ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

นักวิชาการศึกษาเรียนรู้การวางกฎระเบียบในห้องเรียนผ่านทางการเตรียมตัวการศึกษาและจากการทำงาน คุณครูที่ดีปรับเปลี่ยนเทคนิคพื้นฐานเพื่อหาวิธีที่น่าจะได้ผลมากที่สุดในห้องเรียน สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับประเภทของนักเรียน ชั้นเรียนและประสบการณ์ การหากฎระเบียบที่ดีที่สุดอาจจะต้องใช้เวลาแต่คุณครูที่ดีมักจะมองหาวิธีใหม่ๆ ในการสื่อสารกับนักเรียนเพื่อหาบรรยากาศการเรียนที่สนุกและปลอดภัย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

การทำงานกับชั้นเรียนระดับประถมศึกษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นึกถึงกฎเกณฑ์ที่จะทำให้ชั้นเรียนมีบรรยากาศการเรียนที่สนุกและปลอดภัย ออกแบบกฎเกณฑ์เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ กฎเกณฑ์เหล่านี้จะแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับอายุของนักเรียนและประเภทของฉันเรียนที่คุณกำลังสอน กฎเกณฑ์ที่เรียบง่าย ได้แก่:
    • ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ
    • ดูแลตัวเอง
    • ดูแลทรัพย์สินของห้องเรียน
    • ยกมือขึ้นเพื่อพูดหรือเรียกใครบางคน
  2. วิธีนี้จะทำให้นักเรียนจดจำกฎเกณฑ์ได้ง่ายขึ้น กฎเกณฑ์เหล่านี้จะแนะแนวพฤติกรรมในหลากหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องระบุกฎเกณฑ์สำหรับทุกสถานการณ์ [1]
  3. ใช้เวลาในวันแรกของการเรียนเพื่อพูดถึงกฎเกณฑ์ของชั้นเรียน อธิบายกฎเกณฑ์แต่ละข้อ ให้ตัวอย่างของการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง
  4. บอกนักเรียนเกี่ยวกับผลของการไม่ทำตามกฎเกณฑ์ สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นเป็นขั้นตอน เช่น ตักเตือน อยู่หลังเลิกเรียน ทำโทษและพบคุณครูใหญ่ เป็นต้น
    • คุณสามารถใช้เวลานอกหรือพักเบรคสำหรับนักเรียนที่อายุน้อยมาก คุณต้องพานักเรียนที่ก่อปัญหาออกนอกชั้นเรียนสัก 2-3 นาทีเพื่อดึงความสนใจกลับมา จากนั้นจึงสามารถกลับมานั่งในห้องเรียนได้ [2]
  5. ทำโปสเตอร์ที่ระบุกฎเกณฑ์และแขวนไว้ในห้องเรียน เขียนกฎเกณฑ์เหล่านี้ในแบบที่เป็นบวก เช่น แทนที่จะพูดว่า “อย่าผลักนักเรียนคนอื่น” คุณสามารถพูดว่า “ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ” [3]
  6. ขอให้นักเรียนตกลงกับคุณเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ พวกเขาสามารถเซ็นชื่อลงแบบฟอร์มหรือแค่ยกมือ ในการทำเช่นนั้นพวกเขาสัญญาที่จะทำตามกฎเกณฑ์ [4]
    • อีกหนึ่งวิธีในการทำให้นักเรียนเคารพกฎเกณฑ์คือทำให้นักเรียนเป็นเจ้าของกฎเกณฑ์ ขอให้พวกเขาลงความเห็นในการจัดตั้งกฎเกณฑ์สำหรับชั้นเรียน [5]
    • ใช้เวลาพูดถึงกฎเกณฑ์และทบทวนกับนักเรียน
  7. การใช้ภาษามือ ภาษากายและวิธีอื่นๆ อาจจะมีประโยชน์ในการดึงดูดความสนใจของนักเรียน เช่น คุณสามารถปิดไฟและเปิดไฟเมื่อถึงเวลาจบกิจกรรม [6]
    • ภาษามือใช้ได้ผลดีโดยเฉพาะกับนักเรียนชั้นประถมศึกษา การเปลี่ยนแปลงอวัจนภาษาบ่อยๆ จะทำให้นักเรียนไม่รู้สึกเบื่อ [7]
  8. หาตัวอย่างนักเรียนที่ประพฤติดีโดยทำให้นักเรียนรู้ตัวเมื่อพวกเขาทำถูกกฎ พวกเขาจะรู้ว่าต้องประพฤติตัวเป็นตัวอย่างได้อย่างไรโดยการทำให้นักเรียนเห็นว่าพฤติกรรมที่ดีนั้นเป็นเช่นไร [8]
    • คุณต้องชมเชยนักเรียนหลากหลายคน อย่ามัวแต่ชมเชยนักเรียนคนเดิม
  9. ถ้าหากมีการทำผิดกฎเกณฑ์ในระดับประถมศึกษา คุณควรติดต่อผู้ปกครองของเด็ก ลองทำสิ่งนี้ก่อนที่ปัญหาจะร้ายแรงขึ้น การจัดการในช่วงต้นสามารถทำให้เด็กเลิกพฤติกรรมที่มีปัญหาได้
  10. บังคับใช้การสื่อสารที่เป็นบวกโดยให้วิธีกับนักเรียนเพื่อรับมือกับความขัดแย้งและการสื่อสารที่ผิดพลาด การให้วิธีการสื่อสารนี้สามารถช่วยลดการทำผิดกฎเกณฑ์ได้
    • เช่น พูดถึงวิธีที่นักเรียนควรใช้เพื่อขออนุญาตนักเรียนคนอื่นในการทำบางสิ่งบางอย่าง นักเรียนควรมองไปยังนักเรียนอีกคน รอจนกว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจฟังแล้วจึงขออย่างสุภาพ
    • บอกวิธีการให้กับนักเรียนถ้าหากพวกเขาไม่เห็นด้วยกับเพื่อน เช่น ให้นักเรียนมองหน้ากันอย่างสงบและพูดว่า “ฉันเข้าใจว่าเธอรู้สึกยังไง” จากนั้นนักเรียนสามารถอธิบายความคิดเห็นอย่างสงบ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

การรับมือกับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. CHAMPS คือวิธีในการระบุว่าคุณคาดหวังให้นักเรียนประพฤติตัวอย่างไรในชั้นเรียน วิธีนี้ได้ผลดีในหลายๆ สถานการณ์และเป้าหมายการเรียนรู้ ใช้ประเด็นเหล่านี้เป็นตัวชี้แนะการออกแบบว่านักเรียนจะทำกิจกรรมเสร็จสิ้นได้ด้วยพฤติกรรมที่ดีและความสำเร็จอย่างไร: [9]
    • C – Conversation (บทสนทนา): นักเรียนสามารถพูดคุยระหว่างทำกิจกรรมได้หรือไม่? กับใคร? เกี่ยวกับอะไร?
    • H – Help (ความช่วยเหลือ): นักเรียนจะเรียกร้องความสนใจของคุณได้อย่างไรเมื่อต้องการความช่วยเหลือ?
    • A – Activity (กิจกรรม): จุดประสงค์ของกิจกรรมนี้คืออะไร?
    • M – Movement (การเคลื่อนไหว): นักเรียนสามารถลุกจากที่นั่งระหว่างทำกิจกรรมได้หรือไม่?
    • P – Participation (การมีส่วนร่วม): นักเรียนจะแสดงการมีส่วนร่วมได้อย่างไร?
    • S – Success (ความสำเร็จ): ถ้าหากนักเรียนทำตามความคาดหวังของแบบ CHAMPS แล้ว พวกเขาน่าจะประสบความสำเร็จกับกิจกรรมและมีพฤติกรรมที่ดี
  2. นักเรียนต้องรู้ว่าควรคาดหวังอะไรในห้องเรียน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจะรู้สึกยินดีที่ได้รู้ความคาดหวังและขอบเขตของคุณ คุณต้องทำตามกิจวัตร รักษาโครงสร้างของชั้นเรียนเพื่อให้นักเรียนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น [10]
  3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมักจะเสียสมาธิได้ง่าย คุณต้องสลับสับเปลี่ยนกิจวัตรกับกิจกรรมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวและคาดไม่ถึง พวกเขาชอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่งซึ่งคาดไม่ถึง [11]
  4. นักเรียนของคุณอยากรู้เกี่ยวกับคุณและอยากฟังเรื่องราวของชีวิตคุณ อย่าเล่าให้นักเรียนฟังทุกอย่างแต่อ้างอิงเรื่องราวจากตัวเองเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมนุษย์ที่นักเรียนสามารถของเกี่ยวด้วยได้ คุณต้องทำความรู้จักนักเรียนเช่นกัน ถ้าหากพวกเขารู้สึกว่าคุณใส่ใจกับความสนใจของพวกเขา พวกเขาก็จะเคารพคุณและประพฤติตัวอย่างเหมาะสม [12]
  5. ทำทุกวันให้เป็นโอกาสใหม่ของความสำเร็จในชั้นเรียน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นอาจจะมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่ายและความใจเย็นกับความคิดบวกจะทำให้งานของคุณรู้สึกดีมากขึ้น
  6. เมื่อคุณพูดด้วยน้ำเสียงปกติ นักเรียนจะโต้ตอบด้วยการพูดด้วยน้ำเสียงปกติที่ไม่ดังหรือค่อยเกินไป ถ้าหากชั้นเรียนเสียงดังก็อย่าโต้ตอบด้วยการขึ้นเสียง คุณต้องเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงปกติเพื่อที่นักเรียนจะเงียบและฟังคุณหรือคุณอาจจะรอจนกว่านักเรียนเงียบแล้วค่อยพูด [13]
  7. จัดที่นั่งใหม่ๆ ให้กับนักเรียนทุกเดือน วิธีนี้จะทำให้นั่งสลับคู่กันและสามารถช่วยกำจัดปัญหาทางพฤติกรรม วางป้ายชื่อบนโต๊ะที่จัดให้ [14]
  8. การมีห้องเรียนที่เป็นระเบียบสามารถช่วยให้นักเรียนทำตัวมีระเบียบมากขึ้น ถ้าหากห้องเรียนรกหรือไม่เป็นระเบียบ นักเรียนก็อาจจะไม่เชื่อถือคุณ [15]
  9. การพูดถึงเรื่องกฎระเบียบของห้องเรียนทำให้นักเรียนเบื่อหน่ายได้ง่ายที่สุด ถ้าหากบทเรียนของคุณไม่ชัดเจน ไม่เป็นระเบียบหรือไม่น่าสนใจมากพอสำหรับนักเรียน นักเรียนก็อาจจะไม่สนใจ ทำให้นักเรียนสนใจและจดจ่อกับบทเรียนโดยการสอนบทเรียนที่กระตุ้นความสนใจ [16]
  10. เดินไปรอบห้องเรียนในขณะที่คุณสอนและเมื่อนักเรียนทำงานกลุ่มหรืองานเดี่ยว นักเรียนสามารถเห็นได้ว่าคุณใส่ใจในพัฒนาการของพวกเขา ให้คำใบ้กับนักเรียนเสมือนว่าพวกเขากำลังแก้ปัญหา [17] , [18]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

การรักษากฎระเบียบของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่านักเรียนของคุณจะอายุเท่าไหร่แต่คุณต้องปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพ นักเรียนของคุณจะปฏิบัติต่อคุณด้วยความเคารพเช่นกัน
  2. แสดงความสนใจในตัวนักเรียนโดยการทำความรู้จักพวกเขา คุณต้องรู้ชื่อของพวกเขา หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขาด้วยการถามคำถาม
    • อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าคุณไม่ควรเป็นเพื่อนสนิทของนักเรียน คุณจำเป็นต้องรักษาระยะห่างเพื่อคงอำนาจในห้องเรียนของคุณ ไม่เช่นนั้นนักเรียนอาจจะขอความช่วยเหลือพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำผิดกฎ [19]
  3. เมื่อนักเรียนของคุณสนใจในบทเรียน พวกเขาจะมีความรับผิดชอบในห้องเรียนมากขึ้น วางแผนบทเรียนที่น่าสนใจและหากิจกรรมที่สนุกเพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วม [20]
    • เช่น ทำโพลลงความเห็นในห้องเรียนเพื่อดูว่านักเรียนรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
  4. ถึงแม้ว่านักเรียนเหล่านี้เป็นวัยรุ่นแต่พวกเขายังต้องพัฒนาทักษะด้านสังคมและอารมณ์ ช่วยนักเรียนแก้ปัญหาที่มีกับเพื่อนและเพื่อนร่วมห้อง [21]
    • เช่น ถ้าหากนักเรียนประพฤติตัวไม่ดีหรือทำให้นักเรียนอีกคนเสียใจ คุณต้องช่วยนักเรียนหาวิธีการเยียวยาซึ่งจะเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่มีความหมาย
  5. ปฏิบัติต่อนักเรียนทุกคนเท่าเทียมกัน ถึงแม้ว่าคุณอาจจะมีนักเรียนคนโปรดแต่คุณต้องใช่มาตรฐานของกฎเกณฑ์เกี่ยวกันกับนักเรียนทุกคน
  6. ทำทุกวันให้เป็นโอกาสใหม่สำหรับความสำเร็จในห้องเรียน อย่ามองนักเรียนในแง่ร้าย
  7. เดินไปรอบห้องเรียนในขณะที่คุณสอนและเมื่อนักเรียนทำงานกลุ่มหรืองานเดี่ยว นักเรียนสามารถเห็นได้ว่าคุณใส่ใจในพัฒนาการของพวกเขา ให้คำใบ้กับนักเรียนเสมือนว่าพวกเขากำลังแก้ปัญหา [22] , [23]
  8. ถ้าคุณจำเป็นต้องคุยกับนักเรียนเรื่องกฎเกณฑ์ก็อย่าทำให้นักเรียนต้องอับอาย เรียกนักเรียนมาคุยเป็นการส่วนตัวหรือคุยกับนักเรียนนอกห้อง อย่าใช้โอกาสเป็นช่วงเวลาเพื่อทำให้นักเรียนอับอายต่อหน้าคนอื่น [24]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

การจัดการชั้นเรียนระดับมหาวิทยาลัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ห้องเรียนระดับมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยนักเรียนผู้ใหญ่ที่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าต้องประพฤติตัวอย่างไร อย่างไรก็ตาม คุณควรทำกฎเกณฑ์ของวิชาเรียนให้ชัดเจน
    • เช่น คุณอาจจะใส่กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมพูดคุยในห้องเรียน สิ่งนี้อาจจะรวมไปถึงการพูดกับเพื่อนร่วมห้องด้วยความเคารพและไม่โจมตีเป็นการส่วนตัว
    • พิจารณาการใส่นโยบายเกี่ยวกับความไม่ซื่อสัตย์ในห้องเรียน การใช้เทคโนโลยี การส่งรายงาน เป็นต้น
    • ตรวจสอบกับสถาบันเพื่อขอคำกล่าวนโยบายของมหาวิทยาลัยที่เหมาะสม
  2. จัดระเบียบตั้งแต่วันแรกด้วยความคาดหวังของคุณต่อชั้นเรียน ยกตัวอย่างว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้มีผลบังคับใช้อย่างไรและคุณจะวางรากฐานสำหรับบทลงโทษอย่างไร
  3. ถ้าหากคุณต้องการให้นักเรียนเชื่อถือคุณ คุณจะต้องดูและวางตัวเป็นมืออาชีพ การทำตัวดูสบายเกินไปอาจจะทำให้นักเรียนไม่เชื่อถือในอำนาจ
    • ถึงแม้ว่าคุณควรวางตัวเป็นมืออาชีพแต่คุณต้องทำตัวให้น่าเข้าหา คุณสามารถเปิดเผยบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองซึ่งจะทำให้คุณดูเป็นปุถุชนคนหนึ่งเพื่อให้นักเรียนเข้าใจว่าคุณคิดอย่างไร [25]
  4. บ่อยครั้งที่ห้องเรียนในมหาวิทยาลัยคือกลุ่มของนักเรียนที่ไร้ชื่อ สิ่งนี้สร้างและรักษาระยะห่างระหว่างนักเรียนกับคุณครูผู้สอนซึ่งสามารถทำให้นักเรียนรู้สึกแตกต่าง ถ้าหากคุณรู้จักชื่อของนักเรียน สามารถสร้างบรรยากาศการเรียนซึ่งนักเรียนรู้สึกสนใจ
  5. ถ้าหากนักเรียนก่อปัญหาโดยการมาเรียนสายซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณต้องหาเหตุผลให้กับสิ่งนี้ เรียกนักเรียนมาคุยเป็นการส่วนตัวเมื่อสอนจบหรือคุยกับนักเรียนระหว่างชั่วโมงทำงาน มันอาจจะเป็นเพราะนักเรียนต้องเดินทางจากสถานที่ทำงานในโรงเรียนและไม่สามารถมาเรียนได้ทันเวลา ซึ่งถ้าเป็นในกรณีนี้ คุณอาจจะสามารถให้ข้อยกเว้นพิเศษหรือแนะนำให้นักเรียนโรงเรียนวิชาที่แตกต่างกันเพื่อให้สอดคล้องกับตารางเวลา [26]
  6. ถ้าหากคุณประสบกับปัญหาเรื่องกฎเกณฑ์ คุณต้องจดบันทึกทุกขั้นตอนที่คุณได้ลงมือทำ คุยกับผู้บริหารหรือหัวหน้าเกี่ยวกับขั้นตอนที่เหมาะสมของการจัดการกับปัญหาเรื่องกฎเกณฑ์
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

การจัดการกับความขัดแย้งในห้องเรียน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กระทรวงศึกษาธิการได้สร้างระบบ LEAST เพื่อให้คุณครูมีวิธีจัดการกับความขัดแย้งในห้องเรียน เริ่มด้วยขั้นตอนแรกและทำขั้นตอนต่อไปหากจำเป็น ทำตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อจัดการกับความขัดแย้งในห้องเรียน [27]
    • L : Leave it alone (ปล่อยไว้เฉยๆ) ถ้าหากปัญหาในห้องเรียนเป็นปัญหาเล็กและมักจะไม่เกิดขึ้นก็ควรปล่อยมันไว้เฉยๆ
    • E : End the action indirectly (หยุดการกระทำนี้โดยทางอ้อม) เมื่อนักเรียนก่อปัญหาในห้องเรียน คุณต้องทำให้เขารู้ว่าคุณจับตาดูการกระทำของเขา ให้สัญญาณที่เป็นอวัจนภาษา เช่น เลิกคิ้ว โบกมือหรือเดินไปหานักเรียน
    • A : Attend more fully (ใส่ใจมากขึ้น) ขอให้นักเรียนเล่าถึงปัญหาให้คุณฟัง ถามว่าเกิดอะไรขึ้นและมีใครเกี่ยวข้องบ้าง
    • S : Spell out directions (ย้ำเตือนแนวทาง) ย้ำเตือนให้นักเรียนรู้ถึงกฎเกณฑ์และบทลงโทษ วางแผนที่จะทำตามขั้นตอนหลังจากที่คุณได้เตือนนักเรียนแล้ว
    • T : Treat student progress (จดบันทึกพัฒนาการ) จดบันทึกปัญหา เขียนว่าเกิดอะไรขึ้น มีใครเกี่ยวข้อง ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อไหร่และการโต้ตอบของคุณเป็นอย่างไร
  2. การวางตัวสงบคือสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำในสถานการณ์ที่ขัดแย้ง อย่าแสดงอารมณ์ในแง่ลบหรืออารมณ์โกรธใส่นักเรียน คุณต้องสงบและมีสติ พูดด้วยน้ำเสียงปกติ
    • คุณควรสูดหายใจลึกๆ เพื่อทำให้ตัวเองสงบ [28]
  3. พานักเรียนคนที่มีปัญหาออกจากห้องเรียนเพื่อพูดถึงความขัดแย้ง วิธีนี้จะช่วยดึงนักเรียนออกจากสถานการณ์ทางกายภาพและยังช่วยดึงเขาออกจากกลุ่มเพื่อนซึ่งอาจเป็นคนที่คอยกระตุ้นให้เกิดปัญหา [29]
    • อย่าให้นักเรียนคนอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง
  4. คุณต้องวางตัวเป็นกลางกับนักเรียน ถ้าหากนักเรียนพยายามทำให้คุณทะเลาะกับเขาก็อย่าตกเป็นเหยื่อ คุณต้องวางตัวหนักแน่นและสงบนิ่ง [30]
    • ถ้าหากนักเรียนยังคงพยายามทะเลาะกับคุณ คุณสามารถพูดว่า “เดี๋ยวเราค่อยคุยกันหลังเลิกเรียน” คำพูดนี้จะช่วยหยุดความขัดแย้งได้ชั่วขณะ [31]
  5. ถ้าหากมีการทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นในห้องเรียน คุณต้องพูดถึงมันในช่วงคาบเรียนหน้า ถามนักเรียนว่าพวกเขาจะจัดการกับความขัดแย้งนี้อย่างไร ขอให้พวกเขานึกว่าจะสามารถทำความเข้าใจมุมมองที่ไม่เห็นด้วยได้อย่างไร [32]
    • วิธีนี้อาจได้ผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังพูดถึงปัญหาที่ละเอียดอ่อนในห้องเรียน ถ้าหากการโต้เถียงรุนแรงขึ้น คุณต้องขอให้นักเรียนใช้เวลาไตร่ตรองปัญหาอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงขอให้พวกเขาทบทวนว่าทําไมการโต้เถียงถึงได้รุนแรงขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

การจัดการกับนักเรียนที่โกรธแค้นในห้องเรียน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าหากนักเรียนคนหนึ่งโกรธแค้นอย่างรุนแรง สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือทำให้นักเรียนคนอื่นปลอดภัย [33]
    • ถ้าหากมีการกลั่นแกล้งเกิดขึ้นในห้องเรียน คุณต้องหาวิธีเพื่อหยุดการกลั่นแกล้ง
    • คุณอาจจะต้องเลิกสอนก่อนเวลาถ้าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น
  2. อย่าเข้าหานักเรียนจนกว่าเขาจะใจเย็นลง คุณต้องวางตัวให้สงบและอย่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
  3. การสัมผัสไหล่ของนักเรียนเพื่อทำให้เขาใจเย็นลงอาจจะเป็นการกระทำตามธรรมชาติแต่เมื่อใครบางคนกำลังโกรธอยู่ คุณไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขาจะโต้ตอบอย่างไร คุณต้องรักษาระยะห่างจากนักเรียนคนนั้นก่อน [34]
  4. ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นคุณต้องขอให้นักเรียนคนอื่นไปขอความช่วยเหลือ การมีคุณครูหรือผู้มีอำนาจอีกคนอยู่ด้วยสามารถทำให้สถานการณ์เย็นลงและคุณจะมีกำลังใจ [35]
  5. ถ้าหากมีเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาเกิดขึ้น เช่น นักเรียนที่อารมณ์รุนแรงหรือกำลังโกรธอย่างมาก คุณต้องจดบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้น เขียนสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นทันที ใส่รายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ชื่อของนักเรียนที่มีส่วนร่วม เป็นต้น
    • ทำสำเนาของบันทึกนี้ให้หัวหน้าและเก็บสำเนาไว้ในกรณีที่ผู้ปกครองต้องการอ่าน
  6. ถ้าหากสถานการณ์รุนแรง คุณหรือคุณครูใหญ่จะต้องติดต่อผู้ปกครองของนักเรียน เล่าให้พวกเขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น อย่าลงความเห็น พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เท่านั้น
  7. ใช้ความขัดแย้งนี้เป็นบทเรียน เวลานี้ยังเหมาะสมในการทำให้นักเรียนมั่นใจว่าทุกคนปลอดภัยในห้องเรียน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • รับรู้กฎเกณฑ์ของเรียนทำให้มั่นใจว่านโยบายและกฎเกณฑ์ของห้องเรียนสอดคล้องกับนโยบายและกฎเกณฑ์ของโรงเรียนสิ่งนี้รวมไปถึงบทลงโทษถ้าหากนักเรียนทำผิด
  • ถ้าหากคุณประสบปัญหาในการรักษากฎเกณฑ์ของห้องเรียน คุณต้องขอคำแนะนำสำหรับวิธีการที่ได้ผลจากคุณครูใหญ่หรือเพื่อนร่วมงาน
  • มีการอบรมและเวิร์คช๊อปในอินเตอร์เน็ตมากมายเกี่ยวกับการพัฒนากฎเกณฑ์ของห้องเรียน ถามคุณผู้ใหญ่หรือหัวหน้าว่าโรงเรียนสามารถออกค่าใช้จ่ายเพื่อให้คุณเข้าร่วมการอบรมหรือเวิร์คช๊อปเหล่านี้หรือไม่
โฆษณา

คำเตือน

  • เรียนรู้สิ่งที่ต้องทำในกรณีที่เกิดความขัดแย้งหรือการทำผิดกฎที่รุนแรงขึ้นโดยการอ่านวิธีการจัดการเพื่อป้องกันความรุนแรงในโรงเรียน
โฆษณา
  1. http://www.edutopia.org/blog/art-of-managing-middle-schoolers-ben-johnson
  2. http://www.edutopia.org/blog/art-of-managing-middle-schoolers-ben-johnson
  3. http://www.edutopia.org/blog/art-of-managing-middle-schoolers-ben-johnson
  4. http://www.edutopia.org/blog/classroom-management-tips-novice-teachers-rebecca-alber
  5. http://www.cccoe.net/social/classroommanagement.htm
  6. https://www.njea.org/teaching-and-learning/classroom-tools/classroom-management/discipline/12-ways-to-maintain-classroom-discipline
  7. http://www.edutopia.org/blog/classroom-management-tips-novice-teachers-rebecca-alber
  8. http://www.teachercertification.org/a/maintaining-a-positive-classroom-environment.html
  9. http://www.nea.org/assets/docs/HE/mf_classdisckansasnea.pdf
  10. http://www.edweek.org/tm/articles/2013/10/14/cm_barnwell.html
  11. http://www.edweek.org/tm/articles/2013/10/14/cm_barnwell.html
  12. http://www.edweek.org/tm/articles/2013/10/14/cm_barnwell.html
  13. http://www.teachercertification.org/a/maintaining-a-positive-classroom-environment.html
  14. http://www.nea.org/assets/docs/HE/mf_classdisckansasnea.pdf
  15. https://www.njea.org/teaching-and-learning/classroom-tools/classroom-management/discipline/12-ways-to-maintain-classroom-discipline
  16. http://www.facultyfocus.com/articles/effective-classroom-management/classroom-management-discipline-pitfalls-in-the-college-classroom/
  17. http://coerll.utexas.edu/methods/modules/classroom/01/discipline.php
  18. http://www.nea.org/assets/docs/HE/mf_classdisckansasnea.pdf
  19. http://isites.harvard.edu/fs/html/icb.topic58474/hotmoments.html
  20. http://www.edutopia.org/blog/classroom-management-tips-novice-teachers-rebecca-alber
  21. http://www.smartclassroommanagement.com/2011/04/23/7-rules-of-handling-difficult-students/
  22. http://ueatexas.com/classroom-tips/classroom-discipline/ideas-for-improving-discipline/
  23. http://isites.harvard.edu/fs/html/icb.topic58474/hotmoments.html
  24. http://www.smartclassroommanagement.com/2010/05/08/how-to-handle-an-angry-verbally-aggressive-student/
  25. http://www.nea.org/assets/docs/HE/mf_classdisckansasnea.pdf
  26. http://www.nea.org/assets/docs/HE/mf_classdisckansasnea.pdf

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,919 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา