ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถึงจะมีความแตกต่างในเชิงชีวภาพในสมองระหว่างคนข้ามเพศกับคนที่เพศตรงกับเพศกำเนิด แต่มันก็ยังคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกว่าเพศที่ได้มาแต่กำเนิดนั้นถูกต้อง อย่างไรก็ดี หากทำการค้นหาตัวตนแท้จริงพร้อมความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ คุณจะสามารถหาสถานะที่เหมาะสมกับตนเองที่สุดได้ หากคุณจริงจังกับการตั้งคำถามถึงสถานะทางเพศของตนเอง ให้ใส่ใจในความรู้สึกและเปิดรับความไม่มั่นใจนี้ ลองไปปรึกษากับผู้ให้คำแนะนำที่เชี่ยวชาญในด้านเพศสภาพ เพื่อที่คุณจะมีใครสักคนคอยให้กำลังใจตลอดกระบวนการเปลี่ยนแปลง จำไว้ว่ามันมีหลายวิธีที่จะระบุตัวตน และสิ่งสำคัญที่สุดคือการหาทางระบุให้ได้ว่าคุณต้องการอะไร [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ถามคำถามที่ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณให้ความสงสัยว่าคุณอาจเป็นหรือไม่เป็นคนข้ามเพศอย่างจริงจังละก็ คุณคงไม่ได้มีเพศสภาพที่สอดคล้องกันทั้งหมด นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นบุคคลข้ามเพศ มันอาจจะหมายความว่าคุณเป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ [2]
    • ถามตัวเองว่าเหตุใดจึงสนใจใคร่รู้ หากคุณรู้สึกไม่สะดวกใจกับเพศกำเนิดอย่างต่อเนื่อง หรือมีความดึงดูดกับการเห็นภาพตนเองในเพศที่แตกต่าง คุณอาจเป็นบุคคลข้ามเพศ
    • พิจารณาความเป็นไปได้ว่าเพศสภาพของคุณไม่ได้เป็นสองขั้ว: คุณไม่ได้รู้สึกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณอาจเป็นสถานะอื่นก็ได้
    • หากคุณรู้สึกพอใจในเพศกำเนิดแต่สังเกตตนเองว่าชอบทำตัวแตกต่างจากคนที่มีเพศสภาพตรงกับเพศกำเนิดคนอื่นๆ นั่นไม่ได้จำเป็นต้องแปลว่าคุณเป็นบุคคลข้ามเพศ คุณอาจเป็นแค่ผู้ชายที่มีความอ่อนช้อย หรือผู้หญิงที่มีความกร้าวแกร่ง
    • พึงระลึกไว้ว่าการเป็นบุคคลข้ามเพศเป็นคนละอย่างกับการแปลงเพศ การแปลงเพศเป็นศัพท์เก่าที่ใช้อธิบายคนที่เข้ารับการดำเนินการตามขั้นตอนทางแพทย์เพื่อเปลี่ยนแปลงเพศสภาพของตนเองอย่างถาวร คนข้ามเพศบางคนอาจใช้ฮอร์โมนหรือเข้ารับการศัลยกรรม แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำทั้งหมด [3]
  2. คนข้ามเพศหลายคนแสดงสัญญาณของการไม่พอใจในเพศสภาพของตนเองอย่างเด่นชัดตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ความปรารถนาอย่างต่อเนื่องที่ยาวนานมากกว่าหกเดือนมักจะเข้าใจว่าเป็นสัญญาณของอาการเป็นทุกข์ในเพศสภาพ สัญญาณที่ว่าได้แก่: [4]
    • ยืนกรานว่าคุณไม่ได้มีเพศตามที่พ่อแม่บอก
    • คิดว่าคุณจะเติบโตเป็นเพศที่แตกต่างจากเพศกำเนิดของตน
    • เลือกเพศที่ต่างออกไปให้ตัวเองระหว่างการเล่นเกมในจินตนาการ
    • แต่งตัวหรืออยากจะแต่งตัวในเสื้อผ้าที่เป็นของอีกเพศ
    • พึงพอใจในการคบหาเพื่อนอีกเพศหนึ่ง
    • มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเข้าร่วมในกิจกรรม การละเล่น หรือกิจกรรมยามว่างของอีกเพศ
    • ปฏิเสธของเล่นของเพศที่ตรงกับเพศกำเนิดของคุณ
    • รังเกียจหรือไม่พอใจในลักษณะกายภาพหรืออวัยวะสืบพันธุ์ของตนเอง
    • รู้สึกเศร้า หวาดกลัว สับสน อับอาย โกรธ หรืออารมณ์อื่นๆ
  3. ถามตัวเองว่าคุณคิดว่าตนเองเหมือนบทบาททางสังคมที่เป็นอยู่หรือไม่. บุคคลข้ามเพศหลายคนรู้สึกแปลกแยกจากบทบาทที่พวกเขาถูกขอให้เล่นไปในสังคม ถามตัวเองว่าคุณรู้สึกแปลกแยกจากสิ่งที่ถูกขอให้ทำร่วมกับคนอื่นๆ ที่เป็นเพศเดียวกับคุณหรือไม่ เวลาถูกขอให้ทำอะไรตามแบบฉบับเพศโดยกำเนิด คุณรู้สึกเหมือนถูกยัดลงผิดกล่องหรือไม่ [5]
    • สังเกตดูว่าคุณรู้สึกอย่างไรเวลาอยู่กับกลุ่มคนที่เป็นเพศเดียวกับคุณ หากรู้สึกแตกต่าง หรือไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้น คุณอาจกำลังประสบกับอาการระเหี่ยเป็นทุกข์
  4. สังเกตว่าชื่อคุณและสรรพนามของตัวคุณทำให้คุณรู้สึกอย่างไร. คิดถึงความรู้สึกเวลาได้ยินตัวเองถูกพูดถึงตามคำสรรพนาม หากรู้สึกไม่เห็นชอบ มันอาจเป็นเพราะคุณอยากเปลี่ยนสรรพนามถึงคุณใหม่ [6]
    • หากคุณแสยะกับการถูกเรียกว่า "คุณผู้ชาย" หรือ "คุณผู้หญิง" มันอาจเป็นเพราะคำนั้นไม่เหมาะกับคุณ
    • ดูว่าคุณรู้สึกอย่างไรเวลาอยู่ในกลุ่มแล้วใครสักคนเรียกคุณว่า "คุณสุภาพสตรี" หรือ "คุณสุภาพบุรุษ"
    • สังเกตว่าชื่อคุณเหมือนไม่เข้ากับตัว ถ้ารู้สึกว่าเข้ากันดี ตั้งคำถามว่าคุณคิดว่าชื่อนี้เป็นชื่อ "ผู้หญิง" หรือว่าเป็นชื่อ "ผู้ชาย"
    • คุณรู้สึกอย่างไรถ้าเกิดมีใครบังเอิญเรียกคุณด้วยสรรพนามของเพศตรงข้าม ถ้ารู้สึกสบายใจและนึกขอบคุณ คุณอาจเป็นบุคคลข้ามเพศ
  5. ตระหนักในอาการเป็นทุกข์จากความขัดแย้งของร่างกาย (body dysphoria). ประสบการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปของบุคคลข้ามเพศคือความรู้สึกที่ว่าร่างกายของตนนั้นมีอะไรสักอย่างที่ไม่ชอบมาพากล บางคนอาจรู้สึก "ถูกขัง" อยู่ในร่างกายตนเอง หากคุณมีความปรารถนาอยากเปลี่ยนบุคลิกลักษณะทางเพศของตนอย่างต่อเนื่อง คุณอาจกำลังประสบภาวะเช่นว่านี้ [7]
    • หากคุณเจอประสบการณ์ตอนเปลี่ยนสู่ความเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่ช็อคหรือรู้สึกใจสลาย นี่อาจเป็นภาวะความขัดแย้งที่ว่า พยายามหวนนึกดูว่าคุณเสียใจกับการเปลี่ยนแปลงทางเพศตอนเข้าสู่วัยรุ่นกรือไม่ (มีเสียงห้าว มีเต้านม ไหล่ขยายกว้าง มีหนวด มีประจำเดือน)
    • หากคุณพยายามเลี่ยงการส่องกระจก ถูกถ่ายรูป หรือหาเสื้อผ้ามาโปะใส่หลายๆ ชั้น นี่อาจแสดงว่าคุณรู้สึกทุกข์ใจกับร่างกาย
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ขอกำลังใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีนักจิตวิทยา ผู้ให้คำปรึกษา และนักสังคมสงเคราะห์มากมายที่เชี่ยวชาญในความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้สามารถคอยตอบคำถามของคุณได้
    • มองหาผู้ให้คำปรึกษาที่เชี่ยวชาญในเพศสภาพ ภาวะเป็นทุกข์ทางเพศ หรือห่วงใยในเพศทางเลือก
    • หากมีคลินิกข้ามเพศในบริเวณที่คุณอาศัย ติดต่อเพื่อขอเข้าพบว่ามีผู้ให้คำปรึกษาหรือไม่
    • หากคุณอาศัยในสหรัฐ คุณสามารถใช้แผนที่ระบุตำแหน่งของสมาคมนักจิตวิทยาอเมริกันเพื่อหานักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญในเรื่องเอกลักษณ์ทางเพศได้ที่: http://locator.apa.org/
    • ในประเทศไทย ลองพิจารณาการติดต่อคลินิกเพศหลากหลายในวัยรุ่นของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
    • คุณสามารถสอบถามแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ หรือเข้าพบครูที่ปรึกษาถ้ายังเป็นนักเรียน
  2. พูดคุยกับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและตั้งคำถามกับพวกเขา. หาทางทำความรู้จักคนที่ได้เปลี่ยนผ่านหรือที่เคยตั้งคำถามในเพศสภาพของตน คุณอาจมองหากลุ่มสังสรรค์ของบุคคลเพศทางเลือก หรือตามงานต่างๆ หากเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ลองดูว่ามีสโมสรหรือชมรมบุคคลที่เป็นเพศทางเลือกหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องประกาศในทันที แค่บอกว่าคุณเป็นแนวร่วม หรืออธิบายว่าคุณมีข้อสงสัยแต่ยังไม่รู้สึกสะดวกใจคุย
    • ใช่ว่าทุกคนที่คุณเจอจะยอมเปิดใจในเรื่องเพศสภาพของตน! บางคนอาจรู้สึกว่าคุณถามเรื่องส่วนตัว คุณสามารถเอ่ยถึงปัญหาของตนเอง หรือให้เขาถามคุณกลับด้วยก็ได้
    • หากไม่แน่ใจ เขียนเป็นจดหมายหรือหาจังหวะที่เป็นส่วนตัวแล้วค่อยเอ่ยถาม อาจบอกว่า "ฉันคิดถึงเรื่องเพศสภาพตนเองมานานมากแล้วละ เธอเป็นคนที่น่าจะรู้คำตอบในสิ่งที่ฉันอยากถาม ถ้าเธอพอมีเวลาและเต็มใจ ฉันก็อยากจะคุยกับเธอในเรื่องนี้สักหน่อย ถ้าไม่อยากทำก็บอกได้นะ"
  3. ทางหนึ่งในการติดต่อกับบุคคลหลากหลายทางเพศและพูดคุยสอบถามคือดูทางอินเทอร์เน็ต ลองเข้าร่วมกลุ่มสนทนา เวลาที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในอินเทอร์เน็ต ให้แน่ใจว่าได้ปกปิดข้อมูลส่วนตัวเอาไว้ด้วย
    • ลองเข้าฟอรั่มของบุคคลเพศทางเลือกอย่าง: http://emptyclosets.com/forum/
    • หากคุณอายุ 13-24 ปี คุณสามารถเข้าร่วม TrevorSpace สำหรับฟอรั่มที่มีการดูแลอย่างดีและปลอดภัยที่: https://www.trevorspace.org/login
    • คุณยังสามารถมองหาองค์กรอย่าง PFLAG (Parents, Families and Friends of Lesbians and Gays) และ GLAAD เพื่อหาข้อมูลและแรงใจสำหรับตัวเองและครอบครัว [8] [9]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

หาให้ได้ว่าคุณต้องการอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ทางเลือกแก่ตัวเองโดยการระบุตนว่าเป็นบุคคลข้ามเพศ. หากคุณคิดว่าตัวเองอาจเป็นบุคคลข้ามเพศ ลองเปลี่ยนตัวเองแล้วดูว่ารู้สึกอย่างไร ลองหาวันหยุดสุดสัปดาห์หนึ่งที่คุณจะคิดว่าตนเป็นคนเพศตรงข้าม ถ้าคุณเคยปรึกษาเพื่อน นักจิตวิทยา หรือคนในครอบครัว บอกแผนการนี้แก่พวกเขาและขอกำลังใจ [10]
    • ลองเปลี่ยนสรรพนามตนเอง ดูว่ารู้สึกอย่างไรที่จะเรียกตนเองด้วยชื่ออื่น หากคุณคิดว่าอยากเป็นผู้หญิงข้ามเพศ เรียกตัวเองเป็นชื่อผู้หญิงและขอให้เพื่อนที่วางใจทำเช่นนั้นด้วย
  2. มีตั้งหลายวิธีในการแสดงเอกลักษณ์ทางเพศมากกว่าแค่ "ผู้ชาย" กับ "ผู้หญิง" คุณอาจเป็นคนหลากหลายทางเพศ ไร้เพศ เป็นไบ หรืออย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ ไม่จำเป็นต้องบีบตัวเองอยูในกล่องหากกล่องนั้นไม่พอดีกับตัวคุณ [11]
    • ลองใช้สรรพนาม "พวกเขา" หากคุณไม่รู้สึกชอบคำอย่าง "เขา" หรือ "เธอ" หรือหากต้องการหาทางสื่อความหลากหลายทางเพศกับคนอื่น ลองใช้สรรพนามแบบไม่ระบุเพศหรือใช้ได้ทั้งสองเพศแทน
    • พึงระลึกไว้ว่าคุณสามารถใช้เวลาตัดสินใจ หรืออาจตัดสินใจว่าไม่ต้องการตัดสินไปทางใดทางหนึ่งก็ได้ อย่าให้คนอื่นมากดดันการเลือกของคุณ
  3. ทดลองสวมเสื้อผ้าจนกระทั่งคุณพบชุดที่รู้สึกว่าเหมาะกับตนเอง หากคุณชอบชุดบางแบบมาก สวมมันเลย เช่น ถึงจะเป็นผู้ชายแต่อยากจะใส่ชุดเดรสมาก เดินหน้า แล้วคุณจะเรียนรู้ว่ามันรู้สึกอย่างไรที่ได้สวมอะไรก็ได้ตามใจตนเอง [12]
    • หากคุณรู้สึกว่าตนไร้เพศ ทดลองใส่ชุดแบบไม่ระบุเพศ หรือหาเสื้อผ้าทั้งสองเพศมามิกซ์แอนด์แมทช์กัน
  4. ไม่ว่าคุณจะรู้สึกว่าตนเป็นเพศไหน ไม่มีหนทางเดียวมายืนยันได้หรอก ถามตัวเองว่าต้องการอะไร: แบบไหนที่คุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเองที่สุด ลองถามคำถามเหล่านี้กับผู้ให้คำปรึกษาหากรู้สึกสับสน
    • ลองเปลี่ยนชื่อ
    • ลองให้คนอื่นใช้สรรพนามเรียกคุณต่างออกไป
    • เปิดเผยตัวตนกับผู้คนในชีวิตหากคุณรู้สึกปลอดภัยพอที่จะทำเช่นนั้น คุณสามารถเปิดเผยว่าเป็นบุคคลข้ามเพศหรือบอกคนอื่นว่าคุณกำลังตั้งคำถามในเพศสภาพของตน
    • คิดถึงร่างกายตัวเอง คุณอยากให้มันดูมีความเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายมากขึ้น คุณอาจไว้ผมหรือตัดผม ใช้ฮอร์โมน เข้ารับศัลยกรรมทั้งบนหรือล่าง หรือไม่เปลี่ยนอะไรเลย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ให้แน่ใจว่าคุณดูแลตัวเองเป็นอย่างดี การเป็นบุคคลข้ามเพศนั้นมีความเครียดและกดดันสูง จึงจำเป็นที่จะต้องมีเวลากับตัวเอง ทำในสิ่งที่มีความสุขและใช้เวลาผ่อนคลายเมื่อต้องการ เช่น นอนแช่ฟองสบู่ในอ่างอาบน้ำ ไปนวด เดินเล่น หรือทำสมาธิ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,354 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา