PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ชู้ทางใจเกิดขึ้นเมื่อคนสองคนเริ่มสนิทสนมและใกล้ชิดกันในระดับอารมณ์แทนที่จะเป็นร่างกาย แม้ว่าจะไม่มีเซ็กส์มาเกี่ยวข้อง แต่การเป็นชู้ทางใจก็ยังถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจระหว่างคุณกับคนรัก ในการที่จะรู้ว่าคนรักของคุณมีชู้ทางใจหรือไม่นั้น ให้สังเกตว่าคนรักเริ่มจะห่างเหินไปหรือเลิกเล่าอะไรต่อมิอะไรให้คุณฟังหรือเปล่า มองหาการส่งข้อความหรือการคุยโทรศัพท์ที่ไม่เหมาะสม และสังเกตพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

สังเกตความห่างเหินทางอารมณ์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูว่าคนรักของคุณเลิกบอกเล่าความคิดสำคัญให้คุณฟังหรือเปล่า. เวลาที่มีชู้ทางใจ เราอาจจะเล่าความคิดที่สำคัญที่สุดให้คนอื่นฟัง อาจจะเป็นความหวังและความฝัน ความกลัว หรือความสำเร็จ เขาเล่าให้อีกคนฟังแต่ไม่ได้เล่าให้คุณฟัง [1]
    • ค้นหาว่าคนรักของคุณยังเล่าเรื่องต่างๆ ให้คุณฟังเหมือนที่เคยทำไหม ถามคำถามและดูว่าเขาตอบสนองอย่างไร หรือฟังในสิ่งที่เขาพูดระหว่างสนทนา
    • ถ้าคุณได้ยินสามี/ภรรยาของคุณเล่าข้อมูลสำคัญให้คนอื่นฟังทั้งที่ยังไม่ได้บอกคุณก่อน อันนี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย เพราะนั่นหมายความว่าคุณไม่ใช่คนแรกที่เขาจะเข้าหาเมื่อมีเรื่องสำคัญ
  2. 2
    ดูว่าเซ็กส์เปลี่ยนไปหรือเปล่า. แม้ว่าชู้ทางใจจะไม่มีร่างกายเข้ามาเกี่ยว แต่ความรู้สึกระหว่างเขากับอีกคนอาจทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันในเรื่องร่างกายระหว่างคุณกับคนรัก คุณอาจจะมีเซ็กส์กับคนรักน้อยลงกว่าที่เคย หรือเซ็กส์อาจเปลี่ยนไป ใกล้ชิดกันน้อยลง และเป็นเหมือนกิจวัตรมากขึ้น [2]
    • เช่น คนรักอาจจะรีบๆ มีเซ็กส์ ไม่กอดคุณ แทบจะไม่มองหน้าคุณเลย และไม่นัวเนียกันหลังจากนั้น
    • บางครั้งความรู้สึกผิดก็อาจทำให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มมีเซ็กส์บ่อยขึ้น หรือพะเน้าพะนอคุณด้วยความเอาใจใส่ ของขวัญ และด้วยวิธีอื่นๆ
  3. คนที่มีชู้ทางใจอาจจะมีระยะห่างระหว่างตัวเองกับคนรัก เพราะเขากังวลว่าเขาอาจจะถูกจับได้หรือพูดอะไรเกี่ยวกับอีกฝ่าย ถ้าคนรักของคุณถอยห่างหรือไม่คุยกับคุณ เขาอาจกำลังมีชู้ทางใจอยู่ก็ได้ [3]
    • สังเกตสิ่งที่คนรักทำรอบตัวคุณ เขาเข้านอนเร็วหรือเปล่า ทำงานดึกดื่นไหม หรือไม่อยากทำอะไรด้วยกันอีกแล้วหรือเปล่า
  4. สังเกตความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คนรักพูดกับคุณ. เวลาที่คนมีชู้ทางใจ เขาจะเริ่มคุยเรื่องต่างๆ ให้อีกคนฟังแทนที่จะเป็นคุณ คุณอาจจะเริ่มเห็นความแตกต่างในสิ่งที่คนรักพูดกับคุณ เขาอาจจะไม่ได้บอกคุณเรื่องที่คุณเคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ หรือคุณสังเกตว่าเขาดูเงียบมากกว่าเดิมและเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังน้อยกว่าที่เคย [4]
    • เช่น คนรักของคุณอาจจะเคยเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่เขาเจอมาในแต่ละวันให้คุณฟัง แต่ตอนนี้เขาแทบจะไม่พูดถึงวันของเขาอีกเลย นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเขามีชู้ทางใจ
    • ถ้าคุณไปรู้เรื่องต่างๆ หลังจากที่คุณรู้ว่าเรื่องนั้นมันสำคัญกับคนรักของคุณในภายหลัง นั่นอาจหมายความว่าเขากำลังบอกคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรู้ว่าเขาสนิทกับคนอื่น
    • การเปลี่ยนแปลงในเรื่องทัศนคติและน้ำเสียงของคนรักที่มีต่อคุณก็สามารถบอกถึงปัญหาได้ ลองดูว่าเขาเริ่มจะมีปฏิกิริยารำคาญหรือพูดกับคุณด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นหรือไม่
  5. การทำร้ายจิตใจด้วยการให้ข้อมูลผิดเป็นเทคนิคการทำร้ายที่ผู้ทำร้ายพยายามที่จะโน้มน้าวให้เหยื่อเชื่อว่า ความจริงในแบบของเหยื่อนั้นไม่ถูกต้องหรือแม้แต่เขาขั้นบ้า [5] ถ้าคนรักของคุณมักบอกว่าความคิดของคุณไม่ถูกต้องหรือบ้าบอและพยายามที่จะให้ภาพที่ต่างไปจากที่คุณสังเกตเห็นมากๆ เขาก็อาจกำลังใช้การเทคนิคนี้หลอกคุณ
    • เช่น ถ้าคุณได้ยินคนรักบอกข้อมูลสำคัญให้คนๆ นี้ฟัง แต่เขายังไม่ได้บอกความลับนี้ให้คุณฟัง คนรักของคุณก็อาจจะพยายามโน้มน้าวให้คุณเชื่อว่า เขาบอกเรื่องนี้กับคุณแล้ว ซึ่งอาจทำให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำของตัวเอง แม้ว่าคุณจะมั่นใจว่าเขาไม่เคยบอกคุณก็ตาม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

สังเกตพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตปฏิสัมพันธ์ที่เป็นความลับระหว่างเขากับอีกคน. ถ้าคนรักของคุณกำลังมีชู้ทางใจ เขาก็อาจจะไม่ได้บอกเรื่องที่เขาติดต่อกับอีกคนให้คุณฟังทั้งหมด เขาอาจจะไม่ได้อยู่บ้านบ่อยเหมือนเดิมเพราะว่าเขาไปเจออีกคน [6]
    • นอกจากนี้คุณอาจจะยังสังเกตด้วยว่า เขาคุยโทรศัพท์ ส่งข้อความ หรือคุยออนไลน์กับคนอื่นและไม่ได้เล่าให้ฟัง พอคุณถาม เขาก็อาจจะเลี่ยงไปตอบว่า “ไม่ได้คุยกับใคร” “เพื่อน” หรือ “เพื่อนที่ทำงาน”
  2. ดูว่าคนรักพยายามซ่อนการติดต่อกับอีกคนหรือเปล่า. ถ้าคนรักของคุณมีชู้ทางใจ เขาอาจจะเริ่มซ่อนการติดต่อ ซึ่งก็อาจจะหมายถึงการลบสายโทรเข้าโทรออกหรือข้อความ เดินไปที่อื่นที่เป็นส่วนตัวเวลาคุยโทรศัพท์ หรือไม่ให้คุณอยู่ใกล้เขากับอีกคนหนึ่ง [7]
    • คนรักอาจจะไม่อยากให้คุณเห็นว่า เวลาที่เขาอยู่กับอีกคนเป็นอย่างไร เพราะว่าเขาทำตัวต่างออกไป
  3. สังเกตว่าคนรักแต่งตัวไม่เหมือนเดิมหรือเปล่า. แม้ว่าชู้ทางใจจะไม่ใช่เรื่องของร่างกาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีชู้ทางใจจะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายประทับใจ คนที่มีชู้ทางใจมักจะแต่งตัวดีก่อนไปเจออีกคน ใส่น้ำหอมหรือโคโลญจ์ และเริ่มเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เพื่อให้ตัวเองมีเสน่ห์มากขึ้น [8]
    • สังเกตว่าคนรักเพิ่งจะเปลี่ยนลุคหรือเปล่า นั่นอาจเป็นเพราะว่าเขามีชู้ทางใจ
    • ถ้าคนรักของคุณเริ่มจะแต่งตัวไม่เหมือนเดิมไปทำงาน ไปฟิตเนส หรือไปรับประทานมื้อค่ำทางธุรกิจ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณได้
  4. บ่อยครั้งที่คุณรู้ว่ามีอะไรแปลกไปในความสัมพันธ์ ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าคนรักของคุณมีชู้ทางใจ ถ้าคุณเริ่มสังเกตได้ว่าคนรักพูดถึงบางคนแปลกไปหรือคุณรู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่เพื่อนกัน สัญชาตญาณของคุณก็อาจจะถูก [9]
    • ถ้าคุณรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น คุณก็ต้องมองหาสัญญาณอื่น อย่าอาศัยสัญชาตญาณอย่างเดียว แต่ก็อย่าละเลยมันด้วยเช่นกัน
    • อีกหนึ่งสัญญาณอันตรายก็คือ ถ้าคุณแนะนำคนรักว่าให้ระวังเรื่องมิตรภาพที่สนิทสนมกับคนอื่น แล้วเขาหัวเราะใส่คุณหรือไม่พอใจ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ประเมินปฏิสัมพันธ์ของคนรักที่มีต่ออีกคน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว. คนที่มีชู้ทางใจบางครั้งจะมีพฤติกรรมที่อาจเรียกได้ว่าเป็นปัญหาหรือเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นโดยสิ้นเชิง พฤติกรรมเหล่านี้มีหลายรูปแบบ มองหาพฤติกรรมที่ใกล้ชิดเกินไปหรือส่วนตัวเกินไประหว่างคนรักและอีกฝ่ายหนึ่ง [10]
    • เช่น คนรักของคุณอาจจะส่งข้อความหาอีกคนอยู่บ่อยๆ และอาจจะโทรหาอีกคนหนึ่งด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงกลางคืนและอาจจะแอบทำ มองหาพฤติกรรมอะไรก็ตามที่คนรักของคุณไม่ควรทำกับคนอื่น
    • นอกจากนี้คุณอาจจะสังเกตความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของคนรักด้วย เช่น นอนดึกขึ้น ไปทำงานเร็วขึ้น ใช้เงินมากขึ้น หรือดื่มแอลกอฮอล์บ่อยขึ้น
  2. สังเกตว่าพฤติกรรมของคนรักเปลี่ยนไปหรือไม่เมื่ออีกคนอยู่ใกล้ๆ. ชู้ทางใจมักทำให้คนเรามีวิธีการแสดงออกที่ไม่เหมือนเดิมหรือทำอะไรต่างไปจากที่เคยทำเวลาอยู่กับคนรัก ถ้าคุณเห็นคนรักของคุณกับคนที่คุณสงสัยว่าเขาเป็นชู้ทางใจด้วยอยู่ด้วยกัน ให้สังเกตปฏิสัมพันธ์ของเขา มองหาการแสดงออกที่แตกต่างไปจากเวลาที่เขาอยู่กับคุณ [11]
    • เช่น คนรักของคุณอาจจะรู้สึกห่างเหินทางอารมณ์กับคุณเพราะเขามีเรื่องเครียดในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าใช้จ่าย งาน และความรับผิดชอบในบ้าน แต่กับคนๆ นี้เขาอาจจะหัวเราะได้ ผ่อนคลาย และขี้เล่นมากขึ้น แต่เขาก็อาจจะประหม่าหรืออึดอัดได้เวลาที่เขาอยู่กับคนๆ นั้นต่อหน้าคุณ
  3. ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบชู้ทางใจเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆ คนรักของคุณอาจจะเริ่มเปรียบเทียบคุณกับอีกคนหนึ่ง หรืออาจจะเริ่มแสดงความไม่พอใจในสิ่งที่เขาไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อน คำวิจารณ์ของเขาอาจเป็นเรื่องอะไรต่อมิอะไรเรื่อยเปื่อยและไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ แต่อาจจะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า คนรักของคุณกำลังคิดถึงอีกคนอยู่ [12]
    • เช่น คนรักของคุณอาจจะบอกว่า “เขาคิดว่ามุกของผมตลกล่ะ” “เขาชอบหนังแบบเดียวกับที่ผมชอบเลย” หรือ “เขาวิ่งได้เร็วพอๆ กับผมเลย” เริ่มสังเกตว่าคนรักพูดอะไรประมาณนี้ไหมและพูดบ่อยแค่ไหน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เปิดประเด็น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณคิดว่าคนรักของคุณกำลังมีชู้ทางใจ ถามเขาเลย ดูว่าเขาไม่พอใจ หลบเลี่ยง หรือโกรธเคืองหรือเปล่า ถ้าคุณไม่สบายใจที่จะถามออกไปตรงๆ คุณอาจจะเลือกที่จะถามคำถามเกี่ยวกับอีกคนแทน [13]
    • พยายามอย่ากล่าวโทษคนรักไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่ให้พูดว่า "ฉันรู้สึกว่าคุณอยู่กับคนๆ นี้เยอะมาก ซึ่งมันทำให้ฉันเจ็บปวดเพราะว่าคุณเป็นคนรักของฉัน และฉันก็รู้สึกเหมือนเราไม่ได้ใกล้ชิดกันมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว"
  2. ระหว่างที่คุยกัน คุณควรนิ่งเข้าไว้ เพราะถ้าคุณต่างคนต่างโกรธมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ถ้าคนรักของคุณปฏิเสธหรือยอมรับว่าสนิทกับคนๆ นี้ อย่าตะโกนและไม่พอใจ แต่ให้หายใจลึกๆ ก่อนจะตอบโต้อะไรออกไป [14]
    • ถ้าคนรักของคุณปฏิเสธทุกอย่าง ให้ใช้โอกาสนี้คุยกันเรื่องปัญหาความสัมพันธ์ เช่น คุณรู้สึกเหินห่างทางอารมณ์หรือถูกละเลยอย่างไร
  3. คุณควรจะค้นหาว่า ทำไมคุณถึงเชื่อว่าคนรักของคุณทำแบบนี้ตั้งแต่แรก เขาเคยมีชู้ทางใจหรือทางกายมาก่อนไหม คนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นพฤติกรรมของคนรักของคุณหรือเปล่า เรื่องนี้มันมีเหตุมาจากปัญหาของคุณเองไหม การหาคำตอบเหล่านี้ช่วยให้คุณรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
    • ตรวจสอบความรู้สึกของตัวเอง คุณเป็นคนขี้หึงอยู่แล้วหรือเปล่า คุณรู้สึกไม่มั่นคงไหม ที่ผ่านมาคุณเคยถูกนอกใจหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณรู้สึกอ่อนไหวและแคลงใจมากขึ้น
    • พูดคุยกับคนรักเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณ การเล่าเรื่องความรู้สึกไม่มั่นคงหรืออดีตของคุณให้เขาฟังช่วยให้คุณสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งขึ้นได้
    • คุณอาจจะลองคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ไว้ใจได้เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสงสัย เลือกคนที่คุณคิดว่าสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามความเป็นจริงและเป็นคนที่คนรักของคุณจะไม่รู้สึกไม่พอใจที่คุณไปเล่าความลับให้ฟัง คุณต้องแน่ใจว่าคนๆ นี้จะไม่บอกเรื่องที่คุณเล่าให้ใครฟัง เพราะมันอาจทำให้คนรักของคุณรู้สึกเหมือนถูกหักหลังได้
    โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
หาเสี่ยเลี้ยง
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
ทำให้คู่รักแยกทาง
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ยอมรับคำขอโทษ
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ปลอบใจเพื่อนหลังจากที่เลิกกับแฟน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,499 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา