ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เพศไม่ได้แบ่งเป็น 2 ขั้วแค่หญิงกับชาย ทว่ามีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นการรู้รสนิยมทางเพศและการยอมรับเพศวิถีของตนเองจึงมักจะเป็นการเดินทางที่ทั้งยาวนาน ซับซ้อน และมีอารมณ์ต่างๆ ประดังประเดเข้ามามากมาย การเริ่มกระบวนการนี้อาจทำให้คุณรู้สึกหนักใจ และคุณต้องเป็นตัวของตัวเองเพื่อให้พบตัวตนที่แท้จริง ซื่อสัตย์และเปิดใจกับตัวเอง เชื่อมั่นในสัญชาตญาณ ฟังร่างกายของตัวเอง รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงและแนวโน้มต่างๆ รวมไปถึงยอมรับสิ่งที่คุณค้นพบเกี่ยวกับตัวเองตลอดกระบวนการนี้ด้วย [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ค้นหารสนิยมทางเพศของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ประเมินว่าทำไมคุณถึงตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศวิถีของตัวเอง. การตัดสินใจที่จะสำรวจเพศวิถีของตัวเองควรเป็นสิ่งที่คุณเลือกเอง เหตุผลของการตั้งคำถามเกี่ยวกับเพศสภาพของตัวเองควรเกิดขึ้นเพราะมันเป็นกระบวนการที่คุณต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ ไม่ใช่เพราะว่าคนในสังคมบอกว่าคุณเป็นเลสเบี้ยน สละเวลาเพื่อทบทวนตัวเอง การเขียนบันทึก เขียนบล็อกส่วนตัว หรือทำไดอารี่วิดีโอส่วนตัวก็เป็นช่องทางที่ช่วยให้คุณได้สำรวจและค้นพบตัวเอง [2]
  2. การมีประสบการณ์ทางเพศกับคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องปกติ และไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเลสเบี้ยน แต่การมีประสบการณ์ทางเพศกับคนเพศเดียวกันบ่อยๆ หรือมีความต้องการที่จะอยู่กับผู้หญิงตลอดเวลาแทนที่จะเป็นผู้ชาย นั่นก็อาจเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าคุณเป็นเลสเบี้ยน
    • คุณชอบพิจารณาผู้หญิงหรือเปล่า คุณชอบสังเกตรอยยิ้ม นิสัยประหลาดๆ และส่วนประกอบบนใบหน้าผู้หญิงหรือไม่
    • หัวใจคุณเต้นไม่เป็นส่ำและท้องไส้ปั่นป่วนเวลาเจอผู้หญิงสวยๆ หรือเปล่า
    • คุณฝันกลางวันถึงผู้หญิงคนหนึ่งอยู่เป็นประจำหรือไม่
    • ผู้หญิงทำให้คุณมีอารมณ์ทางเพศหรือไม่
    • คุณอยากจูบและมีเซ็กส์กับผู้หญิงมากกว่าหรือเปล่า [3]
  3. ถ้าคุณมีปัญหาในการระบุรสนิยมทางเพศของตัวเอง การทำแบบทดสอบเพศวิถีก็อาจจะช่วยเผยความจริงใหม่ๆ เกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของคุณ หรือถ้าคุณค่อนข้างจะมั่นใจว่าตัวเองสามารถระบุรสนิยมทางเพศของตัวเองได้แม่นยำ ผลการทดสอบก็จะช่วยยืนยันการประเมินของตัวคุณเอง
    • ทำแบบทดสอบมาตราคินซีย์ มาตราคินซีย์ใช้ในการประเมินเพศวิถี โดยแบบทดสอบออกแบบมาเพื่อวัดว่าคุณอยู่ตรงไหนในมาตรา ตั้งแต่คนรักต่างเพศ (คนที่ชอบเพศตรงข้าม) ไปจนถึงคนรักร่วมเพศ (คนรักเพศเดียวกัน) และจะไม่มีการตีตราว่าคุณเป็นคนรักต่างเพศ คนรักร่วมสองเพศ หรือคนรักร่วมเพศ แบบทดสอบจะมีคำถามตอบจริง/เท็จ 13 คำถามและจะถามข้อมูลด้านประชากรเล็กน้อย [4]
    • ทำแบบทดสอบเพศวิถีของเอปสไตน์ (ESOI) แบบทดสอบเพศวิถีชุดนี้คิดขึ้นโดยโรเบิร์ต เอปสไตน์ นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในอเมริกา แบบทดสอบ ESIO จะประเมินเพศวิถีของแต่ละบุคคล และผลการทดสอบจะบอกว่าคุณอยู่ตรงไหนในสเกลเพศวิถีแทนที่จะเจาะจงว่าเพศวิถีของคุณคืออะไร แบบทดสอบนี้มีทั้งหมด 18 ข้อและใช้เวลาทำแค่ 5 นาที [5]
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

รู้และยอมรับสิ่งที่ค้นพบเกี่ยวกับตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นเรื่องปกติที่เราจะหลบเลี่ยงหรือชดเชยความปรารถนาทางเพศของตัวเองมากเกินไป และเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะกลัวและหนักใจ! ในการที่จะก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้นั้น คุณจะต้องเปิดเผยตัวตนและซื่อสัตย์ต่อตนเอง พอคุณเลิกเก็บกดรสนิยมทางเพศของตัวเองและเริ่มรับรู้แล้วว่ามันมีอยู่จริงๆ คุณก็จะเริ่มยอมรับตัวเองได้ [6]
    • รสนิยมทางเพศมีอยู่หลากหลาย เป็นสิ่งที่ลื่นไหลไม่ตายตัว รสนิยมทางเพศของคุณอาจจะไม่สอดคล้องกับคำนิยามตามมาตรฐาน ซึ่งไม่เป็นไรเลย เพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยมากๆ [7]
      • คนรักสองเพศอาจจะไม่ได้ชอบคนทั้งสองเพศเท่าๆ กัน แต่เขาอาจจะชอบผู้ชายมากกว่าผู้หญิงหรือผู้หญิงมากกว่าผู้ชายก็ได้
      • ผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยนก็อาจจะสนใจผู้ชายบ้างเป็นครั้งคราว
  2. ในเส้นทางสู่การยอมรับตัวเองนั้น การรับรู้ว่าตัวเองเป็นเลสเบี้ยนเป็นขั้นแรกของกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป การยอมรับตัวเองไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน พอคุณเริ่มสบายใจกับเพศวิถีของตัวเองมากขึ้น คุณก็จะรู้ว่าเพศวิถีไม่ใช่สิ่งที่จะมานิยามว่าคุณเป็นคนอย่างไร พยายามใช้ชีวิตแบบไม่ต้องสนใจใคร กำจัดความรู้สึกผิดและความอายออกไปให้ได้ [8]
  3. ถ้าคุณถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่หัวโบราณมากๆ หรือเติบโตมาในชุมชนที่ไม่ยอมรับความแตกต่าง อัตลักษณ์ทางเพศของคุณก็อาจจะขัดกับศีลธรรมและความเชื่อทางศาสนาที่คุณได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็กๆ การพยายามเปลี่ยนภาษาและความคิดเป็นวิธีการเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นเลิกบอกว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่จะได้รับความรักและมีความสุข แล้วหันมาศรัทธาในคุณค่าของตัวเองในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง แทนที่จะบอกตัวเองว่าการเป็นเลสเบี้ยนมันเป็นบาป ให้รับรู้ว่ารสนิยมทางเพศของคุณเป็นสิ่งดีงาม เป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
    • เริ่มมองหาแนวโน้มที่คุณจะพูดไม่ดีกับตัวเอง คำโกหกที่เป็นอันตรายคำไหนที่คุณบอกตัวเอง แล้วความคิดเหล่านี้มันโผล่ขึ้นมาเวลาที่คุณอยู่ในสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง เช่น ตอนพูดคุยกับคนในครอบครัวหรือเปล่า
    • แทนที่คำพูดเชิงลบด้วยคำพูดเชิงบวกที่คุณคิดขึ้นเอง เวลาที่คุณจับได้ว่าตัวเองพูดว่า "ฉันมันไร้ค่า" หรือ "ฉันไม่สมควรมีความสุข" หายใจเข้าลึกๆ ยิ้ม และบอกตัวเองว่าฉัน "มีค่า มีคนรัก และสมควรที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ทำให้ฉันมีความสุขอย่างแท้จริง!"
  4. ประเมินว่ามันปลอดภัยไหมที่จะเผยรสนิยมทางเพศของตัวเอง. การตัดสินใจว่าจะบอกคนอื่นดีไหมมักเป็นการตัดสินใจที่สร้างความเจ็บปวดทางอารมณ์และมาพร้อมกับผลลัพธ์ต่างๆ ที่อาจจะตามมา ก่อนที่จะบอกครอบครัว เพื่อนๆ และเพื่อนร่วมชั้น คิดให้ดีก่อนว่าทำไปแล้วมันจะปลอดภัยไหม [9]
  5. รู้ว่าหนทางสู่การยอมรับตัวเองจะส่งผลต่อคนอื่น. แม้ว่าการค้นพบและการยอมรับเพศวิถีของตัวเองจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ แต่คุณก็ต้องยอมรับว่ามันมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนอื่น การบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนๆ คนในครอบครัว และเพื่อนร่วมงานรับรู้เป็นสิ่งที่สร้างความเครียดได้อย่างมหาศาล! แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนที่คุณรู้จักหรือพบเจอฟังทุกคน [12] พอคุณสบายใจและมั่นใจแล้ว ก็ค่อยเกริ่นเรื่องนี้กับคนที่คุณสบายใจที่จะพูดด้วยก่อน เตรียมใจรับปฏิกิริยาในเชิงลบและซาบซึ้งกับปฏิกิริยาเชิงบวก [13]
  6. การประมวลอัตลักษณ์ทางเพศและการยอมรับตัวเองเป็นกระบวนการที่ยาวนานและซับซ้อน และการรับมือกับความอัปยศทางสังคมก็เป็นเรื่องที่สร้างความเหนื่อยหน่ายทั้งทางด้านจิตใจและอารมณ์ การเข้าพบนักจิตบำบัดที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในด้านการให้คำแนะนำแก่สมาชิกในชุมชน LGBTQ สามารถช่วยให้คุณกำหนดทิศทางของกระบวนการนี้ได้ นักจิตบำบัดจะช่วยให้คุณยอมรับเพศวิถีและช่วยให้คุณผ่านพ้นกระบวนการเปิดเผยเรื่องนี้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ ไปได้
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่าสังคมจะให้ภาพเลสเบี้ยนแบบเหมารวม แต่ชุมชนเลสเบี้ยนประกอบด้วยผู้หญิงจากหลากหลายที่มาที่มีภูมิหลังแตกต่างกัน ขณะที่คุณสำรวจและหาประสบการณ์ในชุมชนเลสเบี้ยน พยายามเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับชุมชนใหม่นี้ ผ่านไปสักระยะคุณจะพบว่าตัวเองเหมาะกับจุดไหนในชุมชน คุณจะนิยามได้เองว่าการเป็นเลสเบี้ยนคืออะไรและใช้ชีวิตได้ในแบบที่คุณนิยาม [14]
  2. การมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับชุมชน LGBTQ ทั้งในแง่ของอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจะช่วยให้คุณเข้าใจชุมชนนี้ ทำให้คุณตระหนักถึงอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นและทำให้คุณได้มุมมองในการเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น
    • ศึกษาความแตกต่างระหว่างเพศกับเพศสภาพ และสร้างความคุ้นเคยกับเพศวิถีที่หลากหลาย
    • อ่านวรรณกรรมวิชาการ เพราะการศึกษาด้าน LGBTQ กำลังคึกคักมากๆ!
    • ติดตามประเด็นเกี่ยวกับ LGBTQ ที่อยู่ในข่าว
  3. ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปกว่าการถูกทอดทิ้ง ตลอดเส้นทางการยอมรับตัวเอง คุณจะต้องมีเพื่อนที่คุณไว้ใจหรือกลุ่มสนับสนุนที่เต็มใจรับฟังคุณ ชายหญิงเหล่านี้จะให้คำแนะนำและความสบายใจเมื่อคุณเจอหนทางที่ยากลำบาก
    • เล่าเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนและคนในครอบครัวที่คุณไว้ใจฟัง
    • เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนในท้องถิ่นหรือเป็นสมาชิกกลุ่มสนับสนุนออนไลน์ [15]
    • การเข้าร่วมกลุ่ม LGBTQI ของโบสถ์ วัด หรือนิกายที่คุณนับถือจะทำให้คุณได้รับการสนับสนุนจากชายหญิงที่นับถือศาสนาเดียวกันกับคุณ
      • gaychurch.org เป็นแหล่งรวบรวมรายชื่อโบสถ์คริสต์ที่สนับสนุน LGBTQI ในต่างประเทศ
      • คุณสามารถค้นหาโบสถ์ วัด หรือนิกายที่สนับสนุน LGBTQI ในพื้นที่ของคุณได้อย่างรวดเร็วโดยการค้นหาในอินเทอร์เน็ต
  4. สมาพันธ์คนรักร่วมเพศ-คนรักต่างเพศ (GSA) เป็นสถานที่ที่เด็กมัธยมทั้งต้นและปลายจะได้มาพูดคุยและค้นหาเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศได้อย่างปลอดภัย GSA จะมีกลุ่มสนับสนุนและเครือข่ายสังคมให้เด็กวัยรุ่น ถ้าโรงเรียนของคุณยังไม่มีกลุ่ม GSA ที่ว่านี้ ให้ติดต่อผู้บริหารโรงเรียนเพื่อทำเรื่องขอจัดตั้งชมรม [16]
  5. ปัจจุบันศูนย์ทรัพยากร LGBTQ ในประเทศไทยยังไม่แพร่หลายนัก แต่ถ้าคุณอยู่ต่างประเทศศูนย์ทรัพยากร LGBTQ จะมีอยู่ตามเมืองต่างๆ และในมหาวิทยาลัย ศูนย์ทรัพยากรจะมีเครื่องมือที่เป็นประโยชน์และบริการที่ไว้วางใจได้ให้แก่นักศึกษา และเป็นที่ที่นักศึกษาจะได้สำรวจเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศได้อย่างครบครันและปลอดภัย [17]

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,589 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม