ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ภาวะซินเนสทีเซียคือภาวะชนิดหนึ่งที่พบได้ยาก เกิดจากการผสมผสานระหว่างประสาทสัมผัสต่างๆ (การมองเห็น การได้ยิน และรับรส) เมื่อมีการกระตุ้นประสาทสัมผัสหนึ่ง ประสาทสัมผัสนั้นก็จะไปกระตุ้นให้เกิดประสาทสัมผัสอีกอย่างหนึ่งที่คาดเดาได้และออกมาเหมือนเดิม [1] เช่น บางคนที่มีภาวะซินเนสทีเซียอาจจะได้ยินเสียงของสี สัมผัสได้ถึงเสียง หรือรับรู้รสชาติของรูปทรง บางครั้งแต่ละคนก็รับรู้ไม่เหมือนกัน คนที่เป็นภาวะซินเนสทีเซียส่วนใหญ่จะมีภาวะนี้มาตั้งแต่เกิด เพราะฉะนั้นเขาก็จะไม่รู้สึกแปลกอะไร แต่เมื่อเขาเล่าให้คนอื่นฟังว่าเขารับรู้สิ่งต่างๆ ในโลกนี้อย่างไร คนอื่นก็อาจจะบอกว่าเขาเกิดภาพหลอนหรือเป็นบ้า เพราะฉะนั้นการได้รับวินิจฉัยว่ามีภาวะซินเนสทีเซียมักจะทำให้คนเหล่านี้รู้สึกสบายใจ แต่รู้ไว้ว่ายังไม่มีฉันทามติทางการแพทย์ว่าภาวะนี้มีอยู่จริงหรือไม่ และแพทย์บางคนก็อาจจะไม่ยอมรับว่าภาวะซินเนสทีเซียเป็นภาวะทางการแพทย์

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

สังเกตสัญญาณของภาวะซินเนสทีเซีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รู้ว่าภาวะซินเนสทีเซียเป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างยากแต่ก็มักจะไม่ได้รับการวินิจฉัย. ภาวะซินเนสทีเซียเป็นภาวะทางระบบประสาทที่พบได้ยากและส่งผลต่อการรับรู้ทางประสาทสัมผัส แต่เป็นไปได้ว่ามีหลายคนที่เป็นภาวะนี้แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยหรือเข้าใจว่าคนอื่นก็รับรู้สิ่งต่างๆ ในโลกใบนี้เหมือนกับตัวเอง จึงไม่รู้ว่ามีคนที่มีภาวะนี้มากน้อยแค่ไหน
  2. รู้ว่าคนที่มีภาวะซินเนสทีเซียบางคนก็ไม่ได้รับรู้สิ่งนี้ในทางกายภาพ. ถ้าคุณเห็นสีในอากาศ ได้กลิ่น ได้ยิน หรือรู้สึกถึงสิ่งต่างๆ จริงๆ คุณก็อาจจะมีภาวะซินเนสทีเซียแบบรับรู้ได้จริง (Projective Synesthesia) ซึ่งพบได้ยากกว่าภาวะซินเนสทีเซียแบบเชื่อมโยง (Associative Synesthesia) และเป็นสิ่งที่คนคิดถึงเป็นสิ่งแรกเมื่อพูดถึงภาวะซินเนสทีเซีย [2]
    • คนที่มีภาวะซินเนสทีเซีย (เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า ซินเนสทีส) จะได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส หรือสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของสี [3] ส่วนบางคนก็สามารถรับรู้รสชาติหรือเห็นตัวอักษรและคำพูดเป็นสีต่างๆ เช่น เขาอาจจะเห็นตัว "ฆ" เป็นสีแดงและตัว "ฐ" เป็นสีเหลืองเวลาอ่าน
    • คนที่มีภาวะซินเนสทีเซียบางคนจะเห็นแนวคิดนามธรรม เช่น รูปทรงที่เป็นนามธรรม หน่วยของเวลา หรือสมการคณิตศาสตร์ลอยอยู่ในอากาศภายนอกร่างกาย ซึ่งเรียกว่า "ภาวะซินเนสทีเซียเชิงแนวคิด" (Conceptual Synesthesia)
  3. หาปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะซินเนสทีเซีย. งานวิจัยในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า มีปัจจัยบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับภาวะซินเนสทีเซียอย่างชัดเจน เช่น ในสหรัฐอเมริกาจำนวนผู้หญิงที่มีภาวะซินเนสทีเซียนั้นมีมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า [4] นอกจากนี้คนที่มีภาวะซินเนสทีเซียส่วนใหญ่ยังเป็นคนถนัดซ้าย และมีโอกาสที่จะมีญาติที่มีภาวะเดียวกันถึง 40%
  4. อย่าสับสนระหว่างภาวะซินเนสทีเซียกับการเกิดภาพหลอน. บ่อยครั้งเวลาคนที่มีภาวะซินเนสทีเซียเล่าประสบการณ์ของตัวเอง คนอื่นก็มักจะคิดว่าพวกเขาเกิดภาพหลอนหรือเสพยา ความแตกต่างระหว่างภาวะซินเนสทีเซียที่แท้จริงกับการเกิดภาพหลอนก็คือ การรับรู้นั้นเหมือนเดิมและคาดเดาได้ ไม่ได้เพ้อเจ้อและไม่มีแบบแผน [5] เช่น ถ้าคุณได้รสชาติสตรอว์เบอร์รีเวลาที่ได้ยินเพลงใดเพลงหนึ่ง หากเป็นภาวะซินเนสทีเซีย ประสาทสัมผัสนั้นก็จะต้องกระตุ้นอีกประสาทสัมผัสหนึ่งในรูปแบบที่คุณคาดเดาได้ทุกครั้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าประสาทสัมผัสทั้งสองช่องทางจะต้องกระตุ้นกันและกันเสมอไป
    • คนที่มีภาวะซินเนสทีเซียมักรายงานว่าตัวเองถูกแกล้งและล้อเลียน (ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นในวัยเด็ก) เพราะพวกเขาอธิบายประสบการณ์การรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่คนอื่นรับรู้ไม่ได้
  5. รู้ว่าคนที่มีภาวะซินเนสทีเซียแต่ละคนไม่ได้รับรู้เหมือนกัน. ภาวะซินเนสทีเซียคือการรับรู้ข้ามประสาทสัมผัสและจุดประสานประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับประสาทสัมผัสทั้งห้า และคนที่มีภาวะซินเนสทีเซียแต่ละคนก็จะไม่ได้โครงสร้างการเชื่อมโยงข้ามประสาทสัมผัสที่เหมือนกันเป๊ะ เช่น ภาวะซินเนสทีเซียรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดก็คือ การมองเห็นตัวเลขและตัวอักษรเป็นสี แต่ละคนก็จะมองเห็นสีของแต่ละตัวอักษรไม่เหมือนกัน แต่ว่าหลายคนจะมองเห็นตัว A เป็นสีแดง อีกรูปแบบที่พบบ่อยก็คือการเห็นสีของเสียง เสียง เพลง หรือเสียงพูดที่ได้ยินจะไปกระตุ้นตาให้เห็นสี [6] บางคนอาจจะเห็นสีแดงทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า "สุนัข" แต่ว่าคนอื่นก็อาจจะเห็นเป็นสีส้มก็ได้ แต่ละคนจะรับรู้ข้ามประสาทสัมผัสไม่เหมือนกัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

เข้ารับการวินิจฉัยโดยผู้เชี่ยวชาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เนื่องจากการรับรู้ทางประสาทสัมผัสของภาวะซินเนสทีเซียนั้นคล้ายคลึงกับอาการและการบาดเจ็บที่ศีรษะบางอย่าง คุณจึงควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตัดภาวะร้ายแรงอื่นๆ ออกไปก่อน แพทย์จะตรวจการทำงานของสมอง ปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลัน และประสาทสัมผัสเพื่อดูว่าร่างกายของคุณมีปัญหาหรือบกพร่องหรือเปล่า ถ้าแพทย์เชื่อว่ามีบางอย่างที่ร้ายแรง เขาก็อาจจะส่งตัวคุณให้แพทย์ประสาทวิทยา จำไว้ว่าโดยทั่วไปคนที่มีภาวะซินเนสทีเซียจะผ่านการทดสอบทางระบบประสาทตามมาตรฐานทั้งหมดและปกติดี [7] ถ้าคุณมีความบกพร่องทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดการเห็นภาพ คุณก็ไม่น่าจะมีภาวะซินเนสทีเซียร่วมด้วย
    • อาการบาดเจ็บที่ศีรษะ กลุ่มอาการภายหลังสมองได้รับการกระทบกระเทือน เนื้องอกในสมอง การติดเชื้อในสมอง การปวดไมเกรน อาการชักร่วมกับการเห็นแสง โรคลมบ้าหมู โรคหลอดเลือดสมอง ปฏิกิริยาที่เกิดจากพิษ "การเห็นภาพเหตุการณ์ในอดีต" จากสารเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาท และการทดลองสารเคมีที่ทำให้ประสาทหลอน (กระบองเพชรและเห็ดที่ทำให้มึนเมา) สามารถทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางประสาทสัมผัสที่คล้ายคลึงกับภาวะซินเนสทีเซีย
    • ภาวะซินเนสทีเซียมักติดตัวมาตั้งแต่เกิด เพราะฉะนั้นจึงแทบไม่พบกรณีที่เพิ่งมาเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ แต่ถ้าจู่ๆ คุณก็เพิ่งมีภาวะนี้ตอนเป็นโต ให้ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการประเมินทันที เพราะอาจเกี่ยวข้องกับปัญหาของระบบสมอง/ประสาท [8]
  2. การเกิดภาพในภาวะซินเนสทีเซียนั้นยังคล้ายคลึงกับโรคและปัญหาเกี่ยวกับดวงตาอีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณควรไปพบนักตรวจปรับสายตาหรือจักษุแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจดวงตา อาการบาดเจ็บที่ดวงตา โรคต้อหิน (ความดันในดวงตา) โรคต้อกระจก จอตาหรือวุ้นตาหลุดลอก กระจกตาบวม โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม และความผิดปกติของเส้นประสาทตาล้วนเป็นปัญหาเกี่ยวกับดวงตาที่อาจทำให้เกิดปรากฎการณ์ทางสายตาและการเห็นสีเพี้ยนไปได้ [9]
    • คนที่มีภาวะซินเนสทีเซียส่วนใหญ่จะไม่มีโรคทางกายภาพเกี่ยวกับดวงตา
    • คุณควรไปพบจักษุแพทย์ (ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตา) มากกว่านักตรวจปรับสายตาที่มีหน้าที่หลักคือระบุความคมชัดของการมองเห็นและจ่ายแว่น/คอนแทกต์เลนส์
  3. เข้าใจว่าแพทย์บางคนไม่เชื่อเรื่องภาวะซินเนสทีเซีย. คุณอาจจะเจอแพทย์บางคนที่ไม่เชื่อว่าภาวะนี้มีอยู่จริง ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทประกันบางแห่งก็อาจจะไม่ครอบคลุมค่ารักษาด้วย อย่างไรก็ตามคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตัดภาวะต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุของอาการออกไปก่อน แต่ก็ให้รู้ไว้ว่าแพทย์อาจจะวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นไปเลย [10]
    • คุณอาจจะไปตรวจกับแพทย์อีกคนหนึ่งหากคุณเชื่อว่าแพทย์คนแรกไม่ได้ตั้งใจวินิจฉัยภาวะของคุณมากนัก
    • ถ้าแพทย์บอกว่าคุณไม่ได้มีภาวะซินเนสทีเซียแต่ว่าเป็นภาวะอย่างอื่นไปเลย ให้เชื่อฟังคำแนะนำและปฏิบัติตามวิธีการรักษาของแพทย์
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยอมรับว่าภาวะซินเนสทีเซียนั้นไม่ปกติ แต่ก็ไม่ใช่โรคหรือความพิการ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปรู้สึกหรือคิดว่าตัวเองแปลกประหลาด
  • ถามญาติเกี่ยวกับการรับรู้ทางประสาทสัมผัสของพวกเขา พวกเขาอาจจะมีประสบการณ์แบบเดียวกันและสามารถให้ความช่วยเหลือได้
  • เข้าร่วมกลุ่มที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับภาวะซินเนสทีเซียเพื่อให้คุณเข้าใจภาวะนี้มากขึ้น
  • บทความนี้ไม่ได้กล่าวถึงภาวะซินเนสทีเซียทุกประเภท การเชื่อมโยงข้ามช่องประสาทสัมผัสและความเจ็บปวดใดๆ ก็ตามที่มีมาตั้งแต่เกิดและไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดขึ้นถือเป็นภาวะซินเนสทีเซีย
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าจู่ๆ คุณก็เห็นสีและ/หรือรูปทรงที่ผิดปกติ คุณอาจกำลังเกิดภาพหลอนหรือชัก ปวดไมเกรน หรือเกิดการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง เพราะฉะนั้นอย่าคิดไปเองโดยอัตโนมัติว่าเป็นภาวะซินเนสทีเซีย ปรึกษาแพทย์หากคุณไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนและรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวร่วมกัน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,273 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา