PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ถ้านกคอกคาทีล (หรือที่คนไทยเรียกนกค๊อกคาเทล) เกิดป่วยขึ้นมา ต้องรีบสังเกตอาการและหาสาเหตุทันที โดยเฉพาะตอนท้องเสีย ปกติขี้นกจะเหลวอยู่แล้วเพราะมีฉี่ผสมด้วย เลยดูไม่ค่อยออกว่าท้องเสียหรือเปล่า คุณจึงต้องรู้จักสังเกตลักษณะของขี้นกเป็นประจำ สังเกตอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย และพานกไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นกท้องเสียหรือป่วยเมื่อไหร่จะได้รู้และรักษาได้ทันท่วงที [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

รู้จักอาการท้องเสียของนก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเลี้ยงนกมาสักพักแล้ว ก็น่าจะรู้ว่าปกติขี้นกที่ก้นกรงหน้าตาเป็นยังไง ถ้าอยู่ๆ หน้าตาเปลี่ยนไป เหลวขึ้นถึงขั้นเป็นน้ำ เป็นไปได้มากว่านกกำลังท้องเสีย [2]
    • ขี้นกคอกคาทีลปกติจะประกอบด้วยน้ำใสๆ, ฉี่นก, urate สีขาว (เป็นของเสียจากไต) และขี้นกสีอ่อนๆ บางทีก็สีต่างออกไป แล้วแต่ว่านกกินอะไร [3]
    • คุณต้องแยกให้ออกระหว่างฉี่นกกับตัวเนื้อของขี้นก ถ้ามีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อปน เป็นไปได้มากว่านกท้องเสีย [4]
    • ปกติคุณต้องเปลี่ยนกระดาษหรือวัสดุรองกรงอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งอยู่แล้ว นั่นแหละคือเวลาที่ควรสังเกตลักษณะของเสียของนก ถ้ารู้อยู่แล้วว่าขี้นกปกติหน้าตาเป็นยังไง จะรู้ทันทีถ้านกท้องเสีย
  2. นกคอกคาทีลป่วยทีไรแทบดูไม่ออก แต่ถ้าสังเกตเห็นสัญญาณต่อไปนี้ ก็เป็นไปได้มากว่านกกำลังป่วย [5]
    • ไม่แต่งขนตัวเอง
    • เฉื่อยชา ไม่ร่าเริง
    • ไม่ร้องเจื้อยแจ้วเหมือนเดิม
    • ลังเลเวลาจะกินอาหาร
    • กระสับกระส่าย
  3. ที่นกท้องเสียมักมีสาเหตุจากโรคอื่น เช่น มีแบคทีเรีย salmonella เวลานกท้องเสียคุณจึงควรสังเกตอาการผิดปกติทางกายอื่นๆ ร่วมด้วย จะได้แน่ใจว่านกป่วยจริง อาการที่ว่าก็เช่น [6]
    • อาเจียน
    • ขย้อนอาหาร
    • มีน้ำมูกหรือขี้ตาเยิ้ม
    • ขนยุ่งเหยิงเพราะนกไม่แต่งขน
    • ขี้นกมีเลือดปน เลยออกมาสีเข้มดำ
  4. บางทีพอปล่อยนกคอกคาทีลมาบินเล่นนอกกรง อาจไปเล่นซนทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อตัวเอง แบบนี้ต้องลองสำรวจรอบบ้านหรือห้องที่ปล่อยนกบินเล่นตามสะดวก เพื่อหาว่ามีอะไรที่อาจเป็นอันตรายหรือทำนกป่วยได้บ้าง ของที่อาจเป็นพิษหรือเป็นอันตรายต่อนกก็เช่น [7]
    • อาหารที่เป็นพิษต่อนก เช่น ช็อคโกแลต เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์
    • ยารักษาโรคของคน
    • โลหะที่เป็นพิษต่อนก เช่น ตะกั่ว หรือสังกะสี
    • ยาฆ่าแมลงและสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคต่างๆ เช่น ยาเบื่อหนู
    • พืชที่เป็นพิษต่อนก เช่น ลิลลี่ ต้นคริสต์มาส (poinsettia) บอน และอื่นๆ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

พานกไปหาหมอ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าพฤติกรรมของนกเปลี่ยนไปและมีอาการผิดปกติทางกาย ควรหาไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ คุณหมอจะตรวจและวินิจฉัยเองว่าสุขภาพโดยรวมเป็นยังไง มีปัญหาตรงไหน
    • หนึ่งในการตรวจที่จำเป็นก็เช่น ตรวจเลือดและเอ็กซเรย์ [8]
    • สาเหตุยอดนิยมที่มักทำนกท้องเสียก็เช่น ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา เป็นเพราะสารพิษต่างๆ อาหารเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงลำไส้อุดตัน [9]
  2. อันนี้แล้วแต่โรคที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย วิธีรักษาที่คุณหมอแนะนำจะแตกต่างกันไป เช่น เปลี่ยนอาหาร กินยา เปลี่ยนสภาพแวดล้อม หรือกิจวัตรประจำวัน [10]
    • ถ้านกติดเชื้อราหรือแบคทีเรียรุนแรง คุณหมอมักจ่ายยาให้ ปกติคือยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อรา
    • ถ้านกติดเชื้อไวรัส ที่ทำได้ก็คือดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ ไม่ให้นกขาดน้ำ เพื่อให้ภูมิคุ้มกันของนกแข็งแรง กำจัดไวรัสออกไปเอง
    • บางทีคุณหมออาจแนะนำให้เปลี่ยนอาหารชั่วคราวหรือถาวร เช่น เปลี่ยนเมล็ดพืช หรืองดผักผลไม้ชั่วคราว จนกว่าขี้นกจะหายเหลว
    • ถ้าลำไส้นกอุดตันร้ายแรง คุณหมออาจแนะนำให้ผ่าตัดเอาอะไรที่กีดขวางออกไป
  3. ช่วงที่ดูแลนกเองที่บ้าน ต้องเพิ่มแหล่งทำความร้อนให้นก เพราะนกป่วยจะตัวเย็นง่ายมาก ลองใช้โคมไฟสำหรับส่องให้ความอบอุ่นกับนกโดยเฉพาะดู
    • อย่าใช้โคมไฟตั้งโต๊ะทั่วไป เพราะตอนกลางคืนอาจรบกวนการนอนของนกได้ ที่สำคัญคือหลอดไฟปกติจะมีสารที่เป็นพิษต่อนกระเหยออกมาเหมือนเวลาคุณทอดอาหารด้วยกระทะ Teflon เลย [11]
  4. ระหว่างดูแลนก ต้องคอยสังเกตอาการด้วย อย่าคิดว่าหมอให้ยามาแล้วจะหายเป็นปลิดทิ้ง ต้องหมั่นสังเกตว่านกเลิกท้องเสียหรือยัง อาการผิดปกติอื่นๆ หายไปไหม ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ก็ต้องพาไปหาหมออีกรอบ [12]
    • ถ้ารักษาตามหมอสั่งแล้วนกไม่ดีขึ้น ก็ต้องพากลับไปหาหมอทันที อย่าปล่อยไว้เพราะคิดว่าจะหายเอง สำคัญมากว่านกต้องได้รับการดูแลรักษาให้ถูกโรคและต่อเนื่อง
  5. ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ให้น้ำสะอาดอยู่เสมอ เมล็ดพืชรวมที่เคยให้นกกินตามปกติก็ยังให้ได้ แต่ขอให้งดพวกของสด เช่น ผักและผลไม้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ป้องกันไม่ให้นกท้องเสีย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงนกคอกคาทีลจะไม่เจ็บป่วยตรงไหน ก็ควรหาไปตรวจร่างกายตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันโรคแต่เนิ่นๆ เพราะโรคของนกสังเกตอาการได้ยากมาก โดยเฉพาะอาการท้องเสีย หรือโรคที่ทำให้ท้องเสีย ถ้าหมั่นตรวจเช็คสุขภาพ นกคอกคาทีลก็จะอยู่เป็นเพื่อนรักของคุณไปได้อีกนาน [13]
    • วิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณหมอหาสาเหตุและรักษาได้ง่ายขึ้น ก็คือต้องเช็คว่านกไม่มีพยาธิหรือปรสิตต่างๆ เพราะมักเป็นสาเหตุทำให้นกท้องเสีย [14]
  2. การเปลี่ยนอาหารกะทันหันก็มักเป็นสาเหตุทำนกท้องเสีย เพราะอาหารไม่ย่อย ต้องค่อยๆ เปลี่ยนแปลงทีละน้อย จนเหลือแต่อาหารใหม่ในที่สุด [15]
    • ค่อยๆ ผสมอาหารใหม่ลงในอาหารเดิมที่นกกินอยู่ทีละนิด ให้ค่อยๆ เพิ่มปริมาณอาหารใหม่ไปเรื่อยๆ ใช้เวลาหลายอาทิตย์หน่อย จนสุดท้ายเหลือแต่อาหารชนิดใหม่อย่างเดียว
  3. อย่างที่บอกว่านกท้องเสียได้เพราะหลายโรค ถ้าป้องกันโรคต่างๆ แต่แรกจะช่วยได้มาก วิธีทำให้นกปลอดโรคได้ดีที่สุด ก็คือกรงต้องสะอาดอยู่เสมอ
    • ให้ทำความสะอาดคร่าวๆ ทุกวัน เช่น ล้างชามแล้วเปลี่ยนน้ำ/อาหาร รวมถึงเปลี่ยนกระดาษหรือวัสดุรองกรง
    • ล้างทำความสะอาดทั้งกรงเป็นประจำ โดยเอาทุกอย่างในกรงออก และย้ายนกไปไว้กรงอื่นชั่วคราว จากนั้นล้างทำความสะอาดของใช้ของนกทุกอย่าง รวมถึงล้างและฆ่าเชื้อกรง
  4. คุณป้องกันการระบาดของโรคได้ โดยกักโรคนกใหม่ แยกจากนกเก่า จนแน่ใจว่าไม่ได้เป็นพาหะนำโรคต่างๆ เท่านี้นกก็ไม่ท้องเสียและไม่ต้องกลัวโรคอื่นๆ แล้ว
    • ต้องแยกนกใหม่ไว้คนละห้องเป็นเวลา 30 วัน รวมถึงแยกของใช้ต่างๆ เช่น ชามน้ำชามอาหาร และอุปกรณ์ทำความสะอาดด้วย [16]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 53,375 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา