ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถ้าคุณดองรูปไว้ใน iPhone เต็มไปหมด คงถึงเวลา backup ไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ ทวงคืนพื้นที่ว่างได้แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่เคยย้ายไฟล์รูปออกจากมือถือเข้าเครื่อง Mac เลย คงมึนตึ้บว่าต้องทำยังไงบ้าง วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการต่างๆ ในการ import หรือนำเข้า รูปถ่ายของคุณให้เอง มีทั้งแบบย้ายไฟล์ทีละน้อย ไปจนถึงรวดเดียวหมดเลย
ขั้นตอน
-
เชื่อมต่อ iPhone กับ Mac. เสียบสายชาร์จของ iPhone ที่พอร์ทชาร์จ iPhone แล้วเสียบด้าน USB ที่หนึ่งในพอร์ท USB ว่างของคอม [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเชื่อมต่อมือถือกับเครื่อง Mac ไม่สำเร็จ อาจจะเป็นที่สาย ให้ลองเปลี่ยนสาย แล้วดูว่าช่วยได้ไหม
-
เปิดแอพ Photos. คลิกไอคอนรูปดอกไม้หลากสี ใน Dock ของ Mac [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางทีเชื่อมต่อ iPhone แล้ว แอพ Photos ก็เปิดอัตโนมัติ แบบนั้นก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
-
เลือก iPhone ของคุณ. คลิกชื่อ iPhone ตัวเอง ในคอลัมน์ทางซ้ายของหน้าต่าง เพื่อเลือก iPhone เครื่องนั้น ปกติจะอยู่ในหัวข้อ "Devices" [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้า iPhone เครื่องที่ต้องการ ไม่โผล่มาในหัวข้อ "Devices" ทางซ้าย ให้เช็คก่อนว่า iPhone ไม่ได้ล็อคหน้าจออยู่
- ถ้า iPhone ให้ยืนยันความปลอดภัย (trust) คอมพิวเตอร์เครื่องที่ใช้ ก็เลือก Trust เพื่ออนุญาตการเข้าถึงรูปได้เลย
-
เลือกรูปที่จะดาวน์โหลด. คลิกเลือกแต่ละรูปและ/หรือวิดีโอ ที่จะ import เข้าเครื่อง Mac [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าจะ import รูปทั้งหมดที่ไม่ได้มีใน Mac อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
-
คลิก Import Selected . มุมขวาบนของหน้าต่าง ปุ่มสีเทานี้จะแสดงจำนวนรูปทั้งหมดที่คุณเลือกไว้ด้วย (เช่น Import 34 Selected ) [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าจะ import รูปใหม่ทั้งหมดจากใน iPhone ให้คลิกปุ่ม Import All New Photos สีฟ้าแทน
-
รอจน import รูปเสร็จ. พอ import รูปใน iPhone ลง Mac แล้ว ก็คลิกหัวข้อ My Albums ทางซ้ายของหน้าต่าง เพื่อดูรูปได้เลย [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เปิดใช้ AirDrop ในเครื่อง Mac. โดยเปิด Finder คลิก AirDrop ทางซ้ายของหน้าต่าง Finder คลิกลิงค์ Allow me to be discovered by แล้วคลิก Everyone ในเมนูที่ขยายลงมา [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้ามีปุ่ม Turn On Bluetooth กลางหน้าต่าง AirDrop ตอนเปิดมา ให้คลิกเพื่อเปิด Bluetooth ใน Mac
-
แตะ Select . มุมขวาบนของหน้าจอ เพื่อเปิดเมนู pop-up สำหรับแชร์รูปผ่านอีเมล SMS และ airdrop [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เลือกรูปที่จะย้ายไฟล์. แตะเลือกแต่ละรูปที่จะย้ายไปเครื่อง Mac จะเห็นไอคอนติ๊กถูกสีฟ้าขาว โผล่มาที่มุมของแต่ละรูปที่เลือกไว้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แตะไอคอน "AirDrop" . ที่เป็นรูปวงกลมซ้อนกันหลายๆ วง เหมือนเป้ายิง ทางด้านบนของเมนู "Share" เพื่อเปิด Bluetooth และ Wi-Fi ใน iPhone (ถ้าตอนแรกปิดอยู่) จากนั้นชื่อของเครื่อง Mac จะโผล่มา [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แตะชื่อเครื่อง Mac. ในเมนู AirDrop แล้ว iPhone จะส่งข้อความขอ Airdrop ไปยัง Mac เครื่องนั้นโดยอัตโนมัติ พร้อมรูปที่แนบไป [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พยายามยืนใกล้เครื่อง Mac ชื่อเครื่องจะได้โผล่มาให้เลือก
-
รับไฟล์เพื่อเซฟลง Mac. ที่ด้านขวาบนของหน้าจอ จะมีแจ้งเตือนว่ามีคนขอส่งข้อความผ่าน Airdrop ให้คลิก Accept เพื่อดาวน์โหลดรูป รูปจะไปอยู่ในโฟลเดอร์ “Downloads” [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ย้ำว่าต้องเปิด Wi-Fi และ Bluetooth ไว้ ทั้งใน iPhone และ Mac
โฆษณา
-
เช็คก่อนว่ามีพื้นที่พอ. วิธีการนี้จะอัพโหลดรูปทั้งหมดลง iCloud หลังจากนั้นคุณก็ดาวน์โหลดลงคอมที่ต่อเน็ตไว้ได้เลย แต่พื้นที่เก็บข้อมูลใน iCloud ต้องเยอะกว่าขนาดไฟล์รูปทั้งหมด ปกติ iCloud จะมีพื้นที่เก็บข้อมูลให้ฟรี 5 GB แต่ถ้าไฟล์รูปเยอะกว่านั้น ก็ต้องอัพเกรด เพิ่มพื้นที่ก่อน ถึงจะเก็บรูปได้ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เปิด Settings ของ iPhone. แตะไอคอนแอพ Settings ที่เป็นฟันเฟืองหลายๆ อันบนพื้นเทา [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แตะ Apple ID ตัวเอง. ด้านบนของหน้า Settings
- ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน ให้แตะ Sign in to iPhone พิมพ์ Apple ID กับรหัสผ่าน แล้วแตะ Sign In
-
แตะสวิตช์ "iCloud Photo Library" สีขาว . สวิตช์จะกลายเป็นสีเขียว รูปใน iPhone จะเริ่มอัพโหลดเข้า iCloud
- เวลาที่ใช้ในการอัพโหลด จะต่างกันออกไปตามจำนวนรูป แนะนำให้ชาร์จ iPhone ให้เต็ม (หรือเสียบชาร์จไว้) และอย่าลืม เชื่อมต่อ Wi-Fi ด้วย
- ถ้าอยากให้มีที่ว่างเหลือใน iPhone ให้แตะ Optimize iPhone Storage ตอนที่ขึ้น
- ถ้าอยากอัพโหลดรูปใหม่ๆ ในอนาคต เข้า iCloud อัตโนมัติ ให้แตะสวิตช์ "My Photo Stream" สีขาวที่หน้านี้ด้วย
-
เปิดเมนู Apple ของ Mac . คลิกโลโก้ Apple มุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คลิก System Preferences… . ทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง System Preferences [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คลิก Options . ทางขวาของหัวข้อ "Photos" ทางด้านบนของหน้า แล้วหน้าต่างใหม่จะโผล่มา [22] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เปิดใช้ Photos syncing. ติ๊กทั้งช่อง "iCloud Photo Library" และช่อง "My Photo Stream" เพื่อให้แน่ใจว่ารูปใน iPhone จะไปอยู่ใน Mac ด้วยเสมอ
-
คลิก Done . ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อเซฟค่าใหม่ เท่านี้ก็ดูรูปใน iPhone ผ่านแอพ Photos ได้แล้ว แต่อาจจะต้องรอหน่อย กว่ารูปจะขึ้น [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ต่อไปพอถ่ายรูป ก็จะจัดเก็บอัตโนมัติไว้ทั้งใน iPhone และ Mac แก้ไขอะไรไป ก็มีผลในทั้ง 2 ที่
โฆษณา
-
เชื่อมต่อ iPhone กับ Mac โดยใช้สาย USB. iPhone ต้องปลดล็อคหน้าจอไว้ ถ้า iPhone ให้ยืนยันความปลอดภัย (trust) ของคอม ก็คลิก Trust ไป เพื่ออนุญาตให้เข้าถึงรูปได้ [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเคย trust คอมเครื่องนี้ไปแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ต้อง trust อีกรอบ
-
เปิดแอพ Image Capture ใน Mac. จะใช้ Launch Pad หรือค้นหาใน Folders ก็ได้ ไอคอนจะเป็นรูป webcam เล็กๆ [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้ Image Capture แล้วเลือกได้ ว่าจะดาวน์โหลดรูปไว้ที่ไหน ไม่ได้เซฟลงโฟลเดอร์ Pictures โดยอัตโนมัติ คุณส่งรูปไปไว้ที่ไหนใน Mac ก็ได้
-
เลือก iPhone จากในรายชื่ออุปกรณ์ (Devices list). จะอยู่ทางซ้ายของหน้าจอ ให้คลิกชื่อ iPhone ตัวเอง เพื่อเลือกใช้ [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คลิกเมนู pop-up Import To . พอเลือก iPhone แล้ว จะมีหน้าต่าง pop-up โผล่มาถามว่าจะเซฟรูปที่ไหน ให้คลิกช่องนี้เพื่อเลือกตำแหน่งเซฟรูป [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าไม่มีกรอบนี้ ให้ลองเลือก iPhone จากในเมนู devices ใหม่อีกรอบ
-
เลือกตำแหน่งเซฟรูป. จะเซฟรูปไว้ใน Downloads ในโฟลเดอร์ที่มี หรือสร้างโฟลเดอร์ใหม่เลยก็ได้ ให้สำรวจพื้นที่ในคอม พิจารณาว่าเซฟไว้ตรงไหนสะดวกที่สุดสำหรับคุณ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณเลือกแอพที่จะใช้เปิดรูปได้ด้วย หลังดาวน์โหลดเสร็จ
-
เลือกรูป แล้วคลิก Import . คลิกเลือกแต่ละรูป แล้วคลิก Import ถ้าจะ import รูปทั้งหมด ให้เลือก Import All [29] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พอ import รูปแล้ว ก็ลบไปจาก iPhone เพื่อทวงคืนพื้นที่ว่างได้เลย
โฆษณา
-
เปิด Settings ของ iPhone แล้วเลือก Photos . แอพ Settings จะเป็นรูปฟันเฟืองสีเทา บนพื้นหลังสีเดียวกัน แตะแอพนี้แล้ว ให้ไปที่หัวข้อ Photos [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หรือจะค้นหาหัวข้อ Photos ในแถบค้นหา ด้านบนของแอพ Settings ก็ได้
-
เปิด Upload to My Photo Stream . เลื่อนสวิตช์นี้เพื่อเปิดใช้ My Photo Stream ถ้าเปิดอยู่แล้วแต่แรก ก็ปล่อยให้ “on” ไว้แบบนั้น [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- My Photo Stream จะแชร์รูปล่าสุดของคุณ กับทุกอุปกรณ์ iOS โดยอัตโนมัติ รูปจะไปขึ้นในหัวข้อ “Albums” ของแอพ Photos ใน iPhone
-
คลิก Photos > Preferences > iCloud . จะเห็น Photos and iCloud settings ใช้ปรับแต่ง Photo preferences ตามสะดวก คุณอาจจะเคยผ่านขั้นตอนนี้มาแล้ว ตอนเข้า iCloud settings [33] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ติ๊กช่องข้าง My Photo Stream . เพื่อเปิด My Photo Stream ให้เข้าถึงได้ใน Mac เท่านี้รูปใหม่ๆ ใน iPhone ของคุณ (ภายใน 30 วันที่ผ่านมา) ก็จะไปโผล่ในเครื่อง Mac ด้วย [34] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าตอนหลังจะปิดฟีเจอร์นี้ ก็ทำได้ทั้งใน iPhone และเครื่อง Mac
-
คลิกขวาที่รูป แล้วเลือก Save . ในหัวข้อ My Photo Stream ของ Photos ให้คลิกขวาที่รูปที่จะเก็บไว้ในคอม แล้วเลือก Save เพื่อดาวน์โหลดไว้ในแอพ Photos [35] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าไม่เซฟรูปลง Mac รูปจะหายไปจากคอมหลังครบ 30 วัน แต่จะยังเซฟอยู่ใน iPhone
โฆษณา
-
เปิดแอพ Photos ใน iPhone แล้วคลิกรูป. แอพ Photos จะเป็นรูปดอกไม้สีรุ้งบนพื้นขาว ให้แตะแอพนี้ แล้วเลือกรูปที่จะแชร์ [36] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การแชร์รูปผ่านอีเมลจะสะดวกเฉพาะกรณีที่มีแค่ 1 - 2 รูปเท่านั้น
-
คลิกไอคอน share ด้านซ้ายล่าง. จะเป็นลูกศรสีฟ้า ทางด้านล่างของหน้าจอ คลิกแล้วเมนูที่มี 2 - 3 ช่องทางการแชร์จะโผล่มา [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าจะเลือกรูปที่จะแชร์เพิ่มเติม ก็เลื่อนไปทางขวาหรือซ้ายของรูป แล้วแตะเลือกแต่ละรูปได้เลย
-
แตะไอคอน Mail. ที่เป็นสี่เหลี่ยมสีฟ้า มีซองสีขาวตรงกลาง แล้วอีเมลใหม่ว่างๆ จะโผล่มา โดยที่มีไฟล์รูป (เดียว หรือหลายรูป) ของคุณ แนบอยู่ด้านล่าง [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณส่งรูปทางอีเมลได้ไม่เกินครั้งละ 5 รูป
-
กรอกอีเมลตัวเอง แล้วกด send. คุณส่งรูปไปที่เครื่อง Mac โดยตรงของคุณได้ แค่กรอกอีเมลตัวเอง เสร็จแล้วคลิก Send มุมขวาบน [39] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หลังจากนี้ก็ไปเช็คอีเมลใน Mac แล้วดาวน์โหลดรูปจากอีเมลได้เลย
- ถ้าจะส่งรูปไปให้เพื่อนฝูง ครอบครัว ก็แค่เปลี่ยนจากอีเมลตัวเองเป็นอีเมลเขา
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ไฟล์รูปกินพื้นที่เป็นพิเศษ ถ้าเครื่อง Mac ของคุณมีพื้นที่จำกัด แนะนำให้ใช้ iCloud เก็บรูปแทน หรือใช้ Image Capture ย้ายไฟล์รูปไปยัง external hard drive โดยเลือก Other... ในเมนู
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201302
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201302
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201302
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201302
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201302
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201302
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT203106
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT203106
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204144
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204144
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204144
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204144
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204144
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT203106
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT204264
- ↑ https://support.apple.com/guide/image-capture/transfer-images-imgcp1003/mac
- ↑ https://support.apple.com/guide/image-capture/transfer-images-imgcp1003/mac
- ↑ https://support.apple.com/guide/image-capture/transfer-images-imgcp1003/mac
- ↑ https://support.apple.com/guide/image-capture/transfer-images-imgcp1003/mac
- ↑ https://support.apple.com/guide/image-capture/transfer-images-imgcp1003/mac
- ↑ https://support.apple.com/guide/image-capture/transfer-images-imgcp1003/mac
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201317
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201317
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201317
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201317
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201317
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT201317
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT209462
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT209462
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT209462
- ↑ https://support.apple.com/en-us/HT209462
โฆษณา