ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เคยไหม ที่กัดสีผมแล้วย้อมซะดำปี๋ แต่ดันเข้มไป อยากเปลี่ยนสีใหม่ซะงั้น หรือย้อมดำมาพักใหญ่จนเบื่อ อยากย้อมผมสีน้ำตาลให้หน้าสว่างบ้าง บอกกันตรงนี้เลยว่าไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ เพราะต้องล้างสีผมหรือกัดสีผมซะก่อน ไม่งั้นย้อมสีน้ำตาลไม่ติดแน่นอน พอล้างสีดำออกแล้ว ก็เลือกสีน้ำตาลเฉดที่ต้องการได้เลย ไม่ว่าคุณจะเพิ่งย้อมหรือย้อมนานแล้ว แต่บทความวิกิฮาวนี้ก็มีวิธีล้างสีดำแล้วย้อมผมเป็นสีน้ำตาลมาแนะนำกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ล้างสีด้วยแชมพู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม. มีแชมพู 2 ประเภทด้วยกัน ที่ใช้ล้างสีผมเก่าได้ อย่าง clarifying shampoo ก็เต็มไปด้วยส่วนผสมสำหรับกัดสีผม และแชมพูขจัดรังแคก็ช่วยได้ในแบบเดียวกัน แชมพูพวกนี้จะไปละลายสีจากผม ทำให้ผมกลับคืนสู่สีเดิม หรือจะใช้ครีมนวดที่ไม่แนะนำให้ใช้กับผมทำสีก็ได้ ไม่ได้แปลว่าใช้แล้วทำร้ายผม แค่ไม่คงสีย้อม ทำให้สีที่ย้อมไว้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น
    • ย้ำว่าต้องเลือกแชมพูที่ "ไม่แนะนำ" ให้คนทำสีผมใช้ เช่น Suave Daily Clarifying Shampoo เพราะเราต้องการให้สีผมหลุดลอก ไม่ได้ต้องการถนอมสีผมให้ติดทนนาน [1]
  2. 2
    สระผม. นั่งในห้องน้ำ พันผ้ารอบคอ ราดน้ำใส่ผมให้เปียก โดยใช้น้ำร้อนที่สุดเท่าที่ทนได้ เพื่อให้เกล็ดผมเปิด นวดแชมพูให้ทั่วผม ขยี้จากหนังศีรษะจรดปลาย ให้แน่ใจว่าแชมพูทั่วถึง สีจะได้หลุดสม่ำเสมอกัน ระหว่างสระผม ขยี้ผม ให้กำจัดฟองส่วนเกินด้วย
    • ฟองหนาที่เห็น จะช่วยให้สีดำลอกออกมา แต่ระวังอย่าให้ไหลเข้าตา
    • สระผมให้ทั่วถึงในขั้นตอนนี้ เพื่อให้ผมชุ่มแชมพูแล้วดึงสีย้อมออกมามากที่สุด
  3. 3
    ใช้ความร้อน. พอผมชุ่มแชมพูแล้ว ให้ใส่หมวกอาบน้ำหรือครอบถุงพลาสติก จากนั้นเอาไดร์เป่าผมมาเป่าให้ร้อนทั่วถึงกัน ระวังอย่าให้หมวกพลาสติกละลายระหว่างเป่าผม พอเป่าเสร็จจนร้อนทั่วทั้งหัวแล้ว ก็ทิ้งแชมพูไว้แบบนั้น 15 - 20 นาที
    • ถ้ามี heated dryer หรือที่เป่าผมครอบหัว เหมือนตามร้าน ก็ครอบหัวแล้วนั่งเป่าผมไปได้เลย
    • ถ้าผมยาวพอ อาจจะต้องแบ่งช่อแล้วติดกิ๊บขึ้นไป จะได้ใช้หมวกอาบน้ำคลุมผมได้
  4. 4
    สระผมแล้วทำซ้ำ. พอครบ 20 นาทีแล้ว ให้สระผมให้สะอาด โดยใช้แชมพูแค่เล็กน้อย ขยี้ให้ทั่วผมแล้วล้างออก ทำแบบนี้ 2 ครั้งด้วยกัน เพื่อกำจัดโมเลกุลสีส่วนเกินที่หลุดลอกตอนสระผมและไดร์ผม ระหว่างการสระแต่ละครั้งไม่ต้องไดร์ผมหรือทิ้งช่วง [2]
  5. 5
    ลงครีมนวดแล้วเป่าผม. ลงครีมนวดให้ทั่วหัว ตั้งแต่รากจรดปลายผม จากนั้นใช้ไดร์เป่าผมให้ทั่วอีกรอบ ทิ้งครีมนวดไว้ 25 - 30 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น เพื่อปิดเกล็ดผม ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
    • ห้ามข้ามขั้นตอนนี้เด็ดขาด แชมพูจะทำให้ผมเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้ผมแห้งเสีย เปราะขาดง่าย ถ้าลงครีมนวดตามทันที จะช่วยซ่อมแซมผมที่เสียหลังล้างสีได้
  6. 6
    ทำซ้ำ. พอล้างสีผมครั้งแรกเสร็จแล้ว ผมจะสีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ค่อยเหลือสีดำติด บางคนก็จะเริ่มเห็นสีผมตามธรรมชาติก่อนย้อมด้วย ส่วนมากสีดำจะยังไม่หลุดลอกหมดในครั้งแรกที่ล้างสี เพราะงั้นต้องทำซ้ำ พอได้สีผมที่ต้องการแล้ว ค่อยย้อมเป็นสีน้ำตาลตามต้องการ
    • ให้พักผมสัก 1 - 2 วันหรือนานกว่านั้นด้วย ระหว่างล้างสีผมแต่ละครั้ง
    • วิธีนี้ใช้กัดสีผมที่ดำเข้มตามธรรมชาติไม่ได้ แชมพูจะล้างเฉพาะสีจากยาย้อมผมเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้ครีมล้างสีผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เลือกผลิตภัณฑ์ล้างสีผม. เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์ล้างสีผมให้เลือกมากขึ้น บางอันก็เอาไว้กัดสีผมให้อ่อนลง บางอันก็เอาล้างสีไปเลย ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ชอบ หรือผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการที่สุด
    • ผลิตภัณฑ์ล้างสีผมบางตัวจะมี peroxide เช่น L'Oreal Color Zap แต่บางตัวก็มีน้ำยากัดสีผม เช่น Effasol หรือจะใช้ชุดอุปกรณ์ล้างสีผมก็ได้ เช่น ของ Pravana
    • ย้ำว่าผลิตภัณฑ์ล้างสีผม ไม่ได้ช่วยให้ผมกลับคืนสีธรรมชาติ หลังจากใช้เสร็จ ผมจะออกมาเป็นสีส้มหรือทองออกเหลืองแทน
  2. 2
    ลงผลิตภัณฑ์ล้างสีผม. ผลิตภัณฑ์ล้างสีผมจะมี 2 อย่างที่ต้องเอามาผสมกัน คือที่เป็นผง กับน้ำยา activator ถ้าจะล้างสีดำ ให้ผสม 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน พอผสมกันจนเป็นเนื้อเดียว ให้ลงผลิตภัณฑ์ที่ผมได้เลย โดยลงให้ชุ่มทั่วผม จากนั้นใช้หมวกอาบน้ำคลุมผม แล้วทิ้งไว้ 15 - 60 นาที
    • ถ้าเป็นคนผมยาวหรือผมหนา อาจจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 กล่อง
    • อย่างที่บอกว่าบางตัวผสม peroxide ด้วย เพราะงั้นน้ำยาจะกลิ่นฉุน แสบจมูกหน่อย ก็ต้องระบายอากาศในห้องน้ำดีๆ และสวมเสื้อผ้าเก่าที่เลอะได้ไม่เป็นไร
    • ต้องผสมแชมพูหรือครีมล้างสีผมตามคำแนะนำในคู่มือเป๊ะๆ
  3. 3
    ล้างผมแล้วลงครีมนวด. พอรอจนครบตามเวลา ให้ล้างผลิตภัณฑ์ออกจากผม พอล้างผลิตภัณฑ์ออกหมดแล้ว ให้ใช้ครีมนวดแบบเข้มข้น เพื่อลดผมเสียจาก peroxide สุดท้ายล้างครีมนวดแล้วปล่อยให้ผมแห้ง เท่านี้สีผมก็น่าจะอ่อนลงจนย้อมสีน้ำตาลเฉดที่ชอบต่อได้แล้ว
    • ถ้าใช้ครั้งเดียวแล้วสีดำยังไม่หลุดลอกเท่าที่คิด ก็ต้องทำซ้ำตามขั้นตอน บางผลิตภัณฑ์ล้างสีผมนั้นปลอดภัย ใช้ได้ถึง 3 ครั้งในวันเดียว แต่ก็ต้องทำตามคู่มือในกล่องอย่างเคร่งครัด ว่าใช้ได้กี่ครั้งกันแน่
    • ใช้ผลิตภัณฑ์อย่างระวัง เพราะถึงสารเคมีที่ผสมจะไม่แรงเท่าน้ำยากัดสีผม แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อผมได้ ถ้าตอนแรกผมแห้งเสีย ขาดง่ายอยู่แล้ว ก็ต้องลงครีมนวดก่อนล้างสีผม [3]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ล้างสีด้วยวิตามินซี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    เตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์. วิธีนี้ ที่ต้องใช้คือวิตามินซี จะแบบเม็ด แคปซูล หรือผงก็ได้ นอกจากนี้ก็ต้องใช้แชมพูที่ชอบ หวี ผ้าขนหนู และหมวกอาบน้ำ
    • ถ้ามีวิตามินซีแบบแคปซูล ให้แกะเอาผงวิตามินซีข้างใน ถ้าเป็นแบบเม็ด ให้บดเป็นผงก่อน จะใช้มือ ที่บด หรือเครื่องปั่นก็ได้ [4]
  2. 2
    ผสมให้เป็น paste เหนียวข้น. ต้องผสมวิตามินซีกับแชมพูที่ใช้ โดยตวงวิตามินซี 1 ช้อนโต๊ะใส่ชามที่ไม่ใช่โลหะ แล้วใส่แชมพู 2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน จนเป็น paste เหนียวข้น ถ้า paste เหลวไป ให้เพิ่มวิตามินซีจนเหนียวข้นขึ้น [5]
    • ถ้าปกติผมยาวหรือหนา ให้เพิ่มสูตรเป็น 2 - 3 เท่า เพราะต้องพอกส่วนผสมให้ชุ่มทั่วผม
  3. 3
    ขยี้ให้ทั่ว. นั่งในห้องน้ำ ใช้ผ้าเช็ดหัวหรือเช็ดตัวคลุมไหล่และคอ ราดน้ำอุ่นให้ผมเปียก แล้วบีบพอหมาด จากนั้นลง paste แล้วเริ่มขยี้จากรากจรดปลาย ใช้หวีสางช่วยให้ paste เคลือบทั่วทั้งเส้นผม พอแน่ใจแล้วว่าพอกทั่วผมแล้ว ให้สวมหมวกอาบน้ำ แล้วนั่งรอ 1 ชั่วโมง [6] [7]
    • ถ้าผมยาว ให้ติดกิ๊บขึ้นไว้ก่อนสวมหมวกอาบน้ำ ผมจะได้ไม่ลุ่ยลงมา
  4. 4
    ล้างผม ลงครีมนวด แล้วทำซ้ำ. พอ 1 ชั่วโมงผ่านไป ให้ล้างผมจนสะอาด ไม่เหลือผลิตภัณฑ์ล้างสีผม จากนั้นรอจนผมแห้ง ค่อยลงครีมนวดสูตรเข้มข้น เพื่อบำรุงให้ผมที่อาจแห้งเสียไประหว่างล้างสีผม กลับมานุ่มชุ่มชื้น ถ้ายังมีสีดำติด ให้ทำซ้ำตามขั้นตอนในอีก 2 - 3 วันต่อมา พอไม่เหลือสีดำแล้ว ก็ย้อมเป็นสีน้ำตาลเฉดที่ต้องการได้เลย
    • ต้องให้เวลาผมได้พักและฟื้นฟูสภาพบ้าง ค่อยล้างสีผมใหม่ เพราะกรดในวิตามินซีจะทำให้ผมเสียได้ ให้ทิ้งช่วงสักพักจนผมกลับมามีน้ำมันตามธรรมชาติ แล้วค่อยทำตามขั้นตอนต่อไป [8]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

วิธีอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    ไปร้านทำผม. ถ้าไม่มั่นใจว่าจะจัดการกับสีผมของตัวเองได้เองที่บ้าน ก็ไปร้านทำผม ปรึกษาช่างมืออาชีพจะดีกว่า เพราะช่างทำสีผมตามร้าน จะมีความรู้เรื่องดูแลและบำรุงผมดีกว่าแน่นอน ไม่ทำให้ผมแห้งเสียหลังล้างสีผม แถมช่างจะบอกได้ว่าสภาพผมคุณเป็นแบบไหน จะมีปัญหาอะไรไหมหลังล้างสีผม และเลือกผลิตภัณฑ์ล้างสีและย้อมสีให้ผมออกมาตามต้องการ โดยเสียหายน้อยที่สุด
    • แน่นอนว่าการล้างสีหรือย้อมผมที่ร้าน แพงกว่าทำเองแน่นอน เพราะงั้นให้ศึกษาและเลือกร้านดีๆ ปกติจะคิดราคาแยกกัน 2 ขั้นตอน คือขั้นตอนการล้างสีผมเก่า และขั้นตอนการย้อมสีผมใหม่ [9]
  2. 2
    ใช้บริการของนักเรียนเสริมสวย. ถ้าอยากทำผมตามร้าน แต่ในราคาย่อมเยากว่า ลองสอบถามตามโรงเรียนสอนทำผมแถวบ้านดู อาจจะมีบริการทำสีในราคาที่ถูกกว่า เพราะเป็นโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝีมือ รับรองออกมาดีกว่าทำเองแน่นอน แต่ก็แน่นอนว่าระดับนักเรียนจะยังไม่โปรเท่าช่างทำผมมืออาชีพ ยังไงก็สอบถามรายละเอียดและตกลงกันให้ดีก่อนตัดสินใจ [10]
    • อย่างที่บอกว่าหลักๆ แล้ว ที่ค่าบริการถูกกว่าตามร้าน เพราะคุณจะเป็นเหมือนนางแบบผมให้นักเรียนได้ฝึกฝีมือ
    • จัดเวลาให้ดี เลือกวันที่ว่างๆ เพราะมักจะต้องใช้เวลา 2 - 3 ชั่วโมง
  3. 3
    อดใจรอ. ถ้าสารพัดวิธีที่ว่ามาไม่ได้ผล หรือสีไม่ตรงใจ ก็มีทางเลือกสุดท้าย คือรอจนสีดำหลุดลอกไปเอง จนย้อมสีน้ำตาลได้ตามที่ตั้งใจ อาจจะต้องรอนานหน่อย แต่ก็เป็นวิธีที่เห็นผลแน่นอน จะสระผมด้วยแชมพูที่ไม่แนะนำสำหรับผมทำสีเรื่อยๆ ก็ได้ แบบนั้นสีก็จะหลุดเร็วขึ้น พอสีจางลงพอสมควร ก็ย้อมเป็นสีน้ำตาลเฉดที่ต้องการได้เลย
    • อันนี้แล้วแต่ว่าใช้สีชั่วคราวหรือกึ่งถาวร เพราะกว่าสีเก่าจะหลุด ก็ใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่อาทิตย์ ไปจนถึงเป็นเดือนๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หลายคนแนะนำให้กัดสีผม แต่ระวังจะยิ่งทำผมแห้งเสียกว่าเดิม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้
  • ช่วงที่ล้างสีผมและย้อมสีผม ต้องพยายามบำรุงผมให้แข็งแรงและนุ่มชุ่มชื้น ด้วยครีมนวดเข้มข้น เพราะอันตรายที่สุดของการทำสีผมก็คือผมแห้งขาดนั่นเอง
  • จะเลือกย้อมหรือเปลี่ยนสีผมด้วยวิธีไหน ต้องพิจารณาจากสภาพผมเป็นหลัก ถ้าผมแห้งเสียอยู่แล้ว ต้องดูดีๆ ว่าทำสีเพิ่มแล้วไม่ทำให้ผมเสียหนักกว่าเดิม ถ้าผมแข็งแรงสุขภาพดี ก็ต้องระวังอย่าให้ผมเสียหลังทำสีหรือล้างสี
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 24,287 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา