ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าคนรักหรือ เพื่อน ไม่สนใจคุณ การโดนเทหรือหายหน้าไปแบบไม่บอกกล่าวมักจะเจ็บปวดเสมอ อย่าโทษตัวเองถ้าคุณโทรไปหรือส่งข้อความไปแล้วไม่ได้รับการตอบกลับ พยายามตั้งสติและไม่ต้องไปขอคำอธิบายหรือส่งข้อความระบายความโกรธถ้าคนรู้จักหรือแฟนที่รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตทำเหมือนคุณไม่สำคัญ อย่าใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น ถ้าคนใกล้ตัวจงใจเมินเฉยใส่คุณมันก็อาจจะเจ็บปวดบ้าง แต่ให้เวลาตัวเองกับการเสียใจซะหน่อย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

รู้ตัวว่าคุณโดนเทแน่แล้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันออกจะยากหน่อยที่จะทำใจเย็นเวลาที่ส่งข้อความหรือโทรไปแล้วไม่มีการตอบกลับ แต่ยังไงคุณก็ควรสูดหายใจลึก ๆ ทำใจให้สบายก่อนส่งข้อความยาวเหยียดแสนบ้าคลั่งหรืออีเมลที่ระบายความโกรธความยาวสิบย่อหน้า [1]
    • การไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนั้นไม่ตอบกลับมันก็น่าโมโหอยู่หรอก แต่การทำใจเย็น ๆ ไม่พูดอะไรที่คุณจะเสียใจในภายหลังหรือพูดอะไรที่ด่วนสรุปออกไปมันดีกว่าตั้งเยอะ
  2. คุยถึงปัญหานี้ตรง ๆ ถ้าคุณมีแฟนเป็นตัวเป็นตน. ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องเป็นฝ่ายเปิดประเด็นก็ขอให้มีเหตุผลเข้าไว้ ส่งข้อความหรือข้อความเสียงทำนองว่า “ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลย หวังว่าฉันคงไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกไม่ดี ถ้าเธออยากเคลียร์ ฉันก็พร้อมคุย แต่ถ้าเธอไม่พร้อมฉันก็ขอให้เธอโชคดี” [2]
    • หลายคนยอมรับการโดนเทแบบหายไปไม่บอกกล่าวได้ในบางสถานการณ์ เช่นถ้าคู่เดตที่เจอในแอปพลิเคชั่นหาคู่ไม่ตอบข้อความกลับ ทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือดึงตัวเองออกมาและลืมเรื่องนี้ซะ
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Sarah Schewitz, PsyD

    นักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์
    ซาราห์ เชวิตซ์เป็นนักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์ระดับปริญญาเอกที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในการช่วยเหลือคู่รักให้พัฒนาและเปลี่ยนรูปแบบจำเจของความรักและความสัมพันธ์ เธอเป็นผู้ก่อตั้ง Couples Learn บริการฝึกจิตวิทยาออนไลน์
    Sarah Schewitz, PsyD
    นักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์

    '“หาทางจบเรื่องซะถ้ามันสำคัญกับคุณจริง ๆ” นักจิตวิทยาด้านความรักและความสัมพันธ์ ดร. ซาราห์ เชวิตซ์กล่าวว่า “ถ้าคุณออกเดตหนึ่งครั้งและคิดว่าไม่อยากคุยกับคู่เดตอีก มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย คนเรามักรู้สึกว่า 'ไม่คลิกกับคู่เดตเท่าไหร่' แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมาตรง ๆ ในกรณีที่คุณเดตกันมาได้หนึ่งเดือน คุณอาจจะส่งข้อความทำนองว่า 'ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่คุยกับฉันอีก ฉันแค่อยากเคลียร์จะได้จบเรื่องนี้ได้'"

  3. ถ้าคุณเจอใครสักคนและไปออกเดตกันครั้งสองครั้ง การไปไล่บี้หาคำตอบอาจเสียเวลาเปล่า แต่ถ้าคุณเป็นเพื่อนหรือคบกันมาหลายเดือนหรือหลายปี คนที่เทคุณอาจมีเรื่องราวในใจมากมาย ก่อนที่จะด่วนสรุปไปเอง ลองเช็กดูก่อนว่าเพื่อนหรือแฟนแค่กำลังยุ่งมาก ๆ หรือเปล่า รวมทั้งดูว่าพวกเขามีสุขภาพกายที่ดีและสุขภาพใจอยู่ในภาวะสมบูรณ์หรือเปล่า [3]
    • คุณอาจจะลองเช็กสื่อโซเชียลมีเดียและดูว่าพวกเขาลงรูปหรือเขียนสเตตัสหรือเปล่า แต่จำเอาไว้ว่าอย่าเข้าไปดูนานเป็นชั่วโมง แค่เช็กนิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอ
    • ถ้าคุณทั้งคู่มีเพื่อนร่วมกัน ลองถามเพื่อนคนนั้นดูว่าเขาหรือเธอที่เทคุณนั้นอยู่ในภาวะที่โอเคหรือเปล่า
    • ถ้าคุณคิดว่าเขาหรือเธอคนนั้นอยู่ในภาวะซึมเศร้าหรือต้องต่อสู้กับความรู้สึกมากมาย คุณอาจจะลองส่งข้อความทำนองว่า 'ไม่ได้คุยกันตั้งนาน หวังว่าเธอจะสบายดี ฉันรู้ว่าเธอกำลังเจอความยากลำบาก แต่ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ'
  4. ถ้าคน ๆ นั้นจงใจเทคุณ มันก็เป็นโอกาสดีที่คุณจะตัดเขาหรือเธอออกไปได้เลย ถ้าเขาหรือเธอโพสต์รูปตลก ๆ ลงโซเชียลมีเดียและเพื่อนที่คุณมีร่วมกันก็บอกว่าคน ๆ นั้นสบายดี ก็แปลว่าเขาหรือเธอคนนั้นตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไม่มีอะไรที่คุณจะทำได้นอกจากบอกไปว่าคุณพร้อมเคลียร์และขอให้พวกเขาโชคดี [4]
    • มันก็เจ็บอยู่หรอก แต่พยายามหยุดหาข้ออ้างให้คนพวกนั้นหรือหวังว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะตอบกลับมา
    • ถ้าในอนาคตคนพวกนั้นพยายามติดต่อคุณ ก็ขอให้คุณตัดสินใจให้ดีถ้าพวกเขาขอโทษและอธิบายว่าสถานการณ์ตอนนั้นมันรุมเร้ามากมายไปหมด บางทีพวกเขาอาจไม่ได้มีเจตนาทำร้ายคุณก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ก้าวข้ามความเจ็บปวด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าคนที่เทคุณจะเป็นเพื่อนหรือแฟน การข้ามผ่านเรื่องนี้มันก็ยากเย็นอยู่ดี คุณอารมณ์เสียหงุดหงิดได้ อย่าพยายามปิดบังความเศร้า ปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้ ฟังเพลงเศร้า หรือจะสะอึกสะอื้นบนโซฟาทั้งวันก็ยังได้ [5]
    • ถึงแม้ว่าคุณจะออกเดตด้วยกันแค่ครั้งเดียว คุณก็มีสิทธิ์เศร้าเสียใจได้ การถูกปฏิเสธเป็นเรื่องยากเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม และการปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น
  2. ความสัมพันธ์มักสิ้นสุดลงเมื่อไปถึงจุดหนึ่งสักพัก บางครั้งมันก็เป็นเพราะคนสองคนไปกันไม่ได้ แทนที่จะคิดว่า “คงเป็นฉันเองที่แย่” ลองบอกตัวเองใหม่ว่าบางทีคนเราก็เข้ากันไม่ได้ อย่าโทษตัวเองมากไปเพียงเพราะคุณเลิกกับใครสักคน [6]
    • ลองคิดเสียว่าคุณรอดพ้นสถานการณ์ไม่พึงประสงค์มาได้แบบเฉียดฉิว บางทีการโดนเทหลังจากออกเดตไปหนึ่งหรือสองครั้งอาจจะดีกว่าการเสียเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนไปกับคนที่ไม่ใช่ ถ้าเพื่อนหรือคนรักที่คบหากันมานานตั้งใจเทคุณ บางทีการไม่มีพวกเขาเหล่านั้นในชีวิตอาจเป็นเรื่องดี [7]
  3. การคุยกับคนที่คุณไว้ใจช่วยระบายความรู้สึกอัดอั้นภายในได้ เพื่อนสนิทหรือญาติช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ และการใช้เวลากับพวกเขาก็ทำให้คุณได้พัก ไม่ต้องไปคิดเรื่องวุ่นวาย [8]
    • โทรหาคนที่คุณไว้ใจและเล่าเรื่องให้ฟัง “จู่ ๆ แซมก็ไม่โทรกลับ ไม่ส่งข้อความมาหา ฉันนึกว่าทุกอย่างราบรื่นซะอีกแต่กลายเป็นว่าโดนเท เธอไปดื่มกาแฟกับฉันได้ไหม ฉันเสียหลักและอยากเจอเพื่อนน่ะ”
  4. การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ การนอนหลับให้เพียงพอ และการออกกำลังกายจะช่วยให้คุณก้าวผ่านความเสียใจไปได้ อีกอย่างอย่าลืมแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมที่คุณชอบเพื่อเพิ่มความมั่นใจในตัวเองด้วย [9]
    • อย่าอดอาหารหรือรับประทานของหวานมากเกินไป ทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างเช่นผักและผลไม้ โปรตีนที่ดี (เช่นโปรตีนจากสัตว์ปีกหรือปลา) ธัญพืชไม่ขัดสี และผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันต่ำ
    • พยายามนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืน
    • ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที การออกกำลังกายกลางแจ้งจะช่วยได้มาก ลองออกไปเดินออกกำลัง วิ่งเหยาะ ๆ หรือปั่นจักรยานก็ได้
  5. อย่าให้ประสบการณ์การโดนเททำให้คุณไม่กล้าเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่ การเริ่มต้นคบใครสักคนอาจดูน่ากลัวและคุณอาจขยาดกับการโดนเทอีกครั้ง หายใจเข้าลึก ๆ เผชิญหน้ากับความกลัว และบอกตัวเองว่าให้อ่อนแอบ้างก็ได้ [10]
    • ลองเข้าคลาสหรือเข้าร่วมกลุ่มตามความสนใจของคุณ เช่นเข้าร่วมกลุ่มทำสวน กลุ่มกีฬาที่เล่นเพื่อความสนุก หรือเรียนทำอาหาร
    • เตือนตัวเองว่าชีวิตมีทั้งความสุขและความทุกข์ ยังไงคุณก็ต้องเจออุปสรรคต่าง ๆ ในอนาคต การย่ำอยู่กับที่ไม่ใช่หนทางที่ดีในการใช้ชีวิต
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เรียนรู้จากประสบการณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มองหาสิ่งที่ทำให้คุณเติบโต แต่อย่าโทษตัวเอง. อย่าก่นด่าตัวเองตอนที่กำลังเศร้าโศกเสียใจ แต่ให้ลองคิดดูว่าคุณเรียนรู้อะไรจากการโดนเทได้บ้าง ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่าคุณจะไม่เจอสถานการณ์แบบนี้อีก แต่มันอาจช่วยทำให้คุณเลือกเพื่อนหรือคู่เดตในอนาคตได้ดีขึ้น [11]
    • พยายามลองมองสิ่งต่าง ๆ ในทางบวก ไม่ใช่เอาแต่โทษตัวเอง ลองฝึกการประเมินตัวเองในเชิงสร้างสรรค์ เช่น “ฉันพยายามวางแผนมากกว่าคนอื่น ฉะนั้นฉันอาจหลีกเลี่ยงสถานการณ์ทำนองนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้”
  2. ถามตัวเองว่ามีสัญญาณเตือนโต้ง ๆ ที่มองข้ามไปหรือเปล่า. นึกถึงปฏิสัมพันธ์ที่คุณมีกับคนรอบตัว และพยายามนึกดูว่าสัญญาณไหนที่บ่งบอกว่าพวกเขาไม่อยู่ในความสัมพันธ์แล้วหรือเปล่า ลองนึกดูว่ามีการทะเลาะกันไหม พวกเขาค่อย ๆ หมดความสนใจในการคุยกับคุณหรือเปล่า คุณเป็นฝ่ายโทรหาหรือเป็นฝ่ายลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ใช่ไหม [12]
    • ขอย้ำอีกรอบว่าอย่าโทษตัวเองเมื่อคุณนึกถึงสัญญาณต่าง ๆ ที่มองข้ามไป ประเด็นก็คือเมื่อมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ให้หาสัญญาณพวกนี้ไห้เจอ
  3. มองว่าการถูกปฏิเสธเป็นเรื่องดีที่แฝงมากับการโดนเท. ที่จริงการโดนปฏิเสธมักทำให้เรารู้สึกแย่ แต่ลองมองในภาพรวมดู การมีประสบการณ์การอกหักทำให้คุณรับมือกับความเสียใจในอนาคตได้ ถึงแม้ตอนนี้มันจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่คุณจะรู้สึกดีขึ้นแน่นอน [13]
    • ครั้งต่อไปที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ ให้คุณกลับมานึกถึงเรื่องนี้และบอกตัวเองว่าทุกอย่างจะดีขึ้น
  4. จดจำความเสียใจไว้เมื่อคุณ เลิก กับใครสักคนในอนาคต. การที่คุณเคยเจอประสบการณ์โดนเทมากับตัว คุณรู้ดีว่าการโดนเท หายไปไม่บอกไม่ไช่วิธีที่ดีที่สุดในการยุติความสัมพันธ์ ถ้าคุณอยากจะเลิกกันแฟนหรือเลิกคบเพื่อน คุณต้องนึกถึงจิตใจคนอื่นแต่ก็พูดให้ตรงประเด็นที่สุด [14]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า “ฉันดีใจที่เราได้ใช้เวลาร่วมกัน ที่จริงมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับฉันเหมือนกันที่จะบอกว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้คงไปไม่รอดในระยะยาว หวังว่าคุณจะเข้าใจ ฉันขอให้คุณโชคดี”
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,848 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา