ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โรคหนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งสามารถมีผลต่อการสืบพันธุ์ในผู้ชายและผู้หญิง โรคหนองในเกิดขึ้นที่มดลูก ปากมดลูกและท่อนำไข่ในผู้หญิงและที่ท่อปัสสาวะในทั้งผู้ชายและผู้หญิง โรคหนองในมีผลกระทบต่อคอ ตา ปากและทวารหนัก แม้โรคหนองในไม่สามารถหายขาดได้เองแต่ก็สามารถรักษาได้ด้วยการดูแลที่ถูกต้อง [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ระบุโรคหนองใน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จำไว้ว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์สามารถติดเชื้อโรคหนองในได้. หากคุณเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ คุณก็อาจจะติดเชื้อโรคหนองใน ในสหรัฐอเมริกามีรายงานการติดเชื้อโรคหนองในสูงในหมู่วัยรุ่น วัยหนุ่มสาวและคนเชื้อชาติแอฟริกันอเมริกันที่มีเพศสัมพันธ์ [2]
  2. อาการของโรคคือการเจ็บแสบเมื่อปัสสาวะ ปัสสาวะปนเลือด มีตกขาวออกมาจากอวัยวะเพศ (สีขาว เหลืองหรือเขียว) ปลายอวัยวะเพศบวมหรือเจ็บ และอัณฑะนิ่มหรือบวม อีกทั้งยังรวมถึงการปัสสาวะบ่อยและอาการเจ็บคอ [3]
  3. เรียนรู้เกี่ยวกับโรคหนองในที่เกิดในผู้หญิง. อาการของโรคอาจจะไม่ชัดเจนและถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการติดเชื้อโรคอื่น วิธีเดียวที่จะเห็นความต่างของแบคทีเรียคือการตรวจแบบวิทยาเซรุ่ม (การตรวจกรองชนิดแอนติบอดี้) และการเพาะเชื้อ (การนำตัวอย่างของบริเวณที่ติดเชื้อมาและดูการเติบโตของเชื้อ) [4]
    • อาการของโรคหนองในที่เกิดในผู้หญิง ได้แก่ ตกขาว (อาจจะมีกลิ่นเชื้อรา) การเจ็บแสบเมื่อปัสสาวะ การปัสสาวะบ่อย อาการเจ็บคอ การเจ็บปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ มีไข้และการเจ็บท้องน้อยหากเชื้อได้ลามไปยังท่อนำไข่
  4. อาการอาจกำเริบภายใน 2 ถึง 10 วันของการติดเชื้อหรืออาจนานถึง 30 วันในผู้ชาย [5] . ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการใดๆ กว่า 20% ของผู้ชายและกว่า 80% ของผู้หญิงที่เป็นโรคหนองในไม่แสดงอาการใดๆ [6] สัญญาณและอาการอาจจะไม่เจาะจง ฉะนั้นหากคุณสงสัยว่าคุณเป็นโรคหนองในคุณก็ควรปรึกษาแพทย์
  5. โรคหนองในอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายหากไม่ได้รับการรักษา เช่น การเจ็บปวดต่อเนื่องและการเป็นหมันในทั้งผู้ชายและผู้หญิง สุดท้ายโรคหนองในที่ไม่ได้รับการรักษาจะลามไปยังกระแสเลือดและข้อต่อซึ่งอาจจะรุนแรงมาก
    • ในทางกลับกัน โรคหนองในที่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะสามารถหายขาดได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

การรักษาโรคหนองใน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรคหนองในอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายหากไม่ได้รับการรักษา ทั้งผู้ชายและผู้หญิงสามารถเกิดภาวะโรคหนองในลุกลาม แบคทีเรียได้เข้าไปยังกระแสเลือดและลามไปยังผิวหนังและข้อต่อ จนนำไปสู่การเป็นไข้ ผื่นนูนแบน (ผื่นที่นูนขึ้นมาตั้งแต่ลำคอลงไป) และการเจ็บข้อต่ออย่างรุนแรง
    • ภาวะแทรกซ้อนของโรคหนองในสำหรับผู้หญิง ได้แก่ การอักเสบของท่อนำไข่ซึ่งนำไปสู่โรคปากมดลูกอักเสบ (เจ็บท้องน้อยอย่างรุนแรง) ภาวะนี้จะนำไปสู่แผลรุนแรงในบริเวณนั้นทำให้มีบุตรยากและเป็นหมัน นอกจากนั้นปากมดลูกอักเสบที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกด้วย
    • อาการก้านอัณฑะอักเสบในผู้ชายอาจนำไปสู่การเจ็บหลังลูกอัณฑะและการเป็นหมันในที่สุด
  2. เข้าใจว่าโรคหนองในที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์. เชื้อหนองในมีโปรตีนที่ทำให้เซลส์เชื้อเอดส์แบ่งตัวเร็วขึ้น ทำให้เชื้อแพร่ได้มากขึ้น คนที่ไม่มีเชื้อเอดส์แต่เป็นโรคหนองในมีความเสี่ยงในการรับเชื้อไวรัสมากกว่าคนปกติถึง 5 เท่า
    • ห้ามทำกิจกรรมทางเพศจนกว่าจะได้รับการรักษาเพราะคุณสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ แนะนำคู่นอนของคุณให้ตรวจและรักษาด้วย เพราะโรคหนองในอาจจะไม่แสดงอาการในช่วงแรก
  3. เล่าประวัติและรายละเอียดให้ฟัง แพทย์หรือพยาบาลอาจจะถามคุณว่า: คุณมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? คุณมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ทวารหนักหรือช่องคลอดหรือไม่? คุณมีคู่นอนกี่คน? คุณได้ป้องกันหรือไม่? โรคหนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่แพร่เชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งคุณมีคู่นอนมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งเสี่ยงมากเท่านั้น
    • ดื่มน้ำมากๆ ก่อนไปพบแพทย์ แพทย์จะขอตรวจปัสสาวะเพื่อดูว่ามีเซลล์เม็ดเลือดขาว (เซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกาย) เลือดหรือร่องรอยการติดเชื้อในปัสสาวะหรือไม่
    • หากคุณเป็นผู้หญิงก็อาจจะได้ตรวจปัสสาวะแบบตั้งครรภ์
    • คุณต้องได้รับการตรวจเพื่อยืนยัน เพราะนี่คือการติดเชื้อที่มีกฎหมายบังคับว่าต้องรายงานผลให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและกรมควบคุมโรค
  4. เมื่อตรวจเจอโรคหนองใน แพทย์จะรักษาโรคหนองในเทียมด้วยเพราะคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อจากโรคสู่โรค แบคทีเรียสองตัวนี้ติดต่อทางเพศสัมพันธ์และสามารถก่อให้เกิดอาการคล้ายคลึงกัน ดังนั้นแพทย์จะรักษาทั้งสองโรค
    • ผู้ให้การรักษาจะทำความสะอาดบริเวณนั้น (ส่วนใหญ่จะเป็นหัวไหล่) ด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์และฉีดยาเซฟทริอาโซน 250 มิลลิกรัมเข้าไปในกล้ามเนื้อเพื่อรักษาโรคหนองใน ยาตัวนี้เป็นยาฆ่าเชื้อในกลุ่มเดียวกับเซฟาโลสปอรินและจะป้องกันการเติบโตของเซลล์โรคหนองใน
    • นอกจากนี้แพทย์จะจ่ายยาให้เป็นตัวยาอซิโธรมัยซิน 1 กรัมเพียงครั้งเดียวหรือตัวยาด็อกซิไซคลีน 100 มิลลิกรัมจำนวน 7 วันเพื่อรักษาโรคหนองในเทียม [7] . ทั้งสองตัวยาจะป้องกันไม่ให้เอนไซม์และส่วนประกอบสำคัญของเชื้อโรคหนองในก่อตัวโดยการขัดขวางกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • โรคหนองในป้องกันได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ที่ป้องกันอย่างปลอดภัย เช่น การใช้ถุงยางอนามัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์แม้จะเป็นทางปาก การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การให้คู่นอนไปตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การงดมีเพศสัมพันธ์และการลดกิจกรรมทางเพศที่เสี่ยง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 172,179 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา