ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากแผลเจาะร่างกายของคุณเริ่มบวมหรือมีรอยแดง อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อได้ บทความวิกิฮาวนี้ได้รวบรวมวิธีการการรักษาแผลเจาะร่างกายที่ติดเชื้อรวมถึงคำแนะนำในการป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อหลังการเจาะร่างกาย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

รักษาแผลเจาะร่างกายที่ติดเชื้อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แผลเจาะร่างกายมักมีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นหากคุณเจาะร่างกายเองที่บ้านหรือมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระหว่างการเจาะร่างกาย โดยแผลเจาะร่างกายของคุณอาจกำลังเกิดการติดเชื้อขึ้นหากคุณสังเกตเห็นอาการดังต่อไปนี้ [1]
    • มีอาการเจ็บหรือปวด
    • มีรอยแดงผิดปกติ
    • มีอาการบวม
    • มีหนอง เลือด หรือสารคัดหลั่งไหลออกจากแผล
  2. อาการติดเชื้อสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็วหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ซึ่งการติดเชื้อโดยส่วนใหญ่มักหายดีได้โดยเร็วหากคุณหมั่นทำความสะอาดแผลตั้งแต่เนิ่นๆ ลองสอบถามช่างเจาะร่างกายเมื่อมีข้อสงสัยใดๆ และหากคุณสงสัยว่าแผลเจาะร่างกายกำลังเกิดการติดเชื้อ พยายามทำความสะอาดแผลให้บ่อยครั้งด้วยสบู่และน้ำอุ่น
  3. คุณสามารถหาซื้อน้ำเกลือได้จากร้านเจาะร่างกายหรือจะทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน โดยผสมเกลือปราศจากไอโอดีน ⅛ ช้อนโต๊ะในน้ำกลั่น 1 ถ้วยตวงและคนจนกระทั่งเกลือละลาย จากนั้นแช่ส่วนของร่างกายที่เจาะในน้ำเกลือทิ้งไว้สักครู่หรือจุ่มก้านสำลีลงในน้ำเกลือและประคบตรงบริเวณที่เจาะนาน 20 นาที วันละ 2 ครั้ง
  4. ใช้ยาชนิดทาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปที่ประกอบด้วยตัวยาอย่าง Polymyxin B sulfate (Polysporin) หรือ Bacitracin เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียของแผลเจาะร่างกายที่เกิดการติดเชื้อ โดยใช้คอตตอนบัดหรือก้านสำลีแตะยาเล็กน้อยและทาบางๆ ที่บริเวณแผลวันละ 2 ครั้ง [2]
    • หากเริ่มมีผื่นหรืออาการคันเกิดขึ้น ให้หยุดใช้ยาโดยทันที เนื่องจากผื่นคันที่เกิดขึ้นอาจมีสาเหตุมาจากปฏิกิริยาการแพ้ยา
  5. การประคบด้วยน้ำแข็งจะช่วยลดอาการบวมรอบๆ บริเวณที่เจาะ จึงทำให้อาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นบรรเทาลง อย่างไรก็ตาม พยายามหลีกเลี่ยงการประคบน้ำแข็งบนผิวหนังโดยตรงเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย โดยคุณสามารถใช้ผ้าหรือผ้าขนหนูพันไว้เพื่อไม่ให้น้ำแข็งสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรง
  6. ช่างเจาะร่างกายสามารถให้คำแนะนำกับคุณได้อย่างชัดเจนตามตำแหน่งของร่างกายที่เจาะและอาการที่เกิดขึ้น รวมถึงให้บริการทำความสะอาดหลังรับการเจาะหูอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อาการติดเชื้อบรรเทาลงรวดเร็วยิ่งขึ้น
    • สำหรับการติดเชื้อโดยทั่วไป ช่างเจาะร่างกายของคุณจะให้คำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้อง
    • สำหรับการติดเชื้ออย่างรุนแรง ช่างเจาะร่างกายของคุณจะส่งต่อให้กับแพทย์เป็นผู้ดูแลพร้อมรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับบาดแผล ตำแหน่งของร่างกายที่เจาะ และวิธีการรักษาที่เป็นไปได้
  7. ไปพบแพทย์หากการติดเชื้อยังคงไม่ดีขึ้นนานกว่า 48 ชั่วโมงหรือมีไข้สูง. หากอาการติดเชื้อยังคงไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงหลังรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน ให้คุณรีบไปพบแพทย์โดยทันที โดยแพทย์อาจสั่งจ่ายยาให้กับคุณซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นยาปฏิชีวนะแบบทาน อาการที่ต้องระวังมีดังต่อไปนี้ [3]
    • มีอาการปวดที่กล้ามเนื้อหรือข้อต่อ
    • มีไข้สูง
    • มีอาการหนาวสั่น
    • มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน [4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ป้องกันการติดเชื้อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ผ้าขนหนูเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เจาะเบาๆ ด้วยสบู่และน้ำอุ่น การขจัดเศษฝุ่น คราบสกปรก และเชื้อแบคทีเรียออกอย่างหมดจดจะช่วยป้องกันไม่ให้แผลเจาะร่างกายของคุณเกิดการติดเชื้อ [5]
    • อย่าลืมทำความสะอาดแผลหลังจากออกกำลังกาย ออกไปข้างนอก ทำอาหาร หรือทำความสะอาดบ้าน
    • แม้จะมีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่การใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดแผลอาจทำให้ผิวหนังแห้งและนำไปสู่การติดเชื้อได้
  2. นอกจากหาซื้อน้ำเกลือจากร้านเจาะร่างกายแล้ว คุณยังสามารถทำน้ำเกลือใช้เองที่บ้านได้เช่นกันโดยใช้ส่วนผสมเพียง 2 ชนิด เริ่มจากเติมเกลือปราศจากไอโอดีน ⅛ ช้อนโต๊ะลงในน้ำกลั่น 1 ถ้วยตวงและคนจนกระทั่งส่วนผสมละลายเข้ากัน ให้คุณแช่ส่วนของร่างกายที่เจาะในน้ำเกลือทิ้งไว้สักพักหรือจุ่มก้านสำลีลงในน้ำเกลือและเช็ดตรงบริเวณที่เจาะนาน 20 นาที วันละ 2 ครั้ง [6]
  3. มือที่สกปรกเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเกิดการติดเชื้อ ดังนั้นคุณจึงควรล้างมือก่อนสัมผัสหรือทำแผลทุกครั้ง [7]
  4. หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่คับจนรัดแผลแน่น. พยายามเลือกสวมเสื้อผ้าที่หลวมเพื่อไม่ให้แผลเจาะร่างกายเสียดสีกับเสื้อผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแผลเจาะสะดือ อวัยวะเพศ หัวนม หรือส่วนอื่นๆ ตามร่างกาย
  5. หลีกเลี่ยงการใช้สระว่ายน้ำ อ่างน้ำร้อน หรือยิม 2-3 วันหลังเจาะร่างกาย. สถานที่เหล่านี้เป็นแหล่งรวมของความชื้นและเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การติดเชื้อ จำไว้ว่าแผลเจาะร่างกายของคุณเป็นแผลเปิด จึงมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าที่จะเกิดการติดเชื้อเมื่อเทียบกับแผลปิด
  6. จำไว้ว่าแผลเจาะร่างกายจะเกิดการอักเสบในช่วงแรกๆ. อย่ากังวลหากคุณสังเกตเห็นรอยแดงหรือมีอาการเจ็บในช่วงแรกๆ หลังการเจาะร่างกาย เนื่องจากอาการเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามปกติของร่างกายต่อการเจาะ อาการอักเสบที่เกิดขึ้นหลังการเจาะร่างกายนี้ถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นตามปกติและสามารถบรรเทาให้ดีขึ้นได้ง่ายๆ โดยการประคบน้ำแข็งและทานยาไอบูโพรเฟน [8] อย่างไรก็ตาม หากอาการอักเสบยังคงไม่หายดีภายใน 3-5 วัน แสดงว่าแผลเจาะร่างกายของคุณอาจกำลังเริ่มเกิดการติดเชื้อ
  7. อย่าเพิ่งถอดจิวออกหากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อ. แม้อาจจะฟังดูขัดแย้งไปบ้าง แต่คุณควรหลีกเลี่ยงการถอดจิวออกหากคุณสังเกตเห็นสัญญาณต่างๆ ของการติดเชื้อ เช่น มีหนองไหล เนื่องจากการถอดจิวออกจะทำให้รูที่เจาะตันและส่งผลให้ของเหลวจากการติดเชื้อคั่งค้างอยู่ข้างใน พยายามเปิดช่องของรูที่เจาะไว้เพื่อให้สามารถระบายหนองออกมาได้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝีที่แผลหรือทำให้อาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นแย่ลงไปอีก [9]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หลีกเลี่ยงการถอดจิวออกหากแผลเจาะร่างกายเกิดการติดเชื้อ การถอดจิวออกจะทำให้รูที่เจาะตันโดยที่ของเหลวจากการติดเชื้อยังคงคั่งค้างอยู่ใต้ผิวหนังและทำให้รักษาให้หายดีได้ยากยิ่งขึ้น
  • เช็ดแผลด้วยน้ำเกลืออย่างน้อยวันละครั้ง จำไว้ว่าการเช็ดแผลด้วยน้ำเกลือมากกว่า 2 ครั้งต่อวันอาจทำให้ผิวแห้งได้
  • สำหรับการเจาะร่างกายบริเวณต่างๆ ที่เรียบแบน เช่น การเจาะหัวนม ให้คุณละลายเกลือในน้ำร้อนและนำบริเวณที่เจาะจุ่มแช่ในน้ำเกลือนาน 5-10 นาที
  • ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสแผลเจาะร่างกาย
  • ประคบร้อนนาน 20 นาทีเพื่อบรรเทาอาการบวมและระบายของเหลวจากการติดเชื้อออกมา
  • เริ่มทำการรักษาทันทีเมื่อคุณมีอาการติดเชื้อ เนื่องจากอาการติดเชื้อนั้นสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว
  • แม้จะไม่มีอาการติดเชื้อเกิดขึ้น แต่การหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่เจาะเป็นประจำนั้นจะช่วยให้แผลหายดีเร็วยิ่งขึ้น
  • คุณอาจจำเป็นต้องสวมจิวที่ทำจากเงินหรือทองแท้เท่านั้น เนื่องจากจิวที่ทำจากวัสดุอื่นๆ (เช่น สแตนเลส) อาจส่งผลให้แผลเจาะร่างกายของคุณเกิดการติดเชื้อได้
  • หากคุณไว้ผมยาวและแผลเจาะหูของคุณเกิดการติดเชื้อ พยายามรวบผมให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมของคุณสัมผัสถูกบริเวณที่เจาะ เนื่องจากเส้นผมเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียและอาจส่งผลให้อาการติดเชื้อแย่ลงได้
  • หลีกเลี่ยงการสวมจิวที่ทำจากเงินหลังจากที่เพิ่งเจาะร่างกายมาใหม่ๆ เพราะแท้จริงแล้วเงินเป็นโลหะที่มีคุณภาพค่อนข้างต่ำและอาจก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ พยายามเลือกสวมจิวที่ทำจากไทเทเนียมหรือสแตนเลสเกรดเครื่องมือแพทย์ที่เป็นโลหะที่มีคุณภาพสูงและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ [10]
โฆษณา

คำเตือน

  • หลีกเลี่ยงการถอดจิวออก
  • ปรึกษาแพทย์หากคุณมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงหรือมีไข้สูง โดยคุณอาจต้องใช้ยาในการรักษาอาการติดเชื้อที่เกิดขึ้น
  • คุณอาจจำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์โดยทันที
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เกลือ
  • น้ำเปล่า
  • จิว
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่แนะนำโดยช่างเจาะร่างกาย โดยระมัดระวังอย่าใช้ในปริมาณมากจนเกินไป

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,324 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา