ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การมีไหวพริบปฎิพาณเป็นวิธีที่ดีที่คุณจะสามารถใช้ความชาญฉลาดและความรู้เพื่อที่จะทำให้ผู้อื่นขบขันและทำให้บทสนทนานั้นมีชีวิตชีวามากขึ้น. การมีไหวพริบอาจจะสามารถสร้างความประทับใจในการจีบได้อีกด้วย ทุกคนชอบที่จะอยู่รอบๆตัวคนที่มีไหวพริบและจะมีผลมากเป็นพิเศษถ้าคุณมีไหวพริบพอที่จะทำให้คนอื่นก็รู้สึกว่าตนเองก็มีไหวพริบเช่นกัน นี่คือขั้นตอนที่จะทำให้คุณกลายเป็นมีไหวพริบปฎิพาณ

  1. เริ่มจากการตั้งใจฟังว่าคนอื่นกำลังพูดอะไรกับคุณและตอบกลับไปด้วยคำพูดของคุณ สิ่งนี้จะแสดงให้เห็นว่านอกจากจะนำความคิดของเขามาประมวลแล้วคุณก็ยังได้นำมาครุ่นคิดอีกด้วย
  2. ใช้ความเกินจริงอย่างสร้างสรรค์และทำให้เห็นภาพชัดเจน. นี่เป็นทางหนึ่งที่นอกจากคุณจะสร้างพื้นที่ที่คุณจะสามารถใช้ไหวพริบของคุณได้แล้วก็ยังเป็นการสร้างการบทสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอีกด้วย
    • สมมติว่าเพื่อนของคุณกำลังบอกคุณว่าคุณครูตาเหล่ของเขาเป็นคนอย่างไร คุณอาจจะตอบกลับไปว่า “ครูของเธอตาไขว้สลับกันจนตอนที่เธอร้องไห้ น้ำหูน้ำตาไหลกลับไปตามหลังของเธอ”
  3. นำคำพูดหรือวลีที่คู่สนทนาของคุณเพิ่งจะใช้มาใช้ในทางที่ต่างออกไปแต่ยังสามารถเชื่อมโยงกับไปในบทสนทนาได้
    • ลองนำตัวอย่างจากขั้นตอนก่อนหน้ามา “น้ำหูน้ำตาไหลกลับไปตามหลังของเธอ” ถ้าเกิดมีเครื่องตรวจฟังหัวใจของหมออยู่แถวนั้น จะฮามากหากคุณหยิบเจ้าเครื่องนั้นขึ้นมา แล้วเลียนแบบท่าทางของหมอพร้อมพูดว่า “หมอว่าสาเหตุของโรคน้ำหูน้ำตาไหลของคุณมาจากเชื้อแบคทีเรีย!”
    • แต่ถ้าคุณต้องพูดซ้ำว่า “เข้าใจใช่มั้ย? แบค-เทียร์-เอียร์” ซึ่งแปลว่าน้ำตา-ไหล-ย้อนกลับ ในภาษาอังกฤษนั่นเอง คุณก็คงต้องฝึกการส่งสารของคุณใหม่
    • การมีไหวพริบหมายถึงการที่คุณเข้าใจบริบทอย่างชัดเจน เพราะถ้าเกิดไม่มีบริบททางการแพทย์อยู่ในบทสนทนาละก็การโต้ตอบนั้นก็จะดูเป็นอะไรที่มาจากไหนก็ไม่รู้และก็ดูไม่ค่อยจะมีไหวพริบเท่าไหร่นัก
    • คุณอาจจะใช้คำหนึ่งคำที่มีหลากหลายความหมายในหนึ่งประโยคและหนึ่งในความหมายนั้นๆมีความเชื่อมโยงสิ่งที่กำลังพูดอยู่
    • อ่านเชคเสเปียร์และออสการ์ ไวลด์ เพราะการเล่นคำของพวกเขาในบทสนทนาเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก
    • ศึกษาตัวละครจากรายการโทรทัศน์ “M*A*S*H" ตอนทั่วๆไปของ “M*A*S*H" ก็จะมีตัวอย่างของการเล่นคำที่มีไหวพริบอยู่หลายอันและยังมีข้อเสียของการเล่นคำมากเกินไปอีกด้วย
    • ปรมาจารย์ของการเล่นคำที่มาจากรายการเสียดสีอื่นๆ เช่น Mock the Week โดยเฉพาะอย่างยิ่งลองสังเกต แฟรงค์กี้ บอยด์, ฮิวจ์ เดนิสและดาร่า โอไบรอันให้ดี
  4. สมมติว่ามีคนพูดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยว่า “นี่หกโมงแล้ว” คุณอาจจะพูดว่า “ขอบคุณนะเจ้าหอนาฬิกาบิกเบน!” ( “บิกเบน” (Big Ben)) เป็นชื่อเรียกของระฆังยักษ์ของนาฬิกาในลอนดอน) นี่คือการตัวอย่างการเสียดสี เพราะคุณกำลังสื่อว่าคุณไม่ได้รู้สึกขอบคุณอะไรเลย (จากการที่พูด “ขอบคุณนะ”)
    • การอุปมาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นการเสียดสีทั้งหมด อย่างเช่นการอธิบายถึงห้องรกๆของลูกชายว่าเหมือนกับพื้นที่ที่ถูกเฮอร์เคนถล่มก็ถือเป็นวิธีการที่มีไหวพริบและมีความสร้างสรรค์เพื่อกล่าวว่ามันค่อนข้างรกและเฮอร์ริเคนก็มีส่วนรับผิดชอบกับความรกนี้ คุณสามารถใช้ไหวพริบของคุณในการชมหรือชื่นชมอีกด้วย
    • ไปดู วิธีการเขียนการอุปมาเพื่อที่จะเข้าใจมากขึ้น
  5. โต้ตอบด้วยคำพูดจากภาพยนตร์ หนังสือหรือบุคคลสำคัญ. ยิ่งถ้าคำพูดเหล่านั้นดูฟุ้งหรือคลุมเครือมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งฟังดูมีไหวพริบมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็อาจจะสร้างความสับสนได้ถ้าเกิดว่าคู่สนทนาของคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังสื่อถึงอะไร
    • ถ้าเกิดมีคนพูดว่า “ฉันจะลองทำดู” และคุณพูดว่า "ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ ไม่เห็นต้องใช้ความพยายามอะไรเลยนี่” พวกเขาอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าสิ่งที่คุณกำลังพูดนั้นมากจากสตาร์ วอร์ แต่ถ้าพวกเขาตอบกลับมาอย่างชาญฉลาดว่า “พลังอันยิ่งใหญ่นั้นอยู่ในตัวคุณ” คุณก็จะรู้ได้ว่าคู่สนทนาของคุณเข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร
  6. การมีไหวพริบเฉียวฉลาดนั้นไม่ใช่แค่ว่าคุณสามารถเชื่อมโยงความคิดและเปรียบเทียบได้อย่างไรแต่ยังเกี่ยวกับว่าคุณทำได้รวดเร็วแค่ไหน และการพูดคำพูดที่มีไหวพริบด้วยน้ำเสียงสบายๆเรียบๆก็ทำให้ดูเหมือนว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่อง “ง่ายๆ”สำหรับคุณ การที่ยิ้มอย่างมีเลศนัยและการเลิกคิ้วก็สามารถเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยม!
  7. หากคุณมีคำตอบอยู่แล้วก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ถ้าเมื่อไหร่ที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น (ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ) ก็จะทำให้ดูเหมือนว่าการคิดคำโต้ตอบนั้นสำหรับคุณเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าปกติ แต่ก็ต้องมั่นใจว่าคุณรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและสนใจว่าคำโต้ตอบของคุณมันฟังดูสมเหตุสมผล “ก่อน” ที่คุณจะพูดหรือทำมัน
    โฆษณา

ข้อควรระวัง

  • ใช้ไหวพริบของคุณอย่างเหมาะสม ถ้าเกิดทุกคนได้ยินคุณใช้คำพูดเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา พวกเขาก็จะเริ่มมีข้อกังขาในความมีไหวพริบและความฉลาดของคุณ และพวกเขาอาจจะคิดว่าคุณก็เป็นแค่เจ้างั่ง
  • ถ้าคนที่คุณกำลังพูดคุยด้วยนั้นไม่สามารถรับรู้ถึงความมีไหวพริบของคุณได้ คุณอาจจะกลายเป็นคนที่ดูหยิ่งยโสโอหัง หรืออาจจะถูกมองว่าเป็นคุณเป็นคนแปลกๆ ในกรณีนั้น คุณก็ต้องดูว่าคุณเจอคนที่ชาญฉลาดเหมือนๆกับคุณหรือไม่
  • การมีไหวพริบเกินไปก็สามารถเกิดขึ้นได้ แน่นอนว่ามีเส้นบางๆคั่นระหว่างการมีบทสนทนาที่ชาญฉลาดกับแค่อยากจะโอ้อวดและอาจจะเป็นการผลักไสคู่สนทนาออกไปจากบทสนทาก็เป็นได้
  • บางคนอาจจะจริงจังกับความมีไหวพริบเป็นอย่างมาก เขาอาจจะคิดว่าการที่คุณใช้ความชาญฉลาดในบทสนทนานั้นเป็นการเปิดสงความไหวพริบ สิ่งนี้อาจจะน่าสนุกและเป็นกิจกรรมที่ทำได้ร่วมกัน แต่ก็อาจจะมีโอกาสล่วงล้ำเข้าไปทำให้กลายเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นเตรียมพร้อมที่จะกำหนดขีดจำกัดของตนเองและก็ต้องเคารพขีดจำกัดของผู้อื่นด้วยเพื่อจะหลีกเลี่ยงไม่ไปทำร้ายความรู้สึกของกันและกัน
  • ต้องระมัดระวังเรื่องความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่นเมื่อคุณจะพูดอะไรด้วยไหวพริบ
  • การที่คุณใช้ความเฉลียวฉลาดของคุณทำให้ผู้อื่นรู้สึกด้อยโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวถือว่าแย่มาก “แย่” ทั้งในด้านศีลธรรมและก็ในเชิงเปรียบเทียบก็ “ต่ำตม” เพราะคุณทำให้ผู้อื่นรู้สึก”อยู่ต่ำกว่า”

ที่มาและอ้างอิง

  • [1] Old and sold.com]

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,745 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา