ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โรคข้ออักเสบ (Arthritis) เป็นหนึ่งในโรคที่เป็นแล้วเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) กับโรคข้อเสื่อม (osteoarthritis) แต่อย่างหลังจะพบบ่อยกว่า เกิดจากการใช้งานอย่างหนัก หรือเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ ส่วนโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์นั้นเกิดจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง (autoimmune disease) [1] ถึงโรคข้ออักเสบจะรักษาไม่หาย แต่อย่างน้อยคุณสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดไม่ให้รุนแรงไปกว่าเดิมได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคข้ออักเสบชนิดไหน กว่าจะเห็นผลอาจต้องลองผิดลองถูกพักใหญ่ แต่ขอให้เริ่มจากวิธีที่ทำได้ง่ายๆ ก่อน หวังว่าอาการปวดของคุณจะบรรเทาเบาบางลงในเร็ววัน [2]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ลดปวดด้วยยาและอาหารเสริม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณซื้อยาแก้ปวด (analgesics) กินเองได้ เช่น acetaminophen หรือ tramadol พวกนี้ช่วยเรื่องลดปวด แต่ไม่แก้อักเสบ ยาที่คนนิยมใช้กันก็เช่น Tylenol และ Ultram
  2. ใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (nonsteroidal anti-inflammatory drugs (NSAIDs)). พวกนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยา ช่วยลดปวดเพราะโรคข้ออักเสบได้เหมือนกัน ที่คนนิยมก็เช่น ibuprofen และ naproxen พวกนี้บรรเทาปวดได้ชั่วคราว ทั้งจากโรคข้ออักเสบและกล้ามเนื้อล้าจนปวดข้อปวดตัว นอกจากนี้ยังใช้ลดอาการอักเสบที่เป็นอาการสำคัญของโรคข้ออักเสบได้ [4]
  3. ยาทาแก้ปวดบางชนิดก็หาซื้อได้ทั่วไป ใช้บรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบได้ มักเป็นครีมที่ผสมเมนทอลหรือแคปไซซิน (สารสกัดจากพริก) ที่พอทาผิวบริเวณที่ปวดข้อแล้วจะช่วยลดปวดได้ โดยทำให้ชาๆ เย็นๆ อาการปวดข้อส่งไปไม่ถึงสมอง
  4. คุณหมอจ่ายสเตียรอยด์ (corticosteroids) ลดอาการปวดบวมรุนแรงจากโรคข้ออักเสบให้คุณได้ ทั้งแบบฉีดและยากิน ถ้าฉีดก็หายเร็วหน่อย แต่ฉีดได้ไม่เกิน 2 - 3 ครั้งต่อปีเท่านั้น เพราะเป็นอันตรายต่อกระดูกและกระดูกอ่อน
    • ไม่ว่าจะได้รับสเตียรอยด์รูปแบบไหน คุณหมอจะดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะมักมีผลข้างเคียงน่าเป็นห่วง เช่น ภาวะขาดวิตามินดี ที่จะทำให้กระดูกพรุนได้ [9]
  5. หรือชื่อเต็มคือ S-adenosylmethionine เป็นอาหารเสริมที่มีสรรพคุณช่วยต้านอักเสบและเสริมสร้างกระดูกอ่อน รวมถึงส่งผลต่อสารสื่อประสาทด้วย เช่น serotonin ที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวด
  6. ASU เป็นอาหารเสริมช่วยยับยั้งสารต่างๆ ในร่างกายที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์เนื้อเยื่อรอบข้อ รวมถึงฟื้นฟูเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของข้อด้วย [11] อาหารเสริมชนิดนี้เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำมันอะโวคาโด 1/3 กับน้ำมันถั่วเหลืองอีก 2/3
  7. หรือก็คือกรดไขมันโอเมก้า-3 EPA และ DHA น้ำมันปลานั้นเป็นอาหารเสริมที่คนนิยมใช้และมีการค้นคว้าวิจัยกันมาอย่างยาวนาน โดยโอเมก้า-3 จะไปยับยั้งสาร cytokines และ prostaglandins ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ให้ร่างกายเปลี่ยนสารพวกนี้เป็นสารต้านอักเสบแทน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลดปวดโดยปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis) กับโรคข้อเสื่อม (osteoarthritis) ต่างกันยังไง. ลักษณะของโรคโดยทั่วไปอาจคล้ายคลึงกัน แต่จริงๆ แล้วมีสาเหตุต่างกัน [15] ถ้าคุณเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ แสดงว่าอาการปวดข้อเกิดจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง ส่วนโรคข้อเสื่อม จะปวดข้อเพราะการใช้งานหนัก ชนิดของโรคข้ออักเสบจะส่งผลต่อการรักษาที่แตกต่างกัน
    • โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เกิดได้กับคนทุกช่วงอายุ แต่โรคข้อเสื่อมมักเกิดกับผู้สูงอายุ เพราะข้อผ่านการใช้งานมายาวนาน โดยอาการจะปรากฏเฉียบพลัน ไม่ได้ค่อยๆ เป็นตามเวลาที่ผ่านไป [16]
    • จุดเด่นของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ก็คือมีอาการอื่นร่วมด้วย (นอกจากปวดข้อ) เช่น อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว [17]
    • โดนอาการเจ็บปวดจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์จะเป็นได้ทั้งข้อเล็กและใหญ่ แต่มักเกิดขึ้นพร้อมกันทั้ง 2 ด้านของร่างกาย และช่วงเช้าอาจปวดได้นานเป็นชั่วโมง [18] แต่ถ้าเป็นโรคข้อเสื่อม ตอนเช้าก็อาจปวดบ้าง แต่มักเกิดหลังคุณใช้งานข้อที่อักเสบ [19]
  2. ถ้าอ้วนเกินพิกัดอาจทำให้เกิดหรือยิ่งเพิ่มอาการแทรกซ้อนของโรคข้ออักเสบ และทำให้ปวดข้อกว่าเดิม ให้คุณพยายามลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ออกกำลังกายและควบคุมอาหาร [20] จุดสำคัญคือต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบข้อ โดยที่ไม่สร้างความเสียหายเพิ่มเติม
    • ให้เน้นยืดเหยียดและออกกำลังกายเพิ่มพิสัยของข้อ (range of motion exercise) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปวิ่ง กระโดด เล่นเทนนิส หรือออกกำลังกายแบบแอโรบิกหนักๆ [21]
    • ให้ออกกำลังกายช่วงสายเป็นต้นไป เพราะช่วงเช้าเพิ่งตื่นอาจจะยังข้อยึดอยู่
    • ควรปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตในระยะยาว จะได้น้ำหนักคงที่อยู่ตลอด สุขภาพร่างกายก็แข็งแรง ลดอาการปวดข้อได้ชะงัด [22] ถ้าน้ำหนักตัวน้อย พออายุมากขึ้น ข้อก็จะเสื่อมน้อยกว่าคนที่น้ำหนักตัวเยอะ
  3. นอกจากออกกำลังกายแล้ว อย่าเอาแต่นั่งๆ นอนๆ ตลอดวัน เพราะถ้ายิ่งอยู่เฉย พอขยับขึ้นมาทีจะปวดทรมานกว่าเดิม เวลาอยู่ที่ทำงานให้ลุกไปเดินยืดเส้นยืดสายอย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง และเปลี่ยนท่าบ่อยๆ เช่น เอียงคอไปมา ขยับมือ และยืดขาหดขา
  4. ถ้าเริ่มขยับข้อไม่ได้ คุณหมออาจแนะนำให้ทำกายภาพบำบัดเพิ่มเติม โดยนักกายภาพบำบัดจะแนะนำท่าออกกำลังกายที่ช่วยผ่อนคลายและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและข้อของคุณ ไม่ให้ยึดจนขยับไม่สะดวก
    • รวมถึงทำแผนออกกำลังกายเฉพาะตัว โดยผสมผสานทั้งคาร์ดิโอและการเล่นเวท เพื่อลดอาการปวดข้อและคงน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ ให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง [24]
  5. เล่นโยคะแล้วได้ฝึกทั้งการหายใจเข้าออกลึกๆ การทำสมาธิ และการจัดท่าทางของร่างกาย ช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึดได้ รวมถึงช่วยคลายเครียดอีกต่างหาก เวลาเล่นโยคะห้ามฝืน ขอให้ทำเฉพาะท่าที่ทำได้ไม่เจ็บข้อ
  6. ถ้าปวดข้อมาก คงต้องใช้เครื่องช่วยพยุง จะได้เดินเหินสะดวกขึ้นแบบไม่เป็นภาระให้ข้อเกินไป ให้ใช้ไม้เท้าหรือวอล์คเกอร์เวลาที่ปวดจนเดินเองไม่ไหว จะช่วยลดแรงกดทับที่ข้อ ทำให้ลดปวดบวม
  7. อย่าใช้ข้อหนัก และรู้จักลดแรงกดทับที่ข้อ โดยเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์หรือกิจวัตรประจำวัน เช่น ปากกาด้ามหนาๆ จะได้จับและเขียนสะดวก พยายามใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีด้ามจับยาวและใหญ่ขึ้น จะได้ไม่ต้องเกร็งมือเวลาใช้งาน
    • หยิบของด้วยข้อใหญ่ๆ ที่แข็งแรงกว่า เช่น เวลาหิ้วกระเป๋าหนักๆ ให้หิ้วไว้ที่ข้อพับของข้อศอก แทนที่จะเป็นข้อมือหรือนิ้ว
    • เปลี่ยนมาใช้จานพลาสติกเพราะเบาและล้างสะดวกกว่า [27]
  8. เวลาปวดเพราะข้ออักเสบ วิธีที่ช่วยบรรเทาได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งก็คือการใช้ความร้อน เพราะช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดปวดชั่วคราว ให้ลองประคบร้อนด้วยกระเป๋าน้ำร้อนหรือแผ่นประคบร้อน อาบหรือแช่น้ำอุ่น ไม่ก็ใช้ขี้ผึ้งพาราฟินพอกบริเวณที่ปวด
  9. เพราะมีแมกนีเซียมซัลเฟต แร่ธาตุตามธรรมชาติที่คนนิยมใช้แก้ปวดมาแต่โบราณ ถ้าแมกนีเซียมในน้ำสูงก็จะช่วยลดอาการปวดข้อได้เวลาแช่
    • ให้คุณเทน้ำอุ่นใส่ชามแล้วเติมดีเกลือลงไป 1/2 ถ้วยตวง จากนั้นเอาข้อที่ปวดลงไปแช่ ทิ้งไว้แบบนั้น 15 นาทีขึ้นไป
    • ถ้าข้อใหญ่กว่าชาม เช่น หัวเข่า ให้ผสมดีเกลือในอ่างอาบน้ำแทน แล้วค่อยลงไปแช่ [30]
  10. แค่วิตามินดีในอาหารนั้นไม่พอ ต้องได้รับวิตามินดีจากแสงแดดด้วย ลองออกไปอาบแดดเช้านอกบ้านโดยไม่ทาครีมกันแดดสักวันละ 10 - 15 นาที วันเว้นวัน ให้ผิวได้รับวิตามินดีตามธรรมชาติโดยไม่เสี่ยงเป็นโรคผิวหนังจากรังสี UV ในแดดจัดจ้า
  11. การสูบบุหรี่นอกจากจะอันตรายต่อร่างกายแล้ว ยังทำให้ยิ่งปวดข้อด้วย เพราะร่างกายได้รับสารที่ทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันตึงเครียด จนปวดข้อที่อักเสบมากกว่าเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ลดปวดด้วยอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กล้วยช่วยเรื่องข้ออักเสบได้มาก เพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ต้านโรคอันเป็นสาเหตุของอาการ กล้วยมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ แถมยังมีวิตามินซี วิตามินบี 6 และโฟเลต ทั้งหมดนี้ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น
    • กินกล้วยหลังอาหาร หรือกินแทนของว่างซะเลย [33]
  2. ขมิ้นชัน (turmeric) เป็นเครื่องเทศที่ใช้ปรุงรสอาหารแก้ปวดข้อได้ เพราะมี curcumin ที่เป็นสารช่วยลดอาการปวดบวม โดยไปปิดกั้นสาร cytokines และเอนไซม์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ
  3. งานวิจัยล่าสุดชี้ว่าขิงมีสรรพคุณต้านการอักเสบพอๆ กับ ibuprofen และสารสกัดจากขิงออกฤทธิ์ดีพอๆ กับสเตียรอยด์ทีเดียว คุณทำอาหารที่มีขิงเป็นส่วนผสมได้มากมายหลายสูตร ตั้งแต่เมนูไก่ไปจนถึงของหวานเลย
  4. คนที่ปวดข้อ ข้ออักเสบ ต้องหมั่นดูแลกระดูกให้แข็งแรง แปลว่าต้องเน้นวิตามินดี ยิ่งถ้าใช้สเตียรอยด์ยิ่งต้องได้รับมากกว่าคนทั่วไป เพราะจะไปทำให้วิตามินดีในร่างกายคุณน้อยลง พยายามกินปลา โดยเฉพาะปลาแซลมอน แมคเคอเรล และเฮอร์ริ่ง แค่กินเนื้อปลาพวกนี้แค่ 3 ออนซ์ก็เท่ากับวิตามินดีที่ควรได้รับในแต่ละวันแล้ว
  5. หรือก็คือแบคทีเรีย "ดี" นั่นเอง พวกนี้ช่วยลดปวดได้ มีงานวิจัยไม่นานมานี้ที่ชี้ว่าอาหารอย่างโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียดี ช่วยลดอาการปวดจากข้ออักเสบได้อย่างเห็นผล แถมทำให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้นด้วย
  6. เพราะร่างกายต้องใช้ในการขับสารพิษ ซึ่งซัลเฟอร์จะลดลงมากเวลาใช้ยา NSAIDs หรือยาแก้ปวดอื่นๆ คุณคืนซัลเฟอร์ให้ร่างกายได้ โดยกินอาหารที่อุดมซัลเฟอร์อย่าง หัวหอม และกระเทียม
    • หรือกินผักซัลเฟอร์สูงอย่างบร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว และกะหล่ำปลี [38]
  7. เพราะช่วยคลายกล้ามเนื้อและปลายประสาท ช่วยลดปวดได้ดี แถมช่วยเพิ่มแร่ธาตุในกระดูก เพราะงั้นต้องพยายามกินอาหารอุดมแมกนีเซียมให้มากขึ้น เช่น ผักใบเขียวเข้ม และถั่วต่างๆ
    • จะกินอาหารเสริมด้วยก็ได้ แต่ถ้าแมกนีเซียมตามธรรมชาติจากอาหาร ร่างกายจะย่อยและดูดซึมได้ดีกว่า [39]
  8. มันหวานช่วยเรื่องข้ออักเสบได้มาก เพราะอุดมเบต้าแคโรทีน วิตามินเอและซี แร่ธาตุ แอนโทไซยานิน และใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ทั้งหมดนี้ช่วยทั้งลดปวด ต้านอักเสบ และบำรุงข้อ
    • จะเอามันหวานไปต้ม นึ่ง หรืออบก็แล้วแต่ชอบ [40]
  9. เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อ epigallocatechin-3-gallate (EGCG) ที่คอยยับยั้งการสร้างโมเลกุลทำลายข้อ ทำให้ลดปวดเพราะข้อแข็งแรงกว่า
    โฆษณา
  1. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/9-supplements-arthritis-2.php
  2. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/9-supplements-arthritis-6.php
  3. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/guide/avocado-soybean.php
  4. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/9-supplements-arthritis-8.php
  5. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/9-supplements-arthritis-9.php
  6. http://www.webmd.com/rheumatoid-arthritis/tc/comparing-rheumatoid-arthritis-and-osteoarthritis-topic-overview
  7. http://www.webmd.com/rheumatoid-arthritis/tc/comparing-rheumatoid-arthritis-and-osteoarthritis-topic-overview
  8. http://www.webmd.com/rheumatoid-arthritis/tc/comparing-rheumatoid-arthritis-and-osteoarthritis-topic-overview
  9. http://www.webmd.com/rheumatoid-arthritis/tc/comparing-rheumatoid-arthritis-and-osteoarthritis-topic-overview
  10. http://www.webmd.com/rheumatoid-arthritis/tc/comparing-rheumatoid-arthritis-and-osteoarthritis-topic-overview
  11. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/in-depth/arthritis/art-20046440
  12. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/in-depth/arthritis/art-20046440?pg=2
  13. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/in-depth/arthritis/art-20046440
  14. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/in-depth/arthritis/art-20046440
  15. http://www.orthop.washington.edu/?q=patient-care/articles/arthritis/frequently-asked-questions-about-arthritis.html
  16. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/other-therapies/natural-therapies-arthritis-pain-5.php
  17. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/basics/lifestyle-home-remedies/con-20034095
  18. http://www.orthop.washington.edu/?q=patient-care/articles/arthritis/frequently-asked-questions-about-arthritis.html
  19. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/in-depth/arthritis/art-20046440?pg=2
  20. http://www.orthop.washington.edu/?q=patient-care/articles/arthritis/frequently-asked-questions-about-arthritis.html
  21. http://everydayroots.com/arthritis-remedies
  22. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/vitamins-minerals/vitamin-d-deficiency.php
  23. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arthritis/in-depth/arthritis/art-20046440
  24. http://www.myhealthtips.in/2014/01/foods-to-get-rid-of-arthritis-pain.html
  25. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/9-supplements-arthritis-5.php
  26. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/supplements-herbs/9-supplements-arthritis-10.php
  27. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/vitamins-minerals/vitamin-d-deficiency.php
  28. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/other-therapies/proven-natural-therapies.php
  29. http://www.drgangemi.com/healthtopics/arthritis/
  30. http://everydayroots.com/arthritis-remedies
  31. http://www.myhealthtips.in/2014/01/foods-to-get-rid-of-arthritis-pain.html
  32. http://www.arthritis.org/living-with-arthritis/treatments/natural/other-therapies/proven-natural-therapies.php

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,104 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา