ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
สิวบนหนังศีรษะเจ็บและคันเช่นเดียวกับสิวบนใบหน้าหรือแผ่นหลังแต่รักษายากเพราะถูกปกคลุมไปด้วยเส้นผม ข้อได้เปรียบเดียวของสิวบนหนังศีรษะคือมีเส้นผมช่วยพรางตาแต่น้ำมันธรรมชาติจากเส้นผมหรือเครื่องประดับบนศีรษะอาจทำให้สิวบนหนังศีรษะอาการแย่ลงหรือทำให้เกิดสิวมากขึ้น การเรียนรู้วิธีรักษาสิวบนหนังศีรษะและใช้มาตรการป้องกันสามารถช่วยทำให้คุณมั่นใจว่าปัญหานี้จะไม่กลับมาเกิดขึ้นอีก
ขั้นตอน
-
ใช้เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์. เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์เป็นส่วนผสมที่พบได้มากในเจลล้างหน้าและโลชั่นกำจัดสิว มันทำงานโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะอุดตันรูขุมขนซึ่งทำให้เกิดสิวเม็ดใหม่ มันยังช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากบริเวณที่เป็นสิว เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ที่พบมากมีความเข้มข้นระหว่าง 2.5-10% ในผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์คือผมและเสื้อผ้าถูกกัดสีถ้าหากผลิตภัณฑ์มีปริมาณของเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์มากเกินไป คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้ด้วยความระมัดระวังเมื่อใช้กับเส้นผมหรือหนังศีรษะ [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผลข้างเคียงอื่นๆ ได้แก่ ผิวแห้ง ผิวอักเสบแดง ผิวรู้สึกแสบร้อนและผิวลอก [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้กรดซาลิไซลิก. กรดซาลิไซลิกเป็นส่วนผสมที่พบได้มากในผลิตภัณฑ์กำจัดสิวโดยพบในเจลล้างหน้าและทิชชู่เปียกเช็ดหน้ากําจัดสิว มันช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขนและสามารถทำให้รูขุมขนหายอุดตันถ้าหากอุดตันอยู่แล้วโดยทำให้เม็ดสิวที่มีอยู่บนหนังศีรษะหรือส่วนอื่นของร่างกายหดตัว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปริมาณที่พบส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 0.5-5% ในผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่ การระคายเคืองของผิวและความรู้สึกตึงชาเล็กน้อย [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้กรดอัลฟาไฮดรอกซี่. กรดอัลฟาไฮดรอกซี่มี 2 ประเภท ได้แก่ กรดไกลโคลิกและแลคติกซึ่งกรดอัลฟาไฮดรอกซี่ทั้ง 2 ประเภทพบได้ในผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีวางจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปเพราะมันสามารถช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและลดอาการอักเสบ งานวิจัยเผยว่ากรดอัลฟาไฮดรอกซี่สามารถกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ที่นุ่มนวลกว่า [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ลองใช้กำมะถัน. บางคนที่เป็นสิวพบว่ากำมะถันเป็นทางเลือกของการรักษาที่ได้ผล มันสามารถช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันส่วนเกินของร่างกายและพบได้ในผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป เช่น เจลล้างหน้าหรือยาทาสิว [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผลิตภัณฑ์บางตัวที่มีส่วนผสมของกำมะถันอาจจะมีกลิ่นที่ไม่น่าพึงประสงค์ [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
ใช้เรตินอยด์. เรตินอยด์คือยาทาประเภทหนึ่งที่ได้มาจากวิตามินเอ เรตินอยด์ช่วยป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมเพื่อลดการเกิดสิว [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีตัวยาเรตินอยด์ในตอนเย็น เริ่มด้วยการใช้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์แล้วจึงเปลี่ยนมาใช้ทุกวันเพื่อผิวปรับตัวเข้ากับตัวยาได้แล้ว [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้แดปโซน. แดปโซน (แอคโซน) คือยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของตัวยาแก้อักเสบ เจลยานี้ช่วยรักษาสิวด้วยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตัน [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล โดยส่วนใหญ่มันจะมีส่วนผสมของเรตินอยด์แบบทาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของตัวยาทั้งสองชนิด ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่ ผิวแห้ง ผิวอักเสบแดงและระคายเคือง [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้ยาฆ่าเชื้อแบบทา. สำหรับอาการสิวรุนแรง คุณอาจจะต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเพื่อช่วยรักษาสิวอักเสบและป้องกันสิวในอนาคต ยาฆ่าเชื้อมักจะใช้ร่วมกับเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์เพื่อลดโอกาสการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรียที่ต่อต้านยาฆ่าเชื้อบนผิวและอาจมีส่วนผสมของเรตินอยด์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยาฆ่าเชื้อที่แพทย์มักจะจ่ายให้เพื่อรักษาสิว ได้แก่ คลินดามัยซินกับเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ (เบนซาคลินหรือดูแอค) และเอริโธมัยซินกับเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ (เบนซามัยซิน) [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้ยาฆ่าเชื้อชนิดรับประทาน. แพทย์มักจะจ่ายยาฆ่าเชื้อชนิดรับประทานในการรักษาอาการสิวปานกลางถึงรุนแรงเพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียในร่างกายที่ทำให้เกิดสิว ยาฆ่าเชื้อสามารถช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากสิว ยาฆ่าเชื้อชนิดรับประทานที่พบมากที่สุดคือไมโนซัยคลินและด็อกซี่ซัยคลิน [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทานยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม. ผู้หญิงและวัยรุ่นบางคนที่มีปัญหาสิวพบว่ายาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมสามารถช่วยรักษาสิวได้ ยาเหล่านี้มีส่วนผสมของเอสโตรเจนและโปรเจสตินซึ่งออกฤทธิ์คุมกำเนิดและป้องกันสิว [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ ยาสมิน (Yasmin), ยาส (Yaz), ไดแอน (Diane), แอนนา (Anna), เมอซิลอน (Mercilon), เมลลิแอน (Meliane), มาวีลอน (Marvelon), ไซเลส (Cilest), ไกเนร่า (Gynera) เป็นต้น [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผลข้างเคียงที่พบได้มาก ได้แก่ ปวดศีรษะ หน้าอกร้าว เวียนหัว น้ำหนักตัวเพิ่มและมีเลือดออกกะปริดกะปรอย บางคนมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น ความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดสูงขึ้น [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่ายาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมประเภทใดที่เหมาะกับคุณ
-
ปรึกษาเกี่ยวกับสารต้านแอนโดรเจน. แพทย์อาจจะจ่ายสารต้านแอนโดรเจน เช่น สไปโรโนแลคโทน (อัลแดคโทน) ให้กับผู้หญิงและวัยรุ่นที่ทานยาฆ่าเชื้อแล้วไม่ได้ผล ยาประเภทนี้ทำงานโดยการป้องกันฮอร์โมนแอนโดรเจนไม่ให้มีผลต่อการขับน้ำมันของผิว [20] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ผลข้างเคียงที่พบได้มาก ได้แก่ หน้าอกร้าว อาการปวดประจำเดือนและการสะสมของโปแตสเซียมในร่างกายมากเกินไป [21] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
สระผมทุกวัน. บางคนสระผมวันเว้นวันแต่ถ้าหากคุณมีสิวบนหนังศีรษะ การสระผมวันเว้นวันก็อาจจะไม่เพียงพอ ลองสระผมทุกวัน วิธีนี้สามารถช่วยลดปริมาณน้ำมันในเส้นผมซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวบนหนังศีรษะได้ [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณอาจจะต้องใช้แชมพูสูตรขจัดคราบหรือสลับการใช้ระหว่างแชมพูขจัดคราบกับแชมพูปกติที่ใช้เป็นประจำ สิวบนหนังศีรษะเกิดจากการสะสมของผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเส้นผม เซลล์ผิวที่ตายแล้วและน้ำมันและแชมพูสูตรขจัดคราบสามารถกำจัดสิ่งเหล่านี้ได้
- งดใช้ครีมนวดเพื่อดูว่าหนังศีรษะมีสภาพดีขึ้นหรือไม่ ครีมนวดช่วยทำให้ผมนุ่มชุ่มชื่นซึ่งอาจจะก่อให้เกิดน้ำมันหรือความมันสะสมบนหนังศีรษะได้
-
งดใช้สารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง. ถ้าหากคุณมีสิวบนหนังศีรษะบ่อยครั้งและคุณสระผมทุกวัน ปัญหาอาจจะเกิดจากสิ่งที่คุณใส่ลงบนเส้นผม ลองงดใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพื่อดูว่าหนังศีรษะมีสภาพดีขึ้นหรือไม่ เมื่อคุณได้ค้นพบสาเหตุแล้ว คุณสามารถลองใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอื่นๆ เพื่อดูว่าส่วนผสมใดในผลิตภัณฑ์นั้นที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ [23] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากน้ำหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดสิวซึ่งจะไม่อุดตันรูขุมขนและก่อให้เกิดสิว [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมใกล้โคนผม คุณสามารถใช้เจลใส่ผมแต่พยายามใช้กับเส้นผมโดยไม่สัมผัสหนังศีรษะหรือโคนผม [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปล่อยให้หนังศีรษะได้ระบาย. บางคนที่มีสิวบนหนังศีรษะมักจะสวมหมวกเบสบอลหรืออุปกรณ์กีฬา เช่น หมวกกันน็อคซึ่งเพิ่มการกักเก็บความร้อน การเสียดสีแดงกดสิวบางครั้งเรียกว่ากลไกการเกิดสิว ถ้าหากคุณคิดว่าการใส่หมวกหรือหมวกกันน็อคอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมีสิวบนหนังศีรษะ คุณต้องปล่อยให้หนังศีรษะได้ระบายบ่อยขึ้นหรือถ้าหากคุณจำเป็นต้องสวมอุปกรณ์ใดๆ บนศีรษะคุณต้องสวมผ้าคาดผมหรือหมวกคลุมผมภายใต้หมวกกันน็อค [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การอาบน้ำทันทีหลังจากที่ถอดหมวกหรือหมวกกันน็อคออกและใช้แชมพูอาจจะช่วยลดการเกิดสิวบนหนังศีรษะได้ [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แปรงผมหรือหวีผมทุกวัน. การแปรงผมหรือหวีผมช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและแบ่งแยกเส้นผมที่พันกันเพราะน้ำมันตามธรรมชาติของหนังศีรษะ วิธีนี้ช่วยป้องกันสิวด้วยการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอาจจะอุดตันรูขุมขนและแยกเส้นผมที่อาจจะกักเก็บน้ำมันให้หนังศีรษะ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองตัดผม. ถ้าหากคุณมักจะมีสิวบนหนังศีรษะ คุณควรตัดผมให้มีความยาวและความหนาที่คุณสามารถจัดการได้ง่ายเพื่อลดการเกิดสิว ผมที่สั้นและบางลงสามารถช่วยลดการกักเก็บน้ำมัน สิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขนได้โฆษณา
คำเตือน
- คุณต้องไม่กลืนกินกรดซาลิไซลิกเพราะมันเป็นยาใช้สำหรับภายนอกเท่านั้น คุณต้องเก็บยาทุกประเภทให้ห่างจากมือเด็ก ห้ามใช้กรดซาลิไซลิกกับเด็กที่มีอาการเป็นไข้เพราะมันอาจนำไปสู่ภาวะโรคเรย์ซินโดรมซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a607072.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/in-depth/acne-products/art-20045814
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/drugs-supplements/dapsone-topical-route/description/drg-20067433
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/treatment/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/lifestyle-home-remedies/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/lifestyle-home-remedies/con-20020580
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/basics/lifestyle-home-remedies/con-20020580
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/teen-acne-13/bad-habits
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/ss/slideshow-acne-dictionary
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/ss/slideshow-acne-dictionary
- ↑ http://www.med-health.net/Pimples-On-Scalp.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,324 ครั้ง
โฆษณา
