 5 ครั้ง และทำความสะอาดให้ดีหลังการใช้ทุกครั้ง
-
โกนให้ถูกทาง. พยายามโกนให้ไป แนวเดียวกัน กับขนในบริเวณนั้น ด้วยการปาดสั้นๆ บรรจงๆ การโกน ย้อน ขน จะเพิ่มโอกาสในการเกิดขนคุด อาการระคายเคือง และผิวอักเสบ ส่วนการปาดยาวเกินไป อาจทำให้ออกแรงกดมากเกินไปลงบนผิว เพิ่มการสัมผัสกับใบมีด ทำให้เกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนมากขึ้น
-
โกนตอนกลางคืน. การโกนขนในตอนเช้า มักต้องทำก่อนที่จะทำกิจวัตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การทาลูกกลิ้งดับกลิ่นกายหลังจากที่คุณเพิ่งโกนรักแร้เสร็จ นอกจากนี้ ในระหว่างวัน คนเรามักจะต้องออกไปสัมผัสกับแบคทีเรียและสารพิษต่างๆ รวมถึงมีเหงื่อาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนกด้วย มลภาวะเหล่านั้นผสมกับใบหน้าที่เพิ่งโกนเกลี้ยงเกลาของคุณ ย่อมเพิ่มโอกาสในการเกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนได้ จงป้องกันกรณีดังกล่าวด้วยการโกนเฉพาะตอนกลางคืนหรือก่อนนอน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสทำให้บริเวณที่โกนเจอมลภาวะต่างๆ ได้น้อยกว่า
-
โกนเวลาอาบน้ำ. ต่อให้คุณล้างหน้าทาครีมก่อนโกนหนวดแล้ว แต่ขนของคุณก็ไม่มีเวลาเพียงพอในการอ่อนตัวหรือทำให้โกนง่ายขึ้นได้ ลองอาบน้ำอุ่นหรือร้อนและโกนหลังจากอาบไปสักสองสามนาทีแล้ว อย่ารอนานเกินไป เนื่องจากการรอเป็นสิบนาทีหรือมากกว่านั้น อาจทำให้ผิวคุณเหี่ยวย่นได้ จนทำให้เกิดตอขน หลังจากที่โกนเสร็จและเช็ดหน้าจนแห้งเรียบร้อยแล้ว
-
ทำความสะอาดใบมีดโกนสม่ำเสมอ. หากคุณโกนโดยไม่ล้างใบมีดเลย ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสของอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน การสั่งสมของเส้นขนและผลิตภัณฑ์ตกค้างต่างๆ บนแผงมีดของมีดโกนคุณ ส่งผลให้คุณต้องออกแรงกดมากกว่าปกติ ในการปาดอีกหลายครั้งที่ตามมา เพิ่มโอกาสในการทำให้ผิวเสียหายและมีอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน ดังนั้น จงล้างใบมีดของคุณให้สะอาดทุกครั้งหลังการปาดแต่ละครั้ง เพื่อขจัดเศษขนและสิ่งหมักหมมตามซอกใบมีด
-
ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น. หลังเสร็จสิ้นการโกนทุกรอบ ให้ใช้น้ำเย็นล้างหน้าเพื่อปิดรูขุมขน จะช่วยให้ผิวกระชับและปิดบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงลดขนคุดที่อาจเกิดขึ้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จุ่มใบมีดลงในแอลกอฮอล์ทำความสะอาด หลังจากล้างน้ำครั้งสุดท้าย. ใบมีดมีอายุใช้งานนานกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด ความสึกหรอของคมมีดที่เห็นชัดเกิดจากการเรียงตัวของซี่บนคมมีด ซึ่งก่อตัวจากผลึกแร่ธาตุที่ปนมากับน้ำ และทำให้เกิดอาการครูดกับผิวหนังเวลาโกน ส่งผลให้ใบมีดสะดุดและก่อให้เกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนส่วนใหญ่ที่เป็นกัน แอลกอฮอล์จะช่วยชะล้างน้ำและตะกอนผลึกแร่ธาตุจนระเหยออกไปโดยไม่มีตะกอนใดๆ ตกค้างอีก เก็บมีดโกนโดยการวางให้สันคมมีดแหงนขึ้นโฆษณา
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า. แม้ว่าคุณจะยังไม่ได้โกนอะไรบนใบหน้า แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีกรดซาลิไซลิก ก็จะช่วยฆ่าแบคทีเรียและลดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน ถูบริเวณที่คุณกำลังจะโกนด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและล้างน้ำออกก่อนโกน
-
ใช้เจลโกนหนวด. ห้ามโกนแบบแห้งๆ หรือใช้แค่น้ำเปล่า และหลีกเลี่ยงการใช้ครีมโกนหนวดที่อาจก่อให้เกิดรูขุมขนอุดตัน คุณควรใช้เจลล้างหน้าโปะบริเวณที่จะโกนและล้างใบมีดทุกครั้งหลังปาดแต่ละครั้ง จะช่วยปกป้องผิวหน้าคุณจากคมมีดและไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทาว่านหางจระเข้. หลังจากโกนหนวดเสร็จทุกครั้ง ทาเจลว่านหางจระเข้เล็กน้อยลงบริเวณที่โกน ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและป้องกันอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำเย็น และเอาผ้าซับแห้ง
-
พอกด้วยข้าวโอ๊ตบด. ข้าวโอ๊ตบดมีการกล่าวขวัญมานานนับทศวรรษแล้วว่า สามารถเยียวยาอาการระคายเคืองผิวได้ และใช้ได้ผลกับอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนด้วย หากคุณรู้ตัวว่าเกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนง่าย หรือเริ่มมีผื่นขึ้นเล็กน้อยแล้ว ลองผสมข้าวโอ๊ตบดกับนมสดเล็กน้อย พอกลงบนบริเวณดังกล่าว ทิ้งไว้ 5-10 นาทีก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำอุ่น
-
ทาครีมเปรี้ยว. แม้ว่าจะฟังดูแปลกสักหน่อย แต่ครีมเปรี้ยวหรือ Sour Cream อุดมไปด้วยสารอาหาร ซึ่งเป็นผลดีต่อการสมานแผลหรืออาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนอ ยิ่งกว่านั้น หากเป็นครีมเย็นๆ ก็จะช่วยให้บรรเทาอาการระคายเคือง เอานิ้วจิ่มครีมเปรี้ยวและทาลงไปบริเวณที่โกนหนวด และล้างน้ำออกหลังจาก 10 นาที
-
ทาครีมแก้อักเสบ. หลังจากโกนหนวดเสร็จ ทาครีมหรือขี้ผึ้งแก้อักเสบลงบนผิวของคุณ ซึ่งจะช่วยฆ่าแบคทีเรียที่อุดตันรูขุมขน และนำไปสู่การเกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนที่คุณเป็นอยู่ ทำเช่นนี้หลายวันติดต่อกันหรือจนกว่าอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนจะลดลง หรือหายเป็นปลิดทิ้ง [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตรวจดูสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้. ลองอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ เพื่อดูว่ามันทำมาจากอะไรบ้าง อาจจะมีส่วนประกอบบางอย่างที่ทำให้คุณเกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นผิวของคุณจึงมีปฏิกิริยาให้เกิดผื่นคัน ลองเลิกใช้ผลิตภัณฑ์โกนหนวดต่างๆ หลังจากโกนแล้วสองสามวัน จากนั้น ค่อยกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง เพื่อทดสอบดูว่าผลิตภัณฑ์ตัวใดที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- สำหรับผิวบอบบาง ลองโกนหนวดด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์หรือครีมซอร์โบลีน มันจะช่วยหล่อลื่น รวมถึงปกป้องผิวระหว่างการโกน และมีโอกาสในการเกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกนน้อยกว่า
- หากใบหน้าของคุณแพ้ง่ายเป็นพิเศษ ลองทาขี้ผึ้งหรือครีมหลังการโกน อาจจะช่วยบรรเทาและลดการเกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน
- วิธีที่รวดเร็วในการกำจัดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน คือใช้สำลีก้อนชุบน้ำยาเปอร์ออกไซด์ (Peroxide) และทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้น ทาโลชั่นแบบไม่ผสมน้ำหอม บางคนทำวิธนี้แล้วได้ผลดี ไม่มีปัญหาใดๆ อีก ขนคุดจะเกิดขึ้นเวลาที่ตอขนม้วนกลับขึ้นมาทิ่มใต้ผิวหนัง จนอาจทำให้ดูเหมือนเกิดอาการเจ็บแสบผิวอันเกิดจากการกระทบมีดโกน แต่ขนคุดมักจะหายไปเองตามธรรมชาติ
- ลองโกนหนวดในขณะอาบน้ำ ด้วยเนยมะพร้าวแทนครีมโกนหนวด
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าใช้มีดโกนร่วมกับใคร
- อย่าใช้ใบมีดที่งอหรือมีสนิม
- จงใช้ใบมีดโกนด้วยความระมัดระวัง อย่าทดสอบความคมกับปลายนิ้วตัวเอง หากคุณทำบาดนิ้วตัวเอง อย่าลืมทำความสะอาดและรักษาบาดแผลให้ถูกวิธี
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.artofmanliness.com/2009/07/16/how-to-prevent-razor-burn/
- ↑ http://www.marieclaire.com/hair-beauty/how-to/razor-burn-prevent
- ↑ http://www.marieclaire.com/hair-beauty/how-to/razor-burn-prevent
- ↑ http://health.howstuffworks.com/skin-care/underarm-care/tips/5-tips-for-preventing-underarm-razor-burn.htm
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 18,957 ครั้ง
โฆษณา
