ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หากคุณเดินเหยียบหอยเม่นโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือจับมันโดยไม่ระมัดระวัง คุณก็อาจถูกหนามตำได้ หอยเม่นหรือเม่นทะเลเป็นสัตว์มีพิษ ดังนั้นการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสมจึงสำคัญมาก เมื่อถูกหนามหอยเม่นตำ ให้ตั้งสติ และทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อรุนแรง
ขั้นตอน
-
รู้จักหนามหอยเม่น. การที่จะรักษาแผลที่ถูกหนามหอยเม่นตำได้นั้น คุณต้องแน่ใจก่อนว่าแผลนั้นเกิดจากหอยเม่นจริงๆ ไม่ใช่สัตว์น้ำชนิดอื่น
- ตัวหอยเม่นจะมีลักษณะแบนหรือกลม และปกคลุมไปด้วยหนาม พบได้ตามทะเลทั่วโลก แต่จะพบมากในภูมิภาคเขตร้อน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หอยเม่นจะหลบอยู่ตามซอกหินในน้ำ และจะแทงด้วยหนามเมื่อถูกคุกคาม คนส่วนใหญ่จะถูกหนามหอยเม่นตำเพราะบังเอิญเดินเหยียบมันเข้า [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถจัดการกับหนามพวกนั้นได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากคุณมีอาการหายใจลำบาก คลื่นไส้ เจ็บหน้าอก หรือสัญญาณที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ อย่างเช่นรอยแดงหรือเป็นหนอง ควรรีบเข้ารับการรักษาทันที [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ควรรีบพบแพทย์ทันทีเช่นกันหากถูกหนามตำบริเวณข้อต่อ เพราะกรณีนี้อาจจะต้องผ่าตัดเอาออก [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รู้ว่าส่วนไหนที่มีพิษ. หอยเม่นเป็นสัตว์ที่มีลักษณะกลมแบน ปกติแล้วจะไม่ดุร้าย แต่จะใช้หนามแทงได้หากไปเหยียบเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อวัยวะบางส่วนของมันจะปล่อยพิษได้
- หอยเม่นจะปล่อยพิษผ่านหนามและเพดิเซลลาเรีย
- หนามของมันจะแทงให้เป็นแผลและอาจฝังในผิวหนังได้ เมื่อถูกตำควรรีบเอาหนามออกทันที [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เพดิเซลลาเรียเป็นอวัยวะสำหรับจับเหยื่อ อยู่ระหว่างหนาม มันจะยึดเกาะเป้าหมายไว้เมื่อหอยเม่นถูกคุกคาม เมื่อโดนตำแล้วควรรีบเอาออกโดยเร็ว [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอาหนามออก. หลังจากโดนหนามตำ ให้รีบเอาออกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดการซึมผ่านของพิษ
- ใช้คีมหนีบดึงหนามส่วนที่ยื่นออกมา ค่อยๆ ขยับเพื่อไม่ให้หนามหัก ไม่เช่นนั้นจะต้องให้แพทย์ทำการรักษา [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แว็กซ์ร้อนก็สามารถใช้ดึงหนามออกได้ หากมันฝังลึกและไม่สามารถเอาออกด้วยมีดโกน ให้ทาแว็กซ์ร้อนบริเวณที่ถูกตำ ทิ้งไว้ให้แห้งและดึงออก หนามจะหลุดออกมากับแผ่นแว็กซ์
- อาจเกิดปัญหาระยะยาวขึ้นได้หากเอาหนามออกมาไม่หมด ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าหนามหลุดออกมาหมดแล้วหรือยัง ควรไปพบแพทย์
-
เอาเพดิเซลลาเรียออก. ควรรีบเอาออกโดยเร็วหลังจากถูกตำ เพื่อลดการซึมผ่านของพิษ
- วิธีเอาเพดิเซลลาเรียออก สามารถทำได้โดยทาครีมสำหรับโกนบริเวณที่ถูกตำ และโกนออกด้วยมีดโกน [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ควรจับมีดโกนอย่างเบามือเพื่อไม่ให้เจ็บแผลมากขึ้น
โฆษณา
-
ทำความสะอาดแผลด้วยสบู่และน้ำเปล่า. หลังจากเอาหนามและเพดิเซลลาเรียออกแล้ว คุณต้องทำความสะอาดแผลทันที
- วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกไม่ดีนักเพราะแผลยังสด จับแล้วจะเจ็บได้ ควรเตรียมรับความเจ็บปวดนั้นหรือให้ใครสักคนช่วยทำถ้าคุณกลัวว่าจะไม่สามารถทนได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือเบตาดีน แทนสบู่ได้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เสร็จแล้วล้างแผลด้วยน้ำดื่มสะอาด [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ห้ามปิดแผล. ไม่ควรใช้ผ้าพันแผลและเทปปิดแผล ต้องให้หนามที่ยังฝังอยู่หลุดออกจากผิวหนังเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรียและผลข้างเคียงจากพิษของหอยเม่น [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
แช่น้ำร้อน. บางคนอาจแช่บริเวณที่เป็นแผลในน้ำร้อนหลังจากล้างแผลเสร็จ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและลดโอกาสติดเชื้อ
- คุณสามารถแช่ส่วนที่เป็นแผลลงในน้ำร้อนได้ แต่ควรร้อนแค่พอจับได้ ไม่ถึงกับเดือด แช่น้ำอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหรือนานจนกว่าคุณจะทนร้อนได้ วิธีนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและทำให้หนามที่ยังฝังอยู่หายไป คุณสามารถเติมดีเกลือหรือแมกนีเซียมซัลเฟตผสมน้ำไปด้วยก็ได้ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางคนอาจแช่ในน้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชู โดยผสมน้ำส้มสายชูปริมาณเล็กน้อยลงในอ่างน้ำร้อน และแช่ประมาณ 20-40 นาที คุณจะใส่ดีเกลือลงไปในน้ำด้วยก็ได้ เพราะมันจะช่วยสลายหนามที่ยังหลงเหลือ
โฆษณา
-
ดูแลแผลก่อนเข้านอน. ก่อนนอนให้แปะผ้าปิดแผลเล็กๆ ไว้เพื่อป้องกันการเสียดสีและระคายเคืองตอนหลับ
- วางผ้าชุบน้ำส้มสายชูบนแผล และห่อไว้ด้วยพลาสติก ใช้เทปติดพลาสติกไว้ให้อยู่กับที่
- ควรปิดแผลอย่างหลวมๆ แต่จำไว้ว่าคุณไม่ต้องปิดแผลไว้หมดเพราะต้องให้เศษหนามที่เหลืออยู่หลุดออกมา
-
กินยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวด. ควรกินยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวดตามที่แนะนำเพื่อป้องกันการติดเชื้อและรักษาอาการปวด
- ควรทาแผลด้วยยาทาแผลเฉพาะภายนอก มีขายตามร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป วิธีควรทำเพื่อป้องกันไว้ก่อน แต่คุณต้องสังเกตด้วยว่าแผลมีรอยแดงหรือบวมหรือไม่ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไทลินอลและไอบูโพรเฟน เป็นตัวเลือกที่ช่วยจัดการกับอาการปวดได้ดี คุณควรกินตามปริมาณที่แนะนำ ทุกๆ 4-8 ชั่วโมงจนกว่าอาการปวดจะลดลง [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เฝ้าระวังอาการติดเชื้อ. แม้ว่าแผลจากหอยเม่นจะสามารถหายได้ถ้ารักษาอย่างถูกวิธี แต่หอยเม่นก็เป็นสัตว์มีพิษ คุณจึงควรรู้สัญญาณบ่งบอกอาการติดเชื้อ
- สัญญาณบ่งบอกอาการติดเชื้อคือ บริเวณแผลหรือบริเวณต่อมน้ำเหลือง (คอ ใต้วงแขน หรือขาหนีบ) มีรอยแดง เป็นหนอง บวม หรือมีอาการแสบร้อน [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ควรไปพบแพทย์หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปภายใน 2-3 วัน
- หากคุณมีปัญหาทางการหายใจหรือเจ็บหน้าอก แสดงว่าอาจติดเชื้อรุนแรงได้ และควรไปพบแพทย์ที่แผนกฉุกเฉินโดยเร็ว [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าจะให้ดีควรจุ่มคีมหนีบในน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนนำมาใช้ หรือเช็ดให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ชุบสำลี
- จะดีมากถ้าให้เพื่อนหรือคนสนิทคอยช่วยระหว่างที่เอาหนามออกและทำแผล มันอาจจะเจ็บหนักมากและยากที่จะทำด้วยตัวเอง
- ลองใส่รองเท้าสำหรับว่ายน้ำ เมื่อคุณจะไปว่ายน้ำในที่ที่มีหอยเม่นชุกชุม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหนามหอยเม่นตำเวลาบังเอิญไปเหยียบมันเข้า
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าถูกหนามตำบริเวณใกล้ข้อต่อ อาจต้องผ่าตัดเพื่อเอาออก ควรรีบปรึกษาแพทย์ดีกว่าจะพยายามจัดการด้วยตัวเอง
- ควรรีบเข้ารับการรักษาทันทีหากมีแผลถูกตำหลายจุด มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ หรือขยับแขนขาลำบาก และรีบขอความช่วยเหลือหากมีสัญญาณบ่งบอกถึงอาการแพ้อย่างรุนแรง เช่น หายใจติดขัด เจ็บหน้าอก มีผื่นลมพิษ มีอาการแดงตามผิวหนัง ปากหรือลิ้นบวม [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://a-z-animals.com/animals/sea-urchin/
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/article_em.htm
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page4_em.htm#when_to_seek_medical_care
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page4_em.htm#when_to_seek_medical_care
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/article_em.htm#sea_urchin_puncture_overview
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/article_em.htm#sea_urchin_puncture_overview
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/article_em.htm#sea_urchin_puncture_overview
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://getswellsoon.com/2012/03/09/sea-urchin-sting/
- ↑ http://getswellsoon.com/2012/03/09/sea-urchin-sting/
- ↑ http://getswellsoon.com/2012/03/09/sea-urchin-sting/
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page3_em.htm#sea_urchin_puncture_treatment
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/page4_em.htm
- ↑ http://www.emedicinehealth.com/wilderness_sea_urchin_puncture/article_em.htm
โฆษณา