ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ผิวคล้ำเป็นลักษณะวิวัฒนาการที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นกลไกป้องกันรังสีอันตรายจากดวงอาทิตย์ แต่เหตุผลทางวัฒนธรรมและสุนทรียภาพต่างๆ ก็อาจจะทำให้คุณอยากมีผิวขาวขึ้น คุณสามารถทำให้สีผิวของคุณขาวขึ้นได้ตามธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยการอยู่ให้ห่างจากแสงแดดและดูแลร่างกายของตัวเอง หลายคนมีผิวขาวขึ้นได้จากการเลือกรับประทานอาหารและทาครีมไวเทนนิ่ง แต่ก็นึกไว้ด้วยว่าการจะทำให้ผิวของคุณขาวขึ้นเกินกว่าที่ธรรมชาติจะทำได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินแพงๆ และไม่ต้องผ่านกระบวนการที่อาจทำให้เกิดอันตรายที่ไม่สามารถรักษาได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
ขั้นตอน
-
เลี่ยงรังสี UV. คนที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรนั้นได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) มากกว่า เซลล์จึงผลิตเมลานินออกมามากกว่า ซึ่งเมลานินที่เกินมานี้จะทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้น ซึ่งช่วยให้ผิวปกป้องตัวเองจากอันตรายของรังสี UV การเลี่ยงแสงแดดจะทำให้ผิวไม่ผลิตเมลานินเพิ่ม ซึ่งอาจช่วยให้เม็ดสีผิวอ่อนลง แต่ถ้าคุณผิวคล้ำมาตั้งแต่เกิด การเลี่ยงแสงแดดอาจช่วยไม่ได้มากนัก- พยายามเลี่ยงแสงแดดให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงสายและช่วงบ่าย [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Centers for Disease Control and Prevention ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณต้องอยู่กลางแจ้งตอนที่แดดจัดที่สุด พยายามหาที่ร่มกำบัง
- ลองพกร่มไปด้วยเพื่อป้องกันตัวเองจากแสงแดด ร่มสีดำทั่วไปที่ออกแบบมาเพื่อให้ตัวคุณไม่เปียกขณะฝนตกนั้นสามารถป้องกันรังสี UV ได้อย่างน้อย 90% [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จำไว้ว่าแสงแดดและรังสี UV นั้นสะท้อนมาจากคอนกรีต น้ำ ทราย และพื้นผิวอื่นๆ เพราะฉะนั้นตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่คุณอยู่ด้วย!
-
ทาครีมกันแดด. เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องได้ทั้งรังสี UVA (รังสีที่ทำให้ผิวแก่) และ UBV (รังสีที่ทำให้ผิวไหม้) [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หาครีมกันแดดที่มี SPF (ความสามารถในการป้องกันแสงแดด) ระหว่าง 30 ถึง 50 ครีมกันแดดที่มี SPF สูงกว่า 50 นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะต้องหาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงที่สุด [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง- ในช่วงฤดูหนาวคุณก็ยังได้รับรังสี UV อยู่ดีแม้ว่าอากาศจะเย็นกว่าเดิม ทาครีมกันแดดทุกวันตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเล่นกีฬาหน้าหนาวในที่สูงๆ
-
ใส่เสื้อผ้าป้องกันแสงแดด. เสื้อผ้าบางๆ ส่วนใหญ่ (เช่น ผ้าฝ้าย) นั้นไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้มากนัก ดังนั้นมองหาเสื้อผ้าที่มีระดับ UPF (การป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต) เลือกเสื้อผ้าที่เป็นแขนยาว ตัวยาว และคอเสื้อสูง อาจจะใส่แว่นกันแดด ถุงมือ และหมวกปีกกว้างด้วยก็ได้- แสงแดดนั้นจำเป็นต่อการผลิตวิตามินดี แต่คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดโดยไม่ปกปิดเกิน 20 นาที [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ. การรับประทานอาหารทั้งส่วน ผลไม้สด และผักเยอะๆ ในปริมาณที่สมดุลทำให้ผิวของคุณสวยได้ ร่างกายที่แข็งแรงก็คือผิวที่แข็งแรงนั่นแหละ! แล้วผิวที่แข็งแรงก็มักจะไม่มีจุดด่างดำ สิว กระ ฝ้า ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ และรอยแดงหรือผิวแห้งแตกเป็นปื้น- รับประทานผลไม้และผักทุกสีเพื่อให้แน่ใจว่า คุณได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยให้ผิวขาวขึ้น นอกจากนี้วิตามินซียังเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวเพราะมันช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนของร่างกาย [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เพราะช่วยต่อสู้กับสัญญาณแห่งวัย ได้แก่ผิวที่หมองคล้ำ สีผิวที่เปลี่ยนไป และความเหี่ยวย่น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดื่มน้ำ. คนเราอาจจะดื่มน้ำมากเกินไปได้ก็จริง แต่ผิวและร่างกายของคุณต้องไม่ขาดน้ำเพื่อให้แข็งแรงสมบูรณ์ ดื่มน้ำเวลาที่คุณหิวน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่คุณออกกำลังกาย การป้องกันผิวไม่ให้ขาดน้ำจะช่วยไม่ให้ผิวแห้งและเป็นขุย และอาจจะทำให้ผิวดู "เปล่งประกาย" ได้ด้วย [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Wisconsin Health ไปที่แหล่งข้อมูล -
ออกกำลังกายเป็นประจำ. การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นดีต่อหัวใจและปอด และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดด้วย ระบบไหลเวียนเลือดที่ดีนั้นสำคัญต่อการมีผิวสุขภาพดี นอกจากนี้การออกกำลังกายยังลดความเครียด ซึ่งจะไปช่วยลดอาการที่ทำให้เกิดรอยแดง (เช่น สิวและผื่นแดง) ได้ด้วย- คนที่มีปัญหาผิวหนัง เช่น โรซาเซีย โรคสะเก็ดเงิน หรือผื่นแดงควรออกกำลังกายในที่ที่อากาศเย็นเพื่อไม่ให้เกิดการพุพอง ทามอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนและหลังออกกำลังกายเพื่อให้ผิวรู้สึกดี [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รักษาผิวให้สะอาดและชุ่มชื้น. ในการ ดูแลผิวของคุณนั้น ให้คุณล้างหน้าทุกวันด้วยคลีนเซอร์ สครับหน้าสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง และทามอยซ์เจอไรเซอร์ทุกวัน การสครับผิวช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งจะทำให้ผิวดูสดชื่นขึ้นและสะอาดขึ้น สิ่งสกปรกมักทำให้ผิวดูหมองคล้ำ -
นวดผิว. เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย การนวดผิวเสริมการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ก่อนนอนให้ใช้เวลาสักครู่นวดครีมหรือว่านหางจระเข้ให้ทั่วผิวโฆษณา
-
กำจัดผิวแทน. ผิวที่ได้รับแสงแดดนั้นมักจะคล้ำกว่าเนื่องจากการผลิตเมลานินที่เพิ่มขึ้น ผิวแทนนั้นมักจะหายไปตามธรรมชาติเมื่อชั้นผิวที่คล้ำจากแสงแดดนั้นแห้งและหลุดลอกจากร่ายกาย คุณไม่สามารถ "ทำให้ผิวหายแทน" ได้จริงๆ หรอกถ้าผิวของคุณได้รับรังสี UV แต่คุณสามารถเร่งกระบวนการได้ด้วยการสครับเบาๆ เพื่อปกป้องผิวของคุณ ให้เลี่ยงการสครับผิวมากกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง -
บำรุงผิวด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยกรดแลกติก. อาหารประเภทนี้อาจช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง ตกสะเก็ด หรือหมองคล้ำ ใช้อาหารเหล่านี้เป็นครีมและสครับเพื่อกำจัดชั้นผิวที่ตายแล้ว [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทาโยเกิร์ตรสธรรมชาติบางๆ ก่อนนอน ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น หรือทำมาส์กด้วยการผสมข้าวโอ๊ต น้ำมะเขือเทศ และโยเกิร์ตอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ทาลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง -
บำรุงด้วยวิตามินซี. อาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำผลไม้จากผลไม้ตระกูลส้มสามารถนำมาทาผิวได้โดยตรงเพื่อสครับและทำให้รอยคล้ำจางลง [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่าทากรดซิตริกลงบนใบหน้าและอย่าใช้กรดซิตริกมากกว่าสัปดาห์ละครั้ง [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เทน้ำผลไม้ลงบนสำลีก้อนกลมแล้วทาลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ 10 – 20 นาทีแล้วล้างออก [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง -
ทำที่มาส์กหน้าขาวใสจากผงขมิ้นหรือแป้งถั่วลูกไก่. ทำที่มาส์กหน้าข้นๆ แต่ปาดได้ด้วยการผสมแป้งถั่วลูกไก่กับน้ำกุหลาบ หรือผงขมิ้นกับน้ำแตงกวา พอทำมาส์กเสร็จแล้ว ให้ทาลงบนใบหน้า ทิ้งไว้จนแห้งหรือ 30 นาทีแล้วล้างออก [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง -
แช่ผิวในน้ำข้าว. น้ำข้าวที่ว่านี้คือน้ำที่เหลือจากการซาวข้าว คุณอาจจะใช้มันฝรั่งดิบถูลงบนผิวเพื่อให้สีผิวอ่อนลงด้วยก็ได้ ทิ้งไว้ 20 – 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น -
ลองใช้ครีมไวเทนนิ่งที่มีขายทั่วไป. ครีมพวกนี้มีขายตามร้านเสริมความงามและร้านเครื่องสำอางทั่วไป ครีมเหล่านี้จะไปลดเมลานินในผิว แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่ามันจะช่วยให้ผิวขาวเท่าที่คุณต้องการก็ตาม [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ครีมที่มีขายทั่วไป ทำตามวิธีใช้ทุกขั้นตอนเพื่อการใช้ครีมที่ปลอดภัยและเหมาะสม- ครีมผิวขาวหลายตัวใช้ไฮโดรควินินเป็นสารออกฤทธิ์ ประเทศไทยไม่อนุญาตให้มีไฮโดรควินินเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ในประเทศไทยสารปรอทเป็นส่วนผสมที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง แต่คุณก็ยังคงหาซื้อครีมที่มีสารปรอทได้ทางออนไลน์อยู่ดี แต่ถ้าจะให้ดีอย่าใช้เลยดีกว่า
โฆษณา
-
ใช้รองพื้นและคอนซีลเลอร์เล็กน้อย. เครื่องสำอางเหล่านี้สามารถใช้เพื่อให้ผิวดูขาวขึ้นได้ แต่ผลที่ได้อาจดูปลอมถ้าคุณพยายามใช้เฉดสีที่ขาวกว่าผิวจริงมาก ให้เลือกเฉดสีที่พอดีกับสีผิว หรืออาจจะเลือกเฉดที่ขาวกว่าผิวจริงเล็กน้อยเพราะว่าคุณอยากให้ผิวดูขาวขึ้น ใช้รองพื้นหรือคอนซีลเลอร์ปกปิดจุดด่างดำต่างๆ วิธีนี้จะเป็นเหมือนการสร้างผ้าใบผืนเปล่าไว้ให้คุณแต่งหน้าส่วนที่เหลือ- ใช้ BB ครีมเพื่อให้ผิวดูสม่ำเสมอและปดปิดจุดด่างดำหรือปื้นแดงต่างๆ
-
ทาเล็บ ตา และลิปสติกสีเข้ม. สีเข้มบนเล็บ ริมฝีปาก และดวงตาจะตัดกับสีผิวและทำให้ผิวของคุณดูขาวขึ้น ลองทาสีดำ น้ำตาลแดง ม่วงเข้ม แดง น้ำเงิน คราม หรือโคบอลต์ -
ลองย้อมสีผม. เช่นเดียวกับการแต่งหน้าเข้มและการใช้สีเข้มกับร่างกายส่วนอื่นๆ การมีผมสีเข้มจะทำให้สีผมตัดกับผิวบนใบหน้าและลำคอ ทำให้ความขาวตามธรรมชาติดูเด่นขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาถาวร มีผลิตภัณฑ์ย้อมผมจากเฮนน่ามากมายถ้าคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือต้องการเลี่ยงสารเคมีแรงๆ ในน้ำยาย้อมสีผมอื่นๆ -
ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม. คนขาวที่ใส่เสื้อผ้าสีพาสเทลหรือสีอ่อนจะดูกลืนไปกับเสื้อผ้าเลย เสื้อผ้าสีเข้มอาจทำให้สีผิวกับเสื้อผ้าดูตัดกันเล็กน้อย ทำให้ผิวของคุณดูขาวขึ้นเมื่อเทียบกับเสื้อผ้า แต่จำไว้ว่าวิธีนี้จะสังเกตได้ก็ต่อเมื่อผิวของคุณค่อนข้างขาวอยู่แล้วโฆษณา
เคล็ดลับ
- การโกนขนหรือแว็กซ์ขนให้เกลี้ยงเกลาอาจทำให้ผิวดูขาวขึ้น ขนและตอดำๆ ทำให้ผิวดูคล้ำขึ้นได้
- คุณควรรับประทานอาหารเสริมวิตามินดี ถ้าคุณทาครีมกันแดดและ/หรือเลี่ยงแสงแดดเป็นประจำ เพราะคุณอาจจะขาดวิตามินนี้ได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.cdc.gov/cancer/skin/basic_info/prevention.htm
- ↑ http://www.reuters.com/article/2013/03/21/health-umbrellas-idUSL3N0CD00S20130321
- ↑ http://www.coolasuncare.com/sun-science/uva-vs-uvb
- ↑ http://www.skincancer.org/skin-cancer-information/ask-the-experts/does-a-higher-spf-sunscreen-always-protect-your-skin-better
- ↑ http://health.usnews.com/health-news/family-health/heart/articles/2008/06/23/time-in-the-sun-how-much-is-needed-for-vitamin-d
- ↑ http://www.lifeextension.com/Magazine/2009/5/Revitalizing-Aging-Skin-with-Topical-Vitamin-C/Page-01
- ↑ http://www.paulaschoice.com/expert-advice/beauty-buzz/_/antiaging-ingredients-your-skin-needs-now
- ↑ http://www.uwhealth.org/madison-plastic-surgery/the-benefits-of-drinking-water-for-your-skin/26334
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/exercise
- ↑ http://www.healthcare-online.org/How-Often-Should-I-Exfoliate.html
- ↑ http://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-977-alpha%20hydroxy%20acids.aspx?activeingredientid=977&activeingredientname=alpha%20hydroxy%20acids
- ↑ http://healthnbodytips.com/best-skin-whitening-home-remedies-creams.html/
- ↑ http://www.15minutebeauty.com/2012/01/vitamin-c-in-skin-care-how-does-it-work.html
- ↑ http://www.xovain.com/skin/4-diy-beauty-ingredients-to-avoid
- ↑ http://blog.naturalhealthyconcepts.com/2012/05/09/can-lemon-juice-really-help-lighten-your-skin-2/
- ↑ http://www.med-health.net/Turmeric-Powder-For-Skin.html
- ↑ http://www.webmd.com/beauty/face/skin-lightening-products
- ↑ http://http://cdipthailand.com/th/innovation-thai/article-thai/202-hydroquinone.html
โฆษณา
