ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ก่อนสัมภาษณ์งานเราย่อมรู้สึกเครียดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อเรารู้สึกวิตกกังวล ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนความเครียดอย่างเอพิเนฟรีนและคอร์ติซอลออกมา จึงทำให้เราคิดอะไรไม่ค่อยออกและสัมภาษณ์งานออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก [1] บทความนี้มีคำแนะนำที่สามารถช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายก่อนสัมภาษณ์งานได้ การผ่อนคลายไม่เพียงช่วยให้เรามีจิตใจที่สงบ เยือกเย็น และสำรวมเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้สมองของเราแจ่มใสขึ้น รู้สึกมั่นใจมากขึ้น และมีโอกาสตอบคำถามสัมภาษณ์งานได้ดีขึ้น!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำจิตใจให้สงบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่านึกถึงการสัมภาษณ์งานหรือเรื่องที่ทำให้รู้สึกเครียด จดจ่ออยู่กับความรู้สึกที่สัมผัสได้ทางกายและปล่อยให้สมองว่างเปล่าสักครู่หนึ่ง [2]
    • เราจะฝึกจดจ่ออยู่กับลมหายใจที่ไหนก็ได้ แต่ขอแนะนำให้ฝึกในบริเวณที่เงียบสงบจะดีกว่า
    • เราสามารถฝึกจดจ่ออยู่กับลมหายใจระหว่างรอสัมภาษณ์งานได้ แต่ให้ฝึกโดยไม่ต้องหลับตา
  2. ค่อยๆ หายใจเข้าทางจมูกและปล่อยลมหายใจออกทางปาก. หลับตาและพยายามหายใจเข้าลึกๆ ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราไม่เพียงเพิ่มอากาศเข้าไปในอกเท่านั้น แต่เรายังรู้สึกถึงอากาศที่เข้ามาในจมูกและลงไปที่ท้องด้วย [3]
    • การหายใจให้ช้าลงและสม่ำเสมออาจใช้เวลาหลายนาที
    • ถ้าเราไม่รู้ว่าควรจะหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยลมหายใจออกยาวๆ ประมาณไหน ขอแนะนำให้หายใจเข้าจนกระทั่งนับในใจถึง 5 (เราจะต้องหายใจเข้านาน 5 วินาทีเต็ม) และปล่อยลมหายใจออกจนกระทั่งนับในใจถึง 5
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Shannon O'Brien, MA, EdM

    โค้ชชีวิตและอาชีพ
    แชนนอน โอเบรียนเป็นผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Whole U. (บริษัทให้คำปรึกษาด้านอาชีพและกลยุทธของชีวิตในบอสตัน) Whole U. ช่วยเสริมผู้คนให้มองหาความสมดุลระหว่างการงานกับชีวิตที่มีเป้าหมายผ่านทางการให้คำปรึกษา เวิร์คช็อปและการสอนออนไลน์ แชนนอนได้รับการจัดอันดับเป็นโค้ชอาชีพกับโค้ชชีวิตอันดับ 1 ในบอสตันจากสมาชิก Yelp งานถูกกล่าวถึงใน Boston.com, Boldfacers, และ UR Business Network เธอได้รับปริญญาโทด้านเทคโนโลยีและการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
    Shannon O'Brien, MA, EdM
    โค้ชชีวิตและอาชีพ

    เราควรเลือกใช้วิธีไหนผ่อนคลายก่อนสัมภาษณ์งาน เราควรเลือกใช้วิธีไหนผ่อนคลายก่อนสัมภาษณ์งานนั้นบอกได้ยาก เพราะบางคนใช้วิธีหนึ่งได้ผลแต่ใช้อีกวิธีหนึ่งไม่ได้ผล วิธีผ่อนคลายที่ขอแนะนำได้แก่การฝึกนั่งสมาธิ การหลับตาและจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก การอาบน้ำอุ่น และการไปจดจ่ออยู่กับเรื่องอื่น ถ้าวิธีการผ่อนคลายวิธีไหนได้ผลกับตนเอง ก็ให้เลือกใช้วิธีนั้นผ่อนคลายก่อนสัมภาษณ์งาน

  3. ฟังเพลงที่ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เราจะได้มีสภาพจิตใจและอารมณ์ที่ดีก่อนสัมภาษณ์งาน อย่าฟังอะไรที่ทำให้รู้สึกหดหู่ เลือกฟังเพลงที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ เราจะได้นึกถึงแต่เรื่องดีๆ และมีกำลังใจ [4]
    • เราจะเลือกฟังพอดแคสต์หรือคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจก็ได้
  4. การวางท่าทางให้เหมาะสมจะช่วยให้เราดูมั่นใจและผ่อนคลายมากขึ้นทันที แม้ข้างในใจของเราจะไม่รู้สึกแบบนั้นก็ตาม ยืนหรือนั่งตัวตรง เชิดคางขึ้น และตั้งศีรษะให้ตรงเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตนเอง อย่าลืมปล่อยมือไว้ข้างลำตัวด้วย [5]
    • อย่ายืนกอดอก เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเราได้
  5. การเร่งรีบเพื่อมาให้ทันเวลาจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยมากขึ้น ฉะนั้นมาถึงสถานที่สัมภาษณ์งานก่อนเวลาจะดีกว่า เมื่อมาถึงก่อนเวลา เราไม่จำเป็นต้องเข้าห้องสัมภาษณ์งานทันที แค่เตรียมตัวให้พร้อมและรออยู่ในบริเวณที่เขาจัดไว้ให้ก็พอ พยายามมาถึงสถานที่สัมภาษณ์งานก่อนเวลา 10 นาที เพราะหากมาถึงก่อนเวลาเร็วเกินไป อาจทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกกดดัน [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

พูดให้กำลังใจตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เราต้องแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยินเสียงเราพูดกับตนเอง หาสถานที่ซึ่งเราสามารถพูดกับตนเองดังๆ ได้ เราจะได้สามารถพูดกับตนเองด้วยความมั่นใจและเต็มเสียงได้
    • ถ้าสถานที่นั้นมีกระจก ให้เราไปยืนอยู่หน้ากระจกนั้น การยืนพูดคุยกับตนเองในกระจกจะรู้สึกเหมือนได้พูดคุยกับตนเองโดยตรง [7]
  2. เรียกตนเองด้วยชื่อราวกับว่าเรากำลังคุยกับใครสักคนอยู่. พูดคุยกับตนเองราวกับเราเป็นเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง เราจะได้คลายความเครียดเรื่องการสัมภาษณ์งานและความสงสัยในความสามารถของตนเอง [8]
    • ถ้ารู้สึกไม่สบายใจที่จะเรียกตนเองด้วยชื่อ ใช้คำสรรพนามแทนตัวเองว่า "เธอ" ก็ได้
  3. บอกตนเองว่าเราพร้อมและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับงานตำแหน่งนี้. บอกกับตนเองว่าเรามีความสามารถและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี การบอกแบบนี้กับตนเองดังๆ จะทำให้เราคิดว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่ว่าเราจะเข้าสัมภาษณ์งานที่ไหนหรือตำแหน่งใด หยิบยกเหตุผลว่าทำไมเราถึงเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมและทำไมการเลือกเราถึงเป็นการตัดสินใจที่ดีของผู้สัมภาษณ์และองค์กร [9]
    • พูดออกมาดังๆ ด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและพลังเท่าที่เราจะทำได้
  4. บอกกับตนเองว่าที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรที่น่าภาคภูมิใจไว้บ้าง ถ้ามีความสำเร็จใดที่เรารู้สึกภาคภูมิใจมากเป็นเศษ ให้เน้นพูดถึงความสำเร็จนั้น บอกกับตนเองว่าครั้งนั้นเราทำได้ดีแค่ไหน บอกตนเองว่าเราคือคนเดียวกับคนที่ทำสิ่งต่างๆ สำเร็จในวันนั้น เราในตอนนี้มีความสามารถเหมือนกับเราในตอนนั้น [10]
  5. บอกตนเองว่านี้เป็นเพียงการสัมภาษณ์งานเท่านั้น. บอกตนเองว่าถ้าเราไม่ได้งานนี้ เราก็ยังมีโอกาสอื่นอีก การพูดออกมาจะช่วยยืนยันในสิ่งที่ตนเองคิดและได้มุมมองใหม่ พูดออกมาราวกับว่าใครบางคนกำลังพูดแบบนี้กับเราอยู่ [11]
    • เรายังบอกตนเองได้อีกว่าการรู้สึกวิตกกังวลเป็นธรรมดา ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ประสบกับความเครียดก่อนสัมภาษณ์งานทั้งนั้น พยายามบอกกับตนเองว่า "นี้เป็นเพียงการสัมภาษณ์งานเท่านั้นและเราก็แค่วิตกกังวลไปเอง"
  6. ย้ำกับตนเองแบบนี้หลายครั้งจนกระทั่งเราเชื่อแบบนั้น [12] อย่าลืมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและพลัง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

นึกภาพตนเองประสบความสำเร็จในการสัมภาษณ์งาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาสถานที่ซึ่งเงียบสงบ ไม่มีใครเข้ามารบกวน นั่งหรือนอนในท่าที่สบายสัก 5-10 นาที หรือนานกว่านั้นก็ได้ กล้ามเนื้อในร่างกายของเราจะได้ผ่อนคลาย [13]
    • เลือกชุดที่ใส่สบาย ไม่คับแน่น เวลานั่งหรือนอน ถ้าทำได้
  2. สูดลมหายใจเข้าลึกๆ 5 ครั้งและหลับตาเพื่อผ่อนคลายจิตใจ. อย่านึกถึงการสัมภาษณ์งานสักครู่หนึ่ง ถ้าทำได้ หยุดนึกถึงเรื่องที่ตนเองวิตกกังวลอยู่และพยายามจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตนเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • ถ้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ 5 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่สามารถผ่อนคลายจิตใจได้ ให้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกหลายครั้งและเพิ่มเวลาจดจ่ออยู่กับลมหายใจของตนเองให้นานขึ้น [14]
  3. นึกภาพตนเองอยู่ในห้องรอสัมภาษณ์งานโดยพยายามนีกภาพให้สมจริงที่สุด. กลับมาจดจ่ออยู่กับการสัมภาษณ์งานอีกครั้งหลังจากรู้สึกสบายใจและได้พยายามคลายความวิตกกังวลแล้ว หลับตาและพยายามนึกถึงสภาพแวดล้อมของห้องรอสัมภาษณ์งานว่าเป็นอย่างไร
    • นึกภาพตนเองอยู่ในห้องรอสัมภาษณ์งาน นึกภาพให้สมจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่านึกถึงความวิตกกังวลหรือคิดว่าผู้สัมภาษณ์จะถามอะไรเราบ้าง ให้นึกภาพการแต่งกายของเราในวันนั้น ท่าทางการนั่งของเรา และสภาพแวดล้อมภายในห้องสัมภาษณ์งาน มีคนอื่นอยู่ในห้องด้วยไหม พวกเขาดูเป็นอย่างไร เก้าอี้นั่งสบายไหม [15]
  4. นึกภาพผู้สัมภาษณ์ปรากฏตัวออกมาทักทายเราและเราสวัสดีเขา. นึกภาพผู้สัมภาษณ์ยิ้มให้เราอย่างอบอุ่นขณะที่เราสวัสดีเขาและแนะนำตัวเอง ถ้าเรารู้ว่าใครคือผู้สัมภาษณ์งานเรา ให้นึกภาพใบหน้าของพวกเขาและเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ รวมทั้งนึกถึงน้ำเสียงขณะผู้สัมภาษณ์กล่าวต้อนรับเราเข้าสู่การสัมภาษณ์งาน [16]
  5. นึกภาพตนเองเดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์งานและนั่งลงด้วยความมั่นใจ. นึกภาพห้องสัมภาษณ์งานโดยใส่รายละเอียดให้เหมือนจริงมากที่สุด ผนังห้องสีอะไร ลักษณะโต๊ะของผู้สัมภาษณ์เป็นอย่างไร และท่าทางการนั่งของเราเป็นอย่างไร
    • อย่าคิดว่าตนเองเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์และนั่งอยู่เฉยๆ เท่านั้น อย่าเอาแต่นึกภาพผู้สัมภาษณ์พูดกับเราอยู่ฝ่ายเดียวและเรานั่งฟังเฉยๆ แต่ให้นึกภาพเราตอบคำถามของเขาด้วย มั่นใจว่าเราคือผู้สมัครที่เหมาะสมและมีความพร้อมมากที่สุด [17]
  6. คิดว่าผู้สัมภาษณ์จะถามอะไรเราบ้างและตอบคำถามเหล่านั้นในใจ. นึกภาพความสำเร็จ นึกภาพตนเองตอบคำถามแต่ละคำถามด้วยความมั่นใจและรอยยิ้ม ขณะที่บทสนทนาดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ เรารู้สึกมีพลัง ภาคภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง และพร้อมที่จะตอบคำถามแต่ละคำถาม [18]
    • ขณะที่นึกภาพตนเองสัมภาษณ์งาน ให้คิดว่าผู้สัมภาษณ์เป็นพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู พวกเขาจะไม่ถามคำถามที่เราตอบไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งพวกเขายังตั้งใจและสนใจฟังคำตอบของเราด้วย
  7. นึกภาพตนเองเดินออกจากห้องสัมภาษณ์งานและบอกกับตนเองว่าการสัมภาษณ์งานผ่านไปด้วยดี. นึกภาพตนเองขอบคุณผู้สัมภาษณ์ที่สละเวลามา จากนั้นเราลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้และกล่าวสวัสดี เดินออกจากห้องไปพร้อมความมั่นใจเหมือนกับตอนที่เดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์งานนั้น ต่อจากนี้ไปปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้สัมภาษณ์ [19]
    • ถ้าเราอยู่เพียงลำพัง ให้พูดกับตนเองว่า "การสัมภาษณ์งานผ่านไปด้วยดี" หรือ "ฉันทำได้ดี" ออกมาดังๆ จะช่วยให้จิตใจและร่างกายประมวลภาพต่างๆ ที่เรานึกขึ้นมา เราจะรู้สึกยินดีและรู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนสัมภาษณ์งาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่เราจะไปสัมภาษณ์งาน. เราอาจไม่สามารถรู้สึกผ่อนคลายได้เลยจนกว่าเราจะเห็นว่าตนเองพร้อมแล้วจริงๆ! ลองเข้าไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับบริษัททางอินเตอร์เน็ตและทำความรู้จักบริษัทไว้ เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ดูสิว่าบริษัทนั้นให้บริการและขายผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง พันธกิจขององค์กรคืออะไร และอ่านข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ [20]
    • พยายามใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงในคำตอบระหว่างการสัมภาษณ์งานด้วย ตัวอย่างเช่น เราอาจพูดถึงความประทับใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์ตัวใดตัวหนึ่งของบริษัทหรือวัฒนธรรมโดยรวมของบริษัท
    • เราอาจกลับไปอ่านประกาศรับสมัครงานอีกครั้ง เราจะได้เข้าใจว่าตำแหน่งที่ตนเองสมัครนั้นต้องทำอะไรบ้าง
  2. เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้สัมภาษณ์จะถามอะไรเราบ้าง แต่คำถามโดยส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงานของเราและทำไมเราถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ ขอให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวช่วยฝึกซ้อมการสัมภาษณ์งานให้เหมือนจริงมากที่สุด เราจะได้ฝึกพูดสิ่งที่ต้องการพูดและรู้ว่าควรจะพูดออกมาอย่างไร [21]
    • คิดว่าผู้สัมภาษณ์จะถามอะไรเราบ้างและเตรียมคำตอบในแต่ละคำถาม เรายังสามารถกลับไปตรวจดูเรซูเมของตนเองและพยายามคาดเดาดูสิว่านายจ้างในอนาคตของเราจะถามอะไรบ้าง [22]
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Shannon O'Brien, MA, EdM

    โค้ชชีวิตและอาชีพ
    แชนนอน โอเบรียนเป็นผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Whole U. (บริษัทให้คำปรึกษาด้านอาชีพและกลยุทธของชีวิตในบอสตัน) Whole U. ช่วยเสริมผู้คนให้มองหาความสมดุลระหว่างการงานกับชีวิตที่มีเป้าหมายผ่านทางการให้คำปรึกษา เวิร์คช็อปและการสอนออนไลน์ แชนนอนได้รับการจัดอันดับเป็นโค้ชอาชีพกับโค้ชชีวิตอันดับ 1 ในบอสตันจากสมาชิก Yelp งานถูกกล่าวถึงใน Boston.com, Boldfacers, และ UR Business Network เธอได้รับปริญญาโทด้านเทคโนโลยีและการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
    Shannon O'Brien, MA, EdM
    โค้ชชีวิตและอาชีพ

    ดูรายละเอียดของงานอีกครั้งและเตรียมคำตอบไว้ ถ้าเราขาดประสบการณ์ในด้านที่ระบุไว้ในรายละเอียดของงาน ลองหาข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือข้อพิสูจน์ที่สามารถนำไปพูดถึงได้ในการสัมภาษณ์งาน เราจะรู้สึกวิตกกังวลน้อยลง ถ้าเราเตรียมตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของตนเองมาล่วงหน้า

  3. พยายามตอบคำถามสัมภาษณ์งานอย่างเป็นธรรมชาติ. เราต้องตอบคำถามสัมภาษณ์งานอย่างเป็นธรรมชาติ เราคงไม่อยากให้ผู้สัมภาษณ์สังเกตเห็นว่าเราพูดเหมือนท่องจำมา อย่าลืมว่าเรากำลังสนทนากับใครสักคนหนึ่งเกี่ยวกับงานของตนเอง สบตาคู่สนทนา พูดด้วยความมั่นใจ และยิ้ม [23]
    • อย่าลืมว่าในการสัมภาษณ์งานผู้สัมภาษณ์ไม่ใช่ผู้ถามอยู่ฝ่ายเดียว เราเองก็ควรเตรียมคำถามมาถามเขาด้วยเช่นกัน
  4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนวันสัมภาษณ์งาน. เราคงไม่อยากให้ตนเองดูเหนื่อยล้าระหว่างสัมภาษณ์งาน ฉะนั้นนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยที่สุดนอนหลับให้เต็มอิ่มในคืนก่อนวันสัมภาษณ์งาน ถ้าเห็นว่าเหลืออีกหลายวันกว่าจะถึงวันสัมภาษณ์งาน พยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอทุกวันระหว่างนั้น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้สมองของเราปลอดโปร่งและสามารถตอบคำถามช่วงสัมภาษณ์งานได้ดี [24]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,431 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา