ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรับมือกับสามี/ภรรยาที่นอกใจอาจเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่คุณต้องทำ เมื่อเป็นเรื่องของการตัดสินใจว่าควรจะทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปหรือไม่ คำตอบที่ตายตัวย่อมไม่มี ทั้งหมดที่คุณทำได้คือพูดคุยกับสามี/ภรรยาของคุณ ฟังเสียงตัวเอง และตัดสินใจว่าความสัมพันธ์นี้ควรค่าแก่การรักษาไว้หรือไม่ ถ้าคุณตัดสินใจว่าคุณอยากทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น คุณก็ต้องไม่คาดหวังกับอนาคตโดยที่ไม่ลืมดูแลตัวเองด้วย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

รู้ว่าอย่าทำอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เหตุผลที่สามี/ภรรยานอกใจนั้นอาจจะไม่ได้ชัดเจนเสมอไป และคุณก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะต้องโทษตัวเอง คุณอาจจะคิดว่าคุณเริ่มห่างเหินเกินไป หรือเพราะว่าคุณไม่ได้น่าประทับใจมากนักตอนอยู่บนเตียง บางทีคุณอาจจะทำแต่งานมากเกินไปและไม่มีเวลาให้ความสัมพันธ์อย่างเพียงพอ จริงอยู่ที่ว่าสิ่งเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลให้คุณต้องให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากขึ้น แต่คุณจำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งที่คุณทำไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามไม่สามารถทำให้สามี/ภรรยาของคุณนอกใจคุณได้ และคุณก็ไม่ควรโทษตัวเองในเรื่องที่เป็นความผิดของสามี/ภรรยาด้วย
    • แน่ล่ะว่าคุณก็อาจมีส่วนผิดในบางปัญหาของความสัมพันธ์ และจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องรับรู้ความผิดในส่วนนั้น แต่คุณไม่ควรคิดว่าความผิดพลาดบางอย่างของคุณจะทำให้การนอกใจของสามี/ภรรยาเป็นเรื่องที่ยอมรับได้อย่างเด็ดขาด
    • ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการโทษตัวเองมากเกินไป ก็เท่ากับว่าคุณปล่อยให้สามี/ภรรยาลอยตัวเหนือปัญหา คุณต้องให้ความสำคัญกับพฤติกรรมของสามี/ภรรยาด้วยเช่นกัน
  2. ถ้าคุณอยากทำให้ตัวเองบ้าคลั่งอย่างรวดเร็วที่สุด ให้คุณถามคำถามเกี่ยวกับผู้ชายหรือผู้หญิงอีกคนสักล้านคำถาม นั่งส่องหน้า Facebook ของเขา/เธอเป็นชั่วโมงๆ หรือแม้กระทั่งไปดูหน้าตัวเป็นๆ คุณอาจจะคิดว่าการรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับคนๆ นี้จะทำให้คุณรู้ว่ามีอะไรในความสัมพันธ์ของคุณที่ผิดพลาดไป แต่ในความเป็นจริงแล้ววิธีนี้ไม่ได้ให้คำตอบคุณมากกว่าเดิม แม้ว่ามันจะทำให้คุณเจ็บปวดมากก็ตาม [1]
    • เวลาที่สามี/ภรรยานอกใจ มันมักจะไม่เกี่ยวกับมือที่สามสักเท่าไหร่ นอกจากภรรยาจะคิดว่าสามีเริ่มความสัมพันธ์ที่จริงจังกับมือที่สามจริงๆ ส่วนใหญ่การนอกใจเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจในตัวเองหรือชีวิตแต่งงาน ถ้าคุณให้ความสำคัญกับผู้ชายหรือผู้หญิงอีกคนมากเกินไป คุณก็จะไม่ได้นึกถึงสามี/ภรรยาหรือความสัมพันธ์มากนัก
    • แม้ว่าการรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวจะทำให้คุณอุ่นใจบ้าง แต่คุณก็อาจจะไม่อยากรู้มากขนาดที่ว่าอีกคนหน้าตาเป็นอย่างไร มีอาชีพอะไร หรือรายละเอียดอื่นๆ ที่น่าจะทำให้คุณไขว้เขวหรือรู้สึกแย่กับตัวเอง มันไม่คุ้มกันหรอก
  3. แม้ว่าคุณอาจจะคิดว่าคุณจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ถ้าคุณหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ว่าทำไมการนอกใจถึงเกิดขึ้น เช่น การที่สามีของคุณรู้สึกไร้อำนาจตั้งแต่เขาตกงาน หรือการที่มือที่สามรุกเข้าหาภรรยาของคุณถี่ยิบจนเธออดใจไม่ไหว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะหาเหตุผลในเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ยอมรับว่าคุณเจ็บและคุณต้องหาทางก้าวเดินต่อไป แต่อย่าคิดว่าการหาข้ออ้างให้กับสามี/ภรรยาจะเป็นวิธีที่ทำให้คุณก้าวเดินต่อไปได้
    • สิ่งที่แวบเข้ามาในใจของสามี/ภรรยาตอนที่เขาหรือเธอเลือกที่จะนอกใจคุณอาจอยู่เหนือเหตุผล เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียเวลากับการหาคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นมากเกินไปนัก และหันมาพยายามก้าวเดินต่อไปให้ได้จะดีกว่า
  4. คุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวดและโกรธอย่างไม่น่าเชื่อ และอาจจะอยากบอกให้คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทรู้เรื่องราวทั้งหมด หรือแม้กระทั่งโพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดียเพื่อระบายความรู้สึกออกมา แต่ถ้าเกิดคุณอยากจะประนีประนอมและทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น คุณก็จะต้องรับมือกับการที่คนอื่นมองสามี/ภรรยาและความสัมพันธ์ของคุณต่างจากเดิมไปตลอดชีวิต แทนที่จะบอกทุกคนที่คุณรู้จัก ให้บอกเฉพาะคนสนิทที่คุณคิดว่าจะสามารถช่วยให้คุณคิดหาทางออกกับเรื่องนี้ได้จริงๆ
    • พอคุณบอกทุกคนไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น คุณอาจจะรู้สึกโล่งใจในตอนแรก แต่ความเจ็บปวดและความเสียใจที่พูดออกไปก็อาจจะตามมา คุณอาจจะไม่ได้ตระหนักว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะรับฟังคำแนะนำหรือคำตัดสินจากทุกๆ คน
    • ถ้าคุณบอกเพื่อนสนิทเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ของสามี/ภรรยาของคุณ คุณต้องระมัดระวังคำพูดให้มากๆ หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณอยากจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ถ้าเพื่อนๆ คิดว่าคุณต้องทิ้งสามีแน่ๆ พวกเขาก็อาจจะบอกสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบในตัวสามีของคุณเป็นพันๆ ข้อ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาเลย และอาจจะนำไปสู่ความกระอักกระอ่วนในอนาคตถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ด้วยกันต่อ
  5. อย่าหมกมุ่นว่าเพื่อนๆ และครอบครัวจะคิดอย่างไร. ควบคู่ไปกับการที่คุณไม่ควรบอกทุกคนให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณไม่ควรกังวลว่าคนที่รู้เรื่องนี้จะคิดอย่างไรกับการนอกใจ แม้ว่าคนที่ใกล้ชิดคุณจะสามารถให้คำแนะนำที่มีประโยชน์กับคุณได้ แต่สุดท้ายมันเป็นเรื่องที่ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณ และคุณก็ไม่ควรถามตัวเองว่าทุกคนจะคิดอย่างไรถ้าคุณจะตัดสินใจที่ตัดความสัมพันธ์หรืออยู่ด้วยกันต่อ สุดท้ายแล้วมันไม่สำคัญหรอกว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร และคุณก็ไม่ควรให้คำตัดสินของคนอื่นมาบดบังกระบวนการตัดสินใจของคุณด้วย
    • การพูดคุยกับคนสนิทสามารถช่วยให้คุณเข้มแข็งขึ้นได้แน่นอนและให้มุมมองใหม่ๆ ต่อสถานการณ์แก่คุณด้วย แต่สุดท้ายแล้วคุณต้องรู้ว่าความคิดเห็นของคนอื่นต้องไม่มาแทนที่ความคิดเห็นของคุณ
  6. แม้ว่าคุณคิดว่าตัวเองอยากจะเก็บข้าวเก็บของหรือไล่สามี/ภรรยาออกจากบ้านทันทีที่คุณรู้เรื่องการนอกใจ แต่คุณต้องใช้เวลาคิดทบทวนทุกอย่างมากกว่านี้ แน่นอนว่าคุณสามารถแยกกับสามี/ภรรยาสักพักได้ แต่อย่าพูดว่าคุณต้องการหย่าหรือใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในทันที ให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและคิดว่าอะไรดีกับคุณและความสัมพันธ์มากที่สุด แทนที่จะทำในสิ่งที่คุณอาจเสียใจภายหลัง
    • แม้ว่าการตัดสินใจอยู่ห่างกันสักพักในทันทีจะเป็นสิ่งที่ดี แต่คุณไม่ควรพูดว่าคุณต้องการหย่าทันทีที่คุณได้ยินข่าว แม้ว่าใจคุณจะบอกให้ทำอย่างนั้น แต่ให้รอจนกว่าคุณตกตะกอนความคิดได้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
  7. แม้ว่าคุณจะรู้สึกดีที่ได้ใจร้ายกับสามี/ภรรยาบ้าง เอาของที่เขารักไป หรือแม้กระทั่งมีชู้บ้างเพื่อเอาคืน พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้คุณเดินหน้าต่อไปไหน และไม่ช่วยให้คุณนำพาความสัมพันธ์ให้เดินหน้าต่อไปได้ด้วย แม้ว่าคุณจะไม่พอใจ เย็นชาใส่สามี/ภรรยาและรักษาระยะห่างสักพัก คุณก็ไม่ควรจงใจพยายามทำให้เขาหรือเธอรู้สึกแย่กว่าเดิม ไม่อย่างนั้นสุดท้ายแล้วคุณก็จะเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่
    • การลงโทษสามี/ภรรยาของคุณมีแต่จะเพิ่มความขมขื่นในใจคุณและทำให้ความสัมพันธ์แย่ยิ่งกว่าเดิม การแยกกันสักพัก เย็นชา และเหินห่างใส่กันมากกว่าเดิมเป็นเรื่องปกติที่รับได้ แต่การตั้งใจทำร้ายอีกฝ่ายไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

สิ่งที่ต้องทำในช่วงแรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณควรค่อยๆ คิดว่าสิ่งที่คุณต้องการจากสามี/ภรรยาคืออะไรก่อนจะเริ่มคุยกับเขาหรือเธอ อย่าเริ่มคุยเรื่องนอกใจจากนั้นก็ร้องไห้แล้วก็ดีกัน แต่ให้ใช้เวลาสร้างแผนการที่ละเอียดรอบคอบขึ้นมาก่อน เพื่อที่สามีของคุณจะได้รู้ว่าคุณคาดหวังอะไรจากเขาถ้าเขาอยากให้ความสัมพันธ์ของคุณสองคนดำเนินต่อไป การระบุความต้องการของตัวเองไม่ควรเป็นการลงโทษ แต่ควรเป็นแผนการที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกันมากกว่า
    • บอกให้สามี/ภรรยาของคุณรู้ว่าเขาหรือเธอต้องทำอะไรให้คุณเพื่อให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปได้ ซึ่งอาจจะเป็นการไปเข้ารับการปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ด้วยกันหรืออาจจะแยกกันไป เขียนขั้นตอนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อค้นหาสิ่งที่คุณชอบทำร่วมกันอีกครั้ง หาเวลาคุยกันทุกคืน หรือแยกกันนอนจนกว่าคุณจะสบายใจที่จะนอนห้องเดียวกันอีกครั้ง
    • ถ้าคุณคิดเรื่องหย่า คุณควรจะจ้างทนายความให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะยิ่งคุณจ้างทนายความเร็วเท่าไหร่ คุณจะยิ่งอยู่ในจุดที่ต่อรองได้มากเท่านั้น
  2. ถึงคุณจะรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะให้อภัยสามี/ภรรยาหรือพร้อมที่จะให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่คุณก็ควรรู้ว่ามันต้องใช้เวลานานกว่าจะเรียกความไว้ใจและความรู้สึกรักใคร่ที่คุณเคยมีต่อสามี/ภรรยากลับมาได้อีกครั้ง แม้ว่าคุณทั้งคู่จะตั้งใจให้ความสัมพันธ์เดินหน้าต่อไปได้มากแค่ไหน แต่มันก็ใช้เวลานานกว่าอะไรๆ จะเป็น “เหมือนเดิม” (ที่ใช้คำนี้เพราะไม่รู้จะใช้คำไหน) และกว่าที่คุณจะรู้สึกรักใคร่เอ็นดูคนที่คุณแต่งงานด้วยอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆ ถ้าคุณพยายามเร่งให้ทุกอย่างเกิดเร็วขึ้น คุณอาจจะมีปัญหาภายหลังได้ [2]
    • คุณไม่สามารถให้อภัยคนรักหรือทำให้คุณรู้สึกเป็นปกติได้ภายในชั่วข้ามคืน มันอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือกระทั่งหลายปีกว่าจะสร้างความไว้ใจกลับมาได้อีกครั้ง
    • และคุณอาจจะต้องค่อยๆ ให้เวลากับความรู้สึกด้วยเช่นกัน มันอาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าคุณจะสบายใจที่จะนอนเตียงเดียวกับสามี/ภรรยา ไปทานอาหารมื้อเย็นกับเขา หรือทำในสิ่งที่คุณชอบทำร่วมกันอีกครั้ง เตรียมใจเรื่องนี้ไว้ด้วย
  3. ให้สามี/ภรรยาของคุณรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร ให้เขารับรู้ถึงความโกรธ ความน้อยเนื้อต่ำใจ การหักหลัง และความเจ็บปวดที่เขานำมาให้คุณ อย่าปิดบังความรู้สึกของตัวเองและทำเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ให้เขาได้เห็นถึงความเจ็บปวดของคุณจริงๆ และได้ยินว่าคุณรู้สึกอย่างไร ถ้าคุณไม่ซื่อสัตย์และเปิดใจว่าคุณต้องเผชิญกับอะไรบ้าง คุณก็จะไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยกันได้อย่างแท้จริง แม้ว่าคุณอาจจะอายหรือกลัวที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา แต่คุณก็จำเป็นต้องทำ
    • ถ้าคุณกังวลเรื่องการเผชิญหน้ากับสามี/ภรรยาหรือกลัวว่าจะไม่ได้พูดทุกอย่างที่อยากพูด ให้คุณเขียนสิ่งที่คุณอยากบอกทั้งหมดออกมา วิธีนี้จะทำให้คุณไม่สับสนเมื่อคุยกันจนลืมประเด็นสำคัญที่อยากพูดไป
    • ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองอ่อนไหวเกินกว่าจะพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ให้รอสัก 2–3 วันหรือรอจนกว่าคุณจะรู้สึกสบายใจที่จะพูดทุกอย่างจากใจมากที่สุดเท่าที่ทำได้ แน่นอนว่าการพูดคุยกันในครั้งนี้คงไม่ทำให้คุณสบายใจไปเสียทั้งหมด แต่คุณสามารถรอจนกว่าคุณจะตั้งหลักได้ถ้าจำเป็น ก็คือ คุณไม่ควรยืดเยื้อเวลาที่จะได้คุยกันออกไปนานนัก
  4. คุณอาจจะอยากได้ความกระจ่างว่าสามี/ภรรยาที่นอกใจคุณนั้นทำอะไรไว้บ้าง ถ้าคุณอยากปะติดปะต่อว่าเรื่องมันไปถึงไหนแล้ว ให้ถามว่ามันเกิดขึ้นกี่ครั้งแล้ว เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เริ่มอย่างไร หรือแม้กระทั่งว่าสามี/ภรรยาของคุณรู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่าย แต่ถ้าคุณอยากให้การพูดคุยกันครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะสานความสัมพันธ์ให้ดำเนินต่อไปได้ คุณก็ควรนึกทบทวนอีกครั้งก่อนถามรายละเอียดที่คุณอาจจะรู้สึกดีกว่าถ้าไม่รู้
    • ถามคำถามที่คุณคิดว่าจะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นว่าความสัมพันธ์อยู่ตรงจุดไหน แต่พยายามอย่าถามคำถามแค่เพราะคุณอยากรู้ เพราะคำตอบที่ได้อาจเจ็บปวดเกินไป
  5. ถึงมันอาจจะฟังดูน่าอาย แต่ทันทีที่คุณรู้ว่าสามี/ภรรยานอกใจคุณ คุณทั้งคู่ควรเข้ารับการตรวจโรคโดยทันที คุณไม่รู้ว่ามือที่สามมีโรคอะไรให้คุณบ้าง และคุณก็ไม่มีวันรู้ได้เลยว่ามันส่งต่อมาถึงคุณไหม ถึงสามี/ภรรยาของคุณอาจจะแย้งว่ามันไม่จำเป็น แต่คุณจำเป็นต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าคุณทั้งคู่ปลอดภัยจากโรค
    • การผ่านกระบวนการตรวจโรคยังช่วยให้สามี/ภรรยาของคุณเข้าใจความร้ายแรงของการกระทำของเขาหรือเธอด้วย การนอนกับคนอื่นโดยที่ยังนอนกับคุณด้วยทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยง และนี่ก็เป็นสิ่งที่เขาหรือเธอต้องรับรู้ด้วย
  6. แม้ว่าคุณอาจจะเจ็บปวด ความรู้สึกต่างๆ ประดังประเดเข้ามา รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง โกรธ และมีอารมณ์อื่นๆ มากมายที่คุณอยากจะระเบิดออกมา แต่คุณก็ต้องนั่งลงและรับฟังสามี/ภรรยาของคุณด้วย คุณอาจจะรู้สึกว่าการได้ยินสิ่งที่เขาหรือเธอพูดเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการในชีวิต แต่ถ้าคุณอยากได้ความกระจ่างและอยากให้ความสัมพันธ์เดินหน้าต่อไปได้ คุณก็ต้องรับฟังเรื่องราวอีกด้านของเขาหรือเธอด้วย คุณอาจจะได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกใหม่ๆ หรือความคับข้องใจที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามี/ภรรยาของคุณเคยแบกรับไว้ก็ได้
    • มันไม่ยุติธรรมที่จะคิดว่าเขาไม่สมควรได้รับสิทธิ์ในการเล่าเรื่องจากมุมของเขาหรือมีความรู้สึกต่างๆ ในเรื่องนี้ แม้ว่าคุณอาจจะไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของสามี แต่คุณก็ต้องให้เขาแสดงความรู้สึกของเขาออกมาถ้าคุณอยากเดินหน้าต่อไปได้
  7. พอคุณกับสามี/ภรรยาเริ่มคุยกันเรื่องการนอกใจแล้ว คุณก็จะปรับวิธีการสื่อสารกันได้ คุณต้องพูดคุยกันอย่างเปิดเผยและซื่อสัตย์ คุยกันสม่ำเสมอ และพยายามอย่าแสดงความดื้อเงียบให้มากที่สุด แม้ว่ามันอาจดูเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้หลังจากที่รู้ว่าสามี/ภรรยาของคุณทำอะไรมาบ้าง แต่คุณก็ต้องสื่อสารกันอย่างดีที่สุดถ้าคุณอยากให้อะไรๆ มันดีขึ้น
    • พอคุณพร้อมแล้ว ให้พยายามเจอกันทุกวัน วางสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวไว้ก่อน และคุยกันว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าคุณรู้สึกว่าการพูดคุยกันทำให้คุณเหนื่อยหรือมีแต่จะเรียกความรู้สึกเก่าๆ กลับคืนมา คุณก็ควรพยายามคุยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคตมากกว่าที่จะคุยกันเรื่องอดีต
    • คุณกับสามี/ภรรยาต้องเจอหน้ากันเพื่อดูว่าคุณทั้งคู่รู้สึกอย่างไร นี่คือเวลาที่ต้องตื่นตัวและสังเกตความสัมพันธ์ของคุณสองคน ถ้าคุณไม่สื่อสารกันอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเดินหน้าต่อไปได้ยาก
    • พยายามแสดงความรู้สึกของคุณด้วยประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ฉัน” เช่นพูดว่า “ฉันรู้สึกไม่ดีเวลาที่คุณกลับมาจากที่ทำงานแล้วไม่ทักทายฉัน” แทนที่จะใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “คุณ” เช่น “คุณกลับจากทำงานทีไรคุณก็ไม่เคยสนใจฉัน” ซึ่งฟังดูเหมือนเป็นการกล่าวโทษมากกว่า
  8. ตัดสินใจว่าคุณอยากจะพยายามรักษาความสัมพันธ์นี้ไหม. แน่นอนว่าพอคุณเริ่มคุยกันเรื่องการนอกใจแล้ว คุณจะต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญคือ คุณคิดว่าสุดท้ายแล้วคุณจะให้อภัยสามี/ภรรยาและมีความสัมพันธ์ที่ดีอีกครั้งได้ไหม หรือคุณคิดว่ามันไม่มีทางที่จะดำเนินต่อไปได้อีกแล้ว คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและคิดดูว่าความสัมพันธ์นี้ควรคู่แก่การรักษาไว้หรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือคุณต้องให้เวลาและพื้นที่ในการคิดทบทวนจริงๆ ก่อนด่วนตัดสินใจอะไรลงไป
    • ถ้าคุณได้คุยกับสามี/ภรรยาแล้ว บอกความรู้สึกของคุณไปแล้ว และได้รับรู้เรื่องราวจากฝั่งของเขาหรือเธอโดยที่คุณรู้สึกว่าตัวเองยังมีเวลาทบทวนความรู้สึกอีกเล็กน้อย คุณก็เริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าคุณอยากจะพยายามทำให้ความสัมพันธ์นี้ดำเนินต่อไปไหม
    • ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าจะรักษาความสัมพันธ์ให้ดำเนินต่อไป เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่ามันต้องใช้ความพยายามมาก แต่ถ้าคุณรู้ว่าจบแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องเตรียมขั้นตอนการหย่า ถ้านี่เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับคุณ คุณก็ต้องศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ เอาไว้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

สร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โชคไม่ดีที่ไม่มีนิตยสาร เพื่อน คนในครอบครัว หรือหมอคนไหนที่บอกคุณได้ว่าการตัดสินใจแบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับคุณหรือครอบครัวของคุณ ถ้ามีเรื่องลูกๆ มาเกี่ยวข้องด้วย การตัดสินใจของคุณก็จะยุ่งยากเข้าไปอีก แม้ว่าคุณอาจจะคิดว่าคำตอบที่ถูกต้องมีเพียงคำตอบเดียว แต่สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองและฟังเสียงหัวใจตัวเองอย่างแท้จริง มันอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะเจอความจริง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณรู้ว่าไม่มีใครบอกคุณได้ว่าคุณต้องทำอะไรหรือรู้สึกอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามี/ภรรยาของคุณ [3]
    • นี่อาจจะเป็นความคิดที่น่ากลัวเพราะเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะเจอคำตอบ แต่ถ้าสัญชาตญาณมีคำตอบให้คุณอยู่แล้ว คุณก็ควรฟังเสียงที่อยู่ในใจคุณ
  2. จำไว้ว่าจริงๆ แล้วการอภัยให้คือสิ่งที่เราเลือกที่จะทำ ไม่ใช่สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ถ้าคุณเต็มใจที่จะให้อภัยสามี/ภรรยาของคุณ หรือแม้แต่จะพยายามให้อภัยเขาหรือเธอ คุณก็ต้องตัดสินใจเลือกที่จะให้อภัยอย่างเด็ดเดี่ยว การให้อภัยไม่ใช่สิ่งที่จู่ๆ ก็หล่นลงมาหาคุณหรือเขา และคุณก็ต้องใช้ความพยายามกว่าจะไปถึงจุดที่ให้อภัยได้ ขั้นแรกคือการยอมรับว่าคุณกำลังพยายามที่จะทำให้อะไรๆ มันดีขึ้น
    • ซื่อสัตย์กับสามี/ภรรยาของคุณในเรื่องนี้ด้วย อย่าให้ความต้องการที่จะให้อภัยหรือไม่ให้อภัยเป็นเรื่องคาใจสำหรับเขา ให้เขาหรือเธอรู้ว่าคุณต้องการที่จะพยายามทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปได้จริงๆ
  3. ถ้าคุณอยากสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง คุณกับสามี/ภรรยาก็ควรใช้เวลาคุณภาพร่วมกันโดยไม่พูดถึงเรื่องการนอกใจ พยายามทำสิ่งที่คุณเคยชอบทำด้วยกันและเลี่ยงสถานที่ที่เตือนใจให้คุณนึกถึงว่ามีการนอกใจเกิดขึ้น พยายามค่อยๆ ไล่จากเรื่องเล็กๆ มาเรื่องใหญ่ๆ คุณต้องทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งผ่านการทำกิจกรรมในแต่ละวันก่อนที่คุณจะเดินหน้าเร็วเกินไป [4]
    • คุณอาจจะค้นหากิจกรรมใหม่ๆ เช่น เดินป่าหรือทำอาหารด้วยกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นความสัมพันธ์ในมุมใหม่ๆ แต่คุณต้องไม่รู้สึกว่าสามี/ภรรยาของคุณลำบากใจกับเรื่องนี้หรือต้องพยายามมากเกินไป
  4. ตอนที่คุณกำลังรับมือกับเรื่องที่สามี/ภรรยานอกใจ คุณอาจจะรู้สึกว่าสิ่งสุดท้ายที่คุณควรให้ความสำคัญคือการดูแลตัวเอง คุณอาจจะมัววุ่นกับความรู้สึกซับซ้อนต่างๆ นานาที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อนเกินกว่าจะคิดเรื่องกินอาหารวันละ 3 มื้อ ออกไปรับแสงแดด หรือแน่ใจว่าตัวเองพักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่ถ้าคุณอยากจะเข้มแข็งในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และอยากมีพลังไว้ทุ่มเทกับการทำให้ความสัมพันธ์กลับมาดีอีกครั้ง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณต้องทำ เรื่องที่คุณต้องเตือนตัวเองเสมอก็เช่น:
    • พยายามนอนให้ได้อย่างน้อยคืนละ 7 – 8 ชั่วโมง ถ้าคุณนอนไม่หลับเพราะไม่สบายใจที่ต้องนอนข้างสามี/ภรรยา คุณควรทำใจให้สบายในการที่จะคุยกันเรื่องที่ว่าใครจะนอนไหนเสียใหม่
    • พยายามกินอาหารให้ได้วันละ 3 มื้อ ถึงคุณจะรู้สึกอยากกินอาหารที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น ของขบเคี้ยวหวานๆ เพราะว่าคุณเครียด คุณก็ควรพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อให้คุณมีแรงใจฮึดสู้ อาหารมันๆ จะทำให้คุณรู้สึกเฉื่อยชา
    • พยายามออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีต่อทั้งใจและกายของคุณ และยังเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้อยู่คนเดียวและเลิกคิดเรื่องนอกใจด้วย
    • เขียนบันทึก พยายามเขียนให้ได้อย่างน้อย 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อหาเวลาเชื่อมโยงกับความคิดของตัวเองบ้าง
    • อย่าปลีกตัวออกจากผู้คน ใช้เวลากับเพื่อนๆ และครอบครัวให้มากขึ้นเพื่อให้ใจสงบ
  5. แม้ว่าการเข้ารับการให้คำปรึกษาจะไม่ได้ผลกับทุกคน แต่คุณกับสามี/ภรรยาก็ควรลองไปเข้ารับการให้คำปรึกษาถ้าคุณกำลังพยายามทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปได้ คุณอาจจะรู้สึกว่ามันน่าขายหน้าหรือมันมากเกินไปสำหรับคุณ แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคุณและสามี/ภรรยาอย่างแท้จริง และเป็นที่ที่คุณจะสบายใจที่จะเล่าความรู้สึกของตัวเองออกมาทั้งหมด หาที่ปรึกษาที่คุณไว้ใจและคุณต้องพยายามทำให้ดีที่สุดขณะเข้ารับคำปรึกษา
    • ถ้าการเข้ารับการให้คำปรึกษาสำคัญกับคุณ คุณต้องบอกให้สามี/ภรรยาของคุณเข้าใจว่าการเข้ารับคำปรึกษาเป็นเรื่องที่ไม่สามารถต่อรองได้ สามี/ภรรยาทำลายความไว้วางใจที่คุณมีให้ เพราะฉะนั้นเขาหรือเธอก็ควรที่จะทำสิ่งนี้เพื่อคุณ
  6. ถ้าคุณมีลูก การรับมือกับสามี/ภรรยาที่นอกใจก็จะซับซ้อนมากขึ้น ลูกๆ จะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในบ้าน และการพูดคุยอย่างเปิดอกและซื่อสัตย์กับพวกเขาเรื่องที่คุณกับสามี/ภรรยามีปัญหากันนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด คุณไม่ต้องถึงขั้นลงรายละเอียด แต่คุณต้องให้พวกเขารู้ว่าคุณรักพวกเขาและคุณกับสามี/ภรรยาก็กำลังพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น [5]
    • ถ้าคุณคิดจะยุติความสัมพันธ์ อย่าให้สามี/ภรรยาใช้ลูกๆ เป็นข้ออ้างที่ทำให้คุณรู้สึกผิดจนต้องทนอยู่ต่อ แม้ว่าเขาหรือเธออาจจะอ้างว่าชีวิตของลูกๆ จะดีกว่าถ้ามีทั้งพ่อและแม่อยู่ที่บ้าน แต่ก็อาจจะไม่จริงนักถ้าพ่อแม่ทะเลาะกันตลอดหรือไม่ได้สนใจกันและกันแล้ว
    • หาเวลาให้พวกเขาแม้ว่าคุณจะกำลังรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่ก็ตาม การได้อยู่กับลูกๆ อาจทำให้คุณรู้สึกเข้มแข็งมากขึ้นด้วย
  7. ถ้าคุณพยายามทุกอย่างแล้วในการที่จะทำให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปได้ และคุณก็ไม่เห็นเลยว่าตัวเองจะสามารถให้อภัยสามี/ภรรยาหรือเดินหน้าต่อไปได้ ก็คงถึงเวลาที่จะต้องยุติความสัมพันธ์ลงแล้ว อย่ารู้สึกแย่กับตัวเองที่ไม่สามารถให้อภัยสามี/ภรรยาได้ แม้ว่าเขาหรือเธอจะพยายามมากแค่ไหนเพื่อเรียกความไว้วางใจของคุณกลับมาก็ตาม เรื่องบางเรื่องมันก็ให้อภัยกันไม่ได้ ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไปได้ และรู้สึกว่าคุณได้พยายามแล้วที่จะทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้คงอยู่ ก็ถึงเวลาที่คุณต้องตัดสินใจและเดินหน้าต่อไปแล้ว
    • อย่าโกรธหรือรู้สึกไม่ดีหากคุณรู้สึกว่าไม่สามารถให้อภัยได้ คุณพยายามแล้ว และสามี/ภรรยาของคุณก็เป็นคนทำลายความไว้วางใจนี้ตั้งแต่แรก
    • ถ้าคุณสามารถเดินหน้าต่อไปได้ คุณก็ไม่ควรละอายใจที่คุณ “ยอม” เรื่องการนอกใจเช่นกัน คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุดสำหรับความสัมพันธ์และครอบครัวของคุณ และไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินคุณในเรื่องนี้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถลองดูได้คือเอาโทรศัพท์มือถือของสามี/ภรรยามาดูสักเดี๋ยวและเลือกมาสักเบอร์สองเบอร์ที่คุณไม่คุ้น แล้วลองโทรหาสัก 2–3 ครั้งเพื่อดูว่าใครรับสาย
  • ส่วนมากจะเป็นเบอร์ที่ไม่มีชื่อ มีแต่เบอร์ขึ้นมาเฉยๆ เพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้คุณรู้แน่ชัดว่าเป็นชื่อผู้หญิงหรือผู้ชาย
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทำตัวหึงหวงและทำให้เขาคิดว่าคุณกำลังตรวจสอบข้อมูลบางอย่างอยู่หรือคิดอะไรนอกเหนือไปจากเรื่องทั่วๆ ไป คุณอาจจะลองถามคำถามเขาอย่างจริงใจดูก่อน
  • อย่าทำตัวสอดรู้สอดเห็นเวลาที่คุยกับเขา เพราะคุณต้องทำให้เขาไม่เอะใจว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่คุณกำลังค้นหาอยู่คืออะไร
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
จบความสัมพันธ์
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 14,655 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา