ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หลายคนประสบปัญหาด้านการอ่าน การอ่านนั้นเป็นกิจกรรมที่ทำได้ยากสำหรับบางคนและต้องใช้เวลา การอ่านเป็นกระบวนการที่สมองรับภาพสัญลักษณ์ต่างๆ ในหน้าหนังสือสักหน้าหนึ่งและจดจำแบบแผนของอักษรและเข้าใจความหมายของมัน ถ้าเราพัฒนาทักษะการอ่านจนเชี่ยวชาญ เราก็จะได้รับประโยชน์จากทักษะนี้ในอนาคต คุณครูมักจะพูดเสมอไม่ใช่หรือว่า “อ่านหนังสือให้มากๆ ” ฉะนั้นลองมาเริ่มอ่านหนังสือตามขั้นตอนและกลวิธีที่บทความนี้จะแนะนำดีกว่า
ขั้นตอน
-
หาอะไรอ่าน. ตัวอย่างเช่น หนังสือเด็ก บทความจากหนังสือพิมพ์ เรื่องสั้น หรือบทความของวิกิฮาวก็ได้
-
ไปห้องสมุดและลองเลือกหนังสืออ่านสักเล่ม. เลือกหนังสือให้เหมาะสมกับระดับการอ่านของเรา ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไรก็ตาม หนังสือเล่มนั้นควรเป็นอะไรที่น่าสนใจ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่รู้สึกอยากอ่านมันจนจบ ฉะนั้นจงทำให้การอ่านของเราเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและได้เรื่องรู้อะไรบางอย่างจากการอ่านนั้น
- เราควรเลือกหนังสือที่น่าสนใจและอ่านง่าย เช่น หนังสือการ์ตูน หรือหนังสือที่มีเนื้อหาซับซ้อนมากกว่านี้หน่อยอย่างวรรณกรรมแนวมหากาพย์และสารคดี
-
หาสถานที่ซึ่งเราสามารถจดจ่ออยู่กับการอ่านได้. หาสถานที่ซึ่งไม่มีใครจะมารบกวนเวลาเราอ่านหนังสือได้ หรือจะอ่านอยู่ที่บ้านในช่วงเวลาที่สมาชิกคนอื่นๆ แยกย้ายไปทำกิจกรรมของตนเองกันจนหมดก็ได้
-
หาเวลาอ่านหนังสือ. จะเลือกอ่านเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าเราหาเวลาอ่านหนังสือได้ทุกวัน เราก็จะคุ้นชินกับการอ่านหนังสือมากขึ้น
- หาอะไรอ่านเวลานั่งอยู่บนรถประจำทางหรือรถไฟ นี้เป็นการฆ่าเวลาที่ดีและเราสามารถฝึกตนเองให้อ่านเร็วขึ้นและทำความเข้าใจเรื่องที่อ่านได้มากขึ้น ถึงแม้จะมีสิ่งรอบข้างรบกวนเราก็ตาม
โฆษณา
-
เริ่มการอ่านด้วยการดูรูปภาพก่อนและอาจฟังเพลงไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศ.
-
เริ่มอ่านชื่อเรื่อง ชื่อต่างๆ และส่วนบทนำในหนังสือ หนังสือบางเล่มอาจมีรายชื่อตัวละครหลักและข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับตัวละครนั้น. หรือมีแผนที่แสดงสถานที่ซึ่งอธิบายไว้ในหนังสือ เราต้องดูข้อมูลเหล่านั้นประกอบด้วย
-
ค่อยๆ อ่านอย่างละเอียด. ถ้าไม่ใช่คนอ่านหนังสือเร็ว ก็อย่าฝืนตัวเองให้อ่านเร็ว จุดประสงค์สำคัญของการอ่านหนังสือคือการเข้าใจสิ่งที่ผู้เขียนต้องการถ่ายทอด ฉะนั้นจึงไม่ควรอ่านเนื้อหาอย่างผ่านๆ
- ให้ถามตนเองห้าคำถามว่า ทำไม อะไร ใคร เมื่อไร และที่ไหน ห้าคำถามนี้จะช่วยกำหนดทิศทางการอ่านของเรา
-
ฟังหนังสือเสียงและอ่านข้อความตามไปพร้อมกัน. จะช่วยให้เราออกเสียงและจำแนกคำได้อย่างถูกต้อง
- เสียงที่ออกมาจากคำแต่ละคำขึ้นอยู่กับว่าเราได้ยินดีที่สุดแค่ไหน ถ้าเราอ่านหนังสือภาษาอังกฤษสักเล่ม เราจะเห็นว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษนั้นอาจแตกต่างกันไปตามแบบของภาษาอังกฤษ (อเมริกันและอังกฤษ) และบริบท (เช่น คำพ้องรูปอาจเป็นได้ทั้งกริยาและคำนาม) รวมทั้งเราจะสังเกตเห็นคำประกอบกันเป็นคำบางชนิดด้วย
- เอาใจใส่เรื่องการเน้นพยางค์ของคำและประโยค
โฆษณา
-
อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. เมื่อเริ่มเบื่อหรืออยากพัก ให้หยุดอ่าน การอ่านควรทำให้เราสนุกและเพลิดเพลิน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเบื่อหรืออยากพัก ก็อย่าฝืน หลังจากพักแล้ว ให้กลับมาที่เราอ่านค้างไว้และเริ่มอ่านต่อ
-
อ่านอีกรอบ. ถ้าเราอ่านแล้วไม่เข้าใจตั้งแต่แรก ให้กลับมาอ่านอีกรอบ
-
ลองเดาความหมายของคำจากบริบท. การเดาความหมายของคำจากบริบทหมายถึงการที่เรารู้ความหมายของคำๆ หนึ่งด้วยการดูวิธีการใช้คำนั้นในประโยค ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำลังอ่านประโยคต่อไปนี้ My mother is always happy and optimistic, the total opposite of my brother, the pessimist. และต้องการรู้ว่า “pessimist” หมายถึงอะไร เมื่อดูประโยค เราจะจับความหมายได้ว่า “pessimist” หมายถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความสุข ฉะนั้นคำนี้จึงหมายถึงขี้หงุดหงิดและขี้โมโห นักอ่านที่ดีและมีประสบการณ์มักจะใช้การเดาความหมายของคำจากบริบทช่วยในการอ่านเสมอ! ถ้าเราไม่สามารถเดาความหมาย ได้เลย เปิดพจนานุกรมดู ถ้าเราอยากประหยัดเวลาและเปิดหน้าต่อไปโดยไว ลองเข้าสืบค้น พจนานุกรมแบบออนไลน์ ดู
-
จดจำข้อความ. อ่านข้อความหน้ากระจกดังๆ การพยายามจำสิ่งที่อ่านให้ได้จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการอ่านมากขึ้น
-
อ่านใหม่อีกครั้ง. ถ้าเราไม่เข้าใจสิ่งที่อ่าน ให้อ่านตรงที่ไม่เข้าใจนั้นอีกครั้ง ลองอ่านออกเสียงดู แต่ถ้ายังไม่เข้าใจอยู่ดี ขอให้เพื่อนซึ่งเป็นนักอ่านตัวยงอธิบายประโยคที่เราไม่เข้าใจให้กระจ่าง หรือเปลี่ยนมาเลือกหนังสือที่อ่านง่ายและเหมาะสมกับระดับการอ่านของเรามากกว่านี้ จะใช้นิ้วชี้ช่วยในการอ่านก็ได้ จะได้ช่วยให้สายตาของเราจดจ่ออยู่กับบรรทัดที่เราอ่านและเข้าใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น
-
หมั่นอ่านอยู่เสมอ. พยายามอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาว่าง การอ่านจะช่วยเราในหลายทาง เราจะมีคลังศัพท์เพิ่มขึ้นและรู้จักศัพท์มากขึ้น เรียนหนังสือได้ดีขึ้น ฉะนั้นหมั่นอ่านหนังสือทุกวันนะ!โฆษณา
เคล็ดลับ
- อ่านออกเสียงเพื่อให้ได้จดจ่อกับสิ่งที่อ่านและอ่านทุกคำ
- ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในหนังสือ ฉะนั้นจงเริ่มต้นอ่านเรื่องทั่วไปแบบง่ายๆ ก่อนเพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- บางคนอ่านหนังสือได้ดีขึ้นเมื่อยืนอ่าน บางคนอ่านหนังสือขณะเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าหรือลู่วิ่งที่สนาม จึงได้ทั้งออกกำลังกายและออกกำลังสมองไปในตัว!
- พยายามอย่านอนอ่านหนังสือเพื่อเราจะได้เข้าใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น การนอนอ่านช่วยให้เราผ่อนคลายและหลับง่ายขึ้น แต่ถ้าอยากจดจำข้อมูลได้มากขึ้น เราต้องวางท่าทางการอ่านหนังสือให้เหมาะสมด้วย ตัวอย่างเช่น การนั่งตัวตรงและวางเท้าราบไปกับพื้นจะช่วยเพิ่มความตื่นตัวมากขึ้น
- เวลาอ่านหนังสืออย่าเครียด ผู้คนมักจะเครียดที่ไม่สามารถจดจำสิ่งที่อ่านไปแล้วได้และไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังอ่านอยู่ได้ ฉะนั้นหายใจเข้าลึกๆ และอย่าเครียด!
- อย่าพยายามทำความเข้าใจทุกคำในประโยค ลองผ่อนคลายและอ่าน รวมทั้งหาสถานที่ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายขณะอ่านหนังสือด้วย ตนเองจะได้อ่านหนังสืออย่างสบายและสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อ่านได้ เราจะหาอะไรไว้กินและดื่มตอนอ่านหนังสือก็ได้ จะได้ไม่หิวหรือกระหายเวลาอ่านหนังสือ
- พยายามใส่ตัวเราเข้าไปในฉากของหนังสือที่เราอ่าน จะช่วยให้เราสนใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น
- พยายามอ่านหนังสือในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเสียงดังรบกวน เพราะจะช่วยให้เราจดจ่อและจดจำสิ่งที่อ่านได้ดี ฟังเพลงเมื่อหยุดพักและค่อยกลับมาเริ่มอ่านอีกครั้ง
- เรื่องที่เราอ่านต้องน่าสนใจ เราจะได้ไม่เบื่อหรือเผลอหลับ และหยุดพักเป็นช่วงๆ ด้วย
- อย่างน้อยที่สุดลองอ่านออกเสียง ไม่ว่าจะอ่านออกเสียงให้สัตว์เลี้ยง พี่น้อง พ่อแม่ หรือให้ตัวเองฟัง การอ่านออกเสียงจะช่วยเพิ่มทักษะการอ่านด้วยการทำให้สมองของเราจดจำคำต่างๆ ที่เราอ่าน
โฆษณา
คำเตือน
- การนั่งอยู่ในท่าเดิมนานอาจทำให้เราง่วงนอนหรือปวดเมื่อย ฉะนั้นเราควรยืดเหยียดตัวก่อนและระหว่างอ่านเพื่อทำให้ร่างกายตื่นตัวและสบายตัวอยู่เสมอ
- การอ่านหนังสือในที่มืดจะทำให้เราปวดศีรษะ ฉะนั้นเมื่อจะอ่านหนังสือ ควรอยู่ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ
- เราควรอ่านหนังสือที่ทำให้เรารู้สึกสนุก การอ่านหนังสือที่ไม่สนุกอาจทำให้เราไม่อยากอ่านหนังสือมากขึ้น
- การอ่านเป็นพฤติกรรมเสพติด เมื่อเริ่มอ่านทีละเล็กทีละน้อยทุกวัน เราอาจเห็นว่าตนเองนั้นเริ่มอ่านได้นานขึ้น สนุกที่ได้อยู่ในสถานที่และในโลกที่ไม่เคยเห็นมากขึ้น
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- สิ่งที่ต้องการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร เนื้อเพลง หนังสือพิมพ์ พยายามเลือกอ่านเรื่องที่สนใจ ไม่อย่างนั้นเราจะเบื่อและง่วงนอน
- โต๊ะหรืออะไรสักอย่างไว้วางหนังสือ จะวางหนังสือไว้บนตักก็ได้
- ที่ซึ่งนั่งสบาย สถานที่ซึ่งเงียบสงบและไม่มีสิ่งรบกวน
โฆษณา