ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หมากับแมวมักจะถูกมองว่าเป็นศัตรูกัน แต่อันที่จริงแล้ว สัตว์สองชนิดนี้สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ และอาจถึงขั้นกลายเป็นคู่หูกันก็ได้ [1] มันอาจต้องใช้เวลาและความอดทนอยู่บ้าง โดยเฉพาะถ้าสัตว์ทั้งคู่ต่างเป็นวัยเจริญพันธุ์และไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แต่เพียงออกแรงเล็กน้อย หมาที่คุณเลี้ยงไว้ก็สามารถถูกฝึกให้หยุดวิ่งไล่กวดแมว ทำให้บ้านคุณสงบสุขได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

แนะนำหมากับแมวให้รู้จักกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทางที่ดีที่สุดคือแนะนำสัตว์ที่บ้าน การนำหมาไปพบแมวหรือสลับกันในสถานดูแลสัตว์อาจทำให้เกิดความบอบช้ำสาหัส โดยเฉพาะกับแมว ด้วยเหตุผลนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้พาสัตว์ไปรู้จักกันที่บ้าน [2]
  2. เลือกสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่เข้ากับสัตว์เลี้ยงเก่าได้พอดี. ถ้าคุณเลือกนำแมวเข้ามาเลี้ยงในบ้านที่เคยเลี้ยงแต่หมา หรือสลับชนิดกัน มีโอกาสเป็นไปได้ที่หมานั้นจะวิ่งไล่กวดแมว และแมวก็มีสิทธิจะรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ถึงขนาดอาจสู้หมากลับได้ หากคุณจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาอยู่ร่วมชายคากับสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่เดิม ให้สอบถามกับพนักงานของสถานดูแลว่าเขามีแมวที่คุ้นเคยกับหมาหรือหมาที่คุ้นเคยกับแมวหรือไม่ ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณได้สัตว์เลี้ยงใหม่ที่เคยผ่านการปรับตัวมาบ้างแล้ว แทนที่จะตั้งหน้าเป็นศัตรูคู่ปรับกัน [3]
  3. แม้มันจะยากเย็นที่จะแนะนำทั้งสองฝ่ายในสถานการณ์ที่ไร้ซึ่งความตึงเครียด แต่มันก็จำเป็นต่อการมีชีวิตที่ดีของสัตว์ทั้งคู่ การฝึกฝนพื้นฐานและให้รางวัลเสริมสามารถเป็นหนทางที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงสองพันธุ์ญาติดีต่อกัน [4]
    • ใช้ของล่อใจสำหรับทั้งหมาและแมว เลือกของล่อใจที่คุณรู้ว่าสัตว์จะชอบ แม้แมวจะดูจุกจิกช่างเลือกมากกว่าหน่อย ให้ลองเนื้อทูน่าหรือก้อนเนื้อไก่เป็นของล่อใจสำหรับแมว [5]
    • ฝึกหมาหรือทบทวนการฝึก ในเรื่องเป้าหมายหลักอย่างเรียนรู้ที่จะอยู่นิ่งๆ เข้ามาหาเมื่อสั่ง และ "ปล่อยไป" การฝึกนี้ควรทำให้เสร็จก่อนจะนำแมวเข้าบ้าน เพราะมันสำคัญในการปล่อยหมาเป็นอิสระตอนที่มันเริ่มไล่กวดหรือรบกวนแมว [6]
    • พาหมาออกไปวิ่งหรือปล่อยให้มันวิ่งเล่นรอบบ้านก่อนจะนำไปเจอแมว มันจะช่วยปลดปล่อยพลังงานในตัวหมาออกมาบ้าง ทำให้มันมีโอกาสจะวิ่งไล่กวดแมวได้น้อยลง [7]
  4. มันควรจะทำภายใต้คำแนะนำที่เข้มงวด ให้ใช้สายจูงหมาแบบสั้นผูกหมาไว้ และถ้าหากมันอยากจะวิ่งไล่แมว ให้แยกความสนใจของทั้งหมากับแมวโดยการให้ของกินล่อใจพวกมัน [8] ถ้ามีใครอีกคนอยู่ในห้องด้วยจะช่วยได้มาก เพื่อที่คุณจะได้เน้นไปที่สัตว์ตัวใดตัวหนึ่งและอีกคนเน้นดูแลตัวที่เหลือ
    • ปล่อยให้สัตว์ได้ใช้จมูกดมกันและกัน. คุณไม่ได้ต้องการจะแยกมันอยู่กันคนละฟากห้อง จงทำตัวเป็นคนกลาง ในกรณีที่สัตว์ทั้งสองตัวดูฮึ่มฮั่มใส่กัน [9]
  5. ถ้าทั้งสองตัวทำตัวดี ให้เอ่ยชื่นชมพวกมัน ลูบหัวมัน และให้รางวัลเพิ่ม [10]
    • ให้เดินหน้าในช่วงไม่กี่สัปดาห์แรก คุณอาจต้องกล่าวชมสัตว์ไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มันทำตัวสงบเสงี่ยมเมื่ออยู่ใกล้กัน [11]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

สอนหมาให้รู้จักเลิกยุ่ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ยื่นมือข้างหนึ่งให้หมาได้ลองดม มันจะออกท่าทางตื่นเต้นที่รู้ว่าของนั้นจะเป็นของมัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่สนใจความพยายามของมันที่จะเอาของกินนี้ [12]
  2. ส่วนที่สำคัญที่สุดของการฝึกนี้คือการเพิกเฉยหมาจนกว่ามันจะเลิกพยายามแย่งของกิน ให้พูด "อย่ายุ่ง" ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมันตอบสนองต่อคำสั่งคุณ อาจต้องใช้เวลาสักพัก แต่ในที่สุดมันก็จะยอมแพ้และมานั่งต่อหน้าคุณ [13]
  3. พอมันเลิกยุ่มย่ามของกินที่รู้ว่าคุณมีแล้ว ให้พูดว่า "เก่งมาก" แล้วให้ของกินที่อยู่ในมืออีกข้าง ตรงนี้สำคัญมากที่คุณต้องไม่ให้ของกินที่ได้ใช้ตอนบอกว่า "อย่ายุ่ง" เพราะมันจะสอนหมาว่าในที่สุดมันก็จะได้มาในสิ่งที่คุณห้ามไม่ให้มันยุ่งในท้ายที่สุด [14]
  4. จำเป็นมากที่ต้องฝึกให้ต่อเนื่อง ทำทุกอย่างซ้ำจนหมาถอยห่างจากมือทันทีที่คุณบอกใหมันเลิกยุ่ง [15]
  5. เมื่อหมาเริ่มทำตามคำสั่ง "อย่ายุ่ง" ได้คล่องแล้ว คุณสามารถเริ่มใช้กับแมวได้ คุณควรจะยังต้องระมัดระวังและดูแลสัตว์ทั้งสอง เพราะหมาอาจถูกสอนให้อย่ายุ่งกับของกินก็จริง แต่ยังอาจไม่อยากทิ้งกับสิ่งที่มันมองว่าเป็นเหยื่อ จงอดทนเข้าไว้ และฝึกต่อจนหมาถูกสอนให้เลิกตอแยกับแมวได้เมื่อออกคำสั่ง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ใช้การฝึกหมาด้วยคลิกเกอร์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คลิกเกอร์ (clicker) เป็น "กล่อง" พลาสติกเล็กๆ ที่มีลิ้นโลหะแบบยืดหดได้ ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องช่วยในการฝึกปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้ฝึกจะถือคลิกเกอร์ไว้ในมือและกดปุ่มรัวๆ ก่อให้เกิดเสียงคลิก และหมาจะถูกฝึกให้ชินกับการได้ยินเสียงคลิกทุกครั้งที่มันทำสิ่งที่ถูกต้อง [16]
    • คลิกเกอร์ฝึกหมาสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของสัตว์เลี้ยงหรือในอินเทอร์เน็ต
  2. ควรจะใช้คลิกเกอร์เฉพาะก็ต่อเมื่อหมาได้ทำในอย่างที่คุณต้องการให้มันทำ และควรจะใช้ในทันที เป็นการตอบสนองต่อพฤติกรรมดีของมัน คุณต้องการให้หมาได้เชื่อมโยงพฤติกรรมที่ดี (ในกรณีนี้คือการไม่วิ่งไล่แมว) กับเสียงของคลิกเกอร์ [17]
  3. ส่วนสุดท้ายของการฝึกด้วยคลิกเกอร์คือให้รางวัลหมาทันทีหลังเสียงคลิก เวลาที่ใช้ตอบสนองนี้เป็นเรื่องจำเป็น เพราะหมาจำต้องเชื่อมโยงพฤติกรรมดีของมันกับเสียงคลิก และเสียงคลิกกับรางวัล [18]
  4. เมื่อการฝึกก้าวหน้าขึ้น คุณอาจต้องค่อยๆ เติมความท้าทายเข้าไปโดยคุณต้องเลียนแบบการเคลื่อนไหวของแมว นี่จะช่วยหมาปรับตัวกับเหตุการณ์จริงได้ง่ายขึ้นในตอนที่ทั้งหมากับแมวต้องปรับตัวเข้าหากัน
    • ในระหว่างที่มันให้ความสนใจคุณ จู่ๆ ก็ให้เริ่มขยับถอยหลังเร็วๆ [19]
    • หยุดฉับพลัน ถ้าหมาหยุดนั่งแทนที่จะวิ่งไล่ตามคุณ ใช้คลิกเกอร์และให้รางวัล [20]
  5. มันไม่ได้เรียนรู้เปลี่ยนนิสัยได้ในชั่วข้ามคืน แต่ถ้าให้เวลา หมาจะเรียนรู้ทำสิ่งที่คุณพยายามสอนมันได้สำเร็จ (ในกรณีนี้คือการไม่ไล่กวดแมว) เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องให้รางวัลแม้จะก้าวหน้าไปสู่จุดหมายได้เพียงนิดเดียว เพราะในการที่จะสลายพฤติกรรมโดยสัญชาติญานของหมา คุณจำเป็นต้องสลายส่วนประกอบของพฤติกรรมนั้นๆ ก่อน ไม่ว่าครั้งไหนที่หมามันเริ่มไล่กวดแมวแต่หยุด ให้ใช้คลิกเกอร์พร้อมให้รางวัล จนในที่สุดมันจะสามารถสลายพฤติกรรมชอบวิ่งไล่แมวไปด้วย [21]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ทำให้หมาไม่ไปไล่กวดแมวละแวกบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าหมามีนิสัยชอบวิ่งไล่แมวแถวนั้น ทางที่ดีควรใช้สายจูงตลอดเวลาที่พาออกเดิน ถ้าคุณรู้สึกอยากปล่อยให้มันเป็นอิสระบ้าง ให้ทำเฉพาะในที่ๆ คุณรู้ว่าไม่มีแมวอยู่ใกล้ๆ อย่างเช่นในสวนสาธารณะเฉพาะหมาหรือที่เงียบๆ ที่ห่างจากบ้านคน คุณยังควรปล่อยหมาจากสายจูงในสวนสาธารณะระหว่างเวลาที่คิดว่าไม่มีแมวอยู่ใกล้เคียง จำไว้ว่าแมวจะออกหากินตั้งแต่พลบค่ำถึงรุ่งสาง เพราะมันมักออกมาล่าเหยื่อในตอนกลางคืน [22]
    • ใช้วิธีออกคำสั่ง "อย่ายุ่ง" ระหว่างพาหมาออกเดินเล่น แม้กระทั่งตอนที่หมาผูกกับสายจูง มันยังคงอาจพยายามจะวิ่งหรือดึงสายจูงเวลามองเห็นแมวได้ การสอนให้มันอย่าไปยุ่งเวลาเห็นแมวจะช่วยให้ไม่เครียดเวลาพาหมาออกไปเดินในย่านที่เลี้ยงแมว [23]
    • ถ้าหมาคุณดึงสายจูงอย่างแรงหรือเห่าในขณะที่ยังอยู่ในสายจูง มันอาจมีอาการที่เรียกว่าก้าวร้าวเมื่อถูกจูง (leash aggression) พูดง่ายๆ ก็คือ หมารับรู้ว่าคุณกังวลเวลาที่มันมีปฏิกิริยาตอบโต้สัตว์อื่น และมันคิดว่าสัตว์นั้นคือของรางวัล การจะฝึกให้หมาเลิกนิสัยอย่างนี้นั้น ให้ฝึกดึงความสนใจของหมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรอบข้างตัวคุณ ให้รางวัลมันเมื่อมันสนใจแต่คุณ เริ่มต้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่ตึงเครียดก่อน เช่นที่บ้าน แล้วค่อยๆ ฝึกให้หมาพุ่งความสนใจแต่กับคุณ (และของรางวัลที่มันคาดหวังว่าจะได้รับ) ไม่ว่าจะมีสัตว์อื่นอยู่ใกล้ๆ เวลาที่คุณจูงเดินหรือไม่ [24]
    • อีกทักษะสำคัญที่จะสอนหมาถ้าคุณคิดจะปล่อยมันเดินโดยไม่ใช้สายจูงก็คือการสอนให้หมามาหาเวลาเรียกชื่อ พยายามสอนหมาให้ตามมาในขณะที่คุณวิ่งห่างออกมาจากมัน เพราะมันจะแทบวิ่งไล่ตามคุณมาทันที นี่จะทำให้หมาเรียนรู้คำสั่งนี้ได้ง่ายขึ้นในช่วงแรกที่ฝึก เพราะมันจะเชื่อมคำชมกับการวิ่งไล่ตามคุณ ให้รางวัลและกล่าวชมมันทุกครั้งที่มันวิ่งมาหาตามที่สั่ง [25]
  2. ถ้าคุณมีลานบ้านและอยากจะปล่อยให้หมาได้วิ่งเล่นโดยอิสระ ให้แน่ใจว่าคุณได้ทำรั้วล้อมรอบส่วนนั้น หรือไม่ก็ใช้เชือกล่ามที่ทำให้หมาไม่ถลำออกไปเกินบริเวณลานบ้าน มันจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าหมาจะไม่ออกไปวิ่งไล่กวดแมวแถวบ้าน [26]
  3. ถ้าแถวบ้านมีแมวอิสระที่มักรุกล้ำเข้ามาในลานบ้าน วิธีดีที่สุดในการไม่ให้หมาวิ่งไล่แมวตัวนั้นก็คืออย่าให้มันเข้ามาในลานบ้าน คุณจะออกแรงไล่มันเองทุกครั้งที่เห็น หรือใช้สเปรย์ฉีดน้ำแบบจับความเคลื่อนไหวมาใช้ตามแนวเขตลานบ้านก็ได้ อุปกรณ์นี้จะจับการเคลื่อนไหวและฉีดน้ำไปยังเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นสิ่งรบกวนใจแมวที่รุกล้ำเข้ามาได้มาก [27]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

เรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เหตุผลเบื้องต้นที่หมาชอบไล่แมวก็เพราะหมานั้นอยากจะเล่นกับแมว (บางทีอาจคิดว่าเป็นหมาอีกตัว) หรือเพราะการเคลื่อนที่ของแมวไปกระตุ้นสัญชาติญานล่าเหยื่อของหมาเข้า [28] ทั้งสองอย่างนี้ล้วนต้องการคุณในฐานะเจ้าของเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อป้องกันไม่ให้มันทำร้ายกันและกัน แม้กระทั่งหมาจะแค่พยายามอยากเล่นกับแมวก็ตาม เป็นไปได้ว่ามันจะเล่นแรงเกิน และอาจลองวิ่งไล่หรือกัดแมวเพราะเป็นวิธีที่จะเล่นด้วย ถ้าหมาวิ่งไล่แมวเพราะเหตุผลเรื่องล่าเหยื่อนั้น ยิ่งจำเป็นที่คุณต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เพราะหมาอาจฆ่าแมวได้ง่ายดาย และแมวก็อาจทำอันตรายหมาได้เหมือนกัน [29]
  2. ช่วงระยะเวลาของการฝึกและปรับตัวนั้นจะกินเวลาพอสมควร ในที่สุด เมื่อหมากับแมวคุ้นเคยกัน ก็อาจทิ้งให้พวกมันอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องจับตามองได้ แต่นั่นต้องใช้เวลา อย่างน้อย หนึ่งเดือน และส่วนใหญ่ก็นานกว่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องมั่นใจว่ามันจะไม่ทำร้ายกันเวลาถูกปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง [30]
  3. เมื่อไหร่ที่หมาหลุดจากการฝึกและวิ่งไล่แมว คุณอาจต้องการใช้วิธีแยกบริเวณ (timeouts) มาจัดการมัน การแยกบริเวณนั้นไม่เป็นอันตรายกับหมา แถมการที่คุณดึงมันออกมาจากเหตุการณ์นั้น ทำให้มันรู้ว่ามันทำตัวแย่ในเรื่องนี้ [31]
  4. ถ้าการฝึกแบบไหนก็ไร้ผล คุณอาจต้องทำให้แมวกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจสำหรับหมา นี่ควรเป็นวิธีสุดท้าย และไม่ควรทำให้หมาเกิดบาดเจ็บหรือมีอันตรายในทางใดทางหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำแค่การทำให้หมาเชื่อมโยงการวิ่งไล่กวดแมวกับประสบการณ์ที่ไม่ชวนสุขสม อย่างเช่น เจอเสียงกวนหู หรือเจอสเปรย์กลิ่นซิตรัส เป็นต้น [36] แม้แต่ขวดสเปรย์ที่เติมน้ำสะอาดเย็นเจี๊ยบก็เพียงพอทำให้หมาหยุดได้ เมื่อผ่านไปนานเข้า หมาจะเริ่มเชื่อมโยงการไล่กวดแมวกับการโดนอย่างสเปรย์กลิ่นซิตรัสที่หมาไม่ชอบ (แต่ปลอดภัยสำหรับมัน) หรือเจอน้ำเย็นสาดหน้า มันก็จะเลิกคิดวิ่งไล่ตามแมว
  5. ลองคิดถึงการทำงานร่วมกับครูฝึกหรือนักศึกษาพฤติกรรมสัตว์. ถ้าไม่มีอะไรทำให้หมาเลิกตอแยแมวได้แล้ว คุณอาจต้องการความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้แน่ใจว่าผู้เชี่ยวชาญนั้นมีประกาศนียบัตรการเป็นครูฝึกสุนัขอาชีพ (CPDT) หรือเป็นนักศึกษาพฤติกรรมสัตว์ที่ผ่านการรับรอง แม้จะต้องใช้เวลาขัดเกลาหลายคาบเรียน แต่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะสามารถค้นหาได้ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นให้หมาคุณวิ่งไล่แมว และต้องทำอย่างไรจึงสามารถสลายพฤติกรรมนี้ได้ [37]
    • คุณสามารถค้นหาผู้ได้รับ CPDTs และบัญชีรายชื่อของนักศึกษาพฤติกรรมสัตว์ที่ผ่านการรับรองในละแวกบ้านจากทางอินเทอร์เน็ต ให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบหลักฐานอ้างอิงและมองหาคำวิจารณ์จากเจ้าของหมารายอื่นๆ ที่เคยทำงานร่วมกับเขา [38]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าปล่อยให้หมาเข้าถึงอาหารแมวหรือเปลแมว มันอาจทำให้แมวเครียดและก้าวร้าวใส่หมา [39]
  • คุณไม่จำเป็นต้องตะโกนหรือขึ้นเสียงดังเวลาออกคำสั่ง
  • ฝึกให้ต่อเนื่อง การทำซ้ำและให้รางวัลจะได้ผลดีที่สุดในการสอนหมาให้เปลี่ยนพฤติกรรม
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทุบตีสัตว์ ไม่เพียงแต่มันทารุณ ยังอาจทำให้สัตว์เลี้ยงพัฒนาปัญหาทางพฤติกรรมขึ้นมา อย่างอาการก้าวร้าวหรือหวาดกลัว
  • คุณไม่ควรใช้สายโซ่มาเป็นสายจูงหมา เพราะมันอาจทำให้หมาบาดเจ็บได้ ใช้สายจูงนิ่มๆ และใช้สายจูงสั้นตอนที่ให้มันได้เจอแมว
  • ไม่ใช่หมาทุกตัวจะสามารถเรียนรู้การไม่ไล่กวดสัตว์อื่น ถ้าหมาของคุณมีแรงกระตุ้นของการล่าเหยื่ออย่างรุนแรง มันจะพยายามไล่กวดสัตว์เล็กเสมอ ไม่ว่ามันจะมีความฉลาดหรืออยากจะเอาใจคุณแค่ไหน ถ้าคุณเชื่อว่าหมาคุณมีแรงขับเคลื่อนเช่นนี้ ให้โฟกัสไปที่การสอนให้มันรู้จักคำสั่ง "อย่ายุ่ง" ให้แน่ใจว่ามันได้ออกกำลังกายทุกวัน และให้ใช้สายจูงทุกครั้งที่พามันออกนอกบ้าน


โฆษณา
  1. http://www.bdrr.org/introducing-your-new-dog-to-cats
  2. http://www.vetstreet.com/our-pet-experts/can-i-teach-my-dog-to-stop-chasing-the-cat?page=2
  3. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-leave-it
  4. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-leave-it
  5. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-leave-it
  6. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-leave-it
  7. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/clicker-training-your-pet
  8. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/clicker-training-your-pet
  9. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/clicker-training-your-pet
  10. http://www.vetstreet.com/our-pet-experts/can-i-teach-my-dog-to-stop-chasing-the-cat
  11. http://www.vetstreet.com/our-pet-experts/can-i-teach-my-dog-to-stop-chasing-the-cat
  12. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/clicker-training-your-pet
  13. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats
  14. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-leave-it
  15. http://www.animalhumanesociety.org/training/managing-leash-reactive-dog
  16. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/teaching-your-dog-come-when-called
  17. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats
  18. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats
  19. http://www.bdrr.org/introducing-your-new-dog-to-cats
  20. http://www.bdrr.org/introducing-your-new-dog-to-cats
  21. http://www.americanhumane.org/animals/adoption-pet-care/dog-behavior/introducing-dogs-to-cats.html
  22. http://bestfriends.org/Resources/Preventing-Your-Dog-From-Chasing-The-Cat/
  23. http://bestfriends.org/Resources/Preventing-Your-Dog-From-Chasing-The-Cat/
  24. http://bestfriends.org/Resources/Preventing-Your-Dog-From-Chasing-The-Cat/
  25. http://bestfriends.org/Resources/Preventing-Your-Dog-From-Chasing-The-Cat/
  26. http://bestfriends.org/Resources/Preventing-Your-Dog-From-Chasing-The-Cat/
  27. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats
  28. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/dog-behavior/dogs-chasing-cats
  29. https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/finding-professional-help
  30. http://www.bdrr.org/introducing-your-new-dog-to-cats

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,304 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา