ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนเรื่องเยอะมีอยู่ทุกที่ ไม่แน่ว่าคุณเองก็อาจจะเป็นหนึ่งในคนเรื่องเยอะด้วยเหมือนกัน หลายคนต่างก็ผ่านช่วงเวลาที่เราอาจจะทำตัวไม่น่ารักสักเท่าไหร่ ถ้าคุณอยากจะรักษาความสัมพันธ์กับคนเรื่องเยอะ คุณต้องพัฒนากลยุทธ์การรับมือและการต่อรองไว้บ้าง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

เข้าหาคนเรื่องเยอะ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาที่ต้องต่อล้อต่อเถียงกับคนเรื่องเยอะ ให้ตัดสินใจว่ามันคุ้มค่ากับความพยายามที่ต้องเสียไปในการพูดคุยถึงปัญหาหรือเปล่า คุณไม่จำเป็นต้องสู้ในทุกสมรภูมิ ยิ่งคุณตระหนักถึงข้อนี้ได้เร็วเท่าไหร่ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ตามหลักแล้วคุณกับคนเรื่องเยอะคนนี้สามารถแยกความแตกต่างระหว่างกันออกไปและประนีประนอมกันได้ แต่บางครั้งมันก็ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
    • ถามตัวเองว่าสถานการณ์นี้มันทำให้คุณกังวลใจมากพอที่จะต้องเปิดประเด็นหรือเปล่า
    • พิจารณาความสัมพันธ์ของคุณกับคนๆ นี้ ถ้าเขาเป็นเจ้านายหรือคนที่มีอำนาจเหนือคุณ คุณก็ต้องยอมรับบางสิ่งที่คุณไม่ชอบ (ยกเว้นว่าจะเป็นพฤติกรรมใช้ความรุนแรง) [1] ถ้าเป็นคนในครอบครัวหรือเพื่อน ลองคิดว่าการเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวนั้นจะทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่ดีหรือช่วยประหยัดเวลาและความเศร้าให้คุณได้กันแน่
    • คุณจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้หรือเปล่า จริงๆ แล้วคุณอาจอยากชนะใครที่มากวนคุณ แต่คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์สถานการณ์และตรองดูว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม บางทีช่วงเวลาอาจไม่เหมาะสมหรือคุณจำเป็นต้องหาทางวางแผน ขอความช่วยเหลือ หรือหาทางเลือกอื่นๆ ให้ตัวเอง
  2. หายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะตอบโต้เพื่อรวบรวมความคิดและสงบสติอารมณ์ ถ้าความขัดแย้งเกิดขึ้นผ่านอีเมลหรือข้อความ พยายามเลี่ยงการส่งข้อความดิจิตัลเวลาที่คุณอารมณ์เสีย รอสักหน่อยเพื่อให้ระดับความเครียดลดลงก่อน จากนั้นคุณจะสามารถเข้าหาอีกฝ่ายได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้พูดคุยถึงปัญหาในที่ๆ เป็นกลางๆ หรือในที่ๆ มีกิจกรรม เช่น คุณอาจจะเดินไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้ วิธีนี้จะช่วยจำกัดการมีปฏิสัมพันธ์เชิงลบแบบเผชิญหน้ากันได้ [2]
  3. พูดความต้องการของคุณอย่างชัดเจนและสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา. อย่าให้อีกฝ่ายมีโอกาสบงการคุณหรือบิดเบือนคำพูดของคุณ [3] พยายามใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “ฉัน” มากกว่าประโยคที่กล่าวโทษว่า “คุณ” เช่น :
    • ”ฉันเข้าใจค่ะว่าคุณไม่พอใจแค่ไหนที่ฉันมาสาย เป็นฉันๆ ก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน แต่พอดีว่าเช้านี้รถไฟฟ้ามันขัดข้องและเราก็ติดแหง็กอยู่ที่สถานี ฉันขอโทษมากๆ ค่ะที่ทำให้คุณต้องรอ!”
    • อย่าพูดว่า : “คุณไม่มีเหตุผลเลยนะที่คิดว่าฉันจะมาตรงเวลาทั้งๆ ที่ระบบรถไฟฟ้ามันขัดข้อง ถ้าอยากรู้มากนักก็ไปกูเกิ้ลเช็กดูเส้นทางของฉันได้เลย”
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Amber Rosenberg, PCC

    โค้ชด้านอาชีพ
    แอมเบอร์ โรเซ็นเบิร์กเป็นโค้ชชีวิตและอาชีพที่มีใบอนุญาตในย่านเบย์แอเรียของซานฟรานซิสโก เธอมีประสบการณ์กว่า 20 ปีและผ่านงานองค์กร บริษัทเทคโนโลยีหรือองค์กรไม่แสวงผลกำไรมาแล้ว แอมเบอร์เคยฝึกกับสถาบันฝึกหัดโค้ชและเป็นสมาชิกของสมาคมโค้ชชิ่งนานาชาติ (ICF)
    Amber Rosenberg, PCC
    โค้ชด้านอาชีพ

    ลองใช้วิธีการแบบแซนด์วิชเวลาต้องพูดคุยกับคนที่เรื่องเยอะ เริ่มด้วยการให้ความเห็นเชิงบวกอย่างบอกให้เขารู้ว่าคุณให้คุณค่ากับความสัมพันธ์นี้ แล้วค่อยเข้าสู้ส่วนที่ยากที่สุดของการสนทนา ในตอนท้าย ให้ปิดท้ายด้วยความเห็นเชิงบวกอีกรอบเช่นขอบคุณเขาที่อุตส่าห์เสียเวลาฟังเรา

  4. ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตอบโต้อย่างไร ให้ใจเย็นๆ เข้าไว้ อย่าไปเรียกเขาเสียๆ หายๆ หายใจเข้าออกก่อนจะตอบโต้ กุญแจสำคัญคืออย่าลดตัวเองไปอยู่ระดับเดียวกับเขา นอกจากนี้ยิ่งคุณนิ่งได้มากเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็น่าจะสังเกตได้และทบทวนพฤติกรรมของเขาหรือเธอเอง
    • ถ้าคุณยังคงรักษาความสุภาพ อีกคนอาจจะเริ่มเปิดใจรับฟังสิ่งที่คุณพูดแทนที่จะตั้งกำแพง
  5. อธิบายทุกอย่างสั้นๆ อย่างชัดเจนและอย่าจมอยู่กับรายละเอียดหรืออารมณ์มากเกินไป เป็นไปได้มากๆ ว่าคุณจะไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายเห็นมุมมองของคุณได้และคุณก็ไม่จำเป็นต้องพยายามโน้มน้าวใจเขา พูดสิ่งที่เกิดขึ้นและอย่ารู้สึกว่าคุณต้องอธิบายตัวเอง [4]
    • หลีกเลี่ยงหัวข้อที่ทำให้ต้องมีปากเสียง [5] เช่น ถ้าคุณกับพี่สะใภ้เถียงกันเรื่องวันหยุดเป็นประจำ ก็ไม่ต้องคุย! ให้คนอื่นไปไกล่เกลี่ยแทน
    • อย่าเป็นฝ่ายตั้งรับ [6] คุณอาจจะอยากเถียงเพื่อให้คนเรื่องเยอะเห็นประเด็นของคุณ แต่คุณควรจะเลี่ยงการถกเถียงประเภทนี้จะดีกว่า อย่าเสียเวลาพยายามพิสูจน์ว่าคุณถูกเลย ทำให้สถานการณ์เป็นกลางที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่า
  6. กำหนดขอบเขตและลิมิตนั้นอาจฟังดูทำได้ยากในตอนแรก แต่มันเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน พิจารณาว่าพฤติกรรมใดที่คุณรับได้และจะรับมือด้วยอย่างไร คุณต้องวางลิมิตให้กับตัวเอง เช่น “ฉันจะอยู่กับแม่ในวันแม่ แต่จะไม่อยู่ด้วยทั้งวัน” หรือคุณอาจวางขอบเขตความคิดเห็นของคนอื่นอย่างเด็ดขาดชัดเจน เช่น “กรุณาอย่าพูดเรื่องน้ำหนักตัวของฉันนะ ถ้าพูดขึ้นมา ฉันจะหยุดพูดกับเธอและเดินออกไปทันที” [7]
    • พอกำหนดลิมิตไว้แล้ว พยายามใช้มันอย่างเคร่งครัด คนเรื่องเยอะนี่จะฉกฉวยประโยชน์ตรงนี้ถ้าเขาคิดว่าคุณไม่หนักแน่นกับขอบเขตที่ตัวเองขีดไว้
    • เช่น ถ้าคุณบอกเพื่อนร่วมงานเรื่องเยอะว่าคุณไม่ต้องการให้พวกเขามาเล่นมุกลามกให้คุณได้ยิน ก็อย่าเตือนเขาในบางครั้งและละเลยไปในบางครั้ง ให้ยืนกรานในเรื่องนี้ หรืออาจบอกผลที่อาจตามมาอย่าง “ถ้ายังพูดกันอีก ฉันจะไปฟ้องฝ่ายบุคคลนะ”
  7. หวังว่าคุณจะสามารถรับมือกับคนเรื่องเยอะได้ แต่ถ้าไม่ได้ ให้ใช้เวลากับเธอให้น้อยที่สุด ถ้าคุณต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเธอ พยายามทำให้ทุกอย่างสั้นกระชับที่สุดด้วยการขอตัวจากบทสนทนาหรือพาบุคคลที่สามมาคุยด้วย พยายามคิดบวกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และสงบสติอารมณ์ให้ได้หลังจากนั้น [8]
    • ยอมรับว่าคนๆ นี้ไม่มีทางเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือพี่น้องในแบบที่คุณต้องการได้ [9]
    • ถ้าทำทุกอย่างแล้วก็ยังเหมือนเดิม คุณอาจต้องยอมตัดความสัมพันธ์กับคนนั้นไปเลย นี่อาจลำบากใจสุดๆ โดยเฉพาะถ้าคนนั้นเป็นญาติหรือคนสำคัญหรือเพื่อนร่วมงาน อย่างไรก็ตาม หากพฤติกรรมของเขาเป็นพิษและทำร้ายจิตใจคุณจริง มันก็ถึงเวลามูฟออนแล้วล่ะ
  8. ถ้าคุณยังคุยกับอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องและจำเป็นต้องคุยให้รู้เรื่องให้ได้ ให้คุยกับคนกลาง บางทีเจ้านายอาจจะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ถ้าเป็นความขัดแย้งในครอบครัว ให้หาคนกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับที่สามารถเจรจาต่อรองได้ พยายามบ่นเฉพาะกับคนที่คุณไว้ใจเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เปลี่ยนทัศนคติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าคุณจะอยู่หรือทำงานที่ไหน คุณก็จะต้องเจอคนเรื่องเยอะที่ดูเหมือนเกิดมาเพื่อทำให้คนอื่นเจ็บปวด กุญแจสำคัญก็คือเรียนรู้ที่จะรับมือกับคนประเภทนี้ เพราะว่าคุณเลี่ยงพวกเขาไม่ได้ การระบุความแตกต่างระหว่างคนเรื่องเยอะเหล่านี้อาจช่วยคุณได้ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีที่ดีที่สุดที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาได้ คนเรื่องเยอะแบ่งตามประเภทได้ดังนี้: [10]
    • “ทำตัวเป็นศัตรู” คนประเภทนี้จะตอบโต้อย่างรุนแรง พวกเขาอาจจะพูดถากถาง ชอบโต้เถียง และมีปัญหากับการรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จในบทบาทที่มีอำนาจหรือการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์
    • “พวกอ่อนไหวต่อการปฏิเสธ” คนประเภทนี้มองหาการดูถูก พูดอีกอย่างก็คือพวกเขาจะรู้สึกไม่พอใจได้ง่ายมากๆ และมักใช้การสื่อสารผ่านข้อความ (อีเมล ข้อความ) เพื่อแสดงถึงความท้อใจ
    • “พวกประสาทเสีย” คนประเภทนี้เป็นคนเรื่องเยอะอีกจำพวกหนึ่ง พวกเขาอาจจะวิตกจริตหรือมองโลกในแง่ร้าย และมักจะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นบ่อยๆ
    • “พวกอีโก้สูง” คนประเภทนี้ให้ความสำคัญกับประโยชน์ของตัวเองก่อน พวกเขาเกลียดชังการประนีประนอมและยังอ่อนไหวต่อการสบประมาทซึ่งๆ หน้ามาก
  2. พฤติกรรมของอีกฝ่ายนั้นอยู่เหนือการควบคุมของคุณ แต่คุณต้องตัดสินใจว่าคุณจะตอบโต้อย่างไรและจะยุ่งกับพวกเขาหรือไม่ วิธีหนึ่งที่จะทำอย่างนี้ได้ก็คือ การเพิ่มความอดทนต่อความไม่พอใจที่เป็นการท้าทายความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลที่อาจทำให้คุณเครียด โกรธ หรือระเบิดอารมณ์ออกมา
    • เวลาที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนเรื่องเยอะ คุณอาจจะคิดว่า "ฉันรับมือกับคนๆ นี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!" ก่อนที่คุณจะตอบโต้ความเชื่อที่ไม่เป็นเหตุผลนี้ หายใจเข้าลึกๆ และตั้งคำถามว่ามันสมเหตุสมผลหรือเปล่า
    • ความจริงคือคุณ สามารถ รับมือกับมันได้ คุณไม่ตายหรือเป็นบ้าเพราะแม่สามีพยายามจู้จี้จุกจิกกับงานทำบุญบ้าน หรือเจ้านายโวยวายไม่หยุด คุณเข้มแข็งและคุณรับมือกับมันได้ สิ่งที่คุณต้องเลือกคือจะรับมือกับมัน อย่างไร ต่างหาก : คุณจะเครียดจนความดันโลหิตพุ่งพรวด หรือจะหายใจเข้าลึกๆ แล้วหยิบแคร์รอตให้แม่สามีไปหั่นเพื่อที่เธอจะได้มีอะไรทำ
    • เมื่อคุณพบว่าตัวเองใช้คำพูดว่า "ต้อง" "ไม่ได้" "ควร" "จำเป็น" "เสมอ" หรือ "ไม่เด็ดขาด" ให้ใช้เวลาสักครู่ประเมินความคิดของตัวเองอีกครั้ง
  3. ถ้ายังคงมีคุณหาเรื่องคุณไม่เลิก เป็นไปได้ว่าคุณดึงดูดคนผิดประเภท เช่น ถ้าคุณเป็นคนคิดลบมากเกินไป คนที่คิดลบคนอื่นๆ ก็จะแห่มาหาคุณ พยายามหาเพื่อนที่มีพฤติกรรมที่เป็นบวก
    • เมื่อคุณผ่านประสบการณ์ที่ไม่ดีมาในอดีต บทบาทของคุณคืออะไร การกระทำของคุณที่ตอบโต้พฤติกรรมนั้นคืออะไร เช่น สมมุติว่าเพื่อนที่ชื่อลิลลี่หาเรื่องคุณไม่เลิก คุณตอบโต้เธออย่างไร คุณยืนหยัดปกป้องตัวเองหรือเปล่า
    • การรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองมีประโยชน์กับคุณ เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณติดอาวุธเพื่อรับมือกับคนเรื่องเยอะได้มากขึ้นเมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ในอนาคต
  4. เพื่อนคุณคนหนึ่งอาจดูเป็นคนเรื่องเยอะ แต่เธอก็อาจจะกำลังผ่านช่วงเวลาแย่ๆ อยู่ก็ได้ แทนที่จะตัดสินพฤติกรรมของเธอทันที ให้ฝึกเห็นใจผู้อื่นด้วยการถอยกลังกลับมาและทบทวนว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณเป็นเขาหรือเธอ ถ้าคุณแยกแยะความแตกต่างทางบุคลิกได้ คุณจะรับมือกับความขัดแย้งที่หลากหลายได้ดีขึ้น
    • ฝึกยอมรับด้วยการหายใจเข้าลึกๆ และมองคนๆ นั้นด้วยหัวใจที่เมตตาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บอกตัวเองว่า : "ฉันเข้าใจว่าคุณกำลังทุกข์ ฉันยอมรับว่าคุณก็กังวลและกลัว แม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร และฉันก็ยอมรับว่าคุณทำให้ฉันกังวลด้วยเหมือนกัน" [11]
    • เมื่อคุณยอมรับว่าบางสิ่ง "ก็เป็นเช่นนั้นเอง" การรับรู้และการยอมรับว่าคนๆ นี้เป็นคนเรื่องเยอะจะช่วยปล่อยความตึงเครียดที่เกิดจากการต่อต้านหรือความพยายามที่จะต่อสู้ได้ [12]
    • คิดหาเหตุผลเพื่อทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของเขา [13] คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมลูกค้าถึงโกรธคุณโดยไม่มีเหตุผล แทนที่จะโกรธตัวเอง ให้คิดหาเหตุผลว่าเธออาจจะเจ็บป่วยร้ายแรงเรื้อรัง เลยทำให้เธอฟิวส์ขาดได้ง่ายมากๆ ไม่สำคัญว่าเหตุผลที่คุณนึกขึ้นมาจะจริงหรือมีแนวโน้มว่าจะจริงมากๆ หรือเปล่า เพราะมันก็ช่วยให้คุณสงบสติอารมณ์และไม่คิดลบได้ [14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าสบถเด็ดขาด การสบถมีแต่จะทำให้อีกฝ่ายโกรธและทำให้เขาเห็นว่าคุณควบคุมตัวเองไม่ได้
  • สงบสติอารมณ์อยู่เสมอ และถ้ารู้สึกโกรธจริงๆ ให้เดินหนีออกมา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,650 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา