ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สุนัขย่อมเห่า ไม่ว่าคุณจะรักหรือเกลียดสุนัขแต่เราก็ต้องยอมรับความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนที่คนอยู่ร่วมกัน การที่สุนัขเห่าอาจเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกับเสียงยานสัญจรบนถนนสำหรับบ้านที่อยู่ใกล้ทางด่วน อย่างไรก็ตาม ถ้าสุนัขของเพื่อนบ้านเห่าเป็นประจำทุกครั้งที่คุณเดินเล่นในสวนหรือเสียงหอนทั้งคืนของมันมีผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องยิ้มและทนกับสิ่งนี้ คุณไม่ได้เป็นคนที่ตัดสินใจเลี้ยงสุนัขและไม่สามารถฝึกมันได้ ในการรับมือกับสุนัขที่ชอบเห่าของเพื่อนบ้านนั้น คุณต้องสงบสุภาพและมีเหตุผลและรับรู้ว่าคุณสามารถใช้ข้อกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องหากจำเป็น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การสร้างวิธีที่เป็นมิตร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อพูดถึงสุนัขโดยไม่ทำให้เพื่อนบ้านโกรธ วิธีที่ดีที่สุดคือพูดคุยกับเพื่อนบ้านในเวลาที่ไม่ทำให้เขาตกใจ ทำให้มั่นใจว่าคุณพูดเกริ่นว่าคุณอยากหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อพูดคุย จากนั้นถ้าหากเขาพร้อมที่จะพูดคุยแล้ว คุณก็สามารถพูดถึงปัญหาได้
    • คุณสามารถลองไปที่บ้านของเพื่อนบ้านในเช้าวันเสาร์เมื่อคุณได้ยินเขากำลังประกอบเครื่องตัดหญ้า อย่าเข้าไปในบ้านของเขาโดยไม่ได้รับเชิญและพยายามอย่าแอบดูหรือทำให้เขาตกใจ พูดคุยเล็กน้อยเกี่ยวกับสัปดาห์ที่ผ่านมาของเขาและถามว่าเขามีเวลาพูดก็เรื่องสุนัขของเขาหรือไม่
    • ถ้าหากเพื่อนบ้านของคุณโกรธหรือมีอารมณ์รุนแรงและข่มขู่คุณในการพูดครั้งนี้หรือครั้งถัดไป คุณควรหยุดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แจ้งตำรวจและบอกถึงปัญหาสุนัขเห่าและบอกว่าคุณพูดด้วยอย่างสุภาพแต่เพื่อนบ้านของคุณข่มขู่คุณ
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Beverly Ulbrich

    นักฝึกและปรับพฤติกรรมสุนัข
    เบเวอร์ลีย์ อัลบิชเป็นนักฝึกและปรับพฤติกรรมสุนัขและเป็นผู้ก่อตั้ง The Pooch Coach บริษัทฝึกสุนัขในซานฟรานซิสโก เธอได้ใบรับรอง CGC (Canine Good Citizen) จากสมาคมจัดหาบ้านสุนัขแห่งอเมริกาและยังเป็นคณะกรรมการสมาคมผู้รักสุนัขแห่งอเมริกากับทีมช่วยเหลือสุนัข Rocket Dog Rescue เธอได้รับการโหวตให้เป็นผู้ฝึกสุนัขดีเด่นของซานฟรานซิสโก 4 ครั้งจาก SF Chronicle และ Bay Woof ได้รับรางวัล "บล็อกสำหรับสุนัขดีเด่น" 4 รางวัล เธอมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากว่า 17 ปี เธอได้รับปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยซานตาคลารา
    Beverly Ulbrich
    นักฝึกและปรับพฤติกรรมสุนัข

    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนบ้านในเรื่องเสียงเห่านี้ได้ซึ่งหน้า ให้เขียนจดหมายโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพแต่ชัดเจนถึงปัญหานี้ ให้หย่อนจดหมายลงไปในตู้จดหมายของเพื่อนบ้านหรือใช้เทปติดไว้กับประตูบ้าน

  2. พวกเขาอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับปัญหานี้ ไม่รู้ว่าสุนัขเห่าหรือไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร การพูดคุยอย่างเป็นมิตรพร้อมทั้งพูดถึงวิธีดูแลสุนัขหรือแม้แต่พูดถึงครูฝึกสุนัขที่คุณได้ยินมาว่าสอนเก่งอาจจะช่วยแก้ปัญหาได้ เพื่อนบ้านของคุณอาจจะไม่รู้ว่าสุนัขกำลังสร้างปัญหา เช่น สุนัขเห่าเวลาที่เขาออกไปทำงาน [1]
  3. เพื่อนบ้านของคุณอาจจะรู้สึกผิดและต้องการจัดการกับปัญหาทันทีหลังจากการพูดคุยครั้งแรกหรือบทสนทนาที่วางแผนไว้ การปล่อยให้พวกเขาจัดการปัญหาด้วยตัวเองจะช่วยรักษามิตรภาพของคุณ เพื่อนบ้านอาจจะมีวิธีรับมือกับสุนัขเห่าแต่ไม่มีเวลามากพอที่จะจัดการปัญหาในช่วงที่ผ่านมา
    • ให้เวลากับเพื่อนบ้านเพื่อเปลี่ยนแปลง มันอาจจะใช้เวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงตารางและการฝึกสุนัขเพื่อช่วยลดการเห่า
  4. มันอาจจะเป็นไปได้ว่าเพื่อนบ้านของคุณไม่ยอมจัดการ (ไม่ใส่ใจลงมือ) หรือดื้อรั้น (โกรธเวลาที่คุณเสนอให้ทำบางอย่าง) จนคุณอาจจะต้องพูดกับเพื่อนบ้านอีกครั้งแต่คุณต้องพูดอย่างเป็นมิตรให้มากที่สุด การพูดคุยในตอนกลางวันในที่สาธารณะ เช่น เช้าวันเสาร์ในขณะที่เก็บกวาดสวนสามารถช่วยให้คุณปลอดภัยและอยู่ในที่โล่งแจ้ง [2]
  5. มีหลายวิธีเพื่อ ทำให้สุนัขหยุดเห่า รวมไปถึงการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันและการฝึกสอน เรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางที่เป็นไปได้และบอกให้เพื่อนบ้านรู้อย่างสุภาพ [3] พยายามทำขั้นตอนนี้ให้เป็นการต่อรองเงื่อนไขที่คุณทั้งคู่สามารถยอมรับได้ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณถ้าหากข้อตกลงบานปลาย [4]
    • ถ้าหากเพื่อนบ้านเปิดรับแนวคิดและคุณพร้อมที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายหรือออกแรง คุณสามารถเสนอที่จะจ่ายค่าปลอกคอซึ่งช่วยให้สุนัขหยุดเห่าหรือหาครูฝึกสุนัขที่เก่งๆ แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้
  6. คุณอาจจะพบว่าวิธีนี้ง่ายกว่าการพยายามเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน ถามชื่อของสุนัขจากเจ้าของและทำให้สุนัขคุ้นเคย ถ้าหากสุนัขคุ้นเคยกับคุณ มันก็ไม่น่าจะเห่าคุณ ครั้งถัดไปที่มันเห่าก็ลองพูดชื่อของมันด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ถ้าหากเจ้าของอนุญาตก็ควรให้ของเล่นหรือขนมเพื่อผูกมิตรกับมันและทำให้มันสงบลง
    • ถ้าหากคุณสามารถสร้างความเป็นมิตรกับทั้งเพื่อนบ้านและสุนัขได้ คุณสามารถเสนอที่จะพาสุนัขไปเดินเล่นระหว่างวัน ถ้าหากสุนัขเห่าทุกวันตอนบ่ายในขณะที่เจ้าของไปทำงาน [5]
    • อย่างไรก็ตาม การมีส่วนร่วมแบบนี้ขึ้นอยู่กับคุณ ถ้าหากคุณไม่ชอบสุนัขก็ไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมเพราะคุณคงไม่อยากรับผิดชอบดูแลสุนัขหรือคุณต้องใช้เวลาดูแลสุนัขของคุณอยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเสนอตัวเพื่อช่วยให้สุนัขของเพื่อนบ้านหยุดเห่า
  7. ถ้าเพื่อนบ้านของคุณยังคงเมินเฉย คุณต้องติดต่อเขาเป็นครั้งสุดท้าย บอกให้เขารู้ว่าคุณได้พูดเรื่องนี้หลายครั้งแล้วและไม่มีอะไรดีขึ้น คุณต้องพูดคุยระหว่างคุณกับเพื่อนบ้านคนนี้เท่านั้นแต่คุณสามารถขอให้เพื่อนบ้านคนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมหากจำเป็น ในตอนนี้คุณยังไม่ต้องขู่ว่าจะแจ้งตำรวจนอกเสียจากว่าเพื่อนบ้านของคุณอารมณ์ร้อนหรือข่มขู่คุณ
  8. รวบรวมหลักฐานในขณะที่คุณรอ ให้เวลาเพื่อนบ้านเพื่อหาทางออกแต่เตรียมขั้นตอนต่อไปถ้าหากวิธีนี้ไม่ได้ผล จดรายละเอียดว่าสุนัขเห่าบ่อยแค่ไหนและนานเท่าไหร่หรือพูดกับเพื่อนบ้านคนอื่นที่รู้สึกรำคาญเช่นเดียวกับคุณ ถ้าหากเจ้าของสุนัขดูไม่ยินดีที่จะแก้ปัญหา คุณจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ทันที [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การเรียกร้องสิทธิของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขอให้เจ้าหน้าที่เข้ามามีส่วนร่วมคนเป็นวิธีสุดท้ายเพื่อแก้ปัญหาเพราะคุณอาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามเพื่อหาทางออกที่ยอมรับได้และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเพื่อนบ้านอึดอัดและผิดใจน้อยที่สุดแต่ถ้าหากคุณได้ลองทุกวิถีทางและยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง คุณก็ต้องเรียกร้องสิทธิของตัวเอง [7]
    • บางพื้นที่มีกฎข้อบังคับพิเศษเกี่ยวกับเสียงสุนัขเห่าในขณะที่พื้นที่อื่นๆ รวบรวมข้อนี้ไว้ในกฎข้อบังคับเกี่ยวกับมลภาวะทางเสียง กฎข้อบังคับของแต่ละท้องถิ่นอาจจะแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นคุณควรสอบถามหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อความแน่ใจ [8]
    • ถ้าหากเพื่อนบ้านและคุณเป็นสมาชิกชุมชนก็อาจจะมีกฎข้อบังคับที่เกี่ยวกับเสียงสุนัขเห่า ถ้าหากคุณเป็นผู้เช่า (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเพื่อนบ้านของคุณเป็นผู้เช่าซึ่งมีเจ้าของที่คนเดียวกัน) คุณสามารถตรวจสอบเงื่อนไขในสัญญาเช่าได้
    • บางพื้นที่อาจจะสามารถแนะนำให้ทำการไกล่เกลี่ยคดี (ผูกพันหรือไม่ผูกพันทางกฎหมาย) เพื่อไม่ให้เรื่องถึงชั้นศาล ติดต่อหน่วยงานท้องถิ่น สำนักทนายหรือศาลเล็กเพื่อสอบถาม [9]
  2. ถึงแม้ว่าตอนนี้ไม่มีหน่วยงานควบคุมสัตว์ที่มากำจัดปัญหาสุนัขอีกแล้วแต่หน่วยงานควบคุมสัตว์ในพื้นที่ของคุณอาจจะสามารถช่วยคุณได้ ติดต่อหน่วยงานเหล่านี้เพื่อดูว่าพวกเขาสามารถแก้ปัญหาสุนัขเห่าได้หรือว่าคุณต้องแจ้งตำรวจก่อนหรือไม่
    • คุณอาจจะต้องยืนยันการโทรและเตรียมหลักฐานว่าเสียงสุนัขเห่ารบกวนเพื่อให้หน่วยงานควบคุมสัตว์จัดการ [10]
    • ติดต่อหน่วยงานควบคุมสัตว์ทันทีถ้าหากสุนัขเห่าเพราะเจ็บป่วย ติดกับดัก เชือกรัดตัวหรือไม่สามารถดื่มน้ำได้ ติดต่อเจ้าของก่อนถ้าหากคุณสามารถทำได้แต่อย่าละเลยสุนัขเจ็บป่วยที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
  3. การให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนร่วมมักจะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือคลี่คลายได้ทันที การเตรียมตัวล่วงหน้าของคุณจะช่วยได้มาก
    • เมื่อคุณทราบถึงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับสุนัข เสียง สิ่งรบกวนในพื้นที่แล้ว โทรหาตำรวจเพื่อรายงานสถานการณ์รุนแรง
    • อย่าโทรแจ้งความเรื่องสุนัขเห่าว่าเป็นเรื่องฉุกเฉินนอกเสียจากว่าเบอร์โทรแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายมีเพียงเบอร์เดียว (เช่น 191) คุณอาจจะถูกตำหนิว่าใช้เบอร์โทรฉุกเฉินอย่างไม่เหมาะสม
    • หน่วยงานตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ จะขอให้คุณพิสูจน์ว่าเสียงสุนัขเห่าสร้างความรบกวนเป็นอย่างมากก่อนที่พวกเขาจะจัดการ สิ่งที่คุณต้องบันทึกที่สามารถช่วยยืนยันได้คือ สมุดจดเหตุการณ์ เทปอัดเสียง คำพูดของเพื่อนบ้านคนอื่นๆ เป็นต้น [11]
    • เมื่อตำรวจเข้ามามีส่วนร่วมแล้ว เพื่อนบ้านของคุณอาจจะรู้สึกเหมือนถูกรุมและพยายามตีกรอบปัญหาว่าเป็นข้อพิพาทระหว่างเพื่อนบ้านซึ่งคุณคือจำเลยคนแรก คุณจึงไม่ควรทำสิ่งที่เขาสามารถใช้เพื่อเอาผิดคุณ เช่น ข่มขู่ ตะโกน ด่าทอหรือทำร้ายสุนัขในทุกวิถีทาง [12]
  4. ถ้าหากคุณต้องขึ้นศาลเพื่อพิสูจน์คดีสิ่งรบกวนทางเสียงก็ควรเตรียมหลักฐานให้พร้อม เตรียมคดีอย่างสงบและชัดเจน
    • คุณอาจจะสามารถยื่นฟ้องเพื่อนบ้านในศาลเล็กที่ทำให้คุณสูญเสียความสุขภายในบ้านและพื้นที่ได้ คุณจะไม่ได้เงินมหาศาล (และอาจจะเสียเงินในระหว่างขั้นตอน) แต่ถ้าหากคุณเตรียมหลักฐานที่ครบถ้วนและชัดเจน คุณอาจจะทำให้เพื่อนบ้านทำให้สุนัขหยุดเห่าได้ [13]
    • ถ้าหากในพื้นที่ของคุณไม่มีข้อกฎหมายเกี่ยวกับเสียงสุนัขเห่า คุณสามารถเริ่มรณรงค์และติดต่อนักการเมืองท้องถิ่น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การรับมือกับเสียงสุนัขเห่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะยังได้ยินเสียงสุนัขเห่าเป็นบางครั้งนอกเสียจากว่าคุณย้ายบ้านออกห่างจากเพื่อนบ้านคนนั้นไปไกล การเห่าคือพฤติกรรมตามธรรมชาติของสุนัข พวกมันเห่าเพื่อแสดงความกลัวหรือความกังวล เพื่อเรียกร้องความสนใจ เพื่อแสดงอาการเจ็บปวดหรือเจ็บป่วยและอีกหลายๆ เหตุผล [14]
    • ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ คุณควรพิจารณาเสียงเห่าของสุนัขที่คุณได้ยินว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้าหากสุนัขส่งเสียงเวลาที่คนหรือสุนัขตัวอื่นเดินผ่านหรือหอนเพื่อต้องการกลับเข้าไปในบ้านหรือเห่าเมื่อเล่นกับเจ้าของในสวนหน้าบ้านก็เป็นเรื่องที่ปกติ
    • อย่างไรก็ตาม ถ้าหากสุนัขเห่าติดต่อกัน (10 นาทีหรือมากกว่านั้น) ส่งเสียงเหมือนสุนัขที่กำลังป่วยหรือบาดเจ็บหรือทำให้คุณรู้สึกกลัว คุณก็อาจจะมีเหตุผลเพียงพอที่จะดำเนินการ
  2. มีหลายวิธีที่คุณสามารถกั้นเสียงเห่าของสุนัขเพื่อนบ้านหรือเสียงที่น่ารำคาญอื่นๆ การติดตั้งหน้าต่างที่ป้องกันเสียงเป็นทางเลือกที่ราคาแพงแต่ช่วยลดค่าไฟสำหรับการเปิดฮีตเตอร์ อีกทั้งคุณยังสามารถติดตั้งผ้าม่านที่ป้องกันเสียงซึ่งมีราคาถูกกว่า สิ่งเหล่านี้ยังสามารถป้องกันเสียงอื่นๆ ที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น เสียงยานพาหนะสัญจรและสัญญาณไซเรนในตอนกลางคืน
    • คุณอาจจะได้ยินเสียงเห่าของสุนัขเพื่อนบ้านลดลงด้วยการทำขั้นตอนเพื่อลดเสียงที่จะเข้ามายังบริเวณบ้านของคุณ
  3. มีอุปกรณ์มากมายที่ช่วยส่งคลื่นเสียงดังและสูงเมื่อมันจับเสียงเห่าของสุนัข เสียงที่อยู่เหนือจากขอบเขตการได้ยินของมนุษย์แต่อาจจะทำให้สุนัขรำคาญมากพอจนมันเรียนรู้ที่จะหยุดเห่า อุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่นกหวีดอัตโนมัติสำหรับสุนัขและการใช้นกหวีดสำหรับสุนัขก็อาจจะได้ผลเช่นเดียวกัน
    • ถ้าหากคุณสามารถโน้มน้าวให้เพื่อนบ้านใช้อุปกรณ์เหล่านี้ คุณสามารถแนะนำปลอกคอที่ติดตั้งอุปกรณ์ส่งคลื่นเสียงหรือปล่อยกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์หรือแรงอัดอากาศ
    • ประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์ป้องกันสุนัขเห่าเหล่านี้ยังคงเป็นคำถามแต่ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นอันตรายต่อสุนัขแต่มันอาจจะทำให้สุนัขรู้สึกไม่สบายตัวจนคุณอาจจะรู้สึกไม่สบายตัวไปด้วย (ถึงแม้ว่าสุนัขจะทำให้คุณรำคาญก็ตาม) [15]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำการต่างๆ ด้วยความเคารพไม่ว่าเพื่อนบ้านของคุณจะหยาบคายแค่ไหน การใช้อารมณ์ร้อนใส่กันจะไม่ช่วยแก้ปัญหาและอาจทำให้เรื่องบานปลายได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามเข้าบ้านของเพื่อนบ้านและแก้ปัญหาของสุนัขด้วยตัวเองเพราะคุณอาจจะถูกดำเนินคดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณทำร้ายสุนัข
  • ห้ามข่มขู่เจ้าของว่าคุณจะโทรหาตำรวจเพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณมีเจตนาข่มขู่ คุณมีสิทธิ์ทำเช่นนี้ถ้าหากวิธีอื่นไม่ได้ผลแต่อย่าใช้วิธีนี้เพื่อเป็นการข่มขู่
  • อย่าปลุกเพื่อนบ้านตื่นในตอนกลางคืนเพื่อบ่นเรื่องของสุนัขเพราะอาจจะทำให้เพื่อนบ้านของคุณโกรธและไม่ร่วมมือกับคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,632 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา