ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สำหรับหลายๆ คน ลูกสุนัขเป็นที่สุดของภาพแห่งความน่ารัก ด้วยความที่มันตัวเล็ก มีขนปกปุย และดูน่ากอดน่าทะนุถนอม ถึงแม้ว่าลูกสุนัขจะน่ารัก และดูเป็นเรื่องที่น่าสนุกเป็นอย่างมาก แต่คุณต้องอาศัยการทำงานอย่างหนักในการเลี้ยงดูพวกมันให้ถูกต้อง การเปลี่ยนลูกสุนัขให้มีความประพฤติที่เรียบร้อยจำเป็นต้องอาศัยเวลา ความอดทน และความรักความเอาใจใส่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามความพยายามของคุณจะเป็นผลในระยะยาว ลูกสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดีจะกลายเป็นสุนัขที่น่าเลี้ยงไว้ใกล้ๆ ในขณะที่การไม่ฝึกฝนลูกสุนัขตั้งแต่แรกในอนาคตอันใกล้จะสร้างปัญหามากมายให้กับคุณ เริ่มต้นการฝึกฝนลูกสุนัขของคุณโดยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสุนัขของคุณ จากนั้นจึงเริ่มสอนคำสั่งสำคัญต่างๆ ที่ลูกสุนัขจำเป็นต้องเรียนรู้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

เรียนรู้พื้นฐานของการฝึกฝน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตรียมครอบครัวของคุณ และตัวคุณเองสำหรับความรับผิดชอบในการดูแลลูกสุนัข. ในขณะที่มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการนำลูกสุนัขตัวใหม่กลับมาบ้าน อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่คุณต้องแบ่งหน้าที่ให้สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนฝึกฝนลูกสุนัขของคุณ และกำหนดกฏสำหรับลูกสุนัขของคุณ วินัยเป็นหัวใจสำคัญ และไม่ใช่แค่สำหรับลูกสุนัขของคุณเพียงเท่านั้น
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งใจจะให้ลูกสุนัขนอนอยู่ในลังไม้ จนกระทั่งมันได้รับการฝึกฝนในการอยู่ในบ้านเสียก่อน อย่าปล่อยให้ใครนำลูกสุนัขไปนอนบนเตียงในช่วง 2 – 3 คืนแรกที่มาถึง
  2. ลูกสุนัขต้องการกฎที่ชัดเจนตั้งแต่วันแรกที่มันมาถึงบ้านของคุณ คุณต้องการทำให้กฏง่ายต่อการปฏิบัติตาม ยกตัวอย่าง เช่น หากคุณไม่ต้องการให้ลูกสุนัขอยู่ข้างบน ให้ติดตั้งประตูตรงบันได หากคุณไม่ต้องการให้สุนัขขออาหารที่โต๊ะรับประทานอาหาร ห้ามให้อาหารลูกสุนัขจากจานรับประทานอาหารของคุณ จำไว้ว่าห้ามดุว่าลูกสุนัขมากเกินไป ไม่เช่นนั้นความเชื่อใจของลูกสุนัขที่มีต่อคุณจะลดลง
  3. มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนลูกสุนัขโดยปราศจากการมีของรางวัลบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง สุนัขส่วนมากตอบสนองเป็นอย่างดีกับรางวัลที่เป็นอาหาร อย่างไรก็ตาม พึงระวังว่าเมื่อคุณให้รางวัลเป็นอาหาร คุณควรให้ในปริมาณน้อยๆ โดยอาจบิอาหารสุนัขออกให้เป็นชิ้นเล็กๆ และให้กับสุนัขเป็นรางวัล ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้ผล
    • การให้อาหารชิ้นใหญ่ ในแต่ละครั้งที่คุณให้รางวัลสุนัข ในไม่ช้าสุนัขของคุณจะมีสุขภาพไม่แข็งแรง และมีน้ำหนักเกิน ใช้รางวัลที่มีคุณค่าสูงสำหรับสิ่งใหม่ๆ ที่สุนัขทำได้ เช่น ไก่งวงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพของสุนัขมาก และให้อาหารที่มีคุณค่าต่ำลงมา เช่น อาหารสุนัขหนึ่งเม็ด เมื่อลูกสุนัขทำในสิ่งที่เคยได้รับการฝึกฝนไปแล้ว
    • ลูกสุนัขบางตัวตอบสนองดีขึ้นกับของเล่น คุณสามารถให้รางวัลสุนัขที่รักการวิ่งไปคาบของกลับมาให้ โดยการขว้างลูกบอลออกไปในแต่ละครั้งที่ลูกสุนัขทำสิ่งที่ถูกต้อง หรือการเล่นเกมชักเย่อสำหรับสุนัขบางตัว อย่างไรก็ตาม รางวัลที่เป็นของเล่นอาจต้องอาศัยเวลาที่มากขึ้น ในการทำให้ลูกสุนัขรู้สึกตื่นเต้น และกระตือรือร้นที่จะได้รับการฝึกฝน หรือบางทีอาจรู้สึกเบื่อหลังจากผ่านไปไม่นาน ของเล่นจะใช้ได้ผลเป็นอย่างดีสำหรับการฝึกฝนความคล่องแคล่ว ถึงแม้ว่าความคล่องแคล่วไม่สามารถถูกฝึกได้จนกระทั่งสุนัขมีอายุ 18 เดือน เพราะว่าข้อต่อ และกระดูกของลูกสุนัขยังไม่พร้อมสำหรับการฝึกลักษณะนี้
  4. เรียนรู้ลักษณะของสายพันธุ์ของลูกสุนัขที่คุณมี. สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีในการศึกษาสายพันธุ์ของลูกสุนัขที่คุณมีเพื่อรู้ว่าคุณสามารถคาดหวังสิ่งใดจากลูกสุนัขที่คุณมีได้บ้าง สุนัขแต่ละสายพันธุ์จำเป็นต้องมีการฝึกเฉพาะเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นแน่ใจว่าคุณรู้ถึงสิ่งที่สุนัขของคุณต้องการเป็นการเฉพาะว่าคืออะไร
  5. ส่วนเสริมที่คุณสามารถให้กับสุนัขนอกเหนือจากรางวัล คุณควรกล่าวชมด้วยคำพูด เมื่อลูกสุนัขตอบสนองอย่างถูกต้อง คุณควรพูดชมลูกสุนัขด้วยโทนเสียงที่สูง ลูกสุนัขตอบสนองต่อโทนเสียงที่ยินดี และมีความสุข
    • การฝึกฝนด้วยคลิกเกอร์ (Clicker Training) เป็นวิธีที่ได้ผล ในการฝึกฝนลักษณะนี้ คุณซื้อคลิกเกอร์ (เป็นอุปกรณ์ประกอบการสอนสุนัขชนิดหนึ่ง มีรูปลักษณ์หลากหลาย และมีสีสันให้เลือกมากมาย เมื่อกดจะมีเสียงดัง “คลิก”) และทุกครั้งที่คุณออกคำสั่ง คุณจะใช้คลิกเกอร์โดยทันที
    • ในทางกลับกัน เมื่อลูกสุนัขของคุณไม่เชื่อฟัง คุณควรใช้โทนเสียงที่เข้มงวดในการตำหนิลูกสุนัขของคุณ มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่ลูกสุนัขจะเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างโทนเสียงที่แสดงออกถึงความยินดี และโทนเสียงที่ตำหนิลูกสุนัขว่าทำผิด อย่าลืมปลอบประโลมสุนัขหลังจากคุณจำเป็นต้องตำหนิมันอยู่เสมอ
  6. ทำให้การฝึกฝนของคุณมีระยะเวลาที่สั้น ประมาณ 10 – 15 นาที. พยายามทำให้การฝึกเต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆ และความสนุก เช่น เกมที่คุณคิดขึ้นมาเอง หากคุณเห็นว่าสุนัขเริ่มเบื่อ ไม่มีสมาธิ หรือผิดหวัง ให้จบการฝึก และหยุดพัก
    • หากคุณเริ่มรู้สึกท้อแท้ ให้จบการฝึก อย่างไรก็ตาม พยายามจบการฝึกด้วยคำชื่นชม และรางวัล วิธีนี้ลูกสุนัขจะรอคอยการฝึกในครั้งต่อไป
    • พยายามจำกัดให้ช่วงการฝึกมีระยะเวลาประมาณ 10 – 15 นาทีในทุกๆ วัน เพื่อที่ลูกสุนัขจะเรียนรู้คำสั่งใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

การฝึกลูกสุนัขให้อยู่ในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เริ่มต้นการฝึกลูกสุนัขให้อยู่ในบ้าน เมื่อคุณพาสุนัขมาบ้าน. จำไว้ว่าลูกสุนัขอายุ 12 สัปดาห์ หรือต่ำกว่านั้นไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ และอุจจาระได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าพวกมันต้องการที่จะอั้นไว้ก็ตาม แต่พวกมันไม่สามารถทำมันได้ง่ายๆ ดังนั้นอย่าตำหนิพวกมันอย่างรุนแรงเมื่อลูกสุนัขขับถ่ายในบ้านของคุณ ลูกสุนัขส่วนมากไม่สามารถถูกฝึกฝนให้อยู่ในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบจนกระทั่งพวกมันอายุได้ 6 เดือน และในบางกรณีอาจต้องมีอายุมากกว่านั้น
    • เมื่อทำการฝึกฝนลูกสุนัขของคุณให้อยู่ในบ้าน มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีทัศนคติที่ดี แม้ว่าคุณอาจประสบเหตุสุดวิสัยก็ตาม
  2. ลูกสุนัขสามารถอั้นของเสียไว้ได้ตามจำนวนเดือนของอายุลูกสุนัข ดังนั้นหากลูกสุนัขของคุณอายุได้ 4 เดือน ลูกสุนัขไม่ควรถูกทิ้งไว้ตามลำพัง โดยปราศจากช่องทางในการออกไปข้างนอกบ้านได้เกินกว่า 4 ชั่วโมง [1]
    • มันแตกต่างกันในตอนกลางคืน โดยลูกสุนัขจะปิดระบบขับถ่ายโดยธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ โดยเมื่อลูกสุนัขอายุได้ 4 เดือน ลูกสุนัขสามารถอยู่ได้ตลอดทั้งคืน โดยไม่จำเป็นต้องขับถ่ายของเสีย
  3. โดยคุณอาจสามารถเดาได้ว่า สาเหตุหลักๆ ที่สุนัขขับถ่าย จะเกิดเมื่อมันได้รับการให้อาหาร เพื่อเร่งกระบวนการฝึกลูกสุนัขให้อยู่ในบ้านให้เร็วขึ้น ให้คุณกำหนดตารางการให้อาหารประจำวัน และยึดมั่นกับตารางดังกล่าว ห้ามให้อาหารอย่างไม่เป็นเวลา (ห้ามเทอาหารสุนัขใส่ไว้เต็มชามอยู่ตลอดเวลา) ยกเว้นว่าได้รับคำแนะนำจากสัตว์แพทย์
    • การให้อาหารอย่างไม่เป็นเวลาจะทำให้ลูกสุนัขของคุณขับถ่ายไม่เป็นเวลา และจะไม่ทำให้ลูกสุนัขจำว่าคุณเป็นคนให้อาหาร (ซึ่งมันเป็นเรื่องสำคัญในการสอนลูกสุนัขของคุณว่า คุณเป็นผู้นำ และผู้รับผิดชอบดูแลมัน) [2]
    • ห้ามให้อาหารใดๆ กับลูกสุนัขของคุณในระหว่างวันที่ไม่ใช่มื้ออาหาร
  4. ลูกสุนัขเล็กจำเป็นต้องมีการขับถ่ายทุกๆ 30 ถึง 45 นาที คุณควรกำหนดตารางที่แน่นอนในการพาลูกสุนัขออกไปนอกบ้าน ลูกสุนัขควรถูกพาออกนอกบ้านทุกๆ ชั่วโมง รวมไปถึงหลังจากเสร็จสิ้นมื้ออาหาร นอนงีบ และเวลาเล่น คุณควรพาลูกสุนัขออกไปนอกบ้านเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า และก่อนคุณ และลูกสุนัขของคุณจะเข้านอนตอนกลางคืน รวมไปถึงก่อนที่คุณจะทิ้งให้ลูกสุนัขอยู่ตามลำพังเป็นเวลานานๆ
  5. พูดชมลูกสุนัขของคุณเมื่อไหร่ก็ตามที่มันขับถ่ายข้างนอกบ้าน. ให้รางวัล และพูดชมลูกสุนัข เมื่อมันถ่ายปัสสาวะ หรืออุจจาระข้างนอกบ้าน พยายามพาลูกสุนัขไปที่เดิมในแต่ละครั้ง เพื่อสอนให้ลูกสุนัขรู้ว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ที่มันต้องขับถ่าย เมื่อคุณพาลูกสุนัขมาบริเวณดังกล่าว ให้พูด “ไปห้องน้ำ” และคอยให้ลูกสุนัขทำภารกิจให้เสร็จ [3]
    • การนำลูกสุนัขกลับมาที่บริเวณเดิมจะช่วยให้มันได้กลิ่นของบริเวณที่มันขับถ่าย กลิ่นสามารถกระตุ้นให้ลูกสุนัขอยากขับถ่าย
    • อยู่กับลูกสุนัขของคุณข้างนอก ในขณะที่มีการฝึกฝนการขับถ่ายให้เป็นที่ เพื่อที่คุณจะสามารถพูดชมลูกสุนัขได้ทันที เมื่อมันขับถ่ายอย่างถูกที่ จำไว้ว่าลูกสุนัขบางตัวจะขับถ่ายโดยทันทีที่คุณพามันออกมาข้างนอก ในขณะที่ตัวอื่นๆ อาจจำเป็นต้องสูดกลิ่นไปทั่ว หรือเล่นสักเล็กน้อย ก่อนที่พวกมันจะทำการขับถ่าย
  6. ดูสัญญาณของลูกสุนัขที่บ่งบอกว่ามันต้องการจะขับถ่าย. สัญญาณโดยทั่วไปจะได้แก่ การสูดดม ร้อง ออกจากห้อง หรือเดินวนไปวนมา เมื่อคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้ให้พาลูกสุนัขออกไปนอกบ้านโดยทันที คุณต้องสังเกตลูกสุนัขอย่างระมัดระวัง
    • หากคุณเห็นว่าลูกสุนัขของคุณกำลังขับถ่ายในบ้าน ให้ตบมือดังๆ 2 ครั้ง การตบมือของคุณจะทำให้ลูกสุนัขตกใจ และหยุดการขับถ่ายชั่วคราว จากนั้นให้คุณรีบพาสุนัขออกไปข้างนอกบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจูงมันออกไป หรือกระตุ้นให้มันวิ่งออกไปข้างๆ คุณก็ตาม
    • ทันทีที่อยู่นอกบ้าน ให้พาลูกสุนัขไปที่ใดที่หนึ่ง และปล่อยให้มันขับถ่ายต่อ เมื่อมันทำ ให้พูดชม และให้รางวัลลูกสุนัข หากลูกสุนัขไม่มีของเสียให้ขับถ่าย อย่าวิตกกังวล แค่แน่ใจว่าครั้งหน้าคุณจะเห็นว่าลูกสุนัขต้องการขับถ่าย เพื่อที่คุณจะได้พามันออกมานอกบ้าน
    • อย่าตำหนิลูกสุนัข และถูจมูกของมันเมื่อเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น คุณแค่ทำความสะอาด และพยายามพาลูกสุนัขออกไปข้างนอกในครั้งต่อไป
  7. นี่เป็นเรื่องที่สำคัญที่ควรต้องทำโดยเฉพาะเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน เลือกลังไม้ หรือพื้นที่ที่คุณสามารถกั้นด้วยกรง หรือคอกกั้นเด็กอ่อน หรือรั้วกั้นสำหรับลูกสุนัข วางกระดาษหนังสือพิมพ์ และใส่ที่นอนของลูกสุนัข ของเล่น ชามน้ำ และอาหารในพื้นที่ที่คุณกั้นไว้ ภายในไม่กี่สัปดาห์ คุณจะสังเกตเห็นว่า ลูกสุนัขของคุณเริ่มถ่ายปัสสาวะ และอุจจาระในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเพียงเท่านั้น [4]
    • คุณสามารถเริ่มการลดปริมาณกระดาษหนังสือพิมพ์ที่คุณใช้ในพื้นที่ลง เพื่อที่ในท้ายที่สุดคุณจะวางกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ในตำแหน่งที่ลูกสุนัขเลือกเป็นที่ขับถ่ายเพียงเท่านั้น จากนั้นคุณจะสามารถเริ่มเคลื่อนย้ายกระดาษหนังสือพิมพ์ไปยังตำแหน่งอื่นๆ ที่เข้าใกล้กับประตูทางออกนอกบ้านได้เพิ่มมากขึ้นอย่างช้าๆ และลูกสุนัขจะเริ่มขับถ่ายบนกระดาษหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ด้วยตัวมันเอง
    • หากลูกสุนัขขับถ่ายในตำแหน่งนอกเหนือจากจุดที่กำหนดไว้ คุณอาจลดปริมาณกระดาษหนังสือพิมพ์ลงมากเกินไป หรือเคลื่อนย้ายกระดาษหนังสือพิมพ์ออกห่างจากตำแหน่งเริ่มต้นเร็วเกินไป การฝึกการขับถ่ายให้ลูกสุนัขต้องอาศัยเวลาเป็นอย่างมาก จำไว้ว่าคุณต้องมีความอดทน
    • พูดชมลูกสุนัขของคุณ เมื่อมันขับถ่ายในตำแหน่งที่กำหนดไว้ หากลูกสุนัขของคุณทำผิดพลาด แต่คุณไม่ได้เห็นตอนที่ลูกสุนัขกำลังขับถ่ายผิดที่ คุณไม่ควรตำหนิลูกสุนัข เนื่องจากลูกสุนัขจะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณตำหนิมันในสิ่งที่มันอาจได้ทำไปแล้วเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้วด้วยเหตุอันใด แต่หากคุณจับได้ทันทีหลังจากที่ลูกสุนัขขับถ่ายไม่เป็นที่ ให้คุณจับลูกสุนัขเข้าไปใกล้กับตำแหน่งที่ลูกสุนัขได้ขับถ่ายไว้ และพูดอย่างหนักแน่นว่า “ไม่”
  8. เมื่อลูกสุนัขของคุณเริ่มคุ้นเคยกับพื้นที่ขับถ่ายของตัวเอง คุณสามารถเริ่มปล่อยให้ลูกสุนัขสำรวจพื้นที่ที่เหลืออยู่ภายในตัวบ้าน มันเป็นการดีที่สุดที่จะเปิดพื้นที่ให้ลูกสุนัขของคุณห้องใดห้องหนึ่งในแต่ละครั้ง ให้ทำวิธีนี้เมื่อลูกสุนัขของคุณสามารถถูกเฝ้าดูได้ ในตอนที่ลูกสุนัขของคุณไม่สามารถถูกเฝ้าดูได้ ให้ใส่ลูกสุนัขกลับเข้ารังของมัน [5]
    • ใส่สายจูงให้กับลูกสุนัข เมื่อมันกำลังสำรวจห้องใหม่ จะช่วยลดการเกิดอันตรายแก่ลูกสุนัขลงได้มาก เมื่อคุณถือสายจูงอยู่
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การฝึกลูกสุนัขของคุณให้หยุดกัด และเคี้ยว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียนรู้ว่าลูกสุนัขของคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณเจ็บเมื่อมันกัดคุณ. ลูกสุนัขสำรวจโลกใหม่ของมันผ่านปากของพวกมัน ดังนั้นพวกมันอาจกัดคุณในระหว่างที่มันกำลังทำการสำรวจ หรือเมื่อพวกมันกำลังเล่นซนอยู่ ลูกสุนัขไม่รู้ว่าฟันของพวกมันจะเหมือนกับมีดโกนที่เจาะเข้าไปในผิวหนังของพวกเราเมื่อพวกมันกัดแทะพวกเรา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกให้ลูกสุนัขของคุณไม่กัดตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่
  2. ลูกสุนัขไม่รู้ว่าการกัดของพวกมันมีความรุนแรงแค่ไหน ปล่อยมันให้งับคุณ หากมันได้ทำไปแล้ว แต่เมื่อมันเริ่มกัดแรงเกินไป ให้คุณร้องเสียงแหลม หรือทำเสียงดัง ‘โอ๊ย’ การทำแบบนี้จะทำให้ลูกสุนัขของคุณตกใจ และทำให้มันหยุดกัดคุณ [6]
    • เพิกเฉยต่อลูกสุนัขประมาณ 10 – 20 วินาที หลังจากที่มันได้กัดคุณ หรือเดินหนีไปประมาณ 10 – 20 วินาที จากนั้นให้กลับมา และเริ่มต้นเล่นกับลูกสุนัขใหม่ เมื่อมันกัดแรงเกินไปอีกครั้ง ให้ร้อง “โอ๊ย” อีกครั้ง และเพิกเฉยต่อลูกสุนัขอีกประมาณ 20 วินาที การทำแบบนี้จะสอนให้ลูกสุนัขรู้ว่า หากเล่นอย่างอ่อนโยนจะทำให้มันได้เล่นต่อ ในขณะที่การเล่นแบบเจ็บๆ คือการหยุดเล่น
    • ทันทีที่ลูกสุนัขของคุณหยุดกัดคุณด้วยความรุนแรงมากๆ ได้ คุณสามารถเริ่มสอนมันไม่ให้กัดแม้แต่ในระดับความรุนแรงปานกลางก็ตาม ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ซ้ำๆ เมื่อลูกสุนัขกัดคุณด้วยความรุนแรงระดับปานกลาง ให้ดำเนินกระบวนการนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลูกสุนัขของคุณเริ่มงับคุณอย่างนุ่มนวล หรือไม่งับคุณเลยอีกต่อไป
  3. หากลูกสุนัขของคุณชอบแอบซุ่มงับเท้าของคุณในขณะที่คุณเดิน ให้คุณเก็บของเล่นไว้ในกระเป๋า เมื่อลูกสุนัขของคุณเริ่มงับที่เท้าของคุณ ให้คุณหยุด และเอาของเล่นออกมา และแกว่งของเล่น เพื่อจะทำให้ลูกสุนัขสนใจในของเล่น เมื่อลูกสุนัขเริ่มเคี้ยวของเล่น ให้เริ่มต้นเดินต่อไป ในท้ายที่สุด ลูกสุนัขของคุณจะเรียนรู้ว่าการเคี้ยวของเล่นดีกว่าการเคี้ยวเท้าของคุณ [7]
    • หากคุณไม่มีของเล่น ให้คุณหยุดเมื่อลูกสุนัขของคุณเริ่มงับเท้าของคุณ เมื่อมันหยุด ให้พูดชมมัน และไปหาซื้อของเล่นให้ลูกสุนัข
  4. หยุดลูกสุนัขของคุณจากการเคี้ยวสิ่งที่มันไม่ควรจะเคี้ยว. เมื่อคุณเห็นลูกสุนัขของคุณกำลังเคี้ยวสิ่งของ เช่น รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ หรือถุงเท้า ให้เอาสิ่งของเหล่านั้นออกจากปากลูกสุนัข และตำหนิมันเป็นคำพูด ชี้นำให้มันสนใจในสิ่งที่มันสามารถเคี้ยวได้ เช่น ของเล่นที่มันโปรดปราน และพูดชมมันเมื่อมันเริ่มเคี้ยวของสิ่งนั้นแทน การทำแบบนี้จะสอนให้ลูกสุนัขรู้ว่า สิ่งไหนเคี้ยวได้ และสิ่งไหนเคี้ยวไม่ได้
    • หากลูกสุนัขของคุณเริ่มเคี้ยวสิ่งที่ไม่ควรเคี้ยว คุณสามารถใช้ตัวยับยั้งรสชาติ (Taste Deterrent) เช่น บอระเพ็ด เพื่อทำให้ลูกสุนัขหยุดเคี้ยวสิ่งของเหล่านั้น คุณสามารถหาซื้อตัวยับยั้งรสชาติได้ที่ร้านสัตว์เลี้ยงในท้องที่ เทคนิคนี้ใช้ได้ผล เนื่องจากรสชาติที่แย่จะทำให้ลูกสุนัขของคุณหยุดการเคี้ยวสิ่งของได้ทันที
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

การฝึกลูกสุนัขของคุณให้เชื่อฟังคำสั่งสำคัญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สุนัขทุกตัวควรรู้จักกับคำสั่งให้นั่งลง หากคุณต้องการให้สุนัขเชื่อฟัง ปลอดภัย และสามารถเรียนรู้ลูกเล่นอื่นๆ ที่ซับซ้อนได้ คุณต้องสอนให้ลูกสุนัขรู้จักกับคำสั่งนั่งเสียก่อน [8]
    • เตรียมรางวัลที่เป็นอาหารให้พร้อม คุณควรใช้รางวัลเพื่อสอนให้ลูกสุนัขรู้จักคำสั่งนี้ ยกเว้นสุนัขของคุณไม่ชอบรางวัลที่เป็นอาหาร
    • ลูกสุนัขของคุณควรมีสายจูง สายจูงจะช่วยนำการเคลื่อนไหวของลูกสุนัขของคุณ
    • ถือรางวัลไว้หน้าจมูกของลูกสุนัขของคุณ ในขณะที่ดึงสายจูงเบาๆ เคลื่อนรางวัลขึ้นด้านบน ให้ใกล้กับจมูกของลูกสุนัขของคุณ
    • ลูกสุนัขของคุณจะมีแนวโน้มที่จะยื่นจมูกตามของรางวัล และทำให้มันอยู่ในท่านั่งโดยอัตโนมัติ หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้กดส่วนบั้นท้ายของลูกสุนัขลงเบาๆ ทันทีที่สุนัขของคุณอยู่ในท่านั่ง ให้พูด “นั่ง!” จากนั้นจึงให้รางวัล และพูดชมลูกสุนัข
    • ทำขั้นตอนนี้บ่อยๆ และจงอดทน สุนัขบางตัวใช้เวลานานกว่าตัวอื่นๆ ในการเรียนรู้ ทันทีที่ลูกสุนัขของคุณเริ่มจำคำว่า “นั่ง” ได้ ให้คุณพูดมันก่อนที่สุนัขของคุณจะนั่งลงจริงๆ ด้วยเวลา ความอดทน และการฝึกฝน สุนัขของคุณควรเรียนรู้ที่จะนั่งด้วยคำสั่งในท้ายที่สุด
  2. ทันทีที่ลูกสุนัขของคุณเรียนรู้ที่จะนั่ง มันจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้คำสั่งให้นอนลง เริ่มต้นด้วยการให้ลูกสุนัขของคุณอยู่ในท่านั่ง อีกครั้ง ให้เตรียมรางวัลไว้ให้พร้อม ลูกสุนัขของคุณควรสวมสายจูง เพื่อที่คุณจะสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของมัน [9]
    • ถือรางวัลไว้หน้าจมูกของลูกสุนัข คุณอาจต้องการคุกเข่าลง เพื่อที่คุณจะได้อยู่ใกล้กับพื้น
    • ออกแรงกดไปที่สายจูง เพื่อที่จะทำให้ลูกสุนัขไม่สามารถเข้าหารางวัลได้ จากนั้นให้เคลื่อนรางวัลลงบนพื้นอย่างช้าๆ ลูกสุนัขควรนอนลงเพื่อที่มันจะได้เข้าใกล้รางวัลให้มากขึ้น
    • หากวิธีนี้ไม่ได้ผล ให้เพิ่มแรงกดบนสายจูงให้มากขึ้น ดึงปลอกคอลง ในขณะที่เคลื่อนรางวัลลงใกล้พื้น ทันทีที่ลูกสุนัขของคุณกำลังนอนลง ให้พูด “นอน!” และให้รางวัล
    • สุดท้ายให้พูด “นอน” ก่อนที่ลูกสุนัขจะนอนลง ฝึกฝนขั้นตอนเหล่านี้ไปเรื่อยๆ ในท้ายที่สุดลูกสุนัขของคุณจะเรียนรู้การนอนลง เมื่อมันได้ยินคำสั่ง
  3. นี่เป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับความปลอดภัยที่สำคัญอีกคำสั่งหนึ่ง คุณจำเป็นต้องควบคุมสุนัขของคุณให้ได้ และรู้ว่ามันจะมาหาคุณเมื่อคุณออกคำสั่ง
    • สวมสายจูงให้ลูกสุนัขของคุณ ออกคำสั่งให้มันนั่ง หรือนอน ให้ถอยห่างจากลูกสุนัข 2 – 3 ก้าว และคุกเข่าลง เตรียมของเล่นที่สุนัขโปรดปรานไว้ให้พร้อม
    • กระตุ้นลูกสุนัขของคุณโดยการพูดชื่อของมันในเสียงที่ตื่นเต้น ห้ามออกแรงกดที่สายจูง แสดงให้ลูกสุนัขเห็นของเล่น ลูบหัวเข่าของคุณ และเรียกลูกสุนัขด้วยนำเสียงที่จูงใจให้ลูกสุนัขเข้ามาหา
    • เมื่อลูกสุนัขเริ่มเข้ามาหาคุณ ให้พูด “มา!” เมื่อลูกสุนัขเข้ามาถึงคุณ ให้พูดชม และให้รางวัลมัน
    • ให้ดำเนินการฝึกขั้นตอนนี้ต่อไป ค่อยๆ ออกห่างจากลูกสุนัขให้ไกลขึ้น และเรียกลูกสุนัขให้มาหา
    • ทันทีที่ลูกสุนัขของคุณรู้จักคำสั่ง ลองเรียกลูกสุนัข ในขณะที่มันกำลังเล่นซนอยู่
  4. นี่เป็นหนึ่งในคำสั่งที่เกี่ยวกับความปลอดภัยที่สำคัญมากที่สุด ลูกสุนัขของคุณต้องรู้วิธีอยู่นิ่งในที่ใดที่หนึ่ง นี่เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อออกไปเดินเล่น เล่นซนนอกบ้าน ทักทายคน และสุนัขอื่นๆ เป็นต้น [10]
    • สวมสายจูงให้ลูกสุนัขของคุณ ครั้งนี้ ห้ามแสดงให้สุนัขเห็นของรางวัล แต่ให้เตรียมพร้อมที่จะให้รางวัลลูกสุนัขเมื่อเวลามาถึง
    • สั่งให้ลูกสุนัขของคุณนั่ง และพูดอย่างหนักแน่นว่า “คอย” ชูมือเหนือหัวของสุนัข มือของคุณควรอยู่ในตำแหน่งที่ลูกสุนัขสามารถมองเห็นได้ง่าย ห้ามเคลื่อนย้ายมือของคุณ จนกระทั่งลูกสุนัขของคุณเรียนรู้คำสั่งได้แล้ว มันจะช่วยให้ลูกสุนัขมีสมาธิ และรับรู้ถึงสารที่ถูกส่งมา
    • ในขณะที่สบตากับลูกสุนัข ให้คุณถอยหลังออกจากลูกสุนัขอย่างช้าๆ หากลูกสุนัขเริ่มเคลื่อนไหว ให้พูดด้วยเสียงที่แหลม ดังว่า “อะ อะ!” นั่นจะทำให้ลูกสุนัขสนใจ และบอกให้ลูกสุนัขรู้ว่าได้ทำสิ่งที่ผิด ห้ามโมโห ลูกสุนัขยังไม่รู้จักกับคำสั่งได้ดีเท่าไหร่นัก ให้คุณจับลูกสุนัขให้แน่น แต่นุ่มนวล และนำไปวางไว้ที่ตำแหน่งเดิม และออกคำสั่งให้สุนัขนั่ง ลูกสุนัขต้องอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่เช่นนั้นมันจะคิดว่ามันสามารถฝืนคำสั่งได้โดยการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแม้ว่ามันจะถูกสั่งให้คอยก็ตาม ให้คุณออกคำสั่งซ้ำ และลองดูอีกที
    • เมื่อลูกสุนัขหยุดคอย ให้พูด “โอเค!” และบอกให้ลูกสุนัขลุกขึ้น และเข้ามาหาคุณ พูดชม และให้รางวัลลูกสุนัข
    • ฝึกการออกคำสั่งไปเรื่อยๆ ทันทีที่ลูกสุนัขได้เรียนรู้คำสั่ง ให้ค่อยๆ ออกห่างจากลูกสุนัขไปทีละนิด และปล่อยให้ลูกสุนัขรอนานขึ้นอีก จนกระทั่งคุณออกคำสั่งให้ยกเลิกการคอย
  5. 5
    สอนคำสั่งเพิ่มเติมอื่นๆ ให้ลูกสุนัขของคุณ. หลังจากลูกสุนัขของคุณได้เรียนรู้คำสั่งพื้นฐานต่างๆ และทำตามคำสั่งของคุณได้อย่างสม่ำเสมอ และรวดเร็ว คุณสามารถฝึกให้สุนัขแสดงลูกเล่นต่างๆ มีหนังสือดีๆ และบทความในอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก ที่สามารถช่วยคุณหาลูกเล่นที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ลูกสุนัขของคุณเรียนรู้ และแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการสอนรูปแบบของคำสั่งเหล่านั้นให้กับลูกสุนัขของคุณ
    • สอนให้สุนัขของคุณรู้จักม้วนตัวไปมา เพื่อนๆ ของคุณจะรู้สึกประทับใจ และตกตะลึงว่าทำไมสุนัขของคุณถึงได้น่ารักขนาดนี้เมื่อมันม้วนตัวไปมา
    • สอนลูกสุนัขของคุณให้รู้จักวิธีแตะมือ (high five) มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะให้ลูกๆ ของคุณมีส่วนร่วมในกระบวนการฝึกลูกสุนัขของคุณ ดังนั้น ทำไมคุณไม่ให้ลูกๆ ของคุณฝึกลูกสุนัขให้ทำบางสิ่งบางอย่าง ที่ทั้งสุนัข และเด็กๆ จะรู้สึกสนุก และเพลิดเพลินได้พร้อมๆ กัน?
    • สอนสุนัขของคุณให้รู้จักวิธีการเต้นรำ ลองคิดดูว่าหากลูกสุนัขสามารถเต้นรำได้จะน่ารักมากแค่ไหน?
    • สอนลูกสุนัขของคุณให้รู้จักวิธีจับมือ การจับมือเป็นลูกเล่นที่สุดแสนคลาสสิกที่สุนัขทุกตัวควรเรียนรู้
    • สอนให้ลูกสุนัขของคุณไปคาบของมาให้ ลูกสุนัขมีพลังเหลือเฟือ ทำไมคุณไม่ลองสอนสุนัขของคุณให้รู้จักลูกเล่นนี้ เพื่อที่จะได้เผาผลาญพลังงานของลูกสุนัขออกไปบ้าง?
  6. 6
    พิจารณานำลูกสุนัขของคุณเข้าครอสฝึกหัด. เข้าร่วมครอสฝึกลูกสุนัข เพื่อที่ลูกสุนัขของคุณจะสามารถเรียนรู้จากลูกสุนัขตัวอื่น และเจ้าของของพวกมัน และได้เรียนรู้ในสิ่งแวดล้อมที่มีสิ่งรบกวนต่างๆ มากกว่า สัตว์แพทย์ในพื้นที่ หรือร้านสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยคุณหาครอสฝึกลูกสุนัขดีๆ ในพื้นที่ที่คุณอยู่อาศัยได้
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • ห้ามเรียกลูกสุนัขให้มาหาคุณเพื่อลงโทษ การทำเช่นนี้จะทำให้ลูกสุนัขเข้าใจว่าการมาหาคุณจะต้องถูกลงโทษ ซึ่งจะทำให้ลูกสุนัขรู้สึกกลัว และไม่ไว้ใจการเรียกของคุณ
  • ให้ฝึกลูกสุนัขในบ้านก่อน จนกระทั่งลูกสุนัขรู้จักคำสั่งต่างๆ ดีขึ้น และมีสมาธิ และสงบมากขึ้น จากนั้นจึงค่อยย้ายออกไปข้างนอกที่มีสิ่งรบกวนมากกว่า แต่ให้สวมสายจูงลูกสุนัข หรือใส่ลูกสุนัขไว้ในรั้วเพื่อความปลอดภัย
  • เริ่มต้นการฝึกฝนก่อนที่คุณจะให้อาหารลูกสุนัขของคุณ ลูกสุนัขของคุณจะเข้าใจว่าการกินเป็นการได้รับรางวัล
  • หากลูกสุนัขมีระยะเวลาในการให้ความสนใจที่สั้น และรู้สึกเบื่อแม้แต่ในช่วงการฝึกฝนที่สั้นก็ตาม ให้คุณเพิ่มเกมในระหว่างการฝึกเข้าไป นี่สามารถรวมถึงการซ่อนรางวัล และบอกให้ลูกสุนัขของคุณไปหามันเอง การโยนของให้ลูกสุนัขไปคาบมาให้ และเกมที่สร้างสรรค์ ที่คุณ และสุนัขของคุณจะรู้สึกสนุก และเพลิดเพลิน
  • ทำการฝึกลูกสุนัขตัวหนึ่งในแต่ละครั้ง (หากคุณมีมากกว่า 1 ตัว) เพื่อที่ลูกสุนัขจะมีสมาธิอยู่ที่คุณเท่านั้น
  • กันให้สุนัขของคุณออกห่างจากห้องของเด็กเล็ก โดยเฉพาะหากคุณมีลูกอ่อน สัตว์โดยทั่วไปมีความรู้สึกเมื่ออยู่รอบๆ เด็กเล็ก และจะไม่กัดเด็กๆ แต่ควรกันลูกสุนัขออกห่างจากเด็กเล็กไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย เมื่อคุณปล่อยให้เด็กเล็ก กับลูกสุนัขเล่นด้วยกัน แน่ใจว่าอยู่ภายใต้การดูแลของคุณอย่างใกล้ชิดสำหรับสัญญาณความกระวนกระวายจากสุนัข
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามตีลูกสุนัขของคุณด้วยสิ่งใดก็ตาม การตีลูกสุนัขจะทำให้สายใยระหว่างคุณ และสุนัขจางหายไปอย่างช้าๆ
  • ให้คุณดึงสายจูงอย่างนุ่มนวล และระมัดระวังเพื่อช่วยชี้แนะให้ลูกสุนัขทำตามคำสั่งของคุณ เช่น “นั่ง” หรือ “นอน” ห้ามกระชากสายจูง แต่แค่เพิ่มแรงดึงเล็กน้อย เพื่อทำให้ลูกสุนัขรู้สิ่งที่ต้องทำ หากลูกสุนัขเริ่มดิ้นรน หรือสำลัก ให้หยุด และกดบั้นท้ายของลูกสุนัขลงอย่างนุ่มนวลแทน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,390 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา