ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตอันดับที่สามในสหรัฐอเมริกา และอาจจะทำให้เกิดความพิการตลอดชีวิตและภาวะแทรกซ้อน [1] โรคนี้ถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์และต้องได้รับการรักษาทันที เรียนรู้ที่จะรู้จักถึงอาการของโรคหลอดเลือดสมอง การได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีสามารถให้การรักษาที่เหมาะสมและลดโอกาสที่จะเกิดความพิการได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การมองหาสัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีสัญญาณบอกเล่าหลายอย่างว่าใครบางคนกำลังเป็นโรคหลอดเลือดสมอง สัญญาณเหล่านี้อาจจะรวมถึงการเริ่มเกิดอาการเหล่านี้โดยฉับพลัน อันได้แก่: [2] [3] [4]
    • ใบหน้า แขน หรือขาเกิดอาการไร้ความรู้สึกหรืออ่อนแรง โดยเฉพาะที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย ใบหน้าด้านใดด้านหนึ่งอาจจะห้อยตกลงเมื่อคนนั้นพยายามยิ้ม
    • ความสับสน การพูดลำบากหรือไม่เข้าใจคำพูด การออกเสียงคำพูดไม่ชัด
    • ปัญหาในการมองเห็นในตาข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง มองไม่เห็น หรือเห็นภาพซ้อน
    • ปวดหัวอย่างรุนแรง ซึ่งปกติจะไม่ทราบสาเหตุ และอาจจะมีอาการอาเจียนด้วย
    • การเดินลำบาก สูญเสียการทรงตัวหรือความสัมพันธ์ในการทำงานของอวัยวะ และอาการเวียนหัว
  2. นอกเหนือจากอาการทั่วไปของโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ผู้หญิงอาจจะมีอาการที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งอาจจะรวมถึง: [5]
    • ความอ่อนแรง
    • อาการหายใจถี่
    • การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างฉับพลันหรืออาการกระสับกระส่าย
    • อาการคลื่นไส้อาเจียน
    • การสะอึก
    • อาการประสาทหลอน
  3. FAST เป็นคำย่อซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ในการจดจำและทดสอบอาการของโรคหลอดเลือดสมอง [6]
    • F-Face คือ ใบหน้า: ขอให้บุคคลนั้นยิ้ม ด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้าตกห้อยหรือไม่
    • A-Arms คือ แขน: ขอให้บุคคลนั้นยกแขนขึ้น แขนข้างหนึ่งห้อยลงหรือไม่
    • S- Speech คือ คำพูด: ขอให้บุคคลนั้นพูดวลีง่ายๆ ตาม คำพูดของเขาไม่ชัดหรือแปลกหรือไม่
    • T-Time คือ เวลา: ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการใดๆ เหล่านี้ ให้โทร 191 หรือ 1669 ทันที
  4. ถ้าคุณสงสัยว่าจะเป็นโรคหลอดเลือดสมองให้โทร 191 ทันที สำหรับโรคหลอดเลือดสมองแล้วทุกนาทีมีค่า ทุกนาทีที่ไม่ได้รับการรักษานั้นจะสามารถทำให้บุคคลนั้นสูญเสียเซลล์ประสาทได้ 1.9 ล้านเซลล์ ซึ่งจะลดโอกาสในการฟื้นตัวจนหายสนิทและเพิ่มโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือตายได้ [7]
    • นอกจากนี้ ยังมีช่องการรักษาเล็กๆ สำหรับโรคหลอดเลือดสมองชนิดขาดเลือด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    • โรงพยาบาลบางแห่งมีศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีเครื่องมือในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองครบครัน ถ้าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองก็อาจจะเป็นประโยชน์ที่จะหาว่าศูนย์เหล่านี้อยู่ที่ไหน [8]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรคหลอดเลือดสมองสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่บางคนมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้ คุยกับแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะสุขภาพเหล่านี้: [9]
    • โรคเบาหวาน
    • ภาวะหัวใจ เช่น ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation หรือ A-Fib) หรือการตีบตัน (Stenosis)
    • เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน (Prior stroke) หรือ โรคหลอดเลือดสมองตีบชั่วคราว (TIA)
  2. ถ้าคุณมีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ไม่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คุณก็อาจจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น นิสัยการดำเนินชีวิตบางอย่างที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของคุณนั้น ได้แก่: [10]
    • การมีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
    • การไม่ออกกำลังกาย
    • การดื่มหนักหรือการเสพยาที่ผิดกฎหมาย
    • การสูบบุหรี่
    • ความดันโลหิตสูง
    • คอเลสเตอรอลสูง
  3. คุณอาจจะเผชิญความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้บางอย่างซึ่งรวมถึง:
    • อายุของคุณ: หลังจากอายุ 55 ปี ความเสี่ยงของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกสิบปี
    • เผ่าพันธุ์หรือเชื้อชาติของคุณ: ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา ชาวฮิสปานิค และชาวเอเชียมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่า
    • ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงกว่าเล็กน้อย
    • ประวัติเกี่ยวกับการเป็นโรคหลอดเลือดสมองของครอบครัวคุณ
  4. พิจารณาว่าคุณมีปัจจัยเสี่ยงอื่นเพราะว่าคุณเป็นผู้หญิงหรือไม่. มีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองของผู้หญิง อันได้แก่: [11]
    • ยาคุมกำเนิด: ยาคุมกำเนิดชนิดกินสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ด้วย เช่น การสูบบุหรี่ หรือการมีความดันโลหิตสูง
    • การตั้งครรภ์: นี่จะเพิ่มความดันโลหิตและความตึงเครียดให้หัวใจ
    • การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy หรือ HRT): ผู้หญิงมักจะใช้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อบรรเทาอาการของวัยหมดประจำเดือน
    • ไมเกรนในระยะออร่า: ผู้หญิงเป็นโรคไมเกรนมากกว่าผู้ชาย และไมเกรนนั้นเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การเข้าใจว่าโรคหลอดเลือดสมองคืออะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โรคหลอดเลือดสมองจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณเลือดที่ส่งไปยังสมองของคุณพร้อมกับออกซิเจนและสารอาหารนั้นถูกขัดขวางหรือลดปริมาณลง นี่อาจจะทำให้เซลล์สมองของคุณเริ่มตายเกือบจะในทันที [12] การที่หลอดเลือดขาดเลือดเป็นเวลานานอาจจะทำให้สมองตายเป็นบริเวณกว้างและเป็นเหตุให้เกิดความพิการในระยะยาว
  2. โรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่นั้นมาจากหนึ่งในสองชนิด คือ โรคหลอดเลือดสมองชนิดสมองขาดเลือด (Ischemic) และโรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในสมอง (Hemorrhagic) ชนิดที่สมองขาดเลือดนั้นเกิดจากลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่ (ประมาณ 80%) เป็นชนิดสมองขาดเลือด [13] โรคหลอดเลือดสมองชนิดเลือดออกในสมองเกิดจากการแตกของหลอดเลือดที่อ่อนแอในสมอง ทำให้เลือดรั่วไหลเข้าไปในสมอง
  3. เรียนรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองตีบชั่วคราว (Transient Ischemic Attack). โรคหลอดเลือดสมองชนิดนี้อาจจะเรียกว่า TIA โดยเป็นโรคหลอดเลือดสมองระยะสั้นๆ เกิดจากการอุดตัน "ชั่วคราว" ของหลอดเลือดไปยังสมอง ยกตัวอย่างเช่น ลิ่มเลือดเล็กๆ อาจจะเคลื่อนที่ไปอุดตันหลอดเลือดชั่วคราว แม้ว่าอาการจะเหมือนกับโรคหลอดเลือดสมองที่รุนแรงกว่า แต่อาการจะเกิดขึ้นสั้นกว่าซึ่งโดยปกติแล้วจะน้อยกว่า 5 นาที [14] อาการจะปรากฏและหายไปภายใน 24 ชั่วโมง [15]
    • อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถบอกว่าคุณเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบชั่วคราวหรือโรคหลอดเลือดสมองได้จากเพียงแค่ระยะเวลาและอาการเท่านั้น
    • สิ่งสำคัญก็คือต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างฉุกเฉินไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรคหลอดเลือดสมองตีบชั่วคราวเป็นข้อบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองในอนาคต
  4. ตระหนักถึงความพิการที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง. ความพิการที่เกิดหลังจากโรคหลอดเลือดสมองอาจจะแบ่งได้ตั้งแต่ปัญหาในการเคลื่อนไหว (อัมพาต) ปัญหาในการคิด การพูด การสูญเสียความทรงจำ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านั้นอาจจะไม่หนักจนถึงรุนแรงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมอง (ขนาดของลิ่มเลือด ขอบเขตความเสียหายของสมอง) และระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้รับการรักษา
    โฆษณา

คำเตือน

  • บันทึกเวลาที่เริ่มเกิดอาการขึ้น แพทย์จำเป็นต้องรู้สิ่งนี้ในระหว่างการรักษาผู้ป่วย
  • เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัว หรืออยู่ใกล้โทรศัพท์ เมื่อมีใครเกิดอาการใดๆ เหล่านี้ ให้โทรติดต่อหมายเลขฉุกเฉินภายในท้องถิ่นของคุณทันที
  • บุคคลนั้นอาจจะมีอาการของโรคหลอดเลือดสมองเพียงหนึ่งอาการ แต่การได้รับการรักษาพยาบาลทันทีก็ยังคงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,573 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา