ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการพริ้นท์เอกสารทั้ง 2 ด้านของกระดาษ (double sided) ทั้งใน Windows และ Mac แต่ถึงพรินเตอร์ของคุณจะพริ้นท์แบบ double-sided ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราจะแนะนำวิธีตั้งค่าให้พริ้นท์ 2 ด้านได้ให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
คลิก tab File . ปกติจะเป็นตัวเลือกด้านซ้ายบนของหน้าต่างไฟล์
- ต้องเปิดไฟล์เอกสารที่จะพริ้นท์ขึ้นมาก่อน
- ถ้าหา tab File ไม่เจอ ให้หาปุ่ม Ctrl ที่คีย์บอร์ดแทน
-
คลิก Print . ปกติปุ่ม Print จะอยู่ในเมนูที่ขยายลงมา ล่าง File แต่บางทีก็เป็นตัวเลือกในหน้า ถ้าคลิก File แล้วมีหน้าต่างใหม่โผล่มา
- ถ้าไม่เจอ tab File ให้กด Ctrl กับ P พร้อมกัน
-
คลิกตัวเลือกพริ้นท์ 2 ด้าน. ปกติต้องคลิกตัวเลือกพริ้นท์ปกติ (เช่น Single Sided ) แล้วเลือก double-sided จากในเมนูที่ขยายลงมา
- ปกติ page options จะอยู่ในหัวข้อ "Page Layout" หรือ "Duplex Printing"
- ถ้าใช้ Microsoft Word ให้คลิกปุ่ม Print One Sided แล้วจะเห็นตัวเลือก two-sided print
-
เช็คว่าเสียบพรินเตอร์กับคอมแล้ว. จะเห็นชื่อของพรินเตอร์ปัจจุบันที่เลือกไว้ ในหัวข้อ "Printer" ทางด้านบนของหน้าต่าง
- ถ้าไม่ได้ใช้พรินเตอร์ไร้สาย ก็ต้องเสียบสายของพรินเตอร์ที่พอร์ท USB ของคอมก่อน
- ถ้าจะเลือกพรินเตอร์เครื่องอื่น ให้คลิกที่ชื่อ แล้วเลือกพรินเตอร์ที่ต้องการจากเมนูที่ขยายลงมา
-
คลิก Print . ปกติปุ่มนี้จะอยู่ท้ายหน้าต่าง แต่ถ้าเป็น Microsoft Word จะอยู่ที่ด้านบนของหน้าต่างแทน คลิก Print แล้วพรินเตอร์จะเริ่มพริ้นท์เอกสารออกมาโฆษณา
-
คลิก File . เมนูนี้จะอยู่ด้านซ้ายบนของแถบเมนู ทางด้านบนของหน้าจอ
- ต้องเปิดไฟล์เอกสารที่จะพริ้นท์ขึ้นมาก่อน
- ถ้าหาตัวเลือก File ไม่เจอ ให้หาปุ่ม ⌘ Command ที่คีย์บอร์ดแทน
-
คลิก Print . ที่เป็นตัวเลือกในเมนู File ที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง Print
- ถ้าไม่เจอเมนู File ให้กด ⌘ Command กับ P พร้อมกัน
-
คลิกแถบ Copies & Pages . ปกติตัวเลือกนี้จะอยู่ทางด้านบนของหน้าต่าง
- ถ้าจะพริ้นท์ออนไลน์ ให้ข้ามขั้นตอนนี้กับขั้นตอนต่อไป
-
คลิก Layout . กลางๆ เมนูที่ขยายลงมา
-
หาตัวเลือกพริ้นท์ 2 ด้าน. ปกติตัวเลือกนี้จะต่างกันไป แล้วแต่เอกสารที่เปิด
- ถ้าใช้ Safari ให้ติ๊กช่อง "Two-Sided"
- ถ้าใช้ Word ให้ติ๊กช่อง "Two-Sided" เพื่อขยายเมนู ปกติจะต้องเลือก Long-Edge Binding จากเมนูที่ขยายลงมา
-
เช็คว่าเสียบพรินเตอร์กับคอมแล้ว. จะเห็นชื่อของพรินเตอร์ปัจจุบันที่เลือกไว้ ในหัวข้อ "Printer" ทางด้านบนของหน้าต่าง
- ถ้าจะเลือกพรินเตอร์เครื่องอื่น ให้คลิกที่ชื่อ แล้วเลือกพรินเตอร์ที่ต้องการจากเมนูที่ขยายลงมา
-
คลิก Print . ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเริ่มพริ้นท์เอกสารในทั้ง 2 ด้านของกระดาษโฆษณา
-
แต้มรอยดินสอเล็กๆ ที่ด้านบนของกระดาษที่จะใช้พริ้นท์. ให้อยู่ด้านที่ต้องหันขึ้นด้านบนของกระดาษ ใกล้กับด้านที่สั้นกว่า ที่หันหาพรินเตอร์
-
คลิก File แล้วคลิก Print . ปกติตัวเลือก File จะอยู่ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ ส่วน Print จะอยู่ในเมนูที่ขยายลงมา คลิกแล้วจะมีหน้าต่าง Print โผล่มา
- ต้องเปิดไฟล์เอกสารที่จะพริ้นท์ขึ้นมาก่อน
- หรือกด ⌘ Command + P (Mac) ไม่ก็ Ctrl + P (PC) เพื่อเปิดหน้าต่าง Print แทน
-
หาหัวข้อ "Page Range". เพื่อเลือกหน้าที่จะพริ้นท์
- อาจจะต้องคลิกวงกลม "Pages" เพื่อเลือก Page Range ก่อน
-
พิมพ์เลขคู่หรือเลขคี่. เพื่อกำหนดหน้าเอกสารที่จะพริ้นท์รอบแรก
- เช่น ถ้าเอกสารมี 10 หน้า ให้พิมพ์ 1, 3, 5, 7, 9 หรือ 2, 4, 6, 8, 10
-
เช็คว่าเสียบพรินเตอร์กับคอมแล้ว. จะเห็นชื่อของพรินเตอร์ปัจจุบันที่เลือกไว้ ในหัวข้อ "Printer" ทางด้านบนของหน้าต่าง
- ถ้าจะเลือกพรินเตอร์เครื่องอื่น ให้คลิกที่ชื่อ แล้วเลือกพรินเตอร์ที่ต้องการจากเมนูที่ขยายลงมา
-
คลิก Print . เพื่อเริ่มพริ้นท์เอกสารเฉพาะหน้าคู่หรือหน้าคี่
-
สังเกตรอยดินสอที่ขีดไว้ จะได้รู้ว่าพริ้นท์ที่ด้านไหน. จะได้รู้ว่าต้องหมุนกระดาษทางไหนเวลาใส่กลับเข้าไป
- พริ้นท์แล้วรอยดินสอคว่ำลง - ให้คว่ำด้านที่พริ้นท์ โดยที่หัวกระดาษหันไปทางพรินเตอร์
- พริ้นท์แล้วรอยดินสออยู่ฝั่งตรงข้าม - ให้หงายด้านที่พริ้นท์ โดยที่หัวกระดาษหันไปทางพรินเตอร์
-
ใส่หน้ากระดาษที่พริ้นท์แล้วกลับไปในพรินเตอร์. โดยสังเกตจากรอยดินสอว่าต้องใส่ยังไง
-
เปิดหน้าต่าง Print อีกรอบ. เร็วที่สุดคือกด ⌘ Command + P (Mac) หรือ Ctrl + P (Windows)
-
พิมพ์เลขหน้าอีกชุด. เช่น ถ้าพิมพ์เลขคู่ไปรอบที่แล้ว คราวนี้ก็ต้องพิมพ์หน้าเลขคี่
-
คลิก Print . ถ้าจัดวางกระดาษถูกต้องแล้ว เอกสารจะถูกพริ้นท์ลงในหน้ากระดาษด้านที่ว่างอยู่ หรือก็คือด้านหลังของด้านที่พริ้นท์ไปแล้วรอบแรกโฆษณา
โฆษณา