วิธีการ ป้องกันโรคหนองในเทียม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
PDF download ดาวน์โหลดบทความ

โรคหนองในเทียม (Chlamydia) นั้นเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่าคลามัยเดีย ปกติแล้วจะติดต่อกันแบบโรคติดต่อทางเพศ หลายคนที่ไม่เคยมีอาการปรากฎ ดังนั้น มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าคู่ของคุณนั้นติดเชื้อ แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงได้มากโดยการมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ป้องกันการติดเชื้อระหว่างมีเซ็กส์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/d\/de\/Prevent-Chlamydia-Step-1-Version-2.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-1-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/d\/de\/Prevent-Chlamydia-Step-1-Version-2.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-1-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    วิธีเดียวนี่แน่นอนที่สุดในการหลีกเลี่ยงการเป็นโรคหนองในเทียมก็คือการไม่มีเซ็กส์ โรคหนองในเทียมนั้นจะติดต่อผ่านกันระหว่างทางช่องคลอดที่ไม่ได้ป้องกัน การมีเซ็กส์ที่ทวาร หรือออรัลเซ็กส์ [2] [3]
    • ยิ่งคุณมีเซ็กส์กับคนอื่นมากเท่าไหร่ ก็มีแนวโน้มมากขึ้นที่คุณจะมีเซ็กส์กับผู้ที่เป็นโรคหนองในเทียม [4]
    • หากใครที่ติดเชื้อหนองในเทียม แบคทีเรียนั้นจะอยู่ในอสุจิหรือน้ำในช่องคลอ แม้ว่าจะไม่แสดงอาการของโรคออกมาอย่างเห็นได้ชัด
    • นี่หมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อหากคุณได้รับของเหลวในร่างกายที่ติดเชื้อบนมือ จากนั้นก็ส่งผ่านไปที่อวัยวะเพศหรือภายในร่างกายของคุณ
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/e\/e9\/Prevent-Chlamydia-Step-2-Version-2.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-2-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/e\/e9\/Prevent-Chlamydia-Step-2-Version-2.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-2-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ถุงยางอนามัยนั้นไม่ได้กำจัดความเสี่ยงทั้งหมด แต่คุณจะลดความเสี่ยงได้มาก อย่างไรก็ตาม ถุงยางนั้นต้องทำมาจากยางหรือโพลียูรีเทน [5]
    • สวมถุงยางอย่างถูกต้อง ดึงที่ปลายของถุงยางและค้างไว้อย่างนั้นขณะที่คุณค่อยๆ คลี่ไปตามความยาวของอวัยวะเพศ ควรจะมีช่องว่างที่ปลายเพื่อไว้กักอสุจิในช่วงที่ถึงหลั่งอสุจิออกมา
    • หลังจากที่มีเซ็กส์แล้ว ใหถอดถุงยางออกด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้อสุจิหยดออกมา
    • หากคุณทำออรัลเซ็กส์ให้ผู้หญิง ให้ใช้แผ่นยาง dental dam มันจะเป็นยางชิ้นเล็กๆ ซึ่งจะลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดต่อทางเพศได้มาก คุณอาจจะใช้ถุงยางแบบ split-open ด้วยก็ได้ [6]
    • ในการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ คุณต้องใช้ถุงยางระหว่างที่มีเซ็กส์ทางทวารด้วย
    • สวมถุงยางหรือแผ่นยาง dental dam เมื่อเริ่มกิจกรรมทางเพศ
    • หากถุงยางขาดระหว่างที่มีเซ็กส์ ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อก็สูงขึ้น
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/06\/Prevent-Chlamydia-Step-3-Version-2.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-3-Version-2.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/06\/Prevent-Chlamydia-Step-3-Version-2.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-3-Version-2.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    หากคุณใช้เซ็กส์ทอยร่วมกัน มันก็สามารถแพร่เชื้อหนองในเทียมและโรคติดต่อทางเพศอื่นๆ ในการป้องกันเรื่องนี้ เซ็กส์ทอยนั้นควรจะมีลักษณะดังนี้ [7]
    • ฆ่าเชื้อโรคแล้วระหว่างผู้ใช้
    • หรือสวมด้วยถุงยางแบบลาเท็กซ์หรือแบบโพลียูรีเทนอันใหม่เมื่อแต่ละคนใช้เซ็กส์ทอย
  4. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/0\/0f\/Prevent-Chlamydia-Step-4.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-4.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/0\/0f\/Prevent-Chlamydia-Step-4.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-4.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    การฉีดน้ำสวนเข้าไปจะเป็นการรบกวนระบบของแบคทีเรียธรรมชาติที่อยู่ในช่องคลอดและอาจจะทำให้ผู้หญิงนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อ [8]
    • การฉีดน้ำสวนเข้าไปจะไม่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หรือโรคติดต่อทางเพศ
  5. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/a\/a8\/Prevent-Chlamydia-Step-5.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-5.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/a\/a8\/Prevent-Chlamydia-Step-5.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-5.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    นี่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งหากคุณไม่ได้ป้องกันระหว่างมีเซ็กส์ มีคู่นอนหลายคน มีอายุน้อยกว่า 25 ปี หรือตั้งครรภ์ [9]
    • โรคหนองในเทียมนั้นเกิดขึ้นมากที่สุดในผู้ที่มีอายุน้อย ประมาณ 1:20 ของหญิงที่มีเซ็กส์ที่อายุน้อยกว่า 25 ปีนั้นเป็นโรคหนองในเทียม หากคุณมีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจจะแนะนำให้มาตรวจเป็นรายปี
    • หญิงที่ตั้งครรภ์นั้นสามารถส่งผ่านเชื้อหนองในเทียมไปให้เด็กๆ ได้ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่หญิงตั้งครรภ์จะต้องไปตรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าติดเชื้อเองหรือคู่นอนติดเชื้อ
    • ปกติแล้ว หนองในเทียมจะถูกตรวจพบในการตรวจปัสสาวะหรือการตรวจโดยใช้ไม้ป้าย (swab test) สำหรับผู้หญิงนั้น จะถูกป้ายบริเวณปากมดลูก สำหรับผู้ชายจะเป็นที่ท่อปัสสาวะหรือทวารหนัก
  6. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/5\/5d\/Prevent-Chlamydia-Step-6.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-6.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/5\/5d\/Prevent-Chlamydia-Step-6.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-6.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    รู้ว่าโรคหนองในเทียมจะไม่ติดต่อกันในกรณีแบบนี้. คุณจะไม่ติดโรคหนองในเทียมผ่านสิ่งเหล่านี้ [10]
    • การจูบ
    • ใช้ผ้าขนหนูร่วมกัน
    • นั่งบนโถส้วม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

รู้อาการของโรคหนองในเทียมและวิธีการดูแล

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/1\/14\/Prevent-Chlamydia-Step-7.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-7.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/1\/14\/Prevent-Chlamydia-Step-7.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-7.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีอาการ แต่ถ้าหากคุณมี มันก็จะเริ่มประมาณ 1 เดือนหลังจากที่คุณติดเชื้อ [11] [12] [13] อาการนั้นได้แก่
    • รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนเมื่อปัสสาวะ
    • เจ็บที่ท้อง
    • มีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศหญิง เพศชาย และทวาร
    • ผู้หญิงจะรู้สึกเจ็บหลังจากมีเซ็กส์หรือระหว่างที่มีประจำเดือน ผู้ชายจะรู้สึกเจ็บที่อัณฑะ
    • มีเลือดออกเยอะในช่วงประจำเดือน
    • อาการของคุณอาจจะหยุดไปสักพัก แต่ไม่ได้หมายความว่าเชื้อที่ติดแล้วนั้นจะหายไป
  2. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/5\/5c\/Prevent-Chlamydia-Step-8.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-8.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/5\/5c\/Prevent-Chlamydia-Step-8.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-8.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    หากคุณคิดว่าคุณได้ติดเชื้อโรคหนองในเทียมไปแล้ว ก็ควรไปตรวจ หากมันไม่ได้รับการรักษา มันอาจจะนำไปสู่ปัญหาเรื่องสมรรถภาพสำหรับทั้งชายและหญิงและเพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV [14]
    • ทั้งหญิงและชายนั้นสามารถมีอาการข้อต่ออักเสบตอบสนองกับโรคหนองในเทียมได้ มันจะเป็นการอักเสบที่ทำให้เจ็บปวดที่ข้อต่อ ดวงตา และท่อปัสสาวะ อาการของคนส่วนใหญ่จะหายไปหลังจาก 2-3 เดือน แต่ไม่ได้หมายความว่าเชื้อที่ติดนั้นหายไป
    • ผู้ชายจะติดเชื้อที่อัณฑะและในทางเดินอสุจิ มันก็จะลดสมรรถภาพทางเพศของผู้ป่วย
    • ผู้หญิงจะติดเชื้อที่มดลูก รังไข่ และปีกมดลูก มันจะทำให้เจ็บและมีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ มันยังเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานและเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกที่ร้ายแรงถึงชีวิตในอนาคตได้
    • เชื้อคลามัยเดียที่ทำให้เป็นโรคหนองในเทียมนั้นเป็นอันตรายต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ มันจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะแท้ง ทารกเสียชีวิตในครรภ์ หรือคลอดก่อนกำหนด หากเชื้อถูกส่งผ่านจากมารดาไปสู่ทารกในช่วงที่ตั้งครรภ์ ทารกก็อาจจะติดเชื้อที่ปอดหรือตา
  3. {"smallUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images_en\/thumb\/3\/3b\/Prevent-Chlamydia-Step-9.jpg\/v4-460px-Prevent-Chlamydia-Step-9.jpg","bigUrl":"https:\/\/www.wikihow.com\/images\/thumb\/3\/3b\/Prevent-Chlamydia-Step-9.jpg\/v4-728px-Prevent-Chlamydia-Step-9.jpg","smallWidth":460,"smallHeight":345,"bigWidth":728,"bigHeight":546,"licensing":"<div class=\"mw-parser-output\"><\/div>"}
    ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาหากคุณคิดว่าคุณคิดเชื้อคลามัยเดีย. โรคหนองในเทียมนั้นรักษาได้ผลดีโดยใช้ยาปฏิชีวนะ มากกว่า 95% ของผู้ป่วยที่ทำตามการรักษานั้นสามารถกำจัดเชื้อได้ [15]
    • แพทย์ของคุณอาจจะจ่ายยา azithromycin doxycycline หรือ erythromycin ทานยาปฏิชีวนะให้ครบชุดเพื่อให้แน่ใจว่าการติดเชื้อนั้นถูกกำจัดไปทั้งหมด
    • อย่ามีเซ็กส์แม้จะสวมถุงยางก็ตามจนกว่าคุณและคู่นอนที่อาจจะติดเชื้อนั้นรักษาเรียบร้อยดีแล้ว หากคุณต้องทานยาปฏิชีวนะให้ครบใน 1 วัน คุณอาจจะต้องรอประมาณ 1 อาทิตย์เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อนั้นถูกกำจัดไปทั้งหมด
    • ไปตรวจอีกครั้งหลังจากที่รักษาแล้วหากอาการไม่หายไป หรือคุณไม่ได้ทานยาตามคำแนะนำ มีเซ็กส์ก่อนที่จะรักษาเสร็จ หรือตั้งครรภ์
    โฆษณา


บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

วิธีการ
คราง
วิธีการ
ทำให้เซ็กซ์ดียิ่งขึ้น
วิธีการ
เล้าโลมผู้หญิง
วิธีการ
จู๋จี๋กับแฟนครั้งแรก
วิธีการ
วัดขนาดถุงยาง
วิธีการ
จูบคอคนรัก
วิธีการ
เพิ่มความแซ่บให้ชีวิตบนเตียง
วิธีการ
ทำให้ประจำเดือนหมดเร็ว
วิธีการ
ใช้ถุงยางอนามัย
วิธีการ
ส่งข้อความสยิวหากัน
วิธีการ
ถามอีกฝ่ายว่าอยากมีเซ็กส์ไหม
วิธีการ
ทำตัวโรแมนติกบนเตียง
วิธีการ
บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
วิธีการ
เพิ่มความอึดขณะมีเซ็กส์
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/definition/con-20020807
  2. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/prevention/con-20020807
  3. ↑ http://www.nhs.uk/chq/Pages/968.aspx
  4. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/prevention/con-20020807
  5. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/prevention/con-20020807
  6. ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/womens-health/in-depth/health-issues-for-lesbians/art-20047202
  7. ↑ http://www.nhs.uk/chq/Pages/968.aspx
  8. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/prevention/con-20020807
  9. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/tests-diagnosis/con-20020807
  1. ↑ http://www.nhs.uk/chq/Pages/968.aspx
  2. ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chlamydia/basics/symptoms/con-20020807
  3. ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/001345.htm
  4. ↑ http://www.nhs.uk/Conditions/Chlamydia/Pages/Symptoms.aspx
  5. ↑ http://www.nhs.uk/Conditions/Chlamydia/Pages/Complications.aspx
  6. ↑ http://www.nhs.uk/Conditions/Chlamydia/Pages/Treatment.aspx

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

ในภาษาอื่น
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,610 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา