ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ชู้ทางใจเกิดขึ้นเมื่อคนสองคนเริ่มสนิทสนมและใกล้ชิดกันในระดับอารมณ์แทนที่จะเป็นร่างกาย แม้ว่าจะไม่มีเซ็กส์มาเกี่ยวข้อง แต่การเป็นชู้ทางใจก็ยังถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจระหว่างคุณกับคนรัก ในการที่จะรู้ว่าคนรักของคุณมีชู้ทางใจหรือไม่นั้น ให้สังเกตว่าคนรักเริ่มจะห่างเหินไปหรือเลิกเล่าอะไรต่อมิอะไรให้คุณฟังหรือเปล่า มองหาการส่งข้อความหรือการคุยโทรศัพท์ที่ไม่เหมาะสม และสังเกตพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ
ขั้นตอน
-
ดูว่าคนรักของคุณเลิกบอกเล่าความคิดสำคัญให้คุณฟังหรือเปล่า. เวลาที่มีชู้ทางใจ เราอาจจะเล่าความคิดที่สำคัญที่สุดให้คนอื่นฟัง อาจจะเป็นความหวังและความฝัน ความกลัว หรือความสำเร็จ เขาเล่าให้อีกคนฟังแต่ไม่ได้เล่าให้คุณฟัง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ค้นหาว่าคนรักของคุณยังเล่าเรื่องต่างๆ ให้คุณฟังเหมือนที่เคยทำไหม ถามคำถามและดูว่าเขาตอบสนองอย่างไร หรือฟังในสิ่งที่เขาพูดระหว่างสนทนา
- ถ้าคุณได้ยินสามี/ภรรยาของคุณเล่าข้อมูลสำคัญให้คนอื่นฟังทั้งที่ยังไม่ได้บอกคุณก่อน อันนี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย เพราะนั่นหมายความว่าคุณไม่ใช่คนแรกที่เขาจะเข้าหาเมื่อมีเรื่องสำคัญ
-
2ดูว่าเซ็กส์เปลี่ยนไปหรือเปล่า. แม้ว่าชู้ทางใจจะไม่มีร่างกายเข้ามาเกี่ยว แต่ความรู้สึกระหว่างเขากับอีกคนอาจทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันในเรื่องร่างกายระหว่างคุณกับคนรัก คุณอาจจะมีเซ็กส์กับคนรักน้อยลงกว่าที่เคย หรือเซ็กส์อาจเปลี่ยนไป ใกล้ชิดกันน้อยลง และเป็นเหมือนกิจวัตรมากขึ้น [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คนรักอาจจะรีบๆ มีเซ็กส์ ไม่กอดคุณ แทบจะไม่มองหน้าคุณเลย และไม่นัวเนียกันหลังจากนั้น
- บางครั้งความรู้สึกผิดก็อาจทำให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มมีเซ็กส์บ่อยขึ้น หรือพะเน้าพะนอคุณด้วยความเอาใจใส่ ของขวัญ และด้วยวิธีอื่นๆ
-
ค้นหาว่าคนรักกำลังถอยห่างคุณอยู่หรือเปล่า. คนที่มีชู้ทางใจอาจจะมีระยะห่างระหว่างตัวเองกับคนรัก เพราะเขากังวลว่าเขาอาจจะถูกจับได้หรือพูดอะไรเกี่ยวกับอีกฝ่าย ถ้าคนรักของคุณถอยห่างหรือไม่คุยกับคุณ เขาอาจกำลังมีชู้ทางใจอยู่ก็ได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สังเกตสิ่งที่คนรักทำรอบตัวคุณ เขาเข้านอนเร็วหรือเปล่า ทำงานดึกดื่นไหม หรือไม่อยากทำอะไรด้วยกันอีกแล้วหรือเปล่า
-
สังเกตความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คนรักพูดกับคุณ. เวลาที่คนมีชู้ทางใจ เขาจะเริ่มคุยเรื่องต่างๆ ให้อีกคนฟังแทนที่จะเป็นคุณ คุณอาจจะเริ่มเห็นความแตกต่างในสิ่งที่คนรักพูดกับคุณ เขาอาจจะไม่ได้บอกคุณเรื่องที่คุณเคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ หรือคุณสังเกตว่าเขาดูเงียบมากกว่าเดิมและเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังน้อยกว่าที่เคย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คนรักของคุณอาจจะเคยเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่เขาเจอมาในแต่ละวันให้คุณฟัง แต่ตอนนี้เขาแทบจะไม่พูดถึงวันของเขาอีกเลย นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเขามีชู้ทางใจ
- ถ้าคุณไปรู้เรื่องต่างๆ หลังจากที่คุณรู้ว่าเรื่องนั้นมันสำคัญกับคนรักของคุณในภายหลัง นั่นอาจหมายความว่าเขากำลังบอกคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรู้ว่าเขาสนิทกับคนอื่น
- การเปลี่ยนแปลงในเรื่องทัศนคติและน้ำเสียงของคนรักที่มีต่อคุณก็สามารถบอกถึงปัญหาได้ ลองดูว่าเขาเริ่มจะมีปฏิกิริยารำคาญหรือพูดกับคุณด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นหรือไม่
-
สังเกตการทำร้ายจิตใจด้วยการให้ข้อมูลผิด. การทำร้ายจิตใจด้วยการให้ข้อมูลผิดเป็นเทคนิคการทำร้ายที่ผู้ทำร้ายพยายามที่จะโน้มน้าวให้เหยื่อเชื่อว่า ความจริงในแบบของเหยื่อนั้นไม่ถูกต้องหรือแม้แต่เขาขั้นบ้า [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคนรักของคุณมักบอกว่าความคิดของคุณไม่ถูกต้องหรือบ้าบอและพยายามที่จะให้ภาพที่ต่างไปจากที่คุณสังเกตเห็นมากๆ เขาก็อาจกำลังใช้การเทคนิคนี้หลอกคุณ
- เช่น ถ้าคุณได้ยินคนรักบอกข้อมูลสำคัญให้คนๆ นี้ฟัง แต่เขายังไม่ได้บอกความลับนี้ให้คุณฟัง คนรักของคุณก็อาจจะพยายามโน้มน้าวให้คุณเชื่อว่า เขาบอกเรื่องนี้กับคุณแล้ว ซึ่งอาจทำให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำของตัวเอง แม้ว่าคุณจะมั่นใจว่าเขาไม่เคยบอกคุณก็ตาม
โฆษณา
-
สังเกตปฏิสัมพันธ์ที่เป็นความลับระหว่างเขากับอีกคน. ถ้าคนรักของคุณกำลังมีชู้ทางใจ เขาก็อาจจะไม่ได้บอกเรื่องที่เขาติดต่อกับอีกคนให้คุณฟังทั้งหมด เขาอาจจะไม่ได้อยู่บ้านบ่อยเหมือนเดิมเพราะว่าเขาไปเจออีกคน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้คุณอาจจะยังสังเกตด้วยว่า เขาคุยโทรศัพท์ ส่งข้อความ หรือคุยออนไลน์กับคนอื่นและไม่ได้เล่าให้ฟัง พอคุณถาม เขาก็อาจจะเลี่ยงไปตอบว่า “ไม่ได้คุยกับใคร” “เพื่อน” หรือ “เพื่อนที่ทำงาน”
-
ดูว่าคนรักพยายามซ่อนการติดต่อกับอีกคนหรือเปล่า. ถ้าคนรักของคุณมีชู้ทางใจ เขาอาจจะเริ่มซ่อนการติดต่อ ซึ่งก็อาจจะหมายถึงการลบสายโทรเข้าโทรออกหรือข้อความ เดินไปที่อื่นที่เป็นส่วนตัวเวลาคุยโทรศัพท์ หรือไม่ให้คุณอยู่ใกล้เขากับอีกคนหนึ่ง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คนรักอาจจะไม่อยากให้คุณเห็นว่า เวลาที่เขาอยู่กับอีกคนเป็นอย่างไร เพราะว่าเขาทำตัวต่างออกไป
-
สังเกตว่าคนรักแต่งตัวไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า. แม้ว่าชู้ทางใจจะไม่ใช่เรื่องของร่างกาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีชู้ทางใจจะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายประทับใจ คนที่มีชู้ทางใจมักจะแต่งตัวดีก่อนไปเจออีกคน ใส่น้ำหอมหรือโคโลญจ์ และเริ่มเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เพื่อให้ตัวเองมีเสน่ห์มากขึ้น [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สังเกตว่าคนรักเพิ่งจะเปลี่ยนลุคหรือเปล่า นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขามีชู้ทางใจ
- ถ้าคนรักของคุณเริ่มจะแต่งตัวไม่เหมือนเดิมไปทำงาน ไปฟิตเนส หรือไปรับประทานมื้อค่ำทางธุรกิจ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณได้
-
สนใจสัญชาตญาณของตัวเอง. บ่อยครั้งที่คุณรู้ว่ามีอะไรแปลกไปในความสัมพันธ์ ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าคนรักของคุณมีชู้ทางใจ ถ้าคุณเริ่มสังเกตได้ว่าคนรักพูดถึงบางคนแปลกไปหรือคุณรู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่เพื่อนกัน สัญชาตญาณของคุณก็อาจจะถูก [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น คุณก็ต้องมองหาสัญญาณอื่น อย่าอาศัยสัญชาตญาณอย่างเดียว แต่ก็อย่าละเลยมันด้วยเช่นกัน
- อีกหนึ่งสัญญาณอันตรายก็คือ ถ้าคุณแนะนำคนรักว่าให้ระวังเรื่องมิตรภาพที่สนิทสนมกับคนอื่น แล้วเขาหัวเราะใส่คุณหรือไม่พอใจ
โฆษณา
-
สังเกตพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว. คนที่มีชู้ทางใจบางครั้งจะมีพฤติกรรมที่อาจเรียกได้ว่าเป็นปัญหาหรือเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นโดยสิ้นเชิง พฤติกรรมเหล่านี้มีหลายรูปแบบ มองหาพฤติกรรมที่ใกล้ชิดเกินไปหรือส่วนตัวเกินไประหว่างคนรักและอีกฝ่ายหนึ่ง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คนรักของคุณอาจจะส่งข้อความหาอีกคนอยู่บ่อยๆ และอาจจะโทรหาอีกคนหนึ่งด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงกลางคืนและอาจจะแอบทำ มองหาพฤติกรรมอะไรก็ตามที่คนรักของคุณไม่ควรทำกับคนอื่น
- นอกจากนี้คุณอาจจะสังเกตความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของคนรักด้วย เช่น นอนดึกขึ้น ไปทำงานเร็วขึ้น ใช้เงินมากขึ้น หรือดื่มแอลกอฮอล์บ่อยขึ้น
-
สังเกตว่าพฤติกรรมของคนรักเปลี่ยนไปหรือไม่เมื่ออีกคนอยู่ใกล้ๆ. ชู้ทางใจมักทำให้คนเรามีวิธีการแสดงออกที่ไม่เหมือนเดิมหรือทำอะไรต่างไปจากที่เคยทำเวลาอยู่กับคนรัก ถ้าคุณเห็นคนรักของคุณกับคนที่คุณสงสัยว่าเขาเป็นชู้ทางใจด้วยอยู่ด้วยกัน ให้สังเกตปฏิสัมพันธ์ของเขา มองหาการแสดงออกที่แตกต่างไปจากเวลาที่เขาอยู่กับคุณ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คนรักของคุณอาจจะรู้สึกห่างเหินทางอารมณ์กับคุณเพราะเขามีเรื่องเครียดในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าใช้จ่าย งาน และความรับผิดชอบในบ้าน แต่กับคนๆ นี้เขาอาจจะหัวเราะได้ ผ่อนคลาย และขี้เล่นมากขึ้น แต่เขาก็อาจจะประหม่าหรืออึดอัดได้เวลาที่เขาอยู่กับคนๆ นั้นต่อหน้าคุณ
-
ฟังว่าคนรักของคุณพูดอะไรเกี่ยวกับอีกคน. ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบชู้ทางใจเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆ คนรักของคุณอาจจะเริ่มเปรียบเทียบคุณกับอีกคนหนึ่ง หรืออาจจะเริ่มแสดงความไม่พอใจในสิ่งที่เขาไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อน คำวิจารณ์ของเขาอาจเป็นเรื่องอะไรต่อมิอะไรเรื่อยเปื่อยและไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ แต่อาจจะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า คนรักของคุณกำลังคิดถึงอีกคนอยู่ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น คนรักของคุณอาจจะบอกว่า “เขาคิดว่ามุกของผมตลกล่ะ” “เขาชอบหนังแบบเดียวกับที่ผมชอบเลย” หรือ “เขาวิ่งได้เร็วพอๆ กับผมเลย” เริ่มสังเกตว่าคนรักพูดอะไรประมาณนี้ไหมและพูดบ่อยแค่ไหน
โฆษณา
-
คุยกับคนรัก. ถ้าคุณคิดว่าคนรักของคุณกำลังมีชู้ทางใจ ถามเขาเลย ดูว่าเขาไม่พอใจ หลบเลี่ยง หรือโกรธเคืองหรือเปล่า ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะถามออกไปตรงๆ คุณอาจจะเลือกที่จะถามคำถามเกี่ยวกับอีกคนแทน [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พยายามอย่ากล่าวโทษคนรักไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่ให้พูดว่า "ฉันรู้สึกว่าคุณอยู่กับคนๆ นี้เยอะมาก ซึ่งมันทำให้ฉันเจ็บปวดเพราะว่าคุณเป็นคนรักของฉัน และฉันก็รู้สึกเหมือนเราไม่ได้ใกล้ชิดกันมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว"
-
นิ่งเข้าไว้. ระหว่างที่คุยกัน คุณควรนิ่งเข้าไว้ เพราะถ้าคุณต่างคนต่างโกรธมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ถ้าคนรักของคุณปฏิเสธหรือยอมรับว่าสนิทกับคนๆ นี้ อย่าตะโกนและไม่พอใจ แต่ให้หายใจลึกๆ ก่อนจะตอบโต้อะไรออกไป [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคนรักของคุณปฏิเสธทุกอย่าง ให้ใช้โอกาสนี้คุยกันเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ เช่น คุณรู้สึกเหินห่างทางอารมณ์หรือถูกละเลยอย่างไร
-
ประเมินความสงสัยของคุณ. คุณควรจะค้นหาว่า ทำไมคุณถึงเชื่อว่าคนรักของคุณทำแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาเคยมีชู้ทางใจหรือทางกายมาก่อนไหม คนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นพฤติกรรมของคนรักของคุณหรือเปล่า เรื่องนี้มันมีเหตุมาจากปัญหาของคุณเองไหม การหาคำตอบเหล่านี้ช่วยให้คุณรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
- ตรวจสอบความรู้สึกของตัวเอง คุณเป็นคนขี้หึงอยู่แล้วหรือเปล่า คุณรู้สึกไม่มั่นคงไหม ที่ผ่านมาคุณเคยถูกนอกใจหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกอ่อนไหวและแคลงใจมากขึ้น
- พูดคุยกับคนรักเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ การเล่าเรื่องความรู้สึกไม่มั่นคงหรืออดีตของคุณให้เขาฟังช่วยให้คุณสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งขึ้นได้
- คุณอาจจะลองคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ไว้ใจได้เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสงสัย เลือกคนที่คุณคิดว่าสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามความเป็นจริงและเป็นคนที่คนรักของคุณจะไม่รู้สึกไม่พอใจที่คุณไปเล่าความลับให้ฟัง คุณต้องแน่ใจว่าคนๆ นี้จะไม่บอกเรื่องที่คุณเล่าให้ใครฟัง เพราะมันอาจทำให้คนรักของคุณรู้สึกเหมือนถูกหักหลังได้
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.webmd.com/sex-relationships/features/affair-you-dont-know-youre-having?page=2
- ↑ http://www.redbookmag.com/love-sex/relationships/advice/a21442/signs-of-an-emotional-affair/
- ↑ http://www.webmd.com/sex-relationships/features/affair-you-dont-know-youre-having?page=4
- ↑ http://www.redbookmag.com/love-sex/relationships/advice/a21442/signs-of-an-emotional-affair/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/getting-back-out-there/201610/10-ways-tell-if-youre-being-gaslighted
- ↑ http://www.oprah.com/omagazine/Emotional-Affairs-Recognizing-and-Coping-With-Emotional-Infidelity
- ↑ https://www.truthaboutdeception.com/community-features/ask-an-expert/questions-by-topic/snooping-and-spying/804-i-think-my-wife-is-having-an-emotional-affair.html
- ↑ http://www.goodtherapy.org/blog/14-signs-you-have-crossed-into-an-emotional-affair-0912157
- ↑ http://www.redbookmag.com/love-sex/relationships/advice/a21442/signs-of-an-emotional-affair/
- ↑ http://www.goodtherapy.org/blog/14-signs-you-have-crossed-into-an-emotional-affair-0912157
- ↑ http://www.redbookmag.com/love-sex/relationships/advice/a21442/signs-of-an-emotional-affair/
- ↑ http://www.redbookmag.com/love-sex/relationships/advice/a21442/signs-of-an-emotional-affair/
- ↑ https://www.poweroftwomarriage.com/info/surviving-an-affair/
- ↑ https://www.poweroftwomarriage.com/info/surviving-an-affair/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,499 ครั้ง
โฆษณา