ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การผัดเป็นวิธีการทำอาหารประเภทหนึ่งที่ทั้งรวดเร็ว อร่อย และอุดมไปด้วยสารอาหาร เพียงแค่คุณมีกระทะธรรมดาๆ หรือกระทะก้นลึกกับน้ำมันที่เหมาะสม คุณก็สามารถลองผัดผักได้หลายแบบเลยล่ะ แล้วลองเติมเต้าหู้ เนื้อไก่ เนื้อวัว หรือโปรตีนอื่นๆ ที่คุณชอบดูด้วยสิ ส่วนการปรุงรสก็เติมซอสหรือผสมเข้ากับเครื่องเทศก็ยังได้ ถ้าอยากลองทำผัดผักกรอบอร่อยสักจานแล้วละก็อ่านขั้นตอนแรกกันเลย
ขั้นตอน
-
เลือกผักที่จะใช้. จะผัดผักรวมประเภทไหนก็ได้ทั้งนั้น ดังนั้นลองตั้งเป้าไปที่การผสมผักหลายๆ สีและรูปร่างที่ต่างกันออกไป รวมทั้งลองเพิ่มส่วนผสมที่มีรสจัดและมีกลิ่นหอมอีกสักหนึ่งชนิดหรือมากกว่านั้นดูด้วย ทั้งผักสดและผักแช่แข็งนำมาผัดแล้วอร่อยทั้งคู่ แต่หลีกเลี่ยงการใช้ผักกระป๋องดีกว่าเพราะผักที่ผัดออกมาจะไม่นิ่มอร่อยเท่าที่ควร ลองเริ่มจากตั้งเป้าไปที่การผัดผักปริมาณหนึ่งจานโดยเตรียมผักรวมปริมาณหนึ่งถ้วยครึ่ง ลองเลือกใช้วัตถุดิบที่คุณชอบ จากนั้นจึงเติมผักโปรดที่ไม่ได้อยู่ในรายการด้านล่างนี้เพิ่มลงไปด้วยสิ
- พริกหยวก
- ถั่วลันเตา
- แครอท
- แห้ว
- กะหล่ำปลีเขียวหรือแดง
- บล็อคโคลี่หรือใบจากต้นบล็อคโคลี่
- มะเขือยาว
- หัวหอม
- เห็ดชิตาเกะ
-
ล้างผักและสะเด็ดน้ำให้แห้ง. ควรล้างผักสดด้วยน้ำเปล่าก่อนนำไปใช้ ในขณะที่ถ้าใช้ผักกระป๋องก็ควรเทน้ำออกให้หมด หลังจากนั้นก็ใช้กระดาษทิชชู่หรือผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งเหมาะกับการผัด เพราะถ้าใช้ผักเปียกๆ นั้นจะกลายเป็นการนึ่งแทน ส่งผลให้ผักที่ได้ออกมาเป็นเนื้อเปียกๆ
- ถ้าใช้ผักแช่แข็งก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันละลายถ้ามาเป็นชิ้นเล็กอยู่แล้ว แต่ก็ควรจะปัดเกล็ดน้ำแข็งแล้วเช็ดให้แห้งเพื่อทำให้ได้ผัดผักที่แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หั่นผักให้เป็นชิ้นบางๆ. สิ่งที่สำคัญที่สุดในการผัดคือการทำให้ส่วนผสมทั้งหมดในกระทะสุกเร็วและสุกทั่วถึงพร้อมกิน ขนาดและความหนาของผักแต่ละชิ้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผักสุกกำลังดีและไม่ไหม้ ตามปกติแล้วคุณจะสามารถผัดผักได้อย่างไม่สะดุดและรวดเร็วถ้าหั่นผักให้เป็นชิ้นบางๆ
- แยกผักออกเป็นชนิดต่างๆ ตอนเตรียม เพราะแต่ละชนิดจะสุกช้าเร็วต่างกัน จึงต้องเติมผักแต่ละชนิดลงในกระทะทีละกลุ่ม
- สำหรับผักที่น่าจะสุกช้าหน่อย ควรหั่นให้มีชิ้นเล็กกว่าผักอื่นๆ เล็กน้อยเพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่ดิบอยู่ตอนที่ผักชนิดอื่นสุกหมดแล้ว เช่น มันฝรั่ง แครอท และผักที่เป็นแป้งมักจะต้องใช้เวลานานกว่าผักอย่างเห็ดและมะเขือยาวในการทำให้สุก
-
เตรียมเครื่องปรุงที่มีกลิ่นหอม. ไม่ว่าจะเป็นกระเทียม ขิง พริก และ ต้นหอม ล้วนทำให้ผัดผักมีรสชาติมากขึ้น เพียงแค่ใส่เครื่องปรุงที่ว่านี้อย่างละนิดอย่างละหน่อยเท่านั้น อย่าลืมปอกเปลือกกระเทียม ขิง และหัวหอมก่อนใส่ลงไปในกระทะล่ะ
- สับเครื่องปรุงเหล่านี้ให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ รสชาติของมันจะได้กระจายไปทั่วตอนผัด
- สำหรับผัดผักสองจาน ควรใช้กระเทียมหนึ่งกลีบ ต้นหอมสับหนึ่งหรือสองหัว ขิงสด 1/2 นิ้ว (1.3 เซนติเมตร) ที่นำมาสับ และพริกขี้หนูหั่นเล็กๆ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เตรียมโปรตีน. ปกติเมนูนี้จะอร่อยอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณอยากให้อาหารของคุณมีโปรตีนด้วย ลองเติมเต้าหู้ เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้ออื่นๆ ลงไปด้วย ขั้นตอนการเตรียมเนื้อเพื่อใส่ในผัดผักมีดังนี้
- หั่นเนื้อให้เป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ ถ้าหั่นชิ้นหนามันจะสุกช้า ถ้าจะเติมเนื้อสัตว์เพิ่มลงไปแล้วก็ควรทำให้ส่วนผสมทุกชิ้นสุก
- สำหรับเต้าหู้ ให้หั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำ โดยเลือกใช้เต้าหู้ที่แข็งหน่อยเพื่อไม่ให้มันเละเวลาผัด เต้าหู้ชนิดอ่อนมักจะขาดไม่เป็นชิ้นเวลาผัด
โฆษณา
-
ซื้อหรือทำซอสเทอริยากิ. ซอสหวานขมชนิดนี้มักนำมาใช้ผัดอาหาร โดยที่คุณสามารถหาซื้อซอสนี้หรือจะผสมขึ้นมาเองก็ได้ สูตรต่อไปนี้สามารถปรุงเมนูผัดได้สองจาน
- ผสมซีอิ๊ว 1/2 ถ้วย น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย สาเก 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะลงในหม้อผสมซอส
- อุ่นส่วนผสมและรอให้มันเดือดจนกระทั่งเริ่มเหนียวและน้ำตาลละลายจนหมด
- เติมเกลือและพริกไทยแดงบดให้มีรสชาติมากขึ้น
-
ผสมไวน์ขาวเข้ากับซีอิ๊ว. สูตรนี้เป็นสูตรง่ายๆ ที่ทำให้อร่อยทันใจขึ้นมาทันทีเลยล่ะ โดยใช้ส่วนผสมแค่สองอย่างเพียงไม่กี่ช้อนเท่านั้นก็อร่อยแล้ว คุณยังสามารถใช้เหล้า (ไม่หวาน) แทนไวน์ขาวได้ด้วย เหยาะเกลือกับพริกไทยแดงบดลงเพิ่มได้ด้วยนะ
-
ทำซอสหวานจากถั่วลิสง. เพราะซอสนี้จะมีรสชาติที่แตกต่างจากซอสดั้งเดิมอื่นๆ ร้านอาหารมักเลือกใช้ซอสนี้ เชื่อไหมล่ะว่าคุณก็ทำซอสนี้เองได้ โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- ผสมครีมเนยถั่ว 1/2 ถ้วย น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลทรายอีก 1 ช้อนชา
- เติมกระเทียมสับสักกลีบ เหยาะน้ำมันงาหรือพริกไทยแดงบดเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น
- ใส่ส่วนผสมที่ได้ไว้ในตู้เย็นแล้วทิ้งไว้คืนหนึ่งเพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อได้เต็มที่
-
ใช้น้ำซุปสำหรับปรุงรสผัดผักของคุณ. ลองใช้น้ำซุปดูด้วยสิ ทั้งซุปผัก ซุปไก่ หรือซุปเนื้อวัวเพื่อให้ได้รสชาติอ่อนๆ หรืออาจเติมซีอิ๊วให้รสเข้มขึ้นอีกนิดตามที่ต้องการ แล้วจึงตามด้วยสมุนไพรหรือเครื่องเทศที่มีรสจัด [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เติมน้ำตาลหรือน้ำส้มสายชู และสาเกสักหนึ่งช้อนชาเพื่อให้ได้รสชาติที่ดั้งเดิมมากขึ้น
- ผสมน้ำมะนาวกับน้ำซุปในปริมาณที่เท่ากันเพื่อให้ผัดผักมีรสเปรี้ยว
โฆษณา
-
อุ่นกระทะก้นลึกหรือกระทะธรรมดาด้วยความร้อนสูง. อย่าเพิ่งเติมน้ำมันล่ะ ควรอุ่นอุปกรณ์ที่จะใช้ผัดเสียก่อน ถ้าคุณไม่มีกระทะก้นลึกก็สามารถใช้กระทะธรรมดาที่ขอบด้านข้างสูงแทนได้ เพราะมันจะทำให้ผักร้อนอยู่ตลอดแถมผักจะไม่กระเด็นเวลาผัดด้วย
- อย่าปล่อยให้กระทะร้อนจนเกินไป เพราะอาจจะเกิดไฟลุกขึ้นมาได้ตอนเทน้ำมันลงไป ปกติกระทะจะร้อนได้ที่เมื่อเราลองหยดน้ำลงไปแล้วมันกลายเป็นไอภายใน 2 วินาที [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิดหน้าต่างบริเวณนั้นหรือไม่ก็เปิดพัดลมดูดควันถ้ามี เพราะการผัดอาหารอาจทำให้เกิดควันกับไอความร้อนได้
-
เติมน้ำมัน 2 ถึง 3 ช้อนโต๊ะ. ทางที่ดีควรใช้น้ำมันที่จะร้อนได้มากๆ ก่อนจะเริ่มมีควันออกมาดีกว่า น้ำมันสกัดจากถั่วลิสง คาโนลา ข้าวโพด ต้นคำฝอย และรำข้าวล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ไม่ควรใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ น้ำมันงาหรือเนยนะ เพราะทั้งหมดนี้จะเกิดควันอย่างรวดเร็วเมื่อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นได้ไม่นาน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จับด้ามจับของกระทะที่ใช้แล้วโยกไปมาเพื่อให้น้ำมันกระจายไปทั่วกระทะ น้ำมันจะแยกเป็นเส้นแล้วไหลไปจนทั่วกระทะ
- ถ้าน้ำมันกระจายช้าน่าจะแปลว่ากระทะยังร้อนไม่พอ ดังนั้นควรอุ่นกระทะให้น้ำมันเริ่มปุดก่อนที่เราจะเริ่มใส่ส่วนผสมลงไป ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะได้ผัดผักแฉะๆ ก็ได้
-
คนไปเรื่อยๆ จนน้ำมันเริ่มเดือด. น้ำมันจะเริ่มเดือดไม่นานก่อนที่จะเริ่มมีควันออกมา [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การที่น้ำมันเดือดนี้เองที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าถึงเวลาที่ควรจะเติมส่วนผสมลงไปได้แล้ว แต่ถ้าเราไม่เห็นน้ำมันเดือดก็ยึดเอาตอนที่เริ่มมีควันออกมาเล็กน้อยก็ได้ สิ่งที่ควรใส่ลงในกระทะอย่างแรก คือ กระเทียม ขิง ต้นหอม และพริกขี้หนู ซึ่งจะปรุงรสน้ำมันให้พร้อมสำหรับผักและโปรตีนที่จะใส่ต่อไป
- ใช้ช้อนไม้คนส่วนผสมอย่างรวดเร็ว หรือเกลี่ยให้โดนน้ำมันถ้าทำได้โดยไม่ให้กระเด็น
- ผัดเครื่องปรุงประมาณ 30 วินาทีก่อนจะเริ่มใส่ผักและโปรตีน อย่าทิ้งไว้นานเกินไปล่ะเพราะกระเทียมและเครื่องปรุงอื่นๆ ไหม้ได้ง่ายเวลาอยู่ในกระทะร้อน
-
เติมส่วนผสมที่ต้องใช้เวลานานเพื่อทำให้สุก. นอกจากเต้าหู้และเนื้อสัตว์แล้ว ถึงเวลาแล้วที่จะเติมผักที่มีเนื้อแข็งอย่างมันฝรั่ง บล็อคโคลี่ ดอกกระหล่ำ ฟักทอง และถั่วลันเตา [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คนส่วนผสมอย่างรวดเร็วโดยใช้ช้อนไม้หรือที่หนีบ
- ใส่ผักพอประมาณ แค่ให้กระจายไปทั่วกระทะก็พอเพื่อไม่ให้ผักเปียกเกินไปหรือบางชิ้นไม่สุกดี เนื่องจากว่าเมนูนี้ใช้เวลาทำเพียงแค่ไม่กี่นาที คุณอาจจะผัดเป็นจานๆ ไป แล้วทิ้งช่วงสักแปบนึงให้กระทะกับน้ำมันร้อน
- ถ้าดูแล้วส่วนผสมน่าจะสุกเกินไป ควรคนให้ถี่ขึ้นดีกว่าลดความร้อนลง การคนเร็วๆ จะทำให้ผักร้อนและแห้งเหมือนที่มันควรจะเป็น
- ผัดเนื้อสัตว์หรือผักหนาๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ก็ดูจนกว่าเนื้อจะเกือบสุก ส่วนผักก็ดูว่ามีสีสดและนิ่มลงเล็กน้อยแล้วหรือยัง ขั้นตอนนี้น่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 10 นาที ขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่คุณใช้
-
เติมผักที่สุกง่ายตามลงไป. เมื่อส่วนผสมที่หนากว่าใกล้จะสุกแล้ว ให้เติมผักที่ไม่ต้องใช้เวลาผัดนานมากนักตามลงไป ผัดไปเรื่อยๆ พร้อมกับเติมผักที่เหลือจนหมด
- ผักที่ควรใส่ตอนนี้ คือ กวางตุ้ง พริกหยวกและเห็ด
- ผักที่ใช้เวลาน้อยกว่าที่กล่าวมานี้อีก ได้แก่ แตงกวา กะหล่ำปลีสับ ถั่วลันเตา และผักใบเขียวต่างๆ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คุณจะเติมผักที่ว่านี้ตอนรอบที่สองเลยก็ได้เพื่อลดความยุ่งยาก หรือจะเก็บไว้เป็นชุดสุดท้าย (รอบที่สาม) เลยก็ได้เหมือนกัน
-
พอผักทั้งหมดเริ่มนิ่มแล้วจึงเติมซอสสักสองสามช้อน. โรยซอสให้ทั่วกระทะแล้วผัดต่ออีกหนึ่งถึงสองนาที จนถึงตอนนี้ผัดผักน่าจะใกล้สุกเต็มทีแล้ว
- เทซอสลงด้านข้างของกระทะเพื่อให้ความร้อนยังคงอยู่ อย่าเทลงตรงกลางล่ะ
- อย่าใส่ซอสเยอะเกินไปเพราผักจะเปียก
-
เสิร์ฟผัดผักลงในจานทันที. ผัดผักนี้จะอร่อยที่สุดก็ตอนเสร็จร้อนๆ จากเตา เพราะฉะนั้นเมื่อคลุกเคล้าจนซอสเข้ากับผักแล้วละก็ ปิดไฟแล้วเทผักใส่จานเลย ผัดผักที่ได้จะอ่อนนุ่มและอร่อยที่สุด อย่าปล่อยให้มันเย็นเสียก่อนล่ะ ข้าวสวยชนิดต่างๆ ล้วนเหมาะที่จะกินกับผัดผักนี้ พอโดนซอสก็กลายเป็นข้าวเปียกๆ แสนอร่อยด้วย หรือจะกินผัดผักเปล่าๆ ก็อร่อยไปอีกแบบนะโฆษณา
-
ปรับเปลี่ยนเวลาบ้างถ้าผักนั้นยังอ่อนหรือแข็งเกินไป. ทั้งขนาดของผักแต่ละชิ้น ความอ่อนแก่ของมัน และความชอบของคุณล้วนมีผลต่อเวลาที่ต้องใช้ในการผัดผักให้สุกได้ที่ทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นผักที่ชอบกินอยู่แล้วละก็มันจะช่วยให้คุณรู้ได้ด้วยตัวเองว่าต้องผัดนานแค่ไหน
- ถ้าผักชนิดไหนแข็งเกินไป คราวหน้าลองใส่ลงในกระทะเร็วขึ้นอีกหน่อย
- แต่ถ้าผักชิ้นไหนนิ่มหรือเละ คราวหน้าก็เก็บผักชนิดนี้ไว้หลังๆ
-
ลวกหรือจุ่มผักแข็งๆ ที่ใช้เวลาผัดนานเกินไปทิ้งไว้ในน้ำ. ส่วนมากแล้วจะเป็นแครอท ดอกกระหล่ำ และบล็อคโคลี่ เพราะมันทั้งแข็งและหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ยาก ลองทำวิธีการเหล่านี้ดูเพื่อแก้ปัญหา [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลวกก่อนจะนำไปผัด ถ้าผักที่หั่นแล้วหนาอย่างน้อยครึ่งนิ้วละก็ เอาไปลวกโดยใช้เวลาสั้นๆ จะทำให้มันนิ่มลง อย่าลืมเช็ดให้แห้งก่อนนำไปผัดด้วยล่ะ
- อีกวิธีหนึ่งคือเติมน้ำเปล่า น้ำซุป หรือเหล้าลงในกระทะระหว่างผัด ปิดฝาไว้หนึ่งถึงสองนาทีให้ผักนิ่มแล้วค่อยผัดต่อ
-
จุ่มเห็ดแห้งลงในน้ำร้อนก่อนใช้ด้วย. โดยจุ่มทิ้งไว้ประมาณ 5 ถึง 15 นาที หรือจนกว่าจะนิ่มแล้วจึงค่อยนำไปผัดในกระทะต่อ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้านำไปผัดเลยตั้งแต่แรก เนื้อเห็ดที่ได้จะแข็งและเหนียว
- เริ่มจากต้มน้ำให้ร้อน ยกออกจากเตาแล้วใส่เห็ดลงไป พอเห็ดเริ่มพองตัวแล้วค่อยเอาขึ้นจากน้ำ โดยน่าจะใช้เวลาประมาณสามถึงห้านาที
- เห็ดชิตาเกะเป็นเห็ดที่แข็งกว่าชนิดอื่นๆ ดังนั้นอาจจะต้องใช้เวลาต้มนานถึง 10 นาที
-
ทดลองเติมเครื่องปรุงต่างๆ. หลังจากยกกระทะลงจากเตาแล้ว คุณอาจจะแต่งหน้าด้วยเครื่องปรุงที่ไม่จำเป็นต้องทำให้สุก ตัวเลือกที่น่าบอกต่อ ได้แก่
- โรยงาหรือถั่วอบด้านบนเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ
- ผักชีฝรั่ง ใบโหระพา หรือสมุนไพรสดอื่นๆ จะช่วยทำให้ผัดผักของคุณดูดีและมีกลิ่นหอมด้วย
- โรยผักสดที่หั่นเป็นเส้นบางๆ เพื่อเพิ่มสีสันและความแตกต่างให้กับผัดผักของคุณ
-
เสร็จเรียบร้อยโฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กระทะก้นลึกใบใหญ่ (หรือกระทะธรรมดาที่มีขอบสูง)
- กระดาษทิชชู่
- ช้อนไม้
เคล็ดลับ
- ใส่เครื่องปรุงลงในกระทะถ้าส่วนผสมติดกระทะหรือไหม้ หากใช้กระทะก้นลึก ต้องมีการเตรียมแบบพิเศษก่อนใช้ และไม่ควรขัดเหมือนกับภาชนะอื่นๆ ทั่วไป
- ถ้าใช้เต้าหู้หรือเนื้อสัตว์ลองหมักในซอสสักแปบหนึ่งก่อนเอาไปผัด
- ใช้น้ำมันที่มีจุดเกิดควันสูงเพื่อไม่ให้ผักติดกระทะ อาจจะลองใช้น้ำมันคาโนลาดู และอย่าลืมล่ะว่าไม่ควรใช้น้ำมันมะกอกกับเนย
- ถ้าคุณแพ้ถั่วเหลือง ลองหันมาใช้ซีอิ๊วมะพร้าว (coconut aminos) แทนสิ
โฆษณา
คำเตือน
- ควรใช้เต้าหู้ชนิดแข็งดีกว่า เพราะถ้าใช้เต้าหู้ชนิดอ่อนอาจจะแตกตอนผัดได้
- น้ำมันถั่วลิสงซึ่งใช้กันมากในการทำเมนูผัดอาจมีผลร้ายขั้นรุนแรงต่อคนที่แพ้ถั่วได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.wisegeek.com/what-are-the-best-tips-for-making-stir-fry-with-frozen-vegetables.htm
- ↑ http://www.jamieoliver.com/recipes/vegetables-recipes/stir-fried-vegetables
- ↑ http://allrecipes.com/howto/super-easy-stir-fry/
- ↑ http://consults.blogs.nytimes.com/2010/09/09/a-cook-talks-about-woks-and-stir-fries/
- ↑ http://consults.blogs.nytimes.com/2010/09/09/a-cook-talks-about-woks-and-stir-fries/
- ↑ http://www.chow.com/food-news/54694/the-basics-how-to-make-a-veggie-stir-fry/9
- ↑ http://www.dvo.com/newsletter/weekly/2012/06-08-876/how-long-to-cook-stirfry.html
- ↑ http://www.dvo.com/newsletter/weekly/2012/06-08-876/how-long-to-cook-stirfry.html
- ↑ http://consults.blogs.nytimes.com/2010/09/09/a-cook-talks-about-woks-and-stir-fries/
โฆษณา