ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ตุ่มหนอง ฝี หรือเนื้อร้าย นอกจากทำให้รู้สึกเจ็บยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียนไม่น่ามองอีกด้วย ตุ่มหนองไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และสามารถรักษาได้เองที่บ้าน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

รักษาตุ่มหนอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนจะเร่มทำการรักษา จำเป็นต้องมั่นใจก่อนว่ามันเป็นตุ่มหนองจริงๆ ตุ่มหนองนั้นเกิดจากการติดเชื้อในรูขุมขนจากเชื้อ Staphylococcus aureus พวกมันติดต่อได้และสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย หรือคนอื่นที่สัมผัสกับตุ่มหนองของคุณ [1]
    • ตุ่มหนองอาจถูกเข้าใจผิดเป็นซีสต์หรือมีซีสต์อยู่ข้างใต้ ซึ่งต้องรับการรักษาจากแพทย์
    • คุณอาจเข้าใจผิดว่ามันเป็นสิว โดยเฉพาะถ้ามันขึ้นที่หน้าหรือหลัง สิวต้องใช้วิธีการรักษาต่างจากตุ่มหนอง ฉะนั้นต้องแน่ใจว่ามันคืออะไรก่อน
    • ถ้าปัญหาเกิดขึ้นตรงอวัยวะเพศ มันเป็นไปได้ว่าคุณติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากกว่าจะเป็นตุ่มหนอง
    • ถาคุณไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรแน่ ไปพบแพทย์ดีกว่า
  2. เมื่อคุณสังเกตเห็นตุ่มหนองที่กำลังขึ้น คุณก็ควรประคบร้อนตรงจุดนั้นทันที ยิ่งคุณรักษามันเร็วเท่าไร ก็จะเกิดปัญหาน้อยลงตามไปด้วย คุณสามารถประคบร้อนได้ด้วยการเทน้ำร้อนใส่ผ้าเช็ดตัวจนเปียก บิดให้หมาด และประคบผ้าชื้นน้ำอุ่นๆ ตรงที่มีตุ่มหนองประมาณห้าถึงสิบนาที ทำซ้ำสามถึงสี่ครั้งต่อวัน
    • การประคบร้อนจะช่วยให้ตุ่มหนองหายเร็วขึ้น ความอุ่นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยให้แอนติบอดีและเซลล์เม็ดเลือดขาวไหลเวียนมายังบริเวณที่ติดเชื้อ ความร้อนยังช่วยให้น้ำหนองขึ้นมาที่ผิวหน้าของตุ่มหนองด้วย ซึ่งจะช่วยให้มันระบายออกเร็วขึ้น และท้ายที่สุด ความร้อนจะช่วยบรรเทาอาการปวด
    • แทนที่จะใช้วิธีการประคบร้อน หากผิวที่เป็นหนองอยู่ตรงส่วนของร่างกายที่สามารถจุ่มลงน้ำได้ คุณก็สามารถจุ่มตุ่มหนองลงในน้ำอุ่นได้ สำหรับตุ่มหนองที่อยู่ตรงส่วนล่างของร่างกาย ก็ให้ใช้วิธีนั่งแช่ในอ่างน้ำร้อน [2]
  3. แม้ว่าผิวส่วนที่เป็นตุ่มหนองจะอ่อนนุ่ม เต็มไปด้วยน้ำหนอง และทำให้คุณอยากจะบีบหรือเจาะมันด้วยเข็มเพื่อระบายน้ำหนองออกด้วยตัวเอง แต่วิธีนี้อาจจะทำให้ตุ่มหนองติดเชื้อ หรือทำให้แบคทีเรียในหนองกระจายไปยังส่วนอื่นจนเกิดตุ่มหนองตรงจุดอื่นอีก วิธีการประคบร้อนจะช่วยให้น้ำหนองระบายออกไปเองในเวลาประมาณสองสัปดาห์ [3]
  4. ล้างส่วนที่น้ำหนองแห้งแล้วด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย. เมื่อน้ำหนองเริ่มระบายออก คุณก็ควรดูแลผิวส่วนนั้นให้สะอาดอยู่เสมอ ล้างส่วนที่เป็นหนองให้ทั่วด้วยสบู่ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียกับน้ำอุ่นจนกว่าน้ำหนองจะหมดไป เมื่อล้างจนสะอาดแล้ว ให้ซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาดหรือกระดาษเช็ดมือซึ่งสามารถทิ้งได้ทันทีหลังใช้เสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย
  5. คุณควรทาครีมต้านเชื้อแบคทีเรีย หรือเจลตรงส่วนที่เป็นตุ่มหนอง และปิดด้วยผ้าก๊อซ ผ้าก๊อซจะช่วยให้หนองแห้งลง ซึ่งคุณควรเปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่บ่อยๆ ครีมต้านเชื้อแบคทีเรียและเจลที่ผลิตเพื่อรักษาหนองโดยเฉพาะสามารถหาซื้อไปทั่วไปตามร้านขายยาใกล้บ้าน [2]
  6. เมื่อตุ่มหนองแห้งแล้ว คุณก็ควรประคบร้อนต่อไป ทำความสะอาดและทำแผลเรื่อยๆ จนกว่าจะหายดี หากคุณหมั่นดูแลความสะอาดบริเวณนั้นอย่างดี ก็จะไม่มีปัญหาอื่นตามมา และตุ่มหนองจะหายดีในเวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์
    • ล้างมือด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียทั้งก่อนและหลังสัมผัสส่วนที่เป็นหนอง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
  7. ไปพบแพทย์หากหนองยังไม่แห้งในเวลาสองสัปดาห์ หรือเกิดการติดเชื้อ. ในบางกรณีจำเป็นจะต้องใช้ยาในการรักษาหนอง ขึ้นอยู่กับขนาด ส่วนที่ขึ้น หรือการติดเชื้อ แพทย์จะเจาะหนองออกด้วยตัวเองในห้องทำงานหรือห้องผ่าตัด ในกรณีนี้ตุ่มหนองอาจจะมีถุงน้ำหนองหลายจุดที่จะต้องระบายออก หรืออยู่ในส่วนที่เข้าถึงยาก เช่น รูจมูก หรือรูหู หากตุ่มหนองหรือผิวบริเวณรอบๆ เริ่มติดเชื้อ คุณอาจจะได้ยาฆ่าเชื้อหรือใบสั่งยาให้ไปซื้อยาด้วยตัวเอง อาการที่แสดงว่าคุณควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา ได้แก่:
    • เมื่อมีตุ่มหนองขึ้นที่ผิวหน้า บริเวณสันหลัง ในรูจมูก รูหู หรือในแก้มก้น ตุ่มหนองเหล่านี้จะทำให้รู้สึกเจ็บมากและยากที่จะรักษาเองที่บ้าน
    • เมื่อตุ่มหนองขึ้นใหม่ซ้ำๆ เป็นประจำ ในบางกรณี การรักษาตุ่มหนองที่เกิดขึ้นเป็นประจำตรงบริเวณเช่นขาหนีบหรือรักแร้ จำเป็นต้องนำต่อมเหงื่อที่มักจะอักเสบและทำให้เกิดตุ่มหนองออก
    • เมื่อมีอาการเป็นไข้ มีลายริ้วแดงออกมาจากส่วนที่เป็นหนอง หรือผิวอักเสบบวมแดงรอบๆ ตุ่มหนอง ซึ่งแสดงว่าตุ่มหนองติดเชื้อแล้ว
    • เมื่อคุณเป็นโรค (เช่น มะเร็ง หรือเบาหวาน) หรือทานยาที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนลง ในกรณีนี้ร่างกายอาจจะไม่สามารถจัดการกับการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุของตุ่มหนองได้เอง
    • เมื่อตุ่มหนองไม่แห้งภายในสองสัปดาห์หลังจากรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน หรือมีอาการเจ็บปวดที่ตุ่มหนองมาก [4]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ป้องกันการเกิดตุ่มหนอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าใช้ผ้าขนหนู เสื้อผ้า หรือเครื่องนอนร่วมกับคนที่เป็นหนอง. แม้ว่าตุ่มหนองจะไม่ใช่โรคติดต่อ แต่แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุสามารถแพร่กระจายได้ จึงควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนู เสื้อผ้า หรือเครื่องนอนร่วมกับสมาชิกครอบครัวที่เป็นหนอง และควรซักของเหล่านี้ให้สะอาดหลังจากคนที่เป็นหนองใช้เสร็จแล้ว [3]
  2. การรักษาสุขอนามัยให้ดีอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการเกิดตุ่มหนอง เนื่องจากตุ่มหนองมักจะเกิดจากแบคทีเรียที่ติดเชื้อในรูขุมขน คุณควรป้องกันการเกิดแบคทีเรียด้วยการอาบน้ำทำความสะอาดผิวทุกวัน คุณสามารถใช้สบู่ตามปกติได้ แต่ถ้าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นหนอง สบู่ที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
    • คุณสามารถใช้แปรงหรือฟองน้ำขัดผิว เช่น ใยบวบ ทำความสะอาดผิวได้ วิธีนี้จะช่วยขจัดความมันที่จะอุดตันรอบๆ รูขุมขน
  3. แบคทีเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายผ่านทางปากแผล มันสามารถแพร่ไปยังรูขุมขน ทำให้เกิดการติดเชื้อ และมีตุ่มหนองขึ้นได้ ดังนั้น คุณควรทำความสะอาดแผลและรอยถลอกให้สะอาดด้วยสบู่ ครีม หรือเจลที่ต้านเชื้อแบคทีเรีย ปิดแผลด้วยผ้าพันแผลจนกว่าจะหายดี
  4. ตุ่มหนองที่เกิดในแก้มก้นรู้จักกันในชื่อ “ถุงน้ำชนิด pilonidal cyst” ซึ่งเป็นผลจากแรงกดที่เกิดขึ้นเมื่อนั่งเป็นเวลานาน อาการนี้มักเป็นในหมู่คนขับรถบรรทุก และคนที่เดินทางด้วยเครื่องบินเป็นเวลานาน ถ้าเป็นไปได้ ให้พยายามลดแรงกดทับด้วยการพักเพื่อยืดเส้นยืดสายบ้าง [4]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

รักษาด้วยของใช้ในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พึงระลึกว่าการรักษาตุ่มหนองที่บ้านเองอาจไม่ได้ผล. แม้จะน่าลอง แต่ต้องจำใส่ใจว่าแพทย์ไม่แนะนำให้ทำเช่นนี้และมันอาจไม่ได้ผล แม้จะไม่อันตรายที่จะลองดู แต่ต้องเข้าใจว่าคุณก็ยังจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยยาอยู่ดี
  2. น้ำมัน Tea tree oil มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ และมักจะใช้ในการรักษาปัญหาผิวต่างๆ รวมถึงตุ่มหนองด้วย ใช้ก้านสำลีป้ายน้ำมันตรงที่เป็นตุ่มหนองวันละครั้ง
  3. ดีเกลือจะช่วยให้แผลแห้ง และทำให้หนองขึ้นมายังหัวตุ่มได้ ละลายดีเกลือในน้ำอุ่นและใช้น้ำที่ผสมแล้วในการประคบร้อนบริเวณที่มีตุ่มหนอง ทำซ้ำสามครั้งต่อวันจนกว่าหนองจะแห้ง [5]
  4. ขมิ้นคือเครื่องเทศจากอินเดียที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบได้ นอกจากนี้ยังช่วยล้างพิษในเลือดได้อีกด้วย คุณสามารถทานยาแคปซูลสกัดจากขมิ้น หรือผสมขมิ้นกับน้ำอุ่นเล็กน้อยและป้ายที่ตุ่มหนองก็ได้ ปิดตุ่มหนองให้ดีหลังจากป้ายยาแล้ว เพราะขมิ้นจะทำให้เกิดคราบบนเสื้อผ้าได้ [6]
  5. ครีมซิลเวอร์คอลลอยด์เป็นสารฆ่าเชื้อโรคจากธรรมชาติที่ใช้รักษาตุ่มหนองได้ เพียงแค่ทาครีมตรงตุ่มหนองเล็กน้อยสองครั้งต่อวัน
  6. น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลเป็นสารฆ่าเชื้อโรคจากธรรมชาติที่สามารถทำความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังจากที่หนองเริ่มจะแห้งได้ จุ่มก้อนสำลีลงในน้ำส้มสายชูและประคบที่ตุ่มหนอง หากคุณรู้สึกแสบมาก ให้เจือจางน้ำส้มสายชูลงครึ่งหนึ่งด้วยน้ำเปล่าก่อนใช้
  7. ลองใช้น้ำมันละหุ่ง.การรักษาด้วยสารจากธรรมชาติและการรักษาด้วยยามากมายมักจะใช้น้ำมันละหุ่งร่วมด้วย เช่น เคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง [7] น้ำมันละหุ่งมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ และสามารถใช้ลดอาการบวมหรืออาการกดเจ็บของตุ่มหนองได้ด้วย จุ่มก้อนสำลีลงในน้ำมันละหุ่ง และแปะที่ตุ่มหนอง ปิดก้อนสำลีด้วยผ้าพันแผลหรือผ้าก๊อซ เปลี่ยนใหม่ทุกสองถึงสามชั่วโมง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ใช้ถุงประคบร้อนที่นำเข้าเตาไมโครเวฟได้ ห่อด้วยผ้าชื้นน้ำอุ่นและประคบที่ตุ่มหนอง มันจะช่วยให้ผิวอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว และยาวนานถึง 40 นาที ในขณะที่การประคบร้อนทั่วไปจะหายร้อนและเย็นลงในเวลาไม่กี่นาที
  • หากคุณรู้สึกอายที่จะเผยผิวส่วนที่มีตุ่มหนอง ให้ลองปกปิดด้วยเสื้อผ้าแขนยาวขายาว หากจำเป็นคุณก็สามารถใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดตุ่มหนองได้ แต่ควรระวังให้ดี เพราะวิธีนี้อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อตามมา
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าบีบตุ่มหนอง เพราะจะทำให้เชื้อแพร่กระจายมากขึ้น
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 107,281 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา