ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แมวมองสนามหรือสวนของคุณเป็นกระบะทรายส่วนตัวขนาดยักษ์อยู่แล้ว ถ้าคุณเป็นทาสแมวที่กำลังประสบปัญหานี้ ไม่ว่าจะจากแมวตัวเอง แมวเพื่อนบ้าน หรือแมวจรก็ตาม บอกเลยว่าพอมีวิธีดัดนิสัยแมวและป้องกันแมวอึใส่สนาม/สวนได้ วิธีที่ดีที่สุดคือกันแมวออกไปจากบริเวณนั้นแต่แรก แล้วค่อยตามด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติมที่รับรองเห็นผลและไม่เปลืองงบ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สร้างบรรยากาศไม่พึงประสงค์ให้แมว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แมวส่วนใหญ่จะขยะแขยงเวลาต้องเดินบนวัสดุคลุมดินชิ้นใหญ่ๆ หยาบๆ เพราะงั้นเลยหลีกเลี่ยงบริเวณนั้นไปโดยปริยาย นอกจากนี้ที่ต้องคลุมดินเพราะแมวชอบดินใหม่ๆ มองว่าเป็นกระบะทรายขนาดใหญ่ ถ้าคลุมดินซะแมวจะชอบสวนคุณน้อยลง [1]
  2. ปูคอนกรีตเสริมเหล็กหรือลวดตาข่ายแบบตาห่าง 1 นิ้ว (2.5 ซม. ) . อาจจะปูตามทางไปสวนก็ได้ แมวจะไม่ชอบสัมผัสเวลาเหยียบโดนช่องตาราง เลยเลือกเลี่ยงไปทางอื่นแทน [2]
    • หรือปูตาข่ายที่แปลงดอกไม้แล้วใช้วัสดุคลุมดินอีกที โดยตัดลวดเป็นรูไว้ปลูกต้นไม้ดอกไม้ จากนั้นดัดปลายกดลงไปในดิน ช่วยป้องกันไม่ให้แมวมาคุ้ยแล้วอึได้ [3]
  3. วางไม้ไขว้กันในแปลงปลูก แมวเกลียดการเดินบนกิ่งไม้ แถมปลูกต้นไม้ในดินกลางกิ่งไม้ก็เก๋ดี [4]
    • หรือลองใช้ไม้ระแนงแทน ต้นไม้ดอกไม้จะได้งอกผ่านช่อง แถมแมวไม่ชอบเดินบนไม้ที่เป็นตารางมีร่องมีรูอยู่แล้ว [5]
  4. เป็นแผ่นพลาสติกมีหนาม ฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆ หนามพลาสติกเล็กๆ พวกนี้ยืดหยุ่นได้ ไม่อันตราย แค่ทำให้แมวแขยงเท้าเวลาเดินเท่านั้น ให้ตัดแผ่นหนามนี้เป็นชิ้นๆ แล้ววางตามแปลงดอกไม้ต้นไม้ [6]
  5. เป็นสเปรย์ไล่แมว มีขายในเน็ตหรือตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวน/ก่อสร้าง มีทั้งแบบเกล็ดโรยและสเปรย์สำหรับฉีด แมวจะเกลียดกลิ่นมากจนไม่ย่างกรายมาอีก [7]
    • ถ้าอยากให้กลิ่นติดเป็นวงกว้าง คงต้องเลือกแบบโรย แต่ถ้าอยากไล่แมวไม่ให้มายุ่งกับต้นไม้บางต้น ใช้สเปรย์จะสะดวกกว่า โดยโรยหรือฉีดพ่นทุกครั้งที่เห็นแมวมาป้วนเปี้ยนแถวสวน [8]
    • ถ้าฝรั่งเขาก็มี lion dung หรือขี้สิงโตขายออนไลน์ ใช้ไล่แมวได้ผลชะงัด เพราะแมวได้กลิ่นแมวยักษ์นักล่าจนเผ่นแน่บแทบไม่ทัน
  6. แมวส่วนใหญ่ไม่ชอบกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยว (citrus) วิธีง่ายๆ คือให้โรยเปลือกผลไม้รสเปรี้ยวทั่วสนาม แต่คงต้องเปลี่ยนเปลือกบ่อยๆ ก่อนที่กลิ่นจะจาง [9]
    • หรือใช้สเปรย์แทนเปลือกผลไม้จริง อีกทีคือเจือจางน้ำมันหอมระเหยกลิ่นผลไม้รสเปรี้ยวแล้วฉีดพ่นให้ทั่วสวน โดยเจือจางน้ำมัน 10 - 15 หยดในน้ำ 1 ถ้วยตวง แล้วเทใส่ขวดสเปรย์ [10]
  7. แมวไม่ชอบกลิ่นยาเส้นของไปป์และกาแฟ เพราะงั้นใช้โรยทั่วสนามหรือเฉพาะต้นก็ได้ผลเหมือนกัน [11]
    • อีกวิธีคือฉีดพ่นน้ำส้มสายชูผสมน้ำให้ทั่วสนาม โดยเจือจางน้ำมันลาเวนเดอร์หรือยูคาลิปตัส 10 - 15 หยดในน้ำ 1 ถ้วยตวง แล้วใช้ฉีดพ่นให้ทั่วสนาม แต่ต้องหมั่นฉีดไม่ให้กลิ่นจางถึงจะได้ผล [12]
  8. บางคนก็ว่าโรยพริกป่นทั่วสนามแล้วช่วยกันแมวได้ แต่ต้องโรยซ้ำหลังฝนตกด้วย [13]
  9. แมวเกลียดพืชชนิดนี้เพราะกลิ่นไม่ถูกจริต แต่จริงๆ ก็เพราะเป็นพิษกับแมวได้ แมวเลยเลือกเดินหนีจะดีกว่า [14]
  10. จะเป็นอัลตร้าโซนิคหรือเซ็นเซอร์ในสนามแบบที่มีการเคลื่อนไหวแล้วจะฉีดน้ำออกมาก็ได้ ให้ติดไว้รอบๆ สวน พอแมวมาเซ็นเซอร์จะได้ทำงาน อันนี้แล้วแต่ว่าเลือกใช้แบบไหน ถ้าเป็นคลื่นอัลตร้าโซนิค คนจะไม่ได้ยิน ส่วนอีกแบบก็จับความเคลื่อนไหวแล้วฉีดน้ำออกมา ถ้าเป็นแมวจะถูกตรวจจับได้ผลทั้ง 2 แบบ บางคนก็ใช้ 2 แบบควบคู่กันไปเลย [15]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำบริเวณอื่นให้ดึงดูดกว่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แมวชอบนอนเล่นนั่งเล่นกลางแดด เพราะงั้นให้เลือกที่ที่อย่างน้อยแดดจ้าในบางช่วงของวัน
  2. แมวเลิฟ catnip สุดๆ (บางทีก็เรียก catmint) เพราะงั้นเลยใช้ดึงดูดแมวไปจากสวนของคุณได้ โดยปลูกกัญชาแมวในบริเวณอื่นแทน แมวจะได้ตามกลิ่นไป เลิกสนใจดอกไม้สวยๆ หรือพืชผักสวนครัวของคุณ แต่ระวังปลูกกัญชาแมวแล้วแมวพาสมัครพรรคพวกมาเพิ่มเติมนี่สิ [17]
  3. ใกล้ๆ กับกัญชาแมวที่ปลูกไว้ ลองทำบ่อทรายหรือแปลงโล่งๆ ไว้ แมวจะได้พักผ่อนตามสะดวก เลิกยุ่งกับสวนสวยของคุณ [18]
    • บางทีแมวก็อึฉี่ในที่ที่คุณเตรียมไว้ซะเลย เพราะงั้นก็ยังต้องทำความสะอาดเรื่อยๆ แต่อย่างน้อยก็ไม่ไปเพ่นพ่านในสวนของคุณแล้วกัน [19]
  4. ถึงแมวจะไม่ชอบวัสดุคลุมดินหยาบๆ อย่างที่บอก แต่ถ้าละเอียดหน่อยก็พอขุดไหว เพราะงั้นสนใจใช้บริการแน่นอน [20]
  5. นอกจากกัญชาแมวแล้ว แมวยังชอบข้าวสาลี แฟลกซ์ ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ และตะไคร้ เป็นต้น [21]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ติดต่อเจ้าของแมวหรือเทศบาล

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บ้านเราเป็นสวรรค์ของแมวจร ถ้าเช็คแล้วไม่เจอเจ้าของ อาจต้องแจ้งเทศบาลให้จัดการต่อไป [22]
  2. ถ้าแมวมีปลอกคอแสดงว่ามีเจ้าของ ให้ลองดูว่ามีชื่อ ที่อยู่ หรือเบอร์โทรของเจ้าของหรือสัตวแพทย์หรือเปล่า อีกทีคือพาไปโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ ให้ช่วยสแกนหาไมโครชิป แต่ง่ายที่สุดคือตามรอยไปหลังแมวออกจากสวนคุณ [23]
  3. ถ้ารู้แน่ชัดว่าเป็นแมวมีเจ้าของ แถมเป็นเพื่อนบ้านคุณเองนี่แหละ ให้เปิดอกคุยกับเขาตรงๆ ว่าเกิดปัญหาอะไร คุยกันดีๆ ก่อน แต่ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็อาจต้องมีเจ้าหน้าที่มาช่วยไกล่เกลี่ย [24]
  4. ถ้าเป็นแมวจร หรือเพื่อนบ้านยังทิ้งๆ ขว้างๆ แมว ก็ถึงเวลาแจ้งเทศบาล มูลนิธิ หรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง [25]
    โฆษณา

คำเตือน

  • ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหนป้องกันแมวเปลี่ยนสวนหรือสนามคุณเป็นกระบะทราย ก็ขอให้เป็นวิธีการที่ปลอดภัยต่อทั้งแมวและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสัตว์อื่นๆ ที่พบในสวนของคุณ เช่น นก เลือกวิธีธรรมชาติจะปลอดภัยกว่าใช้สารเคมี แต่ไม่ว่าจะใช้อะไรก็ต้องศึกษาคำแนะนำที่ฉลากให้ดีๆ แล้วทำตามอย่างเคร่งครัด
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,694 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา