ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
นิ่วในไตนั้นเป็นผลึกแข็งที่สะสมอยู่ภายในไต และเกิดจากแร่ธาตุและเกลือที่เป็นกรด หากมันมีขนาดใหญ่พอ มันก็จะผ่านไปได้ยากและทำให้เกิดอาการเจ็บมากๆ หากคุณเคยเป็นโรคนี้มาก่อน คุณจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วในไตขึ้นอีกเพราะว่ามีโอกาสถึง 60 – 80% ที่จะกลับมาเป็นอีก [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
ขั้นตอน
-
ระบุว่าคุณมีนิ่วในไตประเภทใด. ถามแพทย์ให้ระบุประเภทให้ เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้ประเภทที่เจาะจงเพื่อที่คุณจะได้หาวิธีเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้มันกับมาเป็นอีก ขอให้แน่ใจว่าแพทย์ได้ตรวจที่พาราไทรอยด์เพื่อตัดปัญหาเรื่องนี้ไปเพราะมันเป็นปัจจัยที่รุนแรงน้อยกว่าในการทำให้เกิดนิ่วในไต [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นิ่วแคลเซียมนั้นเกิดจากแคลเซียมที่ไม่ได้ใช้ถูกสะสมอยู่ในไตและไม่ได้ถูกขับออกไปกับปัสสาวะอื่นๆ มันจะมาผสมกับของเสียอื่นๆและเกิดเป็นนิ่ว นิ่วแคลเซียมที่พบบ่อยที่สุดคือแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) และเป็นนิ่วที่พบบ่อยมากที่สุดจากทุกประเภท นิ่วแคลเซียมฟอสเฟสนั้นพบไม่แพร่หลายเท่าแต่มันเป็นปัญหามากกว่าเพราะว่ามันมีแนวโน้มที่จะมีขนาดใหญ่กว่าและแข็งกว่า ทำให้รักษาได้ยากกว่านั่นเอง
- นิ่วสตรูไวท์ (struvite stones) นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ติดเชื้อทางปัสสาวะและเกิดจากแมกนีเซียมและแอมโมเนีย
- นิ่วกรดยูริกนั้นเกิดจากการมีกรดมากเกินไป การลดการทานอาหารนั้นจะช่วยหยุดการสร้างนิ่วประเภทนี้ นิ่วประเภทนี้มักจะเกี่ยวข้องกับโรคเกาท์และเป็นอาการตอบสนองต่อการรักษาบางอย่าง
- การเกิดนิ่วซีสตีน (cystine) นั้นไม่ใช่เรื่องที่พบทั่วไปและมักจะพบว่ามันส่งต่อภายในครอบครัว ซีสตีนนั้นเป็นกรดอะมิโนและบางคนก็ได้รับกรดชนิดนี้มาปริมาณมาก
-
ระบุความเสี่ยงในอนาคต. เพราะว่าคุณเคยมีนิ่วในไตมาก่อน คุณก็มีความเสี่ยงสูงที่จะกลับมาเป็นนิ่วในไตอีก ดูว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่คุณอาจจะไม่ได้ตระหนักถึง ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นนี้ที่ http://www.qxmd.com/calculate-online/nephrology/recurrence-of-kidney-stone-roks ซึ่งมันเป็นวิธีที่เร็วในการประเมินความเสี่ยงของคุณ คุณควรไปพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงด้วย
-
ปรึกษากับแพทย์. ขึ้นอยู่กับประเภทของนิ่วที่คุณควรเป็น อายุ เพศ และประวัติสุขภาพของครอบครัว แพทย์นั้นสามารถช่วยคุณวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่วในไตอีก ซึ่งแผนส่วนใหญ่ก็จะรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการทานอาหาร การดื่มน้ำเยอะๆ และในบางกรณีอจจะต้องใช้ยาหรือผ่าตัด (แต่แค่ในกรณีเฉพาะเท่านั้น) [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ดื่มน้ำให้เยอะขึ้น. น้ำจะช่วยขับสารที่จะทำให้เกิดนิ่วในไตออกไป น้ำเปล่านั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด มันจะช่วยป้องกันนิ่วในไตโดยการรักษาให้ไตขับของเสียออกโดยที่ไม่เพิ่มสารอื่นๆ เช่นน้ำตาล โซเดียม หรือส่วนผสมอื่นๆที่พบในเครื่องดื่ม ให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 10 แก้ว (แก้วละ 240 มิลลิลตร) ต่อวัน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีนเพราะว่ามันจะทำให้ร่างกายของคุณขาดความชุ่มชื้นแทนที่จะทำให้ชุ่มชื้น คุณควรปัสสาวะประมาณ 2 ลิตรหรือมากกว่าต่อวันและปัสสาวะควรมีสีอ่อนหรือเป็นสีที่ไม่ค่อยเหลือง [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
-
หลีกเลี่ยงเกลือ. หนึ่งในสาเหตุหลักของนิ่วในไตก็คือปัสสาวะที่เข้มข้น เกลือนั้นจะทำให้ร่างกายของคุณขาดน้ำและจะทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้น หากคุณรับประทานเกลือ คุณจำเป็นต้องลดปฏิกิริยาของมันโดยการดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ ตามไป [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง. โปรตีนจากเนื้อสัตว์นั้นจะทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้น ซึ่งเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่จะเป็นนิ่วในไต ของเสียจากโปรตีนจะเข้าไปในปัสสาวะและจะเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดนิ่วในไต [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทานไฟเบอร์ให้มากขึ้น. งานวิจับหลายชิ้นระบุว่าไฟเบอร์ที่ละลายน้ำเมื่อผสมกับแคลเซียมในปัสสาวะแล้วมันจะถูกขับออกมาทางอุจจาระ มันจะช่วยลดปริมาณของแคลเซียมที่ตกค้างในปัสสาวะ แหล่งอาหารที่ดีของไฟเบอร์ได้แก่ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โฮลเกรน เช่น ข้าวโอ๊ต รำข้าว หรือควินัว
- ลูกพรุนหรือน้ำลูกพรุน
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ชาร์ด หรือคะน้า
-
ให้ระวังปริมาณออกซาเลตที่คุณได้รับหากคุณเคยเป็นนิ่วแคลเซียมออกซาเลต. วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับอาหารก็คือการบริโภคทั้งแคลเซียมและออกซาเลตในมื้อเดียวกัน ด้วยวิธีนี้ แคลเซียมและออกซาเลตจะสามาระจับตัวกันเมื่ออยู่ในกระเพาะแทนที่จะรอจนกระทั่งไตเริ่มต้นที่จะกรองมันและก็อาจจะเปลี่ยนมันให้เป็นนิ่ว [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผักโขม ช็อคโกแลต หัวบีท และรูบาร์บ นั้นมีออกซาเลตสูง ถั่วฝัก พริกหยวกสีเขียว ชา และถั่วลิสง นั้นมีออกซาเลต
- นม ชีส และน้ำส้มนั้นมีแคลเซี่ยมอยู่เต็มเปี่ยม และโยเกิร์ตก็เป็นอาหารที่ดีที่มีแคลเซียมที่คุณสามารถทานร่วมกับอาหารที่มีออกซาเลตสูง
โฆษณา
-
ใช้ยาเพื่อรักษานิ่วแคลเซียม. ยาที่มักจะจ่ายมากที่สุดก็คือยา Thiazide diuretic หรือที่มีชื่อเต็มๆ ว่า phosphate-containing preparation Hydrochlorothiazide มันจะลดปริมาณของแคลเซียมที่ถูกปล่อยในปัสสาวะโดยการช่วยเก็บไว้ในกระดูกและช่วยลดโอกาสที่จะเกิดนิ่วแคลเซียม ยาชนิดนี้ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อคุณลดการทานเกลือ [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ขอใบจ่ายยาจากแพทย์เพื่อบรรเทานิ่วจากกรดยูริก. Allopurinol (Zyloprim, Aloprim) จะทำให้ปัสสาวะเป็นด่างและลดระดับของกรดยูริกในเลือดและในปัสสาวะ บางครั้ง Allopurinol และสารที่ทำให้เป็นด่างนั้นสามารถผสานกันเพื่อละลายนิ่วกรดยูริกได้ทั้งหมด [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับนิ่วสตรูไวท์. การทานยาปฏิชีวนะในคอร์สสั้นๆ จะทำให้แบคทีเรียไม่ก่อตัวสะสมในปัสสาวะซึ่งก็จะทำให้เกิดนิ่วสตรูไวท์ ปกติแล้วแพทย์จะไม่อยากให้คุณทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน แต่การทานแค่ระยะสั้นๆ นั้นก็สามารถช่วยได้มาก [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ลดขนาดนิ่วซีสตีนด้วยการทำให้ปัสสาวะเป็นด่าง. ปกติแล้วการรักษานี้จะเกี่ยวข้องกับการสอดท่อและจะปล่อยสารที่ทำให้เป็นด่างไปในไต นิ่วซิสตีนนั้นมักจะตอบสนองได้ดีกับการรักษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อควบคู่ไปกับการดื่มน้ำเยอะๆ ทั้งในกลางวันและกลางคืน
-
ควบคุมการเกิดนิ่วในไตด้วยการผ่าตัด. นี่เป็นทางเลือกหากคุณมีภาวะฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูงเกินไปหรือเป็นนิ่วในไตที่เกิดจากต่อมพาราไทรอยด์เท่านั้น นิ่วแคลเซียมนั้นสามารถเป็นความเสี่ยงได้หากคุณเป็นโรคนี้ การผ่าตัดเอาต่อมพาราไทรอยด์ออก 1 ต่อมหรือทั้งสองต่อมในบริเวณคอปกติแล้วจะช่วยรักษาโรคและทำให้ไม่มีโอกาสที่จะเป็นนิ่วในไตได้อีก [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- ไม่เสมอไปที่จะรู้ว่าคุณเคยเป็นนิ่วประเภทใดมาก่อน นิ่วอาจจะไม่ได้ถูกกรองหรือหลุดหายโดยไม่มีหลักฐานหรือรายงานนั้นอาจจะนานมาก แต่ตามที่กล่าวไป มันยังเป็นไปได้ที่จะรักษานิ่ว การรักษานั้นจะไม่เจาะจงเท่าและดังนั้นก็จะไม่ได้ผลเท่าด้วย [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC99277/
- ↑ http://parathyroid.com/kidney-stones.htm
- ↑ http://www.nytimes.com/health/guides/disease/kidney-stones/prevention.html
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC99277/
- ↑ https://www.kidney.org/atoz/content/kidneystones
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC99277/
- ↑ http://www.nytimes.com/health/guides/disease/kidney-stones/prevention.html
- ↑ https://www.kidney.org/atoz/content/kidneystones_prevent
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/kidney-stones/basics/prevention/con-20024829
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,079 ครั้ง
โฆษณา