ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมื่อเริ่มรู้สึกว่ากำลังจะเป็นหวัด คุณอาจคิดว่าคุณไม่สามารถทำอะไรเพื่อป้องกันมันได้ ทั้งที่อันที่จริงแล้วการใช้กระเทียมอาจช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อลดอาการป่วยได้ ถ้าจะบอกว่ากระเทียม “รักษา” หวัดได้ก็อาจจะเกินจริงไปหน่อย แต่คุณก็สามารถใช้กระเทียมเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงที่ป่วยเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วขึ้นและทรมานน้อยลงด้วย!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้กระเทียมเพื่อบรรเทาอาการเป็นหวัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาข้อมูลดูว่ากระเทียมช่วยลดอาการเป็นหวัดจริงได้หรือไม่. ง่ายวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ทดสอบประสิทธิภาพของกระเทียมในคน 146 คนเป็นช่วงเวลา 3 เดือน คนที่กินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำจากกระเทียมมีอาการเป็นหวัด 24 ครั้ง เทียบกับคนที่ไม่ได้กินอาหารเสริม ซึ่งมีอาการเป็นหวัด 65 ครั้ง นอกจากนั้น กลุ่มที่กินกระเทียมยังเป็นหวัดน้อยกว่าอีกกลุ่ม 1 วันอีกด้วย [1]
  2. คนหลายคนอาจกังวลเรื่องกลิ่นของกระเทียม สารที่ต้านไวรัสโรคหวัดได้สำเร็จก็คือสารเดียวกันกับที่สร้างกลิ่นกระเทียม ฉะนั้น คุณจะต้องทำใจยอมรับกลิ่นของมันหากคุณจะใช้กระเทียมบรรเทาอาการเป็นหวัด
    • ข่าวดีคือคุณควรหยุดทำงานหรือหยุดเรียนอยู่บ้านเพื่ออยู่ห่างจากคนอื่นอยู่แล้ว คุณควรจะพักผ่อนและดื่มน้ำเยอะๆ ซึ่งหมายความว่าถึงแม้กระเทียมจะส่งกลิ่น ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีแค่คุณและคนใกล้ตัวที่ต้องเผชิญกับกลิ่นของมัน เป็นการเสียสละเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการหายป่วยเร็วขึ้นและมีอาการป่วยน้อยลง!
  3. ถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้กระเทียมสดเสมอ ปอกเปลือกกระเทียมออกแล้วใช้ที่บดกระเทียมหรือด้านข้างของใบมีดเพื่อบี้กระเทียม กินกระเทียมดิบประมาณ 1 กลีบทุก 3-4 ชั่วโมง แค่ปอกเปลือกแล้วก็กินเลย! [5]
    • หากคุณไม่ชอบรสกระเทียม ให้ลองกลบรสของมันโดยการผสมกระเทียมกับน้ำส้มดู
    • คุณจะเติมกระเทียมใส่น้ำมะนาวก็ได้ ให้ใส่กระเทียมลงในน้ำ 6-8 ออนซ์ผสมกับน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะแล้วคนผสมกัน [6]
    • สามารถใส่กระเทียมดิบในน้ำผสมน้ำผึ้งก็ได้ด้วย น้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ ให้ผสมน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 6-8 ออนซ์เข้าด้วยกัน [7]
  4. ถึงแม้ว่ากระเทียมดิบจะใช้แก้หวัดได้ดีที่สุด กระเทียมสุกก็ยังมีอัลลิซินมากพอที่จะออกฤทธิ์ได้ ให้ปอกเปลือกแล้วบี้หรือบดกระเทียม ปล่อยกระเทียมที่บี้หรือบดแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเอนไซม์ที่ “เปิดสวิตช์” สารอัลลิซินในกระเทียม [8]
    • ใช้กระเทียม 2-3 กลีบใส่ในอาหารทุกมื้อระหว่างที่เป็นหวัด หากคุณกินอะไรเบาๆ ก็ให้ใส่กระเทียมบี้หรือบดในซุปไก่หรือซุปผัก แล้วนำไปอุ่นตามปกติ หากคุณกินอาหารทั่วไป ลองใส่กระเทียมไปกับผักที่ทำ หรือใส่ไปพร้อมกับตอนหุงข้าวดู
    • คุณยังสามารถเติมกระเทียมบี้หรือบดใส่ซอสที่ทำจากมะเขือเทศหรือชีสได้ด้วยเมื่อเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว ให้ลองนำกระเทียมบี้หรือบดไปถูเนื้อ แล้วนำเนื้อไปปรุงสุกตามปกติ
  5. ของเหลวร้อนๆ จะช่วยลดอาการคัดจมูกได้ด้วย ให้ต้มน้ำ 3 ถ้วยกับกระเทียม (ผ่าเป็น 2 ซีก) 3 กลีบจนเดือด ปิดไฟแล้วเติมน้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยกับน้ำมะนาว 1/2 ถ้วยพร้อมกับเมล็ดและเปลือกมะนาว เนื่องจากมีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก [9]
    • กรองน้ำชาและจิบตลอดวัน
    • นำชาที่เหลือไปแช่ตู้เย็นและนำมาอุ่นเมื่อต้องการ
  6. วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบรสกระเทียมเลย ให้แบ่งกินกระเทียมใน 1 วัน วันละ 2-3 กรัมเพื่อลดอาการเป็นหวัด [10]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ระบุอาการและรักษาโรคหวัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรคหวัดมักเกิดจากไรโนไวรัส (rhinovirus) ไรโนไวรัสส่วนใหญ่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน แต่ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างหรือโรคปอดบวมได้ ไรโนไวรัสมักพบบ่อยที่สุดในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม
    • ระยะฟักตัวมักจะสั้น แค่ 12-72 ชั่วโมงหลังสัมผัสเชื้อ การสัมผัสเชื้อมักเกิดจากการอยู่ใกล้คนที่เป็นหวัดอยู่แล้ว และคนคนนั้นไอหรือจาม [11]
  2. อาการโพรงจมูกแห้งหรือเคืองมักจะเป็นอาการแรกที่เกิดขึ้น อาการเจ็บคอหรือคันคอก็เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นแรกๆ เช่นกัน
    • อาการเหล่านี้มักตามมาด้วยน้ำมูก ความรู้สึกคัดจมูก และการจาม อาการมักจะแย่ลงใน 2-3 วันต่อจากที่เริ่มมีอาการ
    • น้ำมูกมักจะใสและเหลว แล้วอาจเปลี่ยนเป็นข้นขึ้นและเป็นสีเขียวเหลือง
    • อาการอื่นๆ มีปวดหัวหรือปวดตัว ตาเยิ้มเพราะมีน้ำเยอะ แรงดันในใบหน้าหรือในหูเพราะคัดจมูก ไม่สามารถได้กลิ่นหรือรสชาติอะไรได้ ไอ เสียงแหบ อาเจียนหลังจากไอ อารมณ์หงุดหงิด ไม่สบายตัว และอาจมีไข้อ่อนๆ โดยเฉพาะในเด็กทารกหรือเด็กก่อนวัยเรียน
    • โรคหวัดอาจหายยากขึ้นหากมีการติดเชื้อในหู โพรงจมูกอักเสบ หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (ปอดอักเสบ คัดจมูกและไอ) หรืออาการโรคหอบหืดทรุดลง
  3. ปัจจุบันไม่มีวิธีรักษาโรคหวัด คุณควรจะมุ่งความสนใจไปที่การบรรเทาอาการมากกว่า คำแนะนำทางการแพทย์มีดังต่อไปนี้: [12]
    • พักผ่อนเยอะๆ
    • ดื่มน้ำเยอะๆ อาจเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้ ซุปไก่หรือซุปผักใสก็ได้ ที่จริงแล้วซุปไก่ดีสำหรับการบรรเทาอาการเป็นหวัดมาก [13]
    • ใช้น้ำเกลืออุ่นกลั้วคอ จะช่วยให้อาการเจ็บคอดีขึ้น
    • ใช้ยาอมแก้ไอหรือสเปรย์ฉีดคอหากคุณไอหนักมากจนไม่ได้พักอย่างเพียงพอ
    • ซื้อยาแก้ปวดหรือแก้หวัด โดยต้องทำตามคำสั่งบนฉลาก
  4. ประเมินว่าคุณป่วยหนักจนต้องไปพบแพทย์หรือไม่. ส่วนใหญ่แล้วคุณไม่น่าจะจำเป็นต้องไปพบแพทย์ แต่หากคุณหรือลูกของคุณมีอาการต่อไปนี้ ให้ติดต่อแพทย์: [14]
    • ไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส หากลูกของคุณอายุต่ำกว่า 6 เดือนและมีไข้ ก็ให้ติดต่อแพทย์ สำหรับเด็กไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม หากมีไข้ 40 องศาเซลเซียสหรือสูงกว่านั้นก็ให้ติดต่อแพทย์เช่นกัน
    • หากมีอาการนานกว่า 10 วัน
    • หากมีอาการรุนแรงหรือคุณมีอาการผิดปกติ เช่นปวดหัวมาก คลื่นไส้ อาเจียน หรือหายใจลำบาก
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,573 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา