ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

โรคมาลาเรีย เกิดจากปรสิตและติดต่อจากการถูกยุงพาหะตัวเมียกัด [1] ยุงจะได้รับปรสิตหลังจากกัดคนที่ติดเชื้อมาลาเรียซึ่งจากนั้นจะถูกส่งต่อไปยังมนุษย์คนต่อไปที่มันกัด โรคมาลาเรียพบได้บ่อยในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และ 3.4 พันล้านคนมีความเสี่ยงต่อการติดโรคสูง [2] [3] ในแต่ละปีมีคนติดเชื้อประมาณ 300 ล้านคนทั่วโลก และ 1 ถึง 3 ล้านคนในจำนวนนี้จะเสียชีวิต ผู้ที่มีอาการหนักที่สุดจะเป็นเด็กที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีพอ และโรคมาลาเรียเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในเด็กที่อายุต่ำกว่าห้าปี [4] วิธีรักษาโรคมาลาเรียที่ดีที่สุดคือการรู้ว่าคุณเป็นโรคมาลาเรียหรือไม่และขอเข้ารับการช่วยเหลือ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

การรู้จักโรคมาลาเรีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีบางอาการที่พบได้บ่อยที่เกิดขึ้นเมื่อคุณติดโรคมาลาเรีย คุณอาจจะมีอาการเหล่านี้บางอย่างหรือทั้งหมดในบางกรณีในขณะที่คุณกำลังป่วย อาการเหล่านั้น ได้แก่:
  2. มีบางพื้นที่ในโลกที่พบโรคมาลาเรียได้บ่อยซึ่งรู้จักกันในฐานะประเทศที่มีโรคมาลาเรียระบาด ประเทศเหล่านี้ ได้แก่ ทวีปแอฟริกาส่วนใหญ่ยกเว้นบริเวณส่วนใหญ่ในภาคเหนือและภาคใต้ บริเวณภาคเหนือและภาคกลางของทวีปอเมริกาใต้ อินเดียและบริเวณโดยรอบ และอีกหลายประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิก โรคมาลาเรียยังเกิดขึ้นแต่ไม่ระบาดในทวีปเอเชียส่วนใหญ่ บางพื้นที่ในภาคกลางในทวีปอเมริกาใต้ เม็กซิโกตะวันตก และอเมริกากลางส่วนใหญ่อีกด้วย
    • ถึงแม้ว่าโรคมาลาเรียจะระบาดในประเทศเหล่านี้ แต่พบในบริเวณที่มีระดับสูงและในทะเลทรายได้น้อยกว่า ยกเว้นในบริเวณที่อุดมด้วยน้ำและต้นไม้ในทะเลทราย และยังพบได้น้อยลงในช่วงที่อุณหภูมิหนาวกว่า
    • ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรจะร้อนตลอดทั้งปี ซึ่งหมายความว่ามีโรคมาลาเรียชุกชุมมากกว่าและคุณสามารถติดโรคได้ตลอดทั้งปี [7]
  3. ระยะฟักตัวหรือเวลาก่อนที่อาการจะปรากฏนั้นปกติคือ 7 - 30 วันนับจากเวลาที่คุณถูกยุงที่เป็นพาหะกัด ปรสิตมาลาเรียบางชนิดอาจจะแฝงตัวอยู่เฉยๆ และไม่ก่อให้เกิดอาการได้นานถึงสี่ปีหลังจากที่คุณถูกกัด ปรสิตจะคงอยู่ในตับแต่ในที่สุดก็จะบุกรุกไปยังเซลล์เม็ดเลือดแดง [8]
  4. คุณสามารถได้รับการวินิจฉัยโรคมาลาเรียได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มีแพทย์ที่รู้จักและสามารถจำแนกอาการได้อยู่ทั่วทุกมุมโลก คุณจะได้รับการเจาะเลือดและนำหยดเลือดนั้นไปประเมินภายใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อการวินิจฉัยโรค แพทย์จะตรวจหาปรสิตภายในเซลล์เม็ดเลือดแดงของคุณ นี่เป็นการทดสอบที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุด เนื่องจากคุณสามารถมองเห็นปรสิตที่มีชีวิตอยู่ในเซลล์เม็ดเลือดของคุณได้จริงๆ
    • นี่จะซับซ้อนสำหรับคนที่เป็นโรคทางเขตร้อนอื่นๆ แต่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคมาลาเรีย [9]
    • ในสหรัฐอเมริกา แพทย์ไม่ได้รับการอบรมด้านเวชศาสตร์เขตร้อนอันเป็นเหตุให้การวินิจฉัยโรคมาลาเรียจะผิดพลาด 60% [10]
  5. มาลาเรียขึ้นสมอง คือ การแสดงอาการระยะสุดท้ายของโรคมาลาเรีย ปรสิตมาลาเรียมีความสามารถทะลุผ่านแนวกั้นระหว่างเลือดกับสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคมาลาเรียที่เลวร้ายที่สุด ถ้าคุณมีภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง คุณอาจจะมีอาการโคม่า อาการชัก ความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมผิดปกติ และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในการรับรู้ทางประสาทสัมผัส [11]
    • ไปโรงพยาบาลทันทีถ้าคุณคิดว่าคุณมีภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

การป้องกันและการรักษาโรคมาลาเรีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีการป้องกันบางอย่างที่คุณทำได้เพื่อป้องกันโรคมาลาเรีย โดยเฉพาะในประเทศที่พบโรคมาลาเรียได้บ่อย เมื่อใช้เวลาหรือนอนข้างนอกให้กางมุ้งเสมอ ซึ่งนี่จะป้องกันยุงที่อาจจะเป็นพาหะไม่ให้กัดคุณ พยายามกำจัดหรือหลีกเลี่ยงบรรดาแอ่งน้ำนิ่งด้วย บริเวณเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ให้แน่ใจว่าคุณใช้ยาทาไล่แมลงเยอะๆ ด้วยถ้าคุณวางแผนที่จะอยู่ข้างนอกโดยไม่กางมุ้ง
  2. ถ้าคุณวางแผนจะเดินทางไปบริเวณที่พบโรคมาลาเรียได้บ่อย สิ่งสำคัญคือคุณต้องไปพบแพทย์อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนการเดินทางของคุณ ในช่วงนี้ พวกเขามีแนวโน้มที่จะสั่งยาเพื่อป้องกันโรคมาลาเรียซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการติดโรคมาลาเรียของคุณได้
  3. สิ่งสำคัญในการรักษาโรคมาลาเรียก็คือการรู้ตัวแต่เนิ่นๆ ไปให้แพทย์วินิจฉัยภายใน 24 ถึง 72 ชั่วโมงที่คุณอาจจะติดเชื้อหรือเมื่อมีอาการปรากฏ คุณสามารถกินยาได้หลายอย่างซึ่งจะต้องกินอย่างน้อย 7 วัน แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่คุณจำเป็นต้องกินยาจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการของคุณและส่วนที่เหลือของร่างกายของคุณได้รับผลกระทบมากแค่ไหน ยาสำหรับโรคมาลาเรียทั้งหมดปลอดภัยสำหรับเด็ก ยาที่เป็นไปได้ที่แพทย์อาจจะสั่งให้คุณ ได้แก่:
    • เมโฟลควิน (Mefloquine)
    • อะโทวาโควน-โพรควินอล (Atovaquone-proquinal)
    • ซัลฟาดอกซีน-ไพริเมทามีน (Sulfadoxine-pyrimethamine)
    • ควินิน (Quinine)
    • คลินดาไมซิน (Clindamycin)
    • ดอกซีไซคลิน (Doxycycline)
    • คลอโรควิน (Chloroquine)
    • ไพรมาควิน (Primaquine)
    • ไดไฮโดรอาร์เทมิซินิน-ไพเพอร์อะควิน (Dihydroartemisinin-piperaquine) แต่ประสิทธิภาพของมันยังไม่รับการพิสูจน์อย่างชัดเจน [13]
  4. เนื่องจากแพทย์ในสหรัฐอเมริกาไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาโรคมาลาเรีย คุณจะต้องระแวดระวังเป็นพิเศษถ้าคุณอาศัยอยู่ที่นั่น ถ้าคุณกลับไปถึงสหรัฐอเมริกาและมีไข้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ตรงไปห้องฉุกเฉินหรือคลินิกแพทย์ แจ้งแพทย์อย่างชัดเจนว่าคุณเดินทางไปที่ไหนมาและว่าคุณสงสัยว่าตัวเองติดโรคมาลาเรียเพื่อให้พวกเขาสามารถรักษาคุณได้ทันที
    • การวินิจฉัยโรคล่าช้าอาจจะเป็นผลให้เสียชีวิตได้ 60% ของการวินิจฉัยล่าช้าเนื่องจากการวินิจฉัยโรคมาลาเรียผิดเป็นโรคอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ คุณต้องให้ประวัติอย่างชัดเจนเสมอว่าคุณเดินทางไปที่ไหนตลอดหนึ่งปีหรือสองปีที่ผ่านมา
    • ถ้าคุณติดโรคมาลาเรีย คุณจะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์สามารถจ่ายยาปฏิชีวนะได้อย่างเหมาะสม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • แม่สามารถแพร่กระจายโรคมาลาเรียแต่กำเนิดผ่านการตั้งครรภ์ได้ แต่แพร่กระจายผ่านน้ำนมแม่ไม่ได้
  • คุณควรพักและนอนหลับเพื่อช่วยการทำงานของภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกายของคุณ การนอนหลับอย่างไม่เพียงพอจะทำให้เกิดการทำงานของภูมิคุ้มกันบกพร่องและอาจจะทำให้ระยะเวลาการรักษานานออกไปอีก [14]
  • โรคมาลาเรียไม่สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการติดต่อผ่านการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ
  • มีการฉีดวัคซีนที่เพิ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้สำหรับผู้ป่วยเด็กในพื้นที่ที่มีโรคมาลาเรียระบาดในทวีปแอฟริกา [15] หน่วยงานต่างๆ เช่น องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) นั้นค่อนข้างจะประสบความสำเร็จในการใช้วัคซีนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดยอดผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียจำนวนมากในทวีปแอฟริกา ซึ่งยังอาจจะได้รับการอนุมัติให้ใช้สำหรับผู้ใหญ่หลังจากการทดลองต่อไปอีกด้วย
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://www.cdc.gov/malaria/about/index.html
  2. Kerkhoff, Karen, Lydie Canier, and Saorin Kim. Implementation and Application of a Multiple Assay to Detect Malaria Specific Antibodies: A Promising Tool for Assessing Malaria Transmission in Southeast Asian pre-elimination Areas, Malaria Journal, 2015, Vol 14, 338
  3. http://www.cdc.gov/malaria/about/facts.html
  4. Stauffer, William and Phillip Fischer. Diagnosis and Treatment of Malaria in Children Clinical Infectious Diseases, 2003, 37(10), 1340-1348
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/malaria/basics/symptoms/con-20013734
  6. http://www.cdc.gov/malaria/about/disease.html
  7. http://www.cdc.gov/malaria/about/distribution.html
  8. http://www.cdc.gov/malaria/about/disease.html
  9. Kerkhoff, Karen, Lydie Canier, and Saorin Kim. Implementation and Application of a Multiple Assay to Detect Malaria Specific Antibodies: A Promising Tool for Assessing Malaria Transmission in Southeast Asian pre-elimination Areas, Malaria Journal, 2015, Vol 14, 338
  1. Stauffer, William and Phillip Fischer. Diagnosis and Treatment of Malaria in Children Clinical Infectious Diseases, 2003, 37(10), 1340-1348
  2. http://www.webmd.com/a-to-z-guides/malaria-treatment-overview
  3. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/malaria/basics/prevention/con-20013734
  4. Qui, Fan. Clinical Efficacy of dihydroartemisinin-piperaquine for The Treatment of Uncomplicated Plasmodium Falciparum Malaria at the China Myunmar Border, Journal of Tropical Medicine and Hygiene, 2015, 93(3), 577-583
  5. DeKeyser, Freda Ganz, Critical Care Nurse, Sleep and Immune Function, April 2012, volume 32(2) e 19-e-25
  6. Clinical Trials Partnership Efficacy and safety of RTS malaria vaccine with or without booster in infants and children in Africa, Results of Phase 3 Randomized Clinical Trials, The Lancet, July 2015, Vol 386 (9988) P 31-45

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,423 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา