ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณรู้จักใครบางคนที่ดูเหมือนไม่สามารถพูดความจริงได้หรือไม่? บางคนโกหกเพื่อทำให้ตัวเองดูดีหรือเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ บางคนทำเพราะพวกเขาเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ไม่ว่าจะอย่างไร การเผชิญหน้ากับคนโกหกคือการเริ่มต้นที่ดีในการรับมือกับพฤติกรรมของเขา อย่างไรก็ตาม คุณต้องจำว่าคุณไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงคนอื่น สิ่งที่คุณทำได้คือบอกความจริงด้วยตัวเอง อ่านต่อไปเพื่อเรียนรู้วิธีการรับมือกับคนโกหก

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การวิเคราะห์ปัญหา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จับโกหก . ถ้าคุณรู้ว่าต้องมองหาอะไร มันก็ไม่ยากในการบอกว่าใครกำลังโกหกคุณ การรู้วิธีจับได้ว่าใครกำลังโกหกคุณสามารถบอกคุณได้ว่าปัญหาจริงจังขนาดไหน พยายามดูว่าใครคนนั้นดูเเละทำตัวอย่างไรในสถานการณ์ที่ไม่เครียดและเปรียบเทียบกับในสถานการณ์ที่คุณคิดว่าพวกเขาอาจจะกำลังโกหก ไม่นานคุณจะสามารถอ่านภาษากายได้ดีพอที่จะจับได้ว่าพวกเขาไม่ได้บอกความจริง [1]
    • ดูวิธีที่ใครคนนั้นปฏิบัติตัวเมื่อคุณถามถึงวันเกิดหรือบ้านเกิดของเขา เปรียบเทียบพฤติกรรมนั้นกับวิธีที่เขาประพฤติตัวกับคำถามที่ยากขึ้น เช่น เขามีอะไรกับแฟนคุณหรือไม่หรือโกงตัวเลขในเอกสารที่ทำงานหรือเปล่า ถ้าหากเขากำลังบอกความจริง เขาก็ไม่น่าจะส่งสัญญาณของความเครียดเมื่อต้องตอบคำถามที่ยากเหล่านั้น
    • ลืมที่คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับว่าการไม่สบตาคือสัญญาณว่าใครบางคนกำลังโกหก ความจริงคือคนโกหกหลายคนสามารถสบตาได้เพราะความเชื่อเหล่านี้
    • เมื่อใครบางคนโกหก เขามักจะส่งสัญญาณความเครียด มองหาสัญญาณเหล่านี้:
      • ยิ้มเสแสร้ง ที่ยิ้มด้วยปากแต่ไม่ได้ยิ้มด้วยตา
      • เสียงโทนสูง กว่าปกติ
      • ลูกตาขยาย
      • กระพริบตาช้ามาก (และกระพริบตาเร็วเมื่อโกหกเสร็จแล้ว)
      • เท้าอยู่ไม่สุข ดีดหรือแกว่งเท้า
      • สัมผัสใบหน้า เช่น ปิดปาก ตาหรือจมูกตลอดเวลา
  2. หลายคนโกหกเกี่ยวกับหัวข้อที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ไม่ดีในอดีตหรือบางอย่างที่ทำให้พวกเขาอาย ถ้าหากเขาคนนั้นมักจะโกหกเมื่อถูกถามเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะเจาะจง คุณอาจจะต้องการถอยออกมาและเลิกกดดันปัญหานั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าหากการโกหกของใครบางคนไม่มีเหตุผลหรือไม่มีรูปแบบ คุณกำลังเจอปัญหาที่ใหญ่เกินจะรับมือไหว [2]
    • ถ้าหากใครบางคนโกหกทุกครั้งที่คุณถามว่าทำไมพ่อเขาถึงหายไปหรือทำไมเขาถึงเรียนไม่จบหรือทำไมเขาปฏิเสธที่จะพูดกับใครบางคน คำตอบของคำถามเหล่านั้นอาจจะระบุว่ามันไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของใครบางคนนอกเสียจากว่าคุณอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีพันธะสัญญากับเขาคนนั้น
    • ในทางกลับกัน ถ้าหากเขาคนนั้นดูเหมือนจะโกหกเพียงเพราะต้องการโกหกแม้เวลาที่ถูกถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องไม่สำคัญ เขาคนนั้นอาจจะเป็นคนชอบโกหกโดยนิสัย มันจะเป็นการยากที่คุณจะรู้สึกเห็นใจกับเจตนาการโกหกของใครบางคนเพราะการโกหกของเขาไม่เป็นไปตามรูปแบบ
  3. การถูกโกหกนั้นไม่เคยรู้สึกดีแต่บางการโกหกอันตรายกว่าการโกหกทั่วไป ก่อนที่คุณจะเริ่มแทรกแซง คุณต้องดูว่าการโกหกเหล่านี้มีผลกระทบต่อคนที่โกหก คุณและผู้อื่นอย่างไร [3]
    • ใครคนนั้นกำลังปกป้องตัวเองจากการพูดมากเกินไปหรือไม่? บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่
    • ใครคนนั้นโกหกเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นหรือเปล่า? ผู้คนตัดสินใจโดยอิงจากสิ่งที่ใครคนนั้นพูดโดยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังถูกโกหกหรือไม่? นี่คือปัญหาที่ต้องแก้ไข
    • ใครคนนั้นโกหกเพื่อหลบหนีจากการกระทำที่ไม่ดี เช่น ขโมยของ นอกใจหรือทำร้ายใครบางคนหรือเปล่า? พฤติกรรมนี้มีผลกระทบที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก
  4. บางคนชอบการโกหกมากกว่าการบอกความจริง มันเหมือนการเสพติดที่รู้สึกดีเมื่อได้โกหก คนโกหกที่รอดตัวมาได้ทุกครั้งที่โกหกอาจจะเริ่มโกหกเป็นชีวิตจิตใจแทนที่จะทำเพราะความจำเป็น คนโกหกโดยนิสัยเปลี่ยนแปลงได้ยากเพราะพวกเขาต้องโกหกเหมือนเป็นการเสพติดชนิดหนึ่ง [4]
  5. มองหาสัญญาณว่าใครคนนั้นเป็นคนโกหกแบบเป็นโรคหรือไม่. คนโกหกแบบเป็นโรคจะใช้การโกหกที่ห่างไกลจากความจริงอย่างเห็นได้ชัด เขามักจะเชื่อในคำโกหกที่เขาบอกและจะบอกเรื่องราวที่ไร้สาระให้กับคุณด้วยสีหน้าปกติจนคุณอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องจริง คนโกหกแบบเป็นโรคมีอาการผิดปกติทางจิต โชคไม่ดีที่คุณจะไม่สามารถบอกเขาได้ว่าเขากำลังโกหกเพราะเขาคิดว่าเขากำลังบอกความจริง อย่างไรก็ตาม คุณควรเผชิญหน้าเขาเพื่อดูว่าการตักเตือนจะสามารถนำพาเขาไปหาความช่วยเหลือได้หรือไม่ [5]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การเผชิญหน้ากับคนโกหก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดบันทึกทุกการโกหกที่คุณสังเกตได้ด้วยรายละเอียดที่อธิบายว่าทำไมคุณถึงคิดว่ามันเป็นเรื่องโกหก หาข้อมูลเพื่อที่คุณจะได้มีหลักฐานว่าเขากำลังโกหกแทนที่จะกล่าวลอยๆ คุณต้องแสดงให้คนโกหกเห็นว่าคุณรู้แน่ชัดว่าเขากำลังโกหก
    • ถ้าหากคุณสามารถรวบรวมหลักฐานชิ้นสำคัญ เช่น อีเมลหรือเอกสารที่ขัดแย้งกับสิ่งที่คนโกหกพูด มันจะทำให้การเผชิญหน้าง่ายขึ้น
    • ถ้าหากคุณกำลังพึ่งพาคนอื่นให้จับโกหก คุณต้องหาคนยืนยันมากกว่า 1 คน
  2. การเผชิญหน้าใครบางคนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของเขาในที่สาธารณะเป็นสิ่งที่เย็นชาและมักจะไม่สามารถช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงได้ คุณต้องคุยกับเขาในที่ส่วนตัวเพื่อที่ความรู้สึกละอายและอับอายจะไม่ไปถึงจุดระเบิด บอกเขาคนนั้นอย่างสงบว่าคุณคิดว่าเขาโกหก พูดถึงการโกหกที่เฉพาะเจาะจงนั้น
  3. สังเกตภาษากายเพื่อมองหาสัญญาณว่าเขากำลังโกหก รับฟังข้อแก้ตัวของเขา ถ้าหากเขายอมรับว่าโกหกและขอโทษ คุณอาจจะต้องเผชิญหน้ามากขึ้น พูดถึงเรื่องนี้อย่างหมดจดและจบบทสนทนาด้วยการบอกว่าคุณหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก
  4. ถ้าหากใครคนนั้นเถียง หาข้ออ้างหรือโกหกต่อไประหว่างที่เผชิญหน้ากันก็ถึงเวลาที่คุณต้องใช้หลักฐาน ให้เขาคนนั้นดูอีเมล เอกสารหรือหลักฐานที่คุณรวบรวมมาเพื่อพิสูจน์ว่าเขาโกหกคุณ คุณได้ทำให้เขาจนมุมในตอนนี้และเขาอาจจะเงียบหรือเริ่มขอโทษ
  5. สิ่งนี้ทำใจลำบากที่ต้องได้ยินและเขาคนนั้นอาจจะรู้สึกเสียใจเมื่อคุณบอกเขาว่าคุณไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดอีกต่อไป อธิบายว่าคุณไม่สามารถช่วยได้ที่ต้องรู้สึกระแวงว่าเขาอาจจะโกหกคุณและความเชื่อใจของคุณพังสลายจนกว่าเขาแสดงพันธะสัญญาที่จะพูดความจริงกับคุณ
    • คนส่วนใหญ่จะรู้สึกอับอายกับสิ่งนี้และหวังว่าจะสร้างพันธะสัญญาให้กับคุณเพื่อบอกความจริงจากบัดนี้เป็นต้นไป
    • คนที่โกหกเป็นนิสัยอาจจะยอมรับว่าเขาเสพติดการโกหกและขอให้คุณช่วยหยุดพฤติกรรมนี้ คุณอาจจะต้องเผชิญหน้าเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนที่เขาจะหยุดโกหกคุณตลอดไปแต่มันจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้นสำหรับใครบางคน
    • คนที่โกหกแบบเป็นโรคและมีความผิดปกติทางจิตจะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเผชิญหน้า การโกหกคือส่วนหนึ่งของวิสัยสำหรับพวกเขาเหล่านี้
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Maya Diamond, MA

    โค้ชด้านการเดทและความสัมพันธ์
    มายา ไดมอนด์เป็นโค้ชด้านการเดทและความสัมพันธ์ในเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอมีประสบการณ์กว่า 7 ปีช่วยคนโสดที่กำลังท้อใจในการออกเดทหาได้พบความมั่นใจ เยียวยาอดีต และสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวมั่นคง เธอได้รับปริญญาโทด้านจิตวิทยาจากสถาบันบูรณาการศึกษาแห่งแคลิฟอร์เนียในปี 2009
    Maya Diamond, MA
    โค้ชด้านการเดทและความสัมพันธ์

    ลองพิจารณาการเข้ารับคำปรึกษาถ้าคุณกำลังคบกับคนที่ชอบโกหก ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และการออกเดทอย่างมายา ไดมอนด์กล่าวว่า: "ถ้าคุณจับได้ว่าแฟนคุณพูดโกหก ทำให้เขารู้ว่าคุณกำลังจับตาดูอยู่ จากนั้นแบ่งปันสิ่งที่คุณรู้สึกและบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณอยากให้เขารับมือกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรในอนาคต ถ้ามันเป็นโกหกคำโต การไปพบนักบำบัดอาจจะดีกว่าเพื่อคุณจะได้เยียวยาเรื่องความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจและรักษารอยร้าวในความสัมพันธ์"

  6. บอกใครคนนั้นว่าการโกหกที่มากเกินไปหรือเป็นนิสัยเป็นสิ่งที่รักษาได้ด้วยการบำบัด ให้กำลังใจเขาเพื่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกก่อนที่เขาจะสูญเสียความเชื่อใจของทุกคน ท้ายที่สุดคนโกหกจะถูกเปิดโปงและเขาอาจจะสูญเสียงาน ความสัมพันธ์และทำลายโอกาสของการมีวิถีชีวิตที่ซื่อสัตย์มากขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การรับมือกับผลลัพธ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนที่มีพฤติกรรมโกหกไม่สามารถหยุดโกหกได้ทันที อย่ารู้สึกประหลาดใจถ้าหากคุณจับได้ว่าเขาโกหกอีกครั้งในอนาคต ขึ้นอยู่กับว่าความสัมพันธ์ของคุณกับคนโกหกเป็นอย่างไร คุณอาจจะต้องการหรือไม่ต้องการช่วยเหลือเขาให้หยุดโกหกโดยหาหลักฐาน เผชิญหน้าและตักเตือนเขาว่าคุณได้สูญเสียความเชื่อใจแล้วซ้ำๆ [6]
  2. รับรู้ว่าคุณไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของใครบางคน. สุดท้ายคือคุณไม่สามารถรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวของใครบางคน ถ้าหากเขาต้องการหยุดโกหก เขาจะต้องสร้างพันธะสัญญาและยึดติดอยู่กับมัน ถ้าหากเขาไม่ต้องการหยุดโกหกก็ไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้
  3. การรับมือกับคนโกหกอาจเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยหน่ายใจ เมื่อคุณนึกว่าความเชื่อใจกลับมาอีกครั้ง คุณอาจจะจับได้ว่าเขาโกหกและถูกบีบให้เริ่มใหม่อีกครั้ง คุณต้องใช้เวลาห่างกับคนที่โกหกและใช้เวลากับคนที่คุณสามารถไว้ใจได้ คุณอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ให้คำปรึกษาในการรับมือกับอารมณ์ที่ปนเปซึ่งมาจากการอยู่ใกล้กับคนโกหก
    • อย่าตกอยู่ในวังวนของการโกหก คุณต้องยึดเหนี่ยวกับความจริง คนที่โกหกเก่งดูน่าเชื่อถือและคุณต้องสามารถแยกความจริงออกจากเรื่องแฟนตาซีได้
    • ตัดขาดความสัมพันธ์ถ้าคุณไม่สามารถรับมือไหว อย่าปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวังวน ณ จุดหนึ่งคุณอาจจะต้องตัดขาดความสัมพันธ์และปล่อยความสัมพันธ์ที่เป็นพิษไป หลังจากที่คุณได้ทำทุกอย่างที่คุณสามารถทำได้ คุณต้องตัดขาดและเยียวยาตัวเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จดจ่อการเผชิญหน้ากับความเชื่อใจที่ถูกทำลายและผลกระทบที่มันมีต่อความสัมพันธ์ของคุณ
  • อย่าเริ่มทะเลาะเพราะมันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง
  • ออกห่างจากคนเหล่านี้
  • นึกว่าทำไมพวกเขาต้องโกหก พวกเขาอาจจะกำลังเรียกร้องความสนใจซึ่งไม่ใช่ข้ออ้างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรืออาจจะมีปัญหาที่พวกเขากลัวการรับมือจนเกินไป
  • พูดแต่ความจริง คนโกหกไม่ชอบได้ยินความจริงเพราะมันเปิดโปงให้พวกเขากลับมาอยู่กับความเป็นจริงและจำนนต่อการควบคุมสถานการณ์
  • รับฟังคนที่โกหกอย่างระมัดระวังเมื่อเขาพูด เขามีความสามารถในการไหลลื่นและบอกเรื่องราวได้มากกว่า 1 ครั้งและถ้าหากคุณรับฟังอย่างดีในครั้งแรกคุณจะสังเกตเห็นความคลาดเคลื่อน
  • อย่าตั้งชีวิตหรือทางเลือกอยู่บนสิ่งที่คนโกหกกำลังบอกคุณ
  • คนโกหกที่มีเจตนาทำร้ายคุณสามารถโกหกได้มากพอที่จะทำให้ทุกคนต่อต้านคุณ คุณจำเป็นต้องเปิดโปงคนโกหกและทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาพูดอะไร คนโกหกที่จริงจังไม่สนใจว่าการโกหกของเขาทำร้ายใครบ้าง
  • ลองเข้าใจเหตุผลว่าทำไมคนโกหกถึงต้องโกหกและปฏิบัติตัวตามสถานการณ์ ช่วยเหลือเขาถ้าหากมีบางอย่างที่คุณสามารถทำได้หรือปล่อยเขาทิ้งไว้ถ้าหากเขาเป็นคนผิด
  • ระมัดระวังเมื่อเปิดโปงคนโกหกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามีแนวโน้มที่จะลงไม้ลงมือ บางครั้งเขาจะอารมณ์รุนแรงเพื่อเอาตัวรอดจากการบอกความจริงและจะเปลี่ยนคำพูดของคุณและทำให้คุณดูเหมือนเป็นคนโกหก
โฆษณา

คำเตือน

  • ความโกรธและคำพูดหยาบคายมีแต่จะนำไปสู่ความเกลียดชังและพิสูจน์ว่าคำโกหกและคำหยาบคายของเขาที่มีต่อคุณนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่าตกอยู่ในเกมในการทำให้ตัวเองดูเหมือนคนใจร้ายเพราะมันจะเป็นผลลัพธ์ที่คนโกหกซึ่งหักหลังและดูถูกคนอื่นปรารถนา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 38,583 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา