ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เวลาจะพิมพ์งานแต่ละที ต้องเล็งคีย์แล้วเล็งอีก แถมจิ้มทีละนิ้วแบบช้าๆ ก็ถึงเวลาเปลี่ยนตัวเองให้เพื่อนฝูงครอบครัวได้ประหลาดใจแล้ว! เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการพิมพ์ภาษาอังกฤษแบบสัมผัสให้คุณเอง แค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ฝึกฝนซ้ำๆ คุณก็จะพิมพ์งานได้อย่างคล่องแคล่วลื่นไหลกว่าเดิม อาจถึงขั้นพิมพ์และแก้ไขคำผิดแบบไม่ต้องเหลือบตามองคีย์บอร์ดเลยด้วยซ้ำ!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

รู้จักวิธีการพิมพ์ที่ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to พิมพ์ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น
    คือจรดแต่ละนิ้วมือไว้ที่แต่ละคีย์ที่กำหนด ไม่ว่าจะใช้คีย์บอร์ดรุ่นไหนแบบไหน ขอให้นิ้วกลับมาที่ตำแหน่งเริ่มต้นนี้เสมอ [1]
    • จรด "นิ้วชี้ขวา" ที่ปุ่ม "J" ส่วน 3 นิ้วที่เหลือก็วางต่อกันไปเลย ที่ปุ่ม "K", "L" และ ";" ตามลำดับ ต่อมาวาง "นิ้วชี้ซ้าย" ที่ปุ่ม "F" แล้ววางนิ้วที่เหลือต่อไปทางซ้าย คือที่ปุ่ม "D", "S" และ "A" ตามลำดับ ส่วนนิ้วโป้งทั้งขวาและซ้าย พักไว้ที่ space bar แต่เวลาพิมพ์ให้ใช้ "นิ้วโป้งขวา" กด [2]
    • จะสังเกตว่าที่ปุ่ม "F" และ "J" มีอะไรนูนๆ ขึ้นมา เพื่อให้หาแล้วกลับมาวางนิ้วที่จุดตั้งต้นได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเหลือบมอง
  2. Watermark wikiHow to พิมพ์ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น
    วางมือที่จุดตั้งต้น แล้วลองพิมพ์แต่ละตัวอักษรด้วยแต่ละนิ้ว เริ่มจากซ้ายไปขวา คือ a s d f j k l ; เวลาพิมพ์อย่าขยับนิ้วหรือมือ ให้กดเรียงไปทีละนิ้ว ตามที่วางนิ้วไว้
  3. ให้พิมพ์ซ้ำตามขั้นตอนด้านบน แต่คราวนี้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ A S D F J K L : โดยกด shift เพื่อ capitalize หรือทำให้เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ อย่าไปกด caps lock ค้างไว้ คุณกด shift ได้โดยเลื่อนนิ้วที่ใกล้ที่สุด คือนิ้วก้อย ไปกด ให้กด shift ค้างไว้ ระหว่างกดปุ่มตัวอักษรอื่นตามต้องการ ด้วย อีกมือ
    • พูดง่ายๆ คือถ้าอยากพิมพ์ตัวอักษรใหญ่ด้วย "มือซ้าย" ให้กด shift ด้วย "นิ้วก้อยขวา"
    • และถ้าอยากพิมพ์ตัวอักษรใหญ่ด้วย "มือขวา" ให้กด shift ด้วย "นิ้วก้อยซ้าย" แทน
  4. สำรวจว่าปุ่มตัวอักษรอื่นอยู่ตรงไหนกันบ้างในคีย์บอร์ด แล้วใช้นิ้วที่อยู่ใกล้ๆ กดปุ่มนั้นๆ (ที่แน่ๆ คือไม่ใช่นิ้วโป้ง เพราะเอาไว้กด space bar เท่านั้น) [3]
    • "q" "a" และ "z" จะใช้ "นิ้วก้อยซ้าย" พิมพ์ รวมถึง tab, caps lock และ shift ด้วย
    • "w" "s" และ "x" จะใช้ "นิ้วนางซ้าย" พิมพ์
    • "e" "d" และ "c" จะใช้ "นิ้วกลางซ้าย" พิมพ์
    • "r" "f" "v" "b" "g" และ "t" จะใช้ "นิ้วชี้ซ้าย" พิมพ์
    • ย้ำกันอีกทีว่า "นิ้วโป้ง" ใช้กด space bar เท่านั้น
    • "u" "j" "n" "m" "h" และ "y" จะใช้ "นิ้วชี้ขวา" พิมพ์
    • "i" "k" และปุ่ม "," กับ "<" จะใช้ "นิ้วกลางขวา" พิมพ์
    • "o" "l" และปุ่ม ">" กับ "." จะใช้ "นิ้วนางขวา" พิมพ์
    • ส่วน "นิ้วก้อยขวา" ใช้พิมพ์ "p", ";", ":", "'", """ (เครื่องหมายคำพูด), "/", "?", "[", "{", "]", "}", "\", "|" และใช้กด shift, enter กับ backspace
  5. Watermark wikiHow to พิมพ์ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น
    เริ่มจากวางมือที่จุดตั้งต้น แล้วพิมพ์ประโยค "The quick brown fox jumps over the lazy dog" เป็นประโยคที่รวมทุกตัวอักษรในภาษาอังกฤษไว้ เลยนิยมใช้เป็นประโยคฝึกพิมพ์ สำหรับคนที่อยากฝึกการพิมพ์ภาษาอังกฤษด้วยการวางนิ้วให้ถูกวิธี
    • พิมพ์ประโยคนี้ซ้ำๆ สังเกตนิ้วตัวเองไปด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพิมพ์ถูกคีย์ และกลับมายังจุดตั้งต้นได้ถูกต้อง
    • พอเริ่มชินกับลักษณะการเคลื่อนไหวนิ้วแล้ว ลองมองที่หน้าจออย่างเดียวตอนพิมพ์ ไม่ต้องเหลือบมองคีย์บอร์ด ถ้าทำได้ ก็แปลว่าคุณ "พิมพ์สัมผัส" ได้แล้ว
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

พัฒนาทักษะการพิมพ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to พิมพ์ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น
    จะพิมพ์ให้ได้คล่องแคล่วว่องไว ทางเดียวคือต้องพิมพ์สัมผัสให้ได้ และให้คล่อง ซึ่งบอกเลยว่าจริงๆ แล้วการเหลือบมองคีย์ไปด้วยระหว่างพิมพ์ จะทำให้คุณพิมพ์ช้า ยังไงก็พิมพ์เร็วขึ้นไม่ได้ ตอนแรกการพิมพ์สัมผัสอาจจะยากอยู่สักหน่อย แต่ขอให้ฝึกไปเรื่อยๆ โดยที่ตามองหน้าจอเท่านั้นระหว่างพิมพ์ [4]
    • ตอนแรกคุณอาจจะพิมพ์สัมผัสได้ช้า แถมยังไงก็อดเหลือบมองคีย์บอร์ดเรื่อยๆ ไม่ได้ แต่สักพักนิ้วจะเริ่มคุ้นเคยกับตำแหน่งของปุ่ม ทำให้พิมพ์เร็วขึ้นเอง
    • เทคนิคดีๆ ที่แนะนำช่วงฝึกพิมพ์สัมผัสแรกๆ คือให้พูดชื่อตัวอักษรที่พิมพ์ออกมาด้วย จะช่วยให้สมองเชื่อมโยงตัวอักษรกับการเคลื่อนไหวของนิ้วที่ถูกต้อง
  2. ถึงพิมพ์เร็วไป แต่ถ้าผิดจนต้องย้อนมาแก้ไขเรื่อยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญและต้องเน้นในช่วงแรก เลยเป็นการพิมพ์ให้ถูกต้อง ไม่ใช่เน้นพิมพ์เร็วเฉยๆ
    • ถ้าพิมพ์ผิด ให้รีบกลับไปแก้ไขทันที โดยที่อย่าเหลือบมองคีย์บอร์ด
    • ถ้าพบว่าตัวเองพิมพ์ผิดบ่อยๆ ให้ลดความเร็วการพิมพ์ลง ย้ำกันอีกทีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพิมพ์ให้ถูกต้อง 100%
  3. Watermark wikiHow to พิมพ์ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น
    พอมาถึงจุดหนึ่งที่คุณเริ่มพิมพ์เร็วขึ้นแล้ว คุณอาจจะรู้สึกว่าไม่คุ้นเคยกับหลายปุ่มของคีย์บอร์ดที่ปกติไม่ได้ใช้งาน เช่น สัญลักษณ์และหมายเลขต่างๆ
    • ถ้าไม่หัดใช้ปุ่มพวกนี้ให้ชินไว้ อีกหน่อยจะทำให้คุณต้องชะงักมามองหาอยู่ตลอด ป้องกันได้โดยฝึกพิมพ์ปุ่มพวกนี้ร่วมไปกับการพิมพ์ปุ่มที่ใช้ประจำ
  4. Watermark wikiHow to พิมพ์ภาษาอังกฤษให้คล่องขึ้น
    อย่ากระแทกคีย์บอร์ด หรืออย่ารัวมือมั่วๆ เพราะมักทำให้คุณกดควบ 2 ปุ่มพร้อมกัน
    • อย่ากระแทกแต่ละนิ้วลงไปที่แต่ละปุ่มเวลาพิมพ์ เพราะถ้าพิมพ์นานๆ ทั้งมือและนิ้วจะปวดเมื่อยได้ คีย์บอร์ดควรเป็นเครื่องทุ่นแรง ไม่ใช่ยิ่งเพิ่มภาระให้มือคุณ พูดง่ายๆ คืออย่า กด ให้ แตะ ปุ่ม
  5. เวลาจะ copy, paste, เซฟ และ highlight (เลือกข้อความ) มักเป็นช่วงที่ต้องหยุดพิมพ์มาคลิก แต่ถ้ารู้จักคีย์ลัดต่อไปนี้ บอกเลยว่าทำทุกอย่างที่ว่ามาได้แบบไม่ต้องยกนิ้วจากคีย์บอร์ดเลย [5] ต่อไปนี้เป็นคีย์ลัดที่คนนิยมใช้กัน [6]
    • Save (เซฟ): Command + s (หมายถึงกดปุ่ม "command" ค้างไว้ แล้วแตะ "s" ตามมา)
    • Copy (คัดลอก): Command + c
    • Cut (ตัด): Command + x
    • Paste (แปะ): Command + v
    • Undo (ยกเลิก): Command + z
    • Redo (ทำซ้ำ): Shift + Command + z
    • เลือกตัวอักษรถัดไป: Shift + ลูกศรชี้ซ้าย หรือ ลูกศรขี้ขวา
    • เลือกคำถัดไป: Command + shift + ลูกศรชี้ขวา หรือ ลูกศรชี้ซ้าย
    • ค้นหาคำที่ต้องการในเนื้อหา: Ctrl + f
  6. ไม่มีทางลัด ถ้าอยากพิมพ์คล่องๆ ก็ต้องฝึกพิมพ์ที่คีย์บอร์ดทุกวัน อย่างน้อย วันละ 10 นาที
    • ถ้าทำตามขั้นตอนที่ว่ามา ก็จะพิมพ์คล่องขึ้นในเวลาไม่นาน พอชินกับวิธีการพิมพ์แบบใหม่แล้ว คุณก็จะไม่กลับไปจิ้มๆ แบบเก่าอีกเลย
    • อย่าลืมฝึกพิมพ์ตัวเลขและสัญลักษณ์ต่างๆ ด้วย โดยพิมพ์เบอร์โทรศัพท์กับที่อยู่ รวมถึงหาทางใช้สัญลักษณต่างๆ เพื่อฝึกมือ ยิ่งพิมพ์ครอบคลุมทุกคีย์ในคีย์บอร์ด ก็จะทำให้คุ้นยิ่งเชี่ยวชาญในการพิมพ์
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

แบบฝึกพิมพ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ต่อไปนี้เป็นประโยคมั่วๆ ที่ฝรั่งนิยมใช้ฝึกพิมพ์ภาษาอังกฤษกัน ให้ลองพิมพ์แต่ละประโยคซ้ำๆ โดยไม่เหลือบมองคีย์บอร์ด คล่องแล้วก็เปลี่ยนไปพิมพ์ประโยคถัดไป จะช่วยให้คุณ "จดจำ" แต่ละปุ่มได้ขึ้นใจ ไม่ได้เพื่อฝึกจดจำรูปแบบของแต่ละคำ
    • Pack my box with five dozen liquid diet cans or jugs.
    • Crazy Fredericka bought many very exquisite opal jewels.
    • Sixty zippers were quickly picked from the woven jute bag.
    • Amazingly few discotheques provide jukeboxes.
    • Heavy boxers perform quick waltzes and jigs.
    • Jackdaws love my big sphinx of quartz.
    • The five boxing wizards jump quickly.
    • How quickly daft jumping zebras vex.
    • Quick zephyrs blow, vexing daft Jim.
    • Sphinx of black quartz, judge my vow.
    • Waltz, nymph, for quick jigs vex Bud.
    • Blowzy night-frumps vex'd Jack Q.
    • Glum Schwartzkopf was vex'd by NJ IQ.
  2. เว็บและโปรแกรมฝึกพิมพ์มีให้เลือกเยอะมาก บางทีก็เป็นเกมทายคำ บางทีก็มีเนื้อหาเป็นย่อหน้ามาให้คุณพิมพ์ หรือบางทีก็เป็นคลิปเสียงให้พิมพ์ตามคำบอกแทน ซึ่งก็มีทั้งโปรแกรมฟรีและเสียเงิน ลองค้นหาในเน็ตเพิ่มเติมดู ว่าชอบอันไหนที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

จัดโต๊ะทำงานใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [7] Ergonomics หรือ การยศาสตร์ คือการปรับเปลี่ยนให้มุมทำงานของคุณรับกับสรีระร่างกายและลักษณะการเคลื่อนไหวของคุณ เน้นการจัดตำแหน่งและท่าทางให้ถูกต้องและสบาย ในที่นี้ก็คือต้องจัดมุมทำงานของคุณให้นั่งพิมพ์ได้คล่องและสบาย ถ้านั่งผิดท่า จะทำให้ไม่สบายตัว พิมพ์ผิดและพิมพ์ช้าได้
    • ระดับความสูงของคีย์บอร์ดต้องรับกันกับนิ้วและมือของคุณ มือคุณต้องอยู่ระดับข้างลำตัวระหว่างพิมพ์ หรือเหนือกว่ากลางลำตัวเล็กน้อย
    • ยกข้อมือไว้ ถ้ามีอะไรรองรับ หนุนข้อมือไว้ระหว่างพิมพ์ ก็ทำให้ไม่ต้องเกร็ง มีตัวช่วยให้เลือกเยอะ เช่น หมอนหรือก้อนโฟม กระทั่งใช้หนังสือแทน ขอให้ยกข้อมือสูง เกือบ ระดับเดียวกับคีย์บอร์ด จะทำให้พิมพ์ได้รวดเร็วขึ้นและผิดพลาดน้อยลง
    • นั่งหลังตรง วางเท้าราบไปกับพื้น [8]
  2. ตอนแรกคุณอาจจะใช้คีย์บอร์ด QWERTY มาตรฐาน แต่จริงๆ แล้วสามารถเปลี่ยนไปใช้คีย์บอร์ดแบบ Dvorak ได้ [9]
    • คีย์บอร์ดมาตรฐานแบบ QWERTY นั้น แรกเริ่มถูกออกแบบมาสำหรับใช้กับเครื่องพิมพ์ดีด คือพิมพ์แล้วก้านของเครื่องพิมพ์ดีดไม่ขัดกันบ่อยๆ (typewriter jams) ซึ่งพอเวลาผ่านไป ก็ไม่เป็นปัญหากับการพิมพ์ในคอมพิวเตอร์อีกต่อไป เพราะฉะนั้นเลยมีอีกรูปแบบคีย์บอร์ดโผล่มา คือ Dvorak ซึ่งถ้าใช้นิ้วแตะๆ แบบพิมพ์คอม รูปแบบคีย์บอร์ดนี้จะใช้สะดวก ลื่นไหลกว่า
    • แต่ถ้าใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกับคนอื่น หรือต้องสลับคอมใช้หลายเครื่องเป็นประจำ การใช้ควบคู่กันไป 2 รูปแบบคีย์บอร์ด อาจจะดูสับสนไปสักหน่อย
    • ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ตดู ถ้าอยากรู้จักคีย์บอร์ดแบบ Dvorak มากขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สัมผัส "ขีดนูน" ที่ปุ่ม "F" และ "J" จะได้วางนิ้วถูกเวลาพิมพ์ แค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเวลาพิมพ์ หรือตอนหยุดพิมพ์ก็ได้ [10]
  • อย่าเหลือบมองคีย์เวลาพิมพ์ ให้แปะกระดาษที่มีผังแป้นพิมพ์ไว้ข้างจอแทน เผื่อลืมจริงๆ จะได้เหลือบมองโดยไม่ต้องก้ม
  • ถ้าถึงขั้นจะสอบพิมพ์เอาใบประกาศ แนะนำให้ฝึกพิมพ์โดยใช้คีย์บอร์ดขนาดปกติ ไม่ใช่คีย์บอร์ดของแล็ปท็อป เพราะตัวอักษรของบางคีย์บอร์ดสำหรับแล็ปท็อป จะชิดกันกว่าของคีย์บอร์ดปกติที่ใช้ทดสอบกัน
  • กว่าจะพิมพ์คล่องพิมพ์เร็ว ต้องใช้เวลาฝึก บวกกับความพยายามและความอดทน อย่าถอดใจซะก่อน!
  • เวลาพิมพ์ให้นั่งหลังตรง แต่อย่ายกหรือเกร็งไหล่
  • ถ้าติดนิสัยชอบเหลือบมองคีย์บอร์ด ลองหาแผ่นคลุมคีย์บอร์ดมาใช้ หรือหาแผ่นนิ่มๆ ใสๆ มาปิดเองก็ได้
  • ใช้โปรแกรมฝึกพิมพ์เร็วมาใช้โดยเฉพาะ จะช่วยให้พิมพ์ได้ครอบคลุมทุกคีย์และลดคำผิด จะใช้ demo ทดลองใช้ หรือแบบฟรีก็ได้
  • ถ้าอยากพิมพ์สะดวกขึ้น ต้องฝึกความสัมพันธ์ระหว่างมือกับสายตา เช่น การเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้มือ อย่างกีตาร์ เป็นต้น
โฆษณา

คำเตือน

  • การใช้ตัวย่อแทนคำเต็ม ก็ช่วยประหยัดเวลาพิมพ์ได้ แต่จะทำให้คุณภาพการพิมพ์ลดลง แถมติดเป็นนิสัยขี้เกียจพิมพ์เต็มๆ ด้วย! เช่น พวกคำฮิตของวัยรุ่น ที่เขาใช้แชตกันในเน็ตหรือมือถือ อย่าง "LOL", "BFF" พวกนี้ แนะนำให้ฝึกพิมพ์ภาษาเขียน ไม่ใช่ภาษาพูด เพราะถ้าไปใช้โปรแกรมหรือแอพที่พิมพ์แบบทางการแล้ว คุณจะสะดุดได้
  • ห้ามนั่งหลังห่อเวลาพิมพ์ [11] ฝึกพิมพ์แล้วก็ต้องฝึกท่าทางการนั่งพิมพ์ไปในเวลาเดียวกัน ไม่งั้นจะทำให้พิมพ์ช้าลง เกิดอาการมือชาเพราะพังผืดกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ (carpal tunnel syndrome) ข้อมือเคล็ด หรือปวดเมื่อยซ้ำๆ ได้ แนะนำให้หยุดพักบ้างเป็นระยะ แล้วลุกไปเดินยืดเส้นยืดสาย ฝึกลมหายใจ ทำสมาธิ ก็ได้ผลดีเหมือนกัน [12]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,218 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา