ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณเคยสงสัยอยู่บ่อยๆ ใช่ไหม ว่าเพื่อนชายนายคนนั้นเขาแคร์คุณมากแค่ไหน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรู้ใจเขา โดยเฉพาะถ้าหนุ่มคนนั้นไม่เคยเผยความในใจ ว่า "ไอเลิฟยู" แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป ด้วยวิธีอ่านใจ ว่าสัญญาณไหนแปลว่ารักจริง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

จับตาทุกการกระทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าหนุ่มคนสนิทเขารักคุณจริง เขาต้องสุภาพ ให้เกียรติคุณ หรือก็คือเปิดใจรับฟังและคอยห่วงใยทุกความเป็นไปในชีวิตของคุณนั่นเอง ถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน แต่ถ้าคุณสนใจ เขาก็พร้อมไขว่คว้าหามาประเคน เขาเห็นคุณค่าในตัวคุณและใส่ใจในทุกความคิดเห็น การกระทำเหล่านี้ของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาแคร์คุณมากแค่ไหนยังไงล่ะ [1]
  2. ถ้าเขาคนนั้นรักคุณจริง คุณจะไม่ต้องมานั่งลังเลสงสัยเลย เพราะเขาต้องแสดงความรักให้คุณได้รับรู้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือคำพูดก็ตาม [2]
    • แต่ในอีกแง่นึง ก็ขอให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้มากเกินไปจนทำเอาคนที่รักคุณอยู่แล้วเขาพาลเบื่อเอา พูดง่ายๆ ว่าบางทีเขาอาจจะรักคุณนั่นแหละ แต่คุณคิดมากจนเสียเรื่องเอง ถ้าแฟนคนก่อนๆ ของคุณเคยบ่นเรื่องคุณชอบติดแจเกินไปหน่อย นั่นแหละสัญญาณว่าคุณไม่ได้มั่นใจในความสัมพันธ์ของตัวเองเลย อีกปัญหาคือคุณอาจพบว่าตัวเองต้องพยายามทำตัวน่ารักน่าคบเพื่อเหนี่ยวรั้งเขาไว้ หรือถึงขั้นตามใจเขาทุกอย่างโดยลืมความต้องการของตัวเองไป [3]
    • วิธีที่น่าสนใจในการขจัดความฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือหันมาสนใจใส่ใจความรู้สึกของตัวเองบ้าง แทนที่จะเอาแต่จับผิดคิดถึงแต่เขา ให้เวลาตัวเองได้พิจารณาแต่ละอารมณ์ ระหว่างนั้นก็คอยสังเกตว่ามันส่งผลยังไงบ้างกับพฤติกรรมของคุณ ถ้าคุณเกิดหงุดหงิดรำคาญใจ เริ่มฟุ้งซ่านขึ้นมาว่าเขาไม่ได้รักคุณ คุณอาจพบว่าตัวเองพยายามเอาใจเขามากเข้าไปอีก แต่คุณอาจจะไม่ต้องมานั่งกังวลใจเลยก็ได้ ถ้าหากเขาคนนั้นเป็นพวกชอบแสดงความรักตลอดเวลาน่ะ [4]
    • อย่างไรก็ดี ขอให้หาให้เจอว่าต้นตอของความกังวลใจนั้นมาจากไหน บางทีคุณอาจเผลอเก็บเอาคำติติงของพ่อแม่ไปคิดมากเองก็ได้ หรือเพราะเจ็บมาเยอะกับผู้ชายแย่ๆ ในความรักครั้งก่อนๆ จนเข็ดหลาบ ยังไงก็อย่าปล่อยให้ความฟุ้งซ่านลอยนวลเด็ดขาด เข้มแข็งสู้หน่อย ถ้าจับได้เมื่อไหร่ว่ากำลังคลางแคลงใจในตัวเขาหรือตัวเราเอง ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดู เช่น ถ้าเผลอคิดว่า "เขาไม่เห็นโทรกลับเลย สงสัยไม่รักกันแล้วมั้ง" ก็รีบหยุดอยู่ตรงนั้นเลย แล้วเปลี่ยนเป็น "ไม่จริงหรอก เขาก็บอกอยู่ทุกวันว่าเขารักเรา เขาก็แค่ยุ่งๆ อยู่เท่านั้นแหละ" [5]
  3. ถ้าเขารักคุณ ก็เป็นธรรมดาว่าอยากจะอยู่ใกล้คุณบ่อยๆ ถ้าเขามาหาคุณเป็นประจำ ถึงขั้นสละเวลาส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขารักคุณแค่ไหน [6]
    • เขาเคยเบี้ยวนัดคุณหรือเปล่า ถ้าเขามักจะอ้างนู่นอ้างนี่ไม่มาตามนัดอยู่เรื่อย ก็เป็นไปได้มากว่าเขาคงไม่ค่อยจะแคร์คุณเท่าไหร่หรอก ดูได้ง่ายๆ คือเขาจะไม่ว่างมาหาคุณเท่าไหร่ และพอว่างปุ๊บ ก็จะยกเลิกนัดซะเอาตอนนาทีสุดท้าย ถ้าเวลาอยากเจอแล้วหนุ่มของคุณเอาแต่บ่ายเบี่ยงท่าเดียว ก็ทำใจได้เลยว่าเขาคงไม่ได้มีใจให้คุณแล้วล่ะ [7]
    • แน่นอนว่าบางทีเขาอาจติดธุระขึ้นมาจริงๆ ก็ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาก็ควรจะบอกคุณล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ และเป็นฝ่ายกระตือรือร้นขอนัดครั้งใหม่ แต่ถ้าเขาเฉยๆ ละก็ แปลว่าคุณคงไม่ใช่คนสำคัญในสายตาเขา
  4. พูดง่ายๆ คือเขาควรจะมีไอเดียเสนอแนะเรื่องการเดทบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้คุณจัดการลูกเดียว ถ้าเขากระตือรือร้นเป็นตัวตั้งตัวตีบ้างละก็ เป็นไปได้มากเลยว่าเขาน่ะแคร์คุณอยู่เหมือนกัน [8]
    • วิธีนึงที่จะรู้ได้ว่าเขาเต็มใจออกเดทกับคุณหรือเปล่า ก็คือไม่ต้องวางแผนไปซะทุกเรื่อง ให้โอกาสหนุ่มของคุณได้คิดวางแผนการเดทบ้าง ถ้าเขาแคร์ รับรองว่าเขาต้องดีใจรีบออกไอเดียแน่นอน [9]
  5. การคบหากันคือการที่คนสองคนต้องยอมผ่อนปรนให้กันบ้างในบางเรื่อง พูดง่ายๆ ก็คือ เขายอมให้คุณทำตามใจบ้าง แต่ก็ต้องมีเวลาที่คุณยอมตามใจเขาเหมือนกัน เช่น เขายอมไปดูหนังโปรดของคุณทั้งที่ถ้าเลือกได้เขาคงไม่ไปดูเรื่องนี้เด็ดขาด ในขณะที่คุณก็ห้ามบ่นเวลาเขาพาไปนั่งดื่มแล้วดูถ่ายทอดการแข่งกีฬาทีมโปรดของเขาไปพลางๆ อะไรที่ไม่ใช่แนวของคุณซะเลย ถ้าเขายอมสละเวลาและความชอบส่วนตัวบ้างละก็ ท่าทางว่าเขาต้องปิ๊งคุณเข้าแล้วแน่ๆ [10]
  6. เช่น ถ้าเขาจะเดินไปที่ครัว เขาแวะถามคุณก่อนไหมว่าหิวน้ำหรือเปล่า? เขาเอามือถือคุณไปชาร์จให้เพราะเห็นว่าแบตใกล้หมดใช่ไหม? ถ้าเขาคอยสังเกตว่าคุณต้องการอะไรแล้วตระเตรียมให้โดยไม่ต้องร้องขอ คอยใส่ใจทุกรายละเอียดจนชีวิตคุณดี๊ดีละก็ แปลว่าชอบคุณเข้าแล้วชัวร์ [11]
  7. ถ้าหนุ่มคนนั้นเขารักคุณ อยากอยู่ด้วยกันกับคุณละก็ เขาจะไม่อายเลยเวลาใครเห็นคุณอยู่กับเขา คืออย่างน้อยเขาก็ต้องอยากแนะนำคุณให้เพื่อนฝูงและครอบครัวของเขาได้รู้จัก แต่ถ้าเขาอ้ำๆ อึ้งๆ ละก็ แปลว่าเขายังไม่ชัวร์หรอกนะ เรื่องของคุณน่ะ ถึงเขาจะบอกว่าเป็นเพราะเหตุผลอื่นต่างหาก (อย่างความแตกต่างทางด้านศาสนา) แต่การที่คุณทำเขาอายก็ถือเป็นเรื่องผิดสังเกตที่มองข้ามไม่ได้เลย [12]
  8. ถือเป็นภาคต่อของข้อข้างบน ถ้าอยู่กับคุณแล้วทำเขาอายละก็ เขาจะไม่ควงคุณเดินไปไหนมาไหนแน่ พูดง่ายๆ ก็คือคอยสังเกตดูซิ ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าธารกำนัลแล้วเขากล้าดึงคุณเข้ามาใกล้ตัวหรือเปล่า หรือลองสังเกตว่าเขากล้าแสดงความรักกับคุณต่อหน้าคนเยอะๆ ไหม อย่างการจับมือกัน หรือโอบกอด ถ้าเขาไม่เคยทำ มันก็เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับคุณ หรืออาจเพราะเขาขี้อายก็ได้ [13]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

อ่านให้ออก เขาคิดยังไง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเขาโทรมาแค่อาทิตย์ละครั้ง แถมถามคำตอบคำ นั่นก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย แต่ถ้าเขาหมั่นส่งข้อความ อีเมล และขยันโทรหาคุณ ก็แปลว่าเขาคิดถึงแต่คุณจนทนไม่ไหว นั่นน่ะความรักไงล่ะ [14]
    • อย่างไรก็ดี ผู้ชายใช่ว่าจะเหมือนกันทุกคน บางทีเขาอาจเป็นพวกชอบเก็บตัวก็ได้ เลยไม่ชอบใช้เวลาทุกนาทีกับคนอื่น ถึงคนนั้นจะเป็นคนพิเศษของเขาก็เถอะ เพราะงั้นก่อนด่วนสรุป ก็ขอให้คุณศึกษาเขาให้ดีแล้วกัน ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนยังไงกันแน่
  2. ก็อย่างตอนอยู่ด้วยกัน เขาถามไถ่บ้างไหมว่าคุณเป็นยังไง วันนี้ทำอะไรมาบ้าง? เขาใส่ใจรายละเอียดในชีวิตของคุณจริงๆ หรือเปล่า? ถ้าเขาสนใจใคร่รู้ในแต่ละสิ่งที่คุณทำ ก็นั่นแหละแปลว่าเขาแคร์ [15]
  3. แหงล่ะ พวกผู้ชาย (จริงๆ ก็ผู้หญิงด้วยแหละ) ไม่ค่อยใส่ใจจำอะไรเท่าไหร่ ไม่ว่าจะวันครบรอบหรือเรื่องที่เพิ่งจะคุยกันไป แต่ถ้าเขาสู้อุตส่าห์จดจำโอกาสพิเศษต่างๆ แถมยังใส่ใจเรื่องที่คุยกันจนถึงขนาดเป็นฝ่ายหยิบยกมาเปิดประเด็นเองในภายหลัง ก็แสดงว่าเขาคงจะอะไรยังไงกับคุณแล้วล่ะ [16]
  4. บางทีเวลาเราทะเลาะกับใคร จริงๆ แล้วก็เป็นเพราะเราแคร์คนคนนั้นนั่นแหละ แถมพอทะเลาะเสร็จก็มานั่งคิดหาวิธีง้อคืนดีซะอย่างนั้น ถ้าเขาไม่คิดจะทะเลาะกับคุณ หรือแค่บอกปัดแล้วยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ ก็อาจหมายความว่าเขาไม่ค่อยจะแคร์คุณสักเท่าไหร่ก็ได้นะ [17]
    • แต่เราไม่ได้สนับสนุนการลงไม้ลงมือตบตีกันหรอกนะ แค่อยากให้คุณสองคนรู้จักแสดงความรู้สึก ความคิดเห็นที่แท้จริงออกมา อย่าไปกลัวถ้าจะทำให้มีปากเสียงกันบ้าง แต่ถ้าเขาเอาแต่บอกปัดให้มันจบๆ ไป แสดงว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรคุณมากมาย
  5. ถ้าได้ยินเขาใช้คำว่า "เรา" แทนคำว่า "ฉัน/ผม" บ่อยๆ นั่นล่ะสัญญาณรัก คำว่า "เรา" บอกให้รู้ว่าเขาเริ่มมองคุณเป็นส่วนหนึ่งของเขา มองว่าเราเป็นคู่กัน เพราะว่าเขาเริ่มชินกับการมีคุณอยู่ใกล้ๆ ซะแล้วน่ะสิ [18]
  6. ถ้าคุณมีศัพท์เฉพาะที่รู้กันแค่สองคน ไปจนถึงคำแทนตัวน่าเอ็นดูและมุขวงใน นั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเลยล่ะ แปลว่าเขาแคร์คุณเข้าขั้นจริงจังแล้ว ถ้าเขาตั้งฉายาน่ารักๆ ไว้เรียกคุณ (คนเดียวเท่านั้น) ละก็ อย่างน้อยก็รู้เอาไว้เลยว่าเขาตกหลุมรักคุณเข้าให้แล้ว
  7. ถ้าคุณกับเขาสนิทกันพอตัว ก็บอกเขาไปตรงๆ เลยว่าคุณคิดยังไง เล่าว่าคุณชอบเขาตรงไหน แล้วเผยความในใจของคุณให้เขาได้รับรู้ แล้วอย่าลืมถามด้วยล่ะ ว่าเขาน่ะใจตรงกันหรือเปล่า
    • เช่น คุณอาจจะบอกว่า "เราคิดว่าเราชอบนายนะ แต่ไม่รู้ว่านายคิดเหมือนกันรึเปล่า เราถึงได้มานั่งกลุ้มแบบนี้ไง"
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ยอมรับและเข้าใจ ทำไมเขาไม่บอก "ไอเลิฟยู"

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก็ไอ้การ "บอกรัก" ใครสักคนนี่มันทำเอาตุ๊มๆ ต่อมๆ น่าดู เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดเห็นไม่ตรงกัน บางทีเขาเองก็คงกลัวว่าจะถูกคุณปฏิเสธรักเอา ถึงคุณจะคิดว่าคุณแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคิดยังไงกับเขาแล้วก็เถอะ [19]
  2. ถ้าเขาเคยผ่านความรักแย่ๆ มาก่อน เขาอาจเข็ดขยาดจนยังไม่กล้าเริ่มต้นใหม่กับใคร เพราะงั้นถ้าเขาไม่ยอมบอกว่ารักสักที ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปว่าเขานี่แปลกคน ให้เวลาหน่อย ถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวคุณก็รู้เอง [20]
  3. บางทีเขาก็แค่ไม่ชอบเที่ยวโพนทะนาว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่เลือกที่จะแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า ถ้าเขาให้ความสำคัญกับคุณเป็นที่หนึ่งก็ถือว่าใช่แล้วล่ะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเขาเชื่อใจคุณจนยอมเปิดอกเล่าปัญหาเผยความกังวลใจ แถมยังขอคำแนะนำจากคุณอีกต่างหาก ก็แปลว่าเขาให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคุณมากเลยนะ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 285,627 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา