ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เวลาที่ใครบางคนรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยหรือถูกดูแคลน คนเหล่านั้นก็มักจะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาเป็นความอิจฉาหรือไม่ก็ความเกลียดชัง ซึ่งความรู้สึกแบบนี้อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ที่น่าอึดอัด และทำให้คุณรู้สึกไม่ดีต่อความสำเร็จที่ตัวเองมีก็เป็นได้ ดังนั้น การเดินหน้าเผชิญกับเหล่าเฮทเตอร์และคนที่อิจฉาคุณ และการใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้พวกเขาเอาชนะความอิจฉาของตัวเองได้นั้น จะช่วยทำให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ให้เป็นไปในทางบวกได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

การรับมือกับคนที่เกลียดคุณและคนที่อิจฉาคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รับรู้ไว้ว่าเวลาที่มีคนมาอิจฉาคุณ มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับตัวคุณเลย และมันเป็นเรื่องของพวกเขาทั้งนั้น เพราะฉะนั้น จงมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ อย่าปล่อยให้คนที่อิจฉาคุณมาทำลายความมั่นใจหรือทำให้คุณเกิดความไม่แน่ใจในความสามารถของตัวเองได้ [1]
    • ทำในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ต่อไปเรื่อยๆ และอย่าปล่อยให้ใครมาหยุดคุณได้
    • โฟกัสไปที่คนที่คอยสนับสนุนคุณก็พอ
    • คอยเตือนตัวเองไว้ว่าที่พวกเขาอิจฉา นั้นก็เป็นเพราะว่าคุณกำลังไปได้ดีกับบางสิ่งบางอย่างที่คุณทำอยู่
  2. ไม่ต้องไปสนใจความคิดเห็นที่แสดงถึงความอิจฉาและความเกลียดชัง. แม้ว่าสิ่งนี้อาจจะทำได้ยาก แต่ถ้าคุณไม่เอาใจไปใส่อยู่กับความคิดเห็นแย่ๆ จากคนที่อิจฉาคุณ นั่นก็จะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณไม่มีทางเป็นอย่างที่พวกเขาคิดต่อคุณแน่นอน [2]
  3. เข้าไปพูดคุยกับเหล่าเฮทเตอร์ที่คุณเจอในชีวิตประจำวันซะเลย. หากการมองข้ามหรือไม่สนใจใครบางคนไม่ได้เป็นตัวเลือกที่คุณมีล่ะก็ การเข้าหาสถานการณ์แบบนั้นโดยตรงก็อาจจะช่วยปลดปล่อยความรุนแรงของความอิจฉาได้ ดังนั้น ให้คุณลองเข้าไปพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมที่พวกเขามีต่อคุณเลยซะเลย
    • “คือฉันอยากจะมีความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานน่ะ แล้วฉันพอจะทำอะไรได้บ้าง เพื่อที่บรรยากาศการทำงานของพวกเราจะได้ดีขึ้นกว่านี้?"
    • “ถึงแม้ว่าฉันจะเห็นด้วยกับคำวิจารณ์ของคุณ แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าคุณออกจะวิจารณ์แรงไปหน่อยนะ”
  4. หากคุณสามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมหรือพฤติกรรมการมีปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคมได้ สิ่งนี้ก็จะช่วยลดผลกระทบที่คุณอาจจะได้รับจากคนที่อิจฉาคุณได้ [3]
    • ใช้เวลาอยู่กับคนที่คอยสนับสนุนคุณ เพราะคนที่ไม่ชอบคุณมีแนวโน้มที่จะไม่เผชิญหน้ากับคุณเวลาที่คุณอยู่กับกลุ่มตัวเอง
    • เวลาคุณเจอคนที่อิจฉาคุณ ให้คุณพูดทักทายไปอย่างสุภาพก่อน จากนั้นค่อยแยกตัวออกไปทางอื่น
    • ตีสนิทกับเพื่อนๆ ของคนพวกนั้นเอาไว้ เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคนนอก
  5. ปรับเปลี่ยนกิจวัตรของตัวเอง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเจอหน้ากับคนที่เกลียดคุณ. ให้คุณใช้ทางเดินอื่น หรือใช้ห้องน้ำในห้องโถงอื่นของตึก หรือไม่ก็เช็คดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนตารางเวลาเรียนหรือเวลาเข้ากะได้หรือเปล่า
  6. อย่ารู้สึกเหมือนกับว่าคุณต้องคอยฟังสิ่งที่คนที่อิจฉาคุณพูดใส่คุณอยู่ตลอดเวลา แต่ให้คุณกำหนดขอบเขตขึ้นมา เพื่อทำให้ตัวเองอยู่ห่างจากคนๆ นั้น โดยให้กำหนดเวลาเอาไว้ในใจว่าคุณจะให้ตัวเองมีส่วนร่วมกับคนที่อิจฉาคุณนานเท่าไร จากนั้นก็ค่อยขอตัวออกมาจากการสนทนาครั้งนั้น [4]
    • ให้เวลาตัวเอง 1 นาทีเวลาที่คุณคุยกับพวกเขา จากนั้นเดินเลี่ยงออกมาโดยให้พูดว่า “ฉันต้องไปเช็คของน่ะ ไปก่อนนะ”
    • คอยนับจำนวนคอมเมนต์ด้านลบที่คนนั้นพูดกับคุณเอาไว้ และเมื่อถึง 3 คอมเมนต์เมื่อไร ให้คุณจบการสนทนาเลย
  7. บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณไม่เห็นด้วยกับอะไรด้านลบที่พวกเขาทำ. ถึงแม้ว่าคุณจะไม่อยากทำตัวหยาบคายและทำให้อีกฝ่ายไม่สบอารมณ์ แต่การที่คุณทำให้พวกเขาตระหนักในสิ่งที่พวกเขาทำให้คุณรู้สึกนั้นอาจจะทำให้พวกเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองได้
    • “ฉันรู้สึกอึดอัดกับวิธีการที่คุณพูดกับฉัน”
    • “วิธีการเข้าหาของคุณเวลาที่เราพูดคุยกันมันทำให้ฉันรู้สึกแย่ คือฉันอยากจะรู้ว่าเราพอจะทำให้การมีปฏิสัมพันธ์ของเราเป็นไปในทางที่ดีกว่านี้ได้หรือเปล่า?"
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ช่วยให้อีกฝ่ายเอาชนะความอิจฉาที่ตัวพวกเขามีให้ได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าคนๆ นั้นจะแสดงอะไรที่เป็นเชิงลบออกมามากแค่ไหน ให้คุณพยายามมีปฏิสัมพันธ์กับเขาในทางบวกให้ได้ แสดงให้อีกฝ่ายเห็นเป็นตัวอย่างไปเลยว่าวิธีการจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ในรูปแบบที่ดีกว่านั้นเป็นยังไง [5]
    • พูดชมอีกฝ่ายเกี่ยวกับลักษณะดีๆ ที่พวกเขามี
    • มีความเมตตาในทุกๆ ปฏิกิริยาโต้ตอบที่คุณมีต่ออีกฝ่าย
    • เสนอตัวช่วยอีกฝ่ายในการปรับปรุงทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับคุณในจุดที่เขาแสดงความอิจฉาต่อตัวคุณ
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Nicolette Tura, MA

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีสุขภาพที่ดี
    นิโคเล็ตต์ ทูร่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการมีสุขภาพดีและเป็นผู้ก่อตั้ง The Illuminated Body บริษัทให้คำปรึกษาเรื่องการมีสุขภาพดีและความสัมพันธ์ในซานฟรานซิสโก นิโคเล็ตต์เป็นครูสอนโยคะที่มีใบรับรองและผ่านการสอนมากว่า 500 ชั่วโมงจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาติ (NASM) โดยเอกทางด้านจิตวิทยา เธอสำเร็จปริญญาตรีด้านสังคมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเบอร์กลีย์แห่งแคลิฟอร์เนียและได้รับปริญญาโทด้านสังคมศาสตร์จาก SJSU
    Nicolette Tura, MA
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีสุขภาพที่ดี

    พยายามเมตตาผู้อื่น ถ้าคุณต้องรับมือกับคนที่มีทัศนะเชิงลบ ให้หายใจลึกๆ แล้วเตือนตัวเองว่าบางทีเขาอาจมีวันที่แย่ๆ ช่วงเวลานั้นอาจจะทำได้ยากอยู่ตอนที่สถานการณ์ยังอยู่ตรงหน้า แต่มันจะเตือนให้คุณได้ระลึกว่าคนที่มีทัศนคติเชิงลบนั้นมักมีช่วงเวลาที่แย่จริงๆ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นพรมเช็ดเท้าให้เขา แต่คุณสามารถช่วยหาทางแก้ไขโดยไม่ต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไป

  2. เชื่อมโยงกับพวกเขาด้วยการบอกเล่าถึงความยากลำบากที่คุณเคยเจอมา. คนบางคนชอบรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่มีแต่ประสบการณ์แย่ๆ ดังนั้น การบอกเล่าเกี่ยวกับอุปสรรคส่วนตัวที่คุณเจอมานั้น อาจจะช่วยทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยวและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและอีกฝ่ายดีขึ้นด้วย
    • ให้คุณแชร์ประสบการณ์ที่คุณล้มเหลวในการทำบางสิ่งบางอย่างกับอีกฝ่าย
    • พูดคุยเกี่ยวกับงานต่างๆ ที่ยากสำหรับตัวคุณ
    • ขอร้องให้คนที่อิจฉาคุณช่วยทำอะไรบางอย่างให้คุณ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความมั่นใจ
  3. บางทีความอิจฉาก็เกิดจากการที่คนๆ หนึ่งรู้สึกด้อยค่ากว่าคนอื่น ดังนั้น การที่คุณเสนอความช่วยเหลือโดยการให้คำแนะนำคนที่มีความอิจฉาเพื่อไปปรับปรุงความอิจฉาที่พวกเขามีต่อตัวคุณ อาจจะช่วยระงับความรู้สึกไม่ดีที่พวกเขามีได้ ให้คุณคอยสนับสนุนความพยายามที่พวกเขามีเอาไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ดูเหมือนกับว่าคุณวางตัวด้วยการแสดงออกว่าคุณนั้นดีกว่าคนอื่นๆ [6]
  4. หากมีใครอิจฉาคุณเพราะสิ่งที่คุณมีหรือสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ให้คุณเสนอตัวเลือกต่างๆ ให้เป็นทางเลือกแก่พวกเขา จริงอยู่ที่เราไม่สามารถจัดหาทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนต้องการได้ แต่ให้คุณพยายามคิดให้หลากหลายรูปแบบเวลาที่จะเสนอทางเลือกให้กับคนที่อิจฉาคุณ พยายามเสนอทางเลือกที่เป็นไปได้หลายๆ ทางเลือก เพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถเลือกได้เอง [7]
  5. หลีกเลี่ยงการโพสต์คอมเมนต์หรือรูปภาพที่อาจจะกระตุ้นความโกรธบนโซเชียลมีเดีย. นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องหยุดเล่นโซเชียลมีเดียไปเลยนะ แต่ถ้าคุณคิดถึงสิ่งที่คนอื่นอาจจะเข้าใจไปทางใดทางหนึ่งจากสิ่งที่คุณโพสต์ คุณก็จะมั่นใจได้เลยว่าโพสต์ของคุณนั้นไม่ได้สร้างความไม่พอใจหรือความอิจฉาให้คนอื่น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ทำความเข้าใจกับต้นตอของความอิจฉาและสิ่งที่เป็นด้านลบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนเรามักจะเกิดความอิจฉาเมื่อรู้สึกว่าคนอื่นมีสิ่งที่จริงๆ แล้วควรจะเป็นของตัวเอง ซึ่งคนที่มีความอิจฉามักจะชอบโทษคนรอบข้างมากกว่าที่จะตระหนักในอารมณ์ความรู้สึกที่กำลังทำให้ตัวเองเจ็บปวดอยู่ [8]
  2. เจาะจงหาแหล่งที่มาของความอิจฉาที่อีกฝ่ายมี. ส่วนใหญ่ความอิจฉามักจะมาจากความกลัว ความกลัวที่ว่าตัวเองจะถูกดูถูกเหยียดหยาม หรือความกลัวที่ว่าตัวเองจะไม่ได้รับความรักจากคนอื่นนั้นก็มีอิทธิพลต่อคนๆ หนึ่งมากเช่นกัน ดังนั้น ให้คุณค้นหาว่าความกลัวแบบไหนที่ไปเติมเชื้อเพลิงให้ความอิจฉานั้น เพื่อที่คุณจะได้มองเห็นภาพว่าความอิจฉาพวกนั้นมาจากจุดไหน ซึ่งความอิจฉามีต้นตอมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น: [9]
    • สิ่งของวัตถุทางกายภาพ
    • ความสัมพันธ์ส่วนตัว
    • ตำแหน่งในอาชีพการงาน
    • สถานะทางสังคม
  3. ถามตรงๆ ไปเลยว่ามีเรื่องอะไรที่ไปกวนใจพวกเขา. ให้คุณเข้าหาคนที่ทำท่าทีเกลียดชังหรืออิจฉาเพราะความสำเร็จของคุณด้วยความสุภาพ แล้วถามเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น อย่าให้เหตุผลเพิ่มเติมกับพวกเขาด้วยท่าทีที่หยาบคายจนทำให้พวกเขาไม่พอใจ แต่ให้คุณพูดอย่างตรงไปตรงมาและเปิดรับสำหรับผลต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยคุณอาจจะลองใช้ตัวอย่างคำถามด้านล่างนี้เพื่อช่วยให้พวกเขาเปิดใจกับคุณ:
    • “ฉันรู้สึกว่าคุณทำท่าทีแปลกไปเวลาอยู่ใกล้ๆ ฉัน ฉันไปทำอะไรกวนใจคุณหรือเปล่า?"
    • “ฉันอยากจะทำให้ตัวเองแน่ใจว่าฉันไม่ได้ไปทำอะไรให้คุณอารมณ์เสียน่ะ ตอนนี้ทุกอย่างยังคงโอเคอยู่ใช่ไหม?”
    • “คุณเป็นคนที่เจ๋งคนหนึ่งเลยนะ และฉันก็อยากจะรู้ว่ามีอะไรระหว่างเราที่ผิดปกติไปหรือเปล่า?”
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

แยกแยะระหว่างความอิจฉาและคำวิจารณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองคิดดูว่ามีใครบ้างที่แสดงความเห็นที่ทำให้คุณรู้สึกว่าพวกเขามีความเกลียดชังและความอิจฉา หากคนๆ นั้นเป็นหัวหน้าหรือคนที่ต้องคอยให้คำแนะนำคุณ นั่นก็อาจจะมีแนวโน้มว่าสิ่งที่พวกเขาทำต่อคุณ คือพวกเขากำลังพยายามช่วยคุณพัฒนาตัวเองและไม่ได้จะทำลายคุณแต่อย่างใด
  2. ในทางการแพทย์ คนบางคนอาจจะมีอาการหลงผิดหรือหวาดระแวงอยู่ ซึ่งคนที่มีอาการนี้มักจะแสดงความอิจฉาออกมาอยู่ตลอดเวลา และก็อาจจะไม่ได้เจตตานาในสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาด้วย [10]
  3. พร้อมยอมรับคำวิจารณ์จากคนอื่นในอิริยาบถที่เป็นเชิงบวก. แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าบางคนนั้นดูโฉ่งฉ่างหรือหยาบคายเกินไปเวลาที่เขาแสดงความคิดเห็นออกมา แต่คุณก็ยังสามารถมองความคิดเห็นเหล่านั้นว่าเป็นคำวิจารณ์ในเชิงก่อได้ ฉะนั้น ยอมรับคำแนะนำเหล่านั้น และมีทัศนคติเชิงบวกเข้าไว้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เข้าใจไว้อย่างหนึ่งว่าคุณต้องทำอะไรบางอย่างได้ดีแน่ๆ ใครบางคนถึงได้อิจฉาคุณ ดังนั้น ทำสิ่งนี้ให้เป็นแรงผลักดันซะ
  • อย่าแชร์ข้อมูลอะไรกับคนที่ชอบหลงตัวเอง เพราะคนประเภทนี้มักจะเห็นแต่อะไรแย่ๆ ที่มีในตัวคุณ และใช้สิ่งนั้นมาเป็นเครื่องมือในการควบคุมมุมมองที่คนอื่นมีต่อตัวคุณ ดังนั้น ให้คุณพยายามอยู่ห่างๆ จากคนเหล่านี้และไม่ต้องแชร์อะไรกับพวกเขา ถ้าหากพวกเขาเป็นคนในครอบครัวคุณ ให้คุณพูดคุยเกี่ยวกับตัวพวกเขาแทน เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงการคุยเกี่ยวกับตัวคุณ
  • จำไว้ว่าเหล่าเฮทเตอร์ก็เป็นแค่คนที่มีความคิดลบๆ ต่อสิ่งที่คนอื่นมี เช่น ความสามารถพิเศษหรือไม่ก็ความกระตือรือร้นที่คุณมี ไม่ใช่เพราะว่าบุคลิกภาพของตัวคุณ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
จบความสัมพันธ์
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 49,069 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา