ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แม้ว่า “Bonjour” จะถือเป็นคำสามัญที่สุดในการทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศส แต่ก็ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่เราใช้พูด “สวัสดี” เป็นภาษาฝรั่งเศสได้ ลองดูคำทักทายที่คุณควรรู้ได้ที่ด้านล่างนี้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

พูด “สวัสดี” แบบพื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คำนี้ถือเป็นคำมาตรฐานที่หนังสือเรียนมักแปลว่า “สวัสดี” ใช้ได้ทั้งในสถานการณ์ทางการและเป็นกันเอง
    • Bonjour คือการรวมกันของคำว่า "bon" แปลว่า "ดี" และ "jour" แปลว่า วัน หากแปลประโยคนี้แบบตรงตัว จะแปลได้ว่า "วันที่ดี"
    • ออกเสียงประโยคนี้ว่า บง-ชูคฺ [1]
  2. ประโยคนี้จึงแปลได้ว่า “หวัดดี” แทนที่จะเป็น “สวัสดี”
    • แม้ว่า salut จะเป็นคำสำหรับใช้ทักทาย แต่คำนี้เกี่ยวข้องกับกริยาฝรั่งเศส "saluer" แปลว่า "ทักทาย" หรือ "ทำความเคารพ" หากแปล salut แบบตรงตัว จะแปลได้ว่า "ลาก่อนหรือบ๊ายบาย" และมักใช้ในสถานการณ์ไม่เป็นทางการ
    • ประโยคนี้ออกเสียงโดยไม่มีเสียง “t” ท้ายประโยค ดังนั้น จึงออกเสียงว่า ซา-ลู
    • "Salut" อาจแปลว่า "ลาก่อน" ก็ได้เช่นกัน ดังนั้น คำนี้จึงใช้ได้ทั้งในตอนเริ่มและจบบทสนทนา
    • อีกประโยคทักทายที่ใช้คำนี้คือ “Salut tout le monde!” แปลคร่าวๆ ได้ว่า “หวัดดี ทุกคน!” คำว่า "tout" แปลว่า "ทั้งหมด" และ "le monde" แปลว่า "โลก" ประโยคนี้ใช้พูดระหว่างกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น [2]
  3. พูดว่า "Hé" หรือ "Tiens" ในสถานการณ์เป็นกันเองก็ได้เช่นกัน. ทั้งสองคำนี้อาจไม่ใช่คำมาตรฐานและเป็นทางการเท่า bonjour แต่ทั้งคู่ใช้พูด “สวัสดี” ได้ในสถานการณ์ที่เป็นกันเองมากๆ
    • แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "hey (เฮ้)" และออกเสียงคล้ายกันด้วย เพราะมี é ท้ายคำ ซึ่งออกเสียงคล้ายสระเอ
    • อีกประโยคที่ใช้พูดระหว่างเพื่อนคือ "Hé là!" แปลว่า "เฮ้ หวัดดี!"
    • คำว่า tiens! เป็นประโยคทักทายที่ใช้พูด “สวัสดี” แบบประหลาดใจ ซึ่ง "ie" ในคำนี้เป็นเสียงขึ้นจมูก ทำให้ออกเสียงคำนี้ได้ว่า ‘’เตียง’’ [3]
  4. คำนี้ออกเสียงคล้าย “hello (ฮัลโหล)” ในภาษาอังกฤษมากที่สุด และมักใช้พูดทักทายใครบางคนทางโทรศัพท์
    • ออกเสียงประโยคนี้ว่า อา-โล โดยออกเสียงเน้นหนักที่พยางค์ที่สอง
    • คุณสามารถถามว่า "âllo?" ได้เช่นกัน หากใช้ถาม ให้ออกเสียงเน้นหนักที่พยางค์แรก ประโยคนี้จะใช้เมื่อคุณอยากถามว่า “ฮัลโหล? ฟังอยู่หรือเปล่า?” [4]
  5. [5] หากมีคนมาเยี่ยมคุณที่บ้านหรือที่ทำงาน คุณสามารถกล่าวต้อนรับได้ด้วยประโยคนี้ ซึ่งแปลว่า “ยินดีต้อนรับ!”
    • หากแปลประโยคนี้แบบตรงตัว จะแปลได้ว่า "การมาถึงอย่างดี" โดย Bien แปลว่า "ดี" และ venue เป็นคำนามแปลว่า การมาถึง
    • ออกเสียงประโยคนี้ว่า เบียง-เวอ-นู
    • อีกวิธีในการพูดต้อนรับให้ยาวขึ้นคือการพูดว่า "être le bienvenu" โดยคำว่า "être" เป็นกริยาแปลว่า "เป็น"
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ทักทายตามช่วงเวลา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เนื่องจากไม่มีคำทักทายเฉพาะสำหรับตอนเช้าหรือตอนบ่าย จึงใช้เหมือนกันทั้งสองเวลา
    • เนื่องจาก bonjour แปลตรงตัวว่า “วันที่ดี” ดังนั้นเวลาที่คุณพูดประโยคนี้จะเหมือนกับคุณพูดว่า “ตอนเช้าที่ดี (สวัสดีตอนเช้า)” หรือ “ตอนบ่ายที่ดี (สวัสดีตอนบ่าย)” เนื่องจากตอนเช้าและตอนบ่ายถือเป็นช่วงเวลากลางวัน
  2. ประโยคนี้แปลตรงตัวได้ว่า “ตอนเย็นที่ดี (สวัสดีตอนเย็น)” และใช้พูด “สวัสดี” ในตอนเย็นหรือตอนกลางคืนเท่านั้น [6]
    • ประโยคนี้ใช้ได้ทั้งสถานการณ์ทางการและเป็นกันเอง แต่ส่วนใหญ่จะได้ยินในสถานการณ์ทางการ
    • Bon แปลว่า “ดี” และ soir แปลว่า “ตอนเย็น”
    • ออกเสียงประโยคนี้ว่า บง-ซัว
    • วิธีกล่าวทักทายกลุ่มคนในช่วงเวลาตอนเย็นคือการพูดว่า "Bonsoir mesdames et messieurs" แปลว่า "สวัสดีตอนเย็น ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย"
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,051 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา