PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

บาดแผลในปากอาจจะเกิดได้จากการแปรงฟัน การกิน การกัดภายในปาก และการใส่เหล็กจัดฟัน บาดแผลส่วนใหญ่นั้นไม่รุนแรงและจะหายได้เอง อย่างไรก็ตามพวกมันอาจจะเจ็บปวดหรือกลายเป็นแผลสีขาวได้ ให้กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ ใช้ครีมขี้ผึ้ง หรือลองใช้สารต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติเพื่อรักษาบาดแผลในปาก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การห้ามเลือด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าแผลในปากมีเลือดออกให้เริ่มจากการบ้วนด้วยน้ำเย็น กลั้วน้ำไปมาในปากเพื่อให้แน่ใจว่ากลั้วน้ำรอบบริเวณแผล นี่จะช่วยกำจัดเลือดและช่วยห้ามเลือด [1]
  2. ถ้าการบ้วนปากห้ามเลือดไม่ได้คุณสามารถใช้ผ้าก๊อซกดแผลได้ กดที่แผลเบาๆ เป็นเวลาสองสามนาทีเพื่อห้ามเลือด [2]
  3. การกดประคบเย็นหรือน้ำแข็งบนแผลที่มีเลือดออกสามารถช่วยห้ามเลือดได้เช่นกัน เอาผ้าห่อน้ำแข็งแล้ววางลงบนแผล นี่จะช่วยลดการอักเสบและทำให้หลอดเลือดหดตัวซึ่งจะช่วยห้ามเลือด [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การรักษาแผล

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถซื้อครีมขี้ผึ้งปฏิชีวนะที่ใช้รักษาแผลในช่องปากได้ ครีมขี้ผึ้งเหล่านี้จะไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาบาดแผล แต่ในหลายชนิดยังมียาแก้ปวดผสมอยู่ด้วย พวกมันยังสามารถลดอาการบวมบริเวณที่เป็นแผลได้ด้วย [4]
    • เมื่อใช้ครีมขี้ผึ้งในช่องปากก็ให้แน่ใจว่าได้อ่านคำแนะนำอย่างระมัดระวัง
  2. การใช้น้ำเกลือเป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุดในการรักษาแผลในปาก ผสมเกลือหนึ่งช้อนชากับน้ำอุ่นหนึ่งถ้วย คนจนเกลือละลายหมด กลั้วสารละลายในปาก ให้แน่ใจว่าคุณใส่ใจกับบริเวณที่เป็นแผล [5]
  3. น้ำผึ้งเป็นสารต้านเชื้อแบคทีเรียและฆ่าเชื้อโรคที่สามารถช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันได้ [7] การทาน้ำผึ้งบนแผลในปากสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาแผล และลดอาการปวดได้ ทาน้ำผึ้งดิบบนแผลวันละหนึ่งครั้ง [8]
  4. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคและต้านเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ [9] สิ่งนี้สามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียใดก็ตามในบาดแผลและช่วยส่งเสริมการรักษาได้ แตะน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์เบาๆ บนแผลวันละ 2 ครั้งจนกว่าจะหาย [10]
  5. ผงฟูมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย [11] สิ่งนี้สามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียในแผลในปากและส่งเสริมการรักษาได้ ทำยาพอกจากผงฟูหนึ่งช้อนชากับน้ำ ทายาพอกบนแผลวันละ 2-3 ครั้ง [12]
    • คุณสามารถลองแปรงฟันด้วยยาพอกผงฟูได้อีกด้วย แต่หลีกเลี่ยงอย่าแปรงบริเวณแผลมิฉะนั้นคุณอาจจะทำให้แผลเจ็บและทำให้เลือดออกอีกครั้ง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การลดอาการเจ็บปวด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารบางประเภทอาจจะทำให้แผลในปากระคายเคือง อย่ากินอะไรที่เผ็ดหรือเค็มจัดๆ เพราะอาจจะทำให้แสบและเจ็บได้ คุณควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่แข็งหรือแห้ง ให้กินอาหารนิ่มๆ ที่จะไม่ทำให้เนื้อเยื่อในปากระคายเคือง [13]
    • คุณสามารถลองกินผลิตภัณฑ์จากนมอย่างเช่นไอศกรีม เนื้อนุ่ม และผักปรุงสุกได้
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกรด อย่างเช่นมะเขือเทศ และผลไม้ตระกูลส้ม
  2. การดื่มของเหลวมากๆ จะทำให้ปากของคุณชุ่มชื้น ปากที่แห้งอาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บและระคายเคืองในปาก หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่อาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บ เช่น น้ำผลไม้ตระกูลส้ม หรือเครื่องดื่มที่เป็นกรด [14]
    • คุณควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะว่าอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนได้
  3. อย่าบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์เพราะว่าอาจจะทำลายเนื้อเยื่อของแผลในปากและยับยั้งกระบวนการหายของแผลได้ แต่ให้ลองบ้วนปากด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แทนถ้าคุณมีแผลที่ปาก [15]
    • ถ้าคุณต้องการกลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก ให้ใช้เฉพาะสูตรที่ไม่มีแอลกอฮอล์
  4. คุณไม่สามารถหยุดพูดและใช้ปากได้ แต่ระวังกับวิธีที่คุณใช้ปากให้มากขึ้นในขณะที่แผลกำลังสมานตัว อย่าอ้าปากกว้างเกินไป เพราะนี่สามารถดึงเนื้อเยื่อภายในปากและทำให้แผลเปิดอีกหรือชะลอกระบวนการหายของแผลได้ [16]
  5. ใช้ขี้ผึ้งเพื่อป้องกันบาดแผลและลดความเจ็บปวดถ้าคุณใส่เหล็กจัดฟัน. ใช้ขี้ผึ้งจัดฟันในบริเวณด้านนอกที่แหลมคมซึ่งมีแนวโน้มว่าจะทำให้ระคายเคืองภายในปาก วิธีนี้จะช่วยลดความเจ็บปวดโดยจำกัดการระคายเคืองบนแผลและยังป้องกันบาดแผลในอนาคตอีกด้วย
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,705 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา