ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บางครั้งมิตรภาพก็อาจทำคุณสับสน คุณไม่แน่ใจว่าเพื่อนคนนี้ซื่อสัตย์ สนับสนุน และจริงใจกับคุณมากแค่ไหน ถ้ามีปฏิกิริยาจากสัญชาตญาณบอกคุณว่า มิตรภาพนี้ไม่ได้ดีอย่างที่ใครเขาว่ากัน ก็อาจถึงเวลาพิสูจน์แล้วว่า คนๆ นี้กำลังมีแผนทำอะไรอยู่กันแน่ และมิตรภาพนี้คู่ควรแก่การรักษาไว้หรือไม่

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

สังเกตลักษณะของเพื่อนเทียม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนประเภทนี้คือพวกที่ชอบหลอกใช้คุณเพราะคุณมีสมบัติต่างๆ เช่น รถยนต์ อพาร์ตเมนต์หรือบ้านเป็นของตัวเอง มีเงินเยอะหรือมีบ้านพักตากอากาศ หรือพวกเขาก็อาจหลอกใช้คุณเพื่อเข้าใกล้เพื่อนสนิท เพื่อนรัก แฟน หรือพี่น้องของคุณ คนประเภทนี้จะเป็นหลืบไรอยู่ในบ้านหรือครอบครัวของคุณ และอาจจะถึงขั้นใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นของส่วนตัวของคุณด้วย แต่พอคุณเผชิญหน้าพวกเขา เขากลับโกรธ พวกเขาไม่ให้เกียรติคุณและสมบัติส่วนตัวของคุณด้วย
    • คุณอาจจะสังเกตได้ว่าเรื่องยืมของกลายเป็นปัญหา พวกเขาอาจจะยืมเงินคุณแล้วไม่เคยคืน ยืมเสื้อผ้า ทรัพย์สิน แล้วไม่เคยคืน หรือไม่ก็คืนในสภาพพังๆ พวกเขาอาจจะให้คนอื่นใช้/ใส่ของๆ คุณโดยไม่ถามคุณก่อนด้วย
    • พวกเขาอาจจะขอความช่วยเหลือแต่ ไม่เคย ตอบแทนคุณได้เลย
    • เวลาที่คุณบอกพวกเขาว่าคุณมีอะไรใหม่ (เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เพื่อนใหม่) ให้ดูซิว่าพวกเขาสนใจคุณมากขึ้นหรือเปล่า
  2. คนประเภทนี้อยู่ได้ด้วยความคิดที่ว่า: "ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับตัวฉัน" พวกเขาจะเอาแต่พูดเรื่องของตัวเองเสมอ และพวกเขาก็ไม่ใส่ใจคุณด้วย พวกเขาไม่สนใจว่าวันของคุณเป็นอย่างไร คุณรู้สึกอย่างไร และอื่นๆ คุณอาจจะสังเกตด้วยว่าพวกเขาขี้โม้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเอง สมบัติข้าวของต่างๆ ที่พวกเขามี แฟน แต่งงาน หรือไปเที่ยว พวกเขาจะหาเรื่องที่ทำให้พวกเขาฟังดูดีกว่าคุณได้เสมอ พวกเขาคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเขาและหมุนรอบตัวเขาเท่านั้นด้วย
    • คนประเภทนี้ดูเหมือนจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา ความคิดเห็นคือมุมมองหรือความคิดของคนๆ หนึ่งที่มีต่อสิ่งหนึ่ง มันคือการประเมิน ตัดสิน หรือประเมินค่าบางสิ่ง คนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจะไม่มีทฤษฎีจิต คือไม่สามารถเข้าอกเข้าใจผู้อื่น และเชื่อว่าทุกคนเห็นในสิ่งที่เขา/เธอเห็น (หรือว่าสิ่งที่เขา/เธอเห็นนั้นมีมากกว่าสิ่งที่คนอื่นเห็นในบางแง่) ซึ่งดูเหมือนว่าลักษณะนี้เป็นสิ่งที่พบมากในเด็กเล็ก เพราะเด็กเล็กไม่สามารถแยกความเชื่อส่วนตัว ความคิด และมุมมองของตัวเองออกจากของคนอื่นได้ และถ้าคุณบอกว่าคุณคิดอย่างไร พวกเขาก็จะวิพากษ์วิจารณ์หรือไม่สนใจคุณ
  3. หนีห่างจากเหยื่อเคราะห์ร้ายที่ชอบบอกว่า "ฉันนี่น่าสงสารจัง"และ "ชีวิตฉันแย่มากเลย". คนๆ นี้จะมาหาคุณเสมอเมื่อเขามีปัญหาที่ต้องการคำแนะนำ และทำให้คุณรู้โต้งๆ เลยว่าความลำบากที่เขาเผชิญอยู่นั้นมันมากมายขนาดไหน (และบ่อยครั้งก็มักจะพูดเกินข้อเท็จจริงไปด้วย) แต่พอคุณต้องการคำแนะนำหรืออยากจะระบายบ้าง พวกเขากลับตัดบทใส่คุณ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ยุติธรรมเลยที่คุณจะใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการปลอบเขาให้ใจเย็นลง แต่พอถึงตาคุณบ้างเขากลับคุยกับคุณแค่ 5 นาที คุณไม่ได้เป็นนักบำบัด เพราะฉะนั้นอย่าให้เขามาเอาเปรียบคุณด้วยการเป็นฝ่ายระบายความโศกเศร้าแค่เพียงคนเดียว
    • คนประเภทนี้เวลาทะเลาะกันอาจจะโกรธคุณไม่หาย เพราะว่าพวกเขายอมรับแต่มุมมองของตัวเองเท่านั้น
    • สังเกตว่าพวกเขาเล่าเรื่องอย่างไร พวกเขามักจะเริ่มเรื่องว่า "ตายแล้ว..." กับ "ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า..." และพวกเขาก็มักจะกรีดร้องว่า "เธอไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้าง!" พวกเขาโหยหาความสนใจและขโมยความสนใจมาไว้ที่ตัวเองคนเดียว
  4. คนประเภทนี้ไม่ยอมแบ่งคุณให้คนอื่น เวลาที่เขาเห็นคุณอยู่กับคนอื่น เขาจะอิจฉาเพราะว่าเขาอยากได้คุณ ทั้งตัว เอาไว้คนเดียว พวกเขาอาจถึงขั้นยัดตัวเองเข้ามาไว้ในความสัมพันธ์ของคุณกับเพื่อนสนิท พวกเขาอยู่คนเดียวไม่ได้เลย แต่แน่นอนว่าอาการตัวติดแบบนี้มีลำดับขั้นแปลกๆ ที่ทำให้คุณต้องกระเด็นออกไปเมื่อมีคนที่สำคัญกว่าให้เขาเกาะติด เช่น คนๆ นี้มักจะไม่เอาคุณไปดูหนังด้วยเวลาที่เขาไปกับแฟน เพราะว่าคนๆ นั้นจะกลายเป็นศูนย์กลางของโลกสำหรับเขา และแม้ว่าเขาจะใช้เวลากับคนๆ นี้เยอะ แต่ว่าถ้าคนรักของเขาไม่ว่าง เขาก็จะอยากอยู่กับคุณตลอดเวลา ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าคนๆ นี้ทนอยู่คนเดียวไม่ได้แน่ๆ และทั้งหมดที่คุณเป็นก็แค่พี่เลี้ยง เขาจะประจบประแจงคุณจนกว่าคุณจะแสดงความรักใคร่ตอบ แต่ขอให้แน่ใจได้เลยว่าเพื่อนคนนี้จะทิ้งคุณไปหาคนรักแน่ๆ ถ้าพวกเขากลับมา
  5. คนๆ นี้จะยิ้มเมื่อคุณอยู่ต่อหน้า แต่พออยู่กับคนอื่น พวกเขาจะทำให้คุณรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจด้วยการพูดจาดูถูกคุณไม่หยุดหย่อน นอกจากนี้พวกเขาอาจจะทำเรื่องแย่ๆ อย่างเสพยาแต่ปฏิเสธหน้าตาเฉย พวกเขาอาจจะสัญญาว่าจะโทรกลับ แต่ก็ไม่เคยโทรกลับเลย ปล่อยให้คุณรอเก้อเสมอ แก้ตัวตลอดว่าทำไมถึงไม่ได้โทรหา พวกเขาไม่เคยรักษาสัญญา และการนินทาก็คืองานอดิเรกของพวกเขา สังเกตการพูดคุยของคนพวกนี้ให้ดี พวกเขาน่าจะพูดเรื่องคุณหรือไม่ก็เรื่องคนอื่น
  6. คนๆ นี้ไม่เคยเคารพชาติพันธุ์/วัฒนธรรม/ความคิดเห็นของคุณ เพื่อนคนนี้มองว่าคุณด้อยกว่า และคิดว่าการดูถูกรากเหง้าด้วยภาษาตลาดแบบดูแคลนนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันทำให้คุณเจ็บปวด พวกเขารู้ว่าคุณอึดอัดใจและอยากทำให้คุณอึดอัดใจมากกว่าเดิมอีก พวกเขามักจะคุยโวว่าพวกเขา "รวย" หรือ "สวย" แค่ไหน และมักจะถูกพ่อแม่ตามใจจนเคยตัว
  7. ไม่มีใครอยากให้เพื่อนมาคอยเช็กว่าคุณมีอะไรบ้าง เอาเป็นว่าคนที่คุณเรียกว่าเพื่อนคนนี้อาจจะคอยคาบข่าวเกี่ยวกับคุณไปบอกอีกคนหนึ่ง เพื่อนประเภทนี้อาจใช้เทคนิคการสอดแนมเพราะว่าพวกเขาอิจฉา หรือพวกเขาอาจจะอยากสอนบทเรียนให้คุณหลาบจำ อีกเหตุผลหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะพวกเขาอยากเข้าใกล้เครือข่ายหรือเพื่อนๆ และคนรู้จักของคุณ เวลาที่คุณคุยกับใคร พวกเขาคอยจะวนไปเวียนมาใกล้ๆ หรือเปล่า พวกเขาอยากรู้ว่าคุณทำอะไรอยู่ตลอดเวลาเลยหรือไม่ พวกเขาไม่ได้สนใจคุณจริงๆ หรอก เพราะฉะนั้นพยายามทิ้งเพื่อนแบบนี้ทันทีที่คุณรู้ว่าเขา/เธอคนนี้คืองูพิษ
    • คุณอาจจะสังเกตว่าคนพวกนี้อยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่องตลอดเวลา เช่น คุณอาจจะกำลังคุยเรื่องความลับกับเพื่อนอีกคนหนึ่งอยู่ และเขา/เธอก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย แต่กลับเดินเข้ามาจากอีกฟากเพราะอยากรู้ว่าคุณคุยเรื่องอะไรกันอยู่ อ่ะ ไม่เป็นไร อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ อย่าเพิ่งระแวงไป อาจจะเป็นสิ่งที่คนเป็น "เพื่อนสนิท" เขาทำกัน แต่พวกสอดแนมจะพยายามทำมากกว่านั้น คือ มักจะ พยายามแอบฟังบทสนทนาจริงๆ และแอบอ่านอีเมล หรือยืมโทรศัพท์มือถือ อ่านข้อความที่คุณคุยกับคนอื่น
    • พวกสอดแนมมักจะโกหก พวกเขามักจะโกหกเรื่องชื่อ อายุ และอื่นๆ กับคุณ
    • ระวังพวกสอดรู้สอดเห็นขั้นสุด พวกนี้อาจจะแบล็กเมล์หรือทำร้ายคุณในเร็วๆ นี้
    • ถ้าคุณรู้สึกเหมือนถูกคุกคามหรือขู่จากคนๆ นี้ ให้บอกผู้ที่มีอำนาจหรือผู้ใหญ่ที่คุณไว้ใจ
  8. "เพื่อน" ประเภทนี้เป็นอะไรที่น่าโมโหสุดๆ เพราะเวลาที่คุณไปเที่ยวกับเขาและเพื่อนคนอื่นๆ ของคุณ เขาจะคุยกับคุณตลอดและเริ่มจะพูดคุยกับเพื่อนของคุณ แต่พอคุณไปเที่ยวกับเขาและเพื่อนๆ ของเขาบ้าง เขากลับไม่สนใจคุณเลยและ "ลืม" ที่จะแนะนำคุณให้เพื่อนๆ รู้จักด้วย ถ้ามีคน 3 คนยืนอยู่บนทางเท้า คือคุณ เขา และเพื่อนเขาอีกคน คุณจะเป็นคนที่ 3 ที่เดินตามหลังตลอด เป็นก้างขวางคอ ทุกครั้งที่คุณพยายามจะเริ่มบทสนทนา เขา/เธอก็จะไม่สนใจและคุยกับเพื่อนเขาต่อไป หรือไม่ก็พูดขัดและพล่ามต่อ นี่เป็นสัญญาณของความรู้สึกไม่มั่นคงที่ฉาบไว้ด้วยท่าทีที่ทำเหมือนจะเท่ ทั้งๆ ที่มันเป็นการกระทำที่ทั้งใจร้ายและไม่พึงประสงค์
  9. คนๆ นี้หลอกใช้คุณและความคิด/ทรัพย์สินทางปัญญาของคุณ เข้ามาก้าวก่ายคนรู้จักทางสังคม/การงานของคุณ เข้ามาเป็นตัวเด่นในบทสนทนาที่คุณกำลังคุยกับคนอื่น พยายามจะสร้างเครือข่ายและเป็นเพื่อนกับใครก็ตามที่คุณคุยด้วย และโดยทั่วไปคือ เกาะ ติดคุณเพื่อไปในที่ที่คุณไป ไม่เคยมีเส้นทางเป็นของตัวเอง เพื่อนแบบนี้มองหาหนทางเลื่อนตำแหน่ง/เคยได้เลื่อนตำแหน่งจากการเหยียบเพื่อนร่วมงานที่เก่งกว่า ควบคุมผู้มีอำนาจ ทำให้เขาหรือเธอดูดีด้วยการเอาเปรียบคุณและการใช้ความคิดและความเข้าใจที่คุณเคยเล่าให้เขาฟัง พวกเขาเลียนแบบคุณทุกอย่าง คุณเป็นทั้งไอดอลและจุดศูนย์กลางความสนใจของเขา ทุกบทสนทนากับเขาจะกลายเป็นการสัมภาษณ์ เพื่อที่เขาจะได้รู้เกี่ยวกับตัวคุณมากขึ้นและเอาไปเลียนแบบ คุณอาจจะเริ่มเหนื่อยกับการพยายามที่จะหลบเลี่ยงการละเมิดพื้นที่ส่วนตัวของเขา เพื่อที่คุณจะได้รักษาเพื่อนๆ และความสัมพันธ์อื่นๆ ได้โดยไม่ต้องมีคนๆ นี้มาแทรกแซง พวกเขามีความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำและมีปัญหาในการทำความรู้จักกับคนอื่น จึงใช้คุณทำทุกอย่างแทน แล้วคอยเก็บเกี่ยวรางวัลจากความพยายามของคุณ
    • ถ้าคุณพูดว่า "ฉันจะไปชมรองเท้าของ [ใครสักคน] ซะหน่อย" เขาก็จะรีบแจ้นไปก่อนคุณและทำเหมือนกับว่าเป็นตัวเขาเองที่สังเกตเห็น ถ้าคุณพูดว่า "ฉันคิดว่า [ใครสักคน] เหมาะกับตำแหน่งงานเปิดรับสมัครที่ฉันเห็น" พวกเขาก็จะรีบบึ่งหาตัวคนๆ นั้นและแนะนำให้เขาสมัครงานนี้ ถ้าคุณทำงานกับคนแบบนี้ เขาจะขโมยความคิดของคุณและนำความคิดล่าสุดและเจ๋งที่สุดไปบอกเจ้านาย โดยพูดว่า "ฉันเพิ่งคิดมาได้ค่ะว่า..." หลังจากที่คุณเพิ่งอธิบายไปว่าคุณสรุปเรื่องนี้ได้อย่างไร เขาจะขโมยความคิด ความชอบ และการสังเกตของคุณไป ถ้าคุณเรียนหนังสือกับคนๆ นี้ เธอก็จะรีบวิ่งไปหาอาจารย์เพื่อเล่าความเข้าใจอันปราดเปรื่องที่คุณเล่าให้เธอฟังทั้งหมด และทำเหมือนว่าตัวเองคิดขึ้นมาได้ คนๆ นี้เป็นคนที่ไม่มั่นคงในตัวเองมากๆ และต้องอาศัยคุณชี้ทางให้ เธอรู้สึกว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมในทุกๆ ความสัมพันธ์ ของคุณ
  10. คนประเภทนี้ชอบบงการคนอื่น พวกเขาจะไม่ยอมรับคุณถ้าคุณมีความคิดเห็นที่ต่างไปจากพวกเขา แต่พวกเขาจะยอมรับคุณก็ต่อเมื่อคุณคิดเหมือนเขาเท่านั้น บางคนเป็นแบบนี้เพราะตัวเองรู้สึกไม่มั่นคง แต่บางคนก็เป็นแบบนี้เพราะตัวเองโง่เง่าเต่าตุ่นแต่อยากจะควบคุมคนอื่น พวกเขาจะมีกองทัพคอยคุ้มกันเป็นของตัวเอง คือพวกที่ชื่นชมและบูชาเขา แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับคนพวกนี้ก็คือ พวกตัวแม่มักจะตักตวงผลประโยชน์จากมิตรภาพและอาจจะทำให้ "เพื่อนๆ" ทุกคนต่อต้านคุณได้ภายในวันเดียวเพียงเพื่อที่จะทำลายคุณให้แตกสลาย คนพวกนี้เลวทรามต่ำช้าและน่ากลัว เพราะฉะนั้นอยู่ให้ห่างเป็นดีที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

หาทางหนีออกมา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัดสินใจว่ามิตรภาพนี้ควรค่าแก่การรักษาไว้ไหม. ถ้าเพื่อนของคุณเป็นหนึ่งในประเภท "เพื่อนไม่ดี" ตามที่กล่าวมา พวกเขาดูดพลัง ความอดทน และทรัพยากรของคุณเป็นประจำ ก็คงดีกว่าถ้าคุณจะตัดคนๆ นี้ออกไปจากกลุ่มเพื่อนที่สนิทกัน
    • ตัดสินใจว่าคนๆ นี้มีค่าพอที่จะเก็บไว้ในฐานะคนรู้จักหรือเปล่า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับบริบท ถ้าคุณจำเป็นที่จะต้องร่วมงานกับคนๆ นี้หรือต้องเจอกันในงานสังสรรค์ของครอบครัว การรักษาความเป็นคนรู้จักเอาไว้ห่างๆ อย่างนิ่งเฉยก็คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคนๆ นี้ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับชีวิตของคุณอย่างเป็นทางการ คุณก็อาจจะตัดสัมพันธ์ไปเลยก็ได้
  2. ถ้าคุณเป็นฝ่ายที่ติดต่อเพื่อนคนนี้ก่อนเสมอและเริ่มจะเบื่อหน่ายกับการตอบเพียงเล็กน้อยหรือไม่ตอบเลย ก็ให้เลิกติดต่อ บล็อกเขาไปจากการติดต่อของคุณ และทิ้งบทสนทนาระหว่างคุณกับเขาทั้งหมดไว้อย่างนั้น เลี่ยงการพบปะกันในที่สาธารณะ ถ้าคนๆ นี้เป็นเพื่อนแท้ เขาจะติดต่อกลับมาถ้าเขาสังเกตว่าเขาไม่ได้ข่าวคราวจากคุณเลย และการส่งข้อความ อีเมล หรือโทรหาใครสักคนก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ถ้าเขาไม่ทำ ก็แสดงว่าคุณเองมองทัศนคติของเพื่อนคนนี้ออกมากขึ้น และคุณก็จะได้เอาเวลาไปอยู่กับเพื่อนที่ห่วงใยคุณจริงๆ ได้มากขึ้น
  3. เมื่อรู้ว่าถึงเวลาสมควรแล้ว ให้บอกเพื่อนไปว่ามิตรภาพจบลงแล้ว. ถ้าคุณไม่สามารถตีตัวออกห่างได้อย่างเงียบๆ หรือปฏิเสธการเชิญไปยังที่ที่เพื่อนคนนี้จะไปด้วยได้ คุณต้องเผชิญหน้าเรื่องการยุติมิตรภาพนี้ด้วยตัวเอง วิธีที่ดีที่สุดที่จะยุติความสัมพันธ์กับเพื่อนที่เข้ากันไม่ได้ก็คือ เผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรงหรือโทรไปหา แล้วอธิบายให้ชัดเจนว่าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถสานต่อมิตรภาพด้วยเหตุผลต่างๆ
    • อย่าใช้ภาษากล่าวโทษ แม้ว่าคุณจะไม่อยากพูดภาษาประมาณว่า "ไม่ใช่เพราะเธอหรอก เป็นที่ตัวฉันเอง" แต่คุณก็ต้องอธิบายให้ชัดเจนว่านี่เป็นเรื่องของความรู้สึกและความสงบทางจิตใจของคุณ อย่าดูถูกลักษณะของอีกฝ่ายหรือโทษพวกเขาว่าทำให้คุณรู้สึกแบบนี้
    • บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขายังมีเพื่อนคนอื่นๆ อีกในชีวิตของเขา และอาจจะแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จักด้วยก็ได้ถ้าเหมาะสม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ระวังคนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอหรือคนที่ทำเหมือนว่าคุณต้องให้ในสิ่งที่เขาอยากได้ตลอดเวลา คนพวกนี้อาจจะมองว่าเพื่อนเป็นเพียงทรัพย์สมบัติมากกว่าจะมองว่าเป็นคน
  • ดูว่าคุณรู้สึกอย่างไรเวลาที่อยู่ห่างจากคนๆ นี้ วิธีนี้ให้เวลาคุณได้คิดทบทวนและค้นหาว่า พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีของคุณหรือเปล่า
  • ดูว่าเพื่อนมีปฏิกิริยาอย่างไรถ้าและเมื่อคุณทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเพื่อนโกรธแต่ก็ยังอยากเป็นเพื่อนกันอยู่ ก็แสดงว่าเพื่อนห่วงใยคุณจริง แต่ในทางกลับกันถ้าพวกเขาเต็มใจที่จะยุติมิตรภาพเพียงเพราะว่าคุณไม่ให้ในสิ่งที่เขาอยากได้จริงๆ ก็แสดงว่าพวกเขาไม่ใช่เพื่อนแท้
  • บทความนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการทิ้งเพื่อนที่เปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี เพราะการปล่อยให้มิตรภาพเติบโตและแปรผันไปตามธรรมชาตินั้นก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อมิตรภาพเป็นมิตรภาพฝ่ายเดียวและคุณรู้สึกว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ
  • ถ้าเพื่อนของคุณเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงก็ให้ตีตัวออกห่าง วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถกลับไปเป็นเพื่อนกันได้อีกครั้งถ้าเพื่อนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หรืออาจจะตัดกันไปเลยถ้าเพื่อนแย่ลงกว่าเดิม
  • อย่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นไก่รองบ่อนในความสัมพันธ์กับเพื่อน ถ้าคุณถูกหลอกใช้และเขา/เธอไม่จริงใจใส่คุณเวลาที่คุณอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ที่เขา/เธออยากทำให้พวกเขาประทับใจ อันนี้ถือว่าเป็นปัญหาร้ายแรงแล้ว
  • เพื่อนแท้จะไม่มีวันโกหกคุณ
  • เตรียมความเข้มแข็งในการที่จะเดินออกมาจากมิตรภาพถ้าหากคุณไม่สามารถตกลงกันได้อย่างยุติธรรม เพื่อนที่ทำร้ายเพื่อนไม่ถือว่าเป็นเพื่อน เพื่อนแท้จะเต็มใจยอมรับปัญหา และร่วมรับภาระในการแก้ไขปัญหานั้น
  • เพื่อนไม่ดี/เทียมจะหาเรื่องทะเลาะโดยไม่มีเหตุผลเสมอ
  • เพื่อนแท้จะไม่ทิ้งคุณไว้ข้างหลัง พวกเขาจะอยู่กับคุณโดยเฉพาะในเวลาที่คุณต้องการความช่วยเหลือ
  • มองหาเพื่อนใหม่ ไม่ว่าที่ไหนก็มีทั้งคน ดี และคนไม่ดี
โฆษณา

คำเตือน

  • สำหรับพวกฉวยโอกาส จำไว้ว่าตอนแรกพวกเขาจะเป็นเพื่อนกับคุณ จากนั้นก็หลอกใช้คุณ และทิ้งคุณเมื่อหมดประโยชน์แล้ว
  • อย่าตั้งความหวังและกฎเกณฑ์มากเกินไป เพราะนั่นเป็นการกักขังคนอื่นไว้ในมุมมองของตัวเอง
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
จบความสัมพันธ์
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,515 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา