ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แทบจะไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าการถูกใครแอบเจาะเข้ามายุ่มย่ามกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ถ้าคุณเชื่อว่าตอนนี้มีคนแอบแฮกเข้ามาใช้คอมของคุณ สิ่งแรกที่ควรทำคือตัดสัญญาณเน็ตทันที แล้วค่อยหา entry point ที่แฮกเกอร์ใช้เจาะเข้าระบบของคุณ เจอแล้วก็ลบซะ พอคุณทวงระบบคืนมาได้แล้ว ก็ต้องทำตามขั้นตอนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรุกรานจากภายนอกซ้ำสองอีก

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

ทวงคืนระบบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เดี๋ยวนี้คอมรุ่นใหม่ๆ มักตั้งค่าให้ติดตั้งอัพเดทของระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะตอนกลางคืน ช่วงที่คุณไม่ได้ใช้คอม ถ้าคุณสังเกตว่าคอมชอบเปิดเครื่องเองตอนคุณไม่ได้ใช้ เป็นไปได้ว่าคอมออกจาก Sleep mode เพื่อติดตั้งอัพเดท
    • โอกาสที่จะมีคนเจาะเข้ามาใช้คอมคุณ พูดกันตามจริงก็เป็นไปได้น้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% ยังไงลองป้องกันไปตามขั้นตอนที่เราว่ามาก่อน
  2. มองหาสัญญาณที่บอกชัดเจนว่ามีคนแอบเจาะเข้าระบบคุณ. ถ้าเคอร์เซอร์ในจอขยับโดยที่คุณไม่ได้ใช้ โปรแกรมต่างๆ เปิดเองต่อหน้าต่อตา หรือไฟล์ชอบถูกลบเองบ่อยๆ เป็นไปได้มากเลยว่าคุณถูกเจาะระบบแล้วล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ ขั้นแรกที่ควรทำคือปิดเครื่องโดยด่วน แล้วถอดสาย Ethernet ซะ
    • แต่การที่เน็ตอืด หรือพบเห็นโปรแกรมที่ไม่รู้จักในเครื่อง ก็ไม่ได้แปลว่ามีใครแอบใช้คอมของคุณแบบ remote access เสมอไปนะ
    • หลายโปรแกรมที่อัพเดทเองอัตโนมัติ จะเปิดหรือมีหน้าต่าง pop-up โผล่ขึ้นมาระหว่างอัพเดท อันนี้ถือว่าปกติ
  3. ถ้าสงสัยว่าจะถูกแฮกจากทางไกล ให้รีบตัดสัญญาณเน็ตโดยด่วน หมายถึงตัดช่องทางการต่อเน็ตและเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ โดยสมบูรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเจาะระบบไปมากกว่านี้ และไม่ให้คอมเครื่องอื่นๆ ในเครือข่ายเดียวกันพลอยถูกเจาะไปด้วย
    • ถอดสาย Ethernet ที่ต่ออยู่กับคอม แล้วตัดสัญญาณ Wi-Fi ซะ
  4. 2 โปรแกรมนี้บอกได้ว่าตอนนี้คอมคุณทำอะไร เปิดโปรแกรมไหนอยู่บ้าง
    • Windows - กด Ctrl + Shift + Esc
    • Mac - Activity Monitor จะอยู่ในโฟลเดอร์ Utilities ในโฟลเดอร์ Applications อีกที
  5. มองหาโปรแกรม remote access ในรายชื่อโปรแกรมที่เปิดอยู่. ให้มองหาโปรแกรมต่อไปนี้ในรายชื่อโปรแกรมที่เปิดอยู่ รวมถึงโปรแกรมที่ดูไม่คุ้นหรือน่าสงสัย โปรแกรมที่เรายกมาคือโปรแกรมเด่นดังเรื่อง remote access ที่อาจถูกติดตั้งลงคอมโดยที่คุณไม่รู้ตัว
    • VNC, RealVNC, TightVNC, UltraVNC, LogMeIn, GoToMyPC และ TeamViewer
    • มองหาโปรแกรมน่าสงสัย หรือชื่อไม่คุ้น จะเอาชื่อไปค้นดูในเน็ตก็ได้ ถ้าไม่แน่ใจว่าคือโปรแกรมอะไร
  6. จะมีบอกใน Task Manager หรือ Activity Monitor จริงๆ บางที CPU usage ก็สูงได้ ไม่จำเป็นต้องถูกใครแฮก แต่ถ้าไม่ได้ใช้คอมแล้ว CPU usage ดันสูง แสดงว่ามีบางโปรแกรมกำลังทำงานอยู่ที่เบื้องหลังโดยที่คุณไม่รู้ตัว อีกกรณีคือ CPU usage สูงเพราะโปรแกรมกำลังอัพเดท หรือคุณโหลดบิททิ้งไว้แล้วลืมซะงั้น
  7. ส่วนใหญ่คนใช้คอมก็จะลงโปรแกรม antivirus ไว้อยู่แล้ว แค่ Windows Defender ก็ยังดี ให้เปิดโปรแกรม antivirus แล้วสแกนคอมทั้งระบบ อาจต้องรอเป็นชั่วโมงขึ้นไปกว่าจะเสร็จ
    • ถ้าคุณไม่ได้ลงโปรแกรม antivirus ไว้ ให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งลงคอมอีกเครื่อง แล้วย้ายมาลงคอมต้องสงสัยทาง USB จากนั้นก็ติดตั้งโปรแกรม antivirus แล้วสแกนคอมเลย
  8. ถ้าสแกนเจอมัลแวร์ ก็ต้อง quarantine หรือกักไว้ด้วยวิธีที่ antivirus แนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสหรือมัลแวร์ทำอันตรายคอมของคุณเพิ่มขึ้น
  9. นี่คือโปรแกรมที่ 2 ที่ควรใช้สแกนคอมหาอะไรที่โปรแกรม antivirus มองข้ามไป คุณดาวน์โหลดได้ฟรีที่ malwarebytes.org
    • ตอนนี้คอมจะยังไม่ต่อเน็ตอยู่ เพราะงั้นให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งลงคอมอีกเครื่อง แล้วย้ายมาใส่คอมนี้ทาง USB
  10. จะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง โดยโปรแกรม Anti-Malware จะสแกนหาโปรแกรมเจาะระบบที่อาจเข้าควบคุมคอมของคุณอยู่
  11. ถ้า Anti-Malware เจออะไรระหว่างสแกน ให้ quarantine หรือกักไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สร้างความเสียหายแก่ระบบเพิ่มเติม
  12. คุณดาวน์โหลดได้ฟรีที่ malwarebytes.org/antirootkit/ ใช้ตรวจจับแล้วลบ "rootkits" ที่เป็นมัลแวร์ซ่อนลึกลงไปในไฟล์ระบบ โปรแกรมจะสแกนคอมสักพักกว่าจะเสร็จ [1]
  13. ถ้า antivirus และ/หรือ Anti-Malware เจอมัลแวร์หรือโปรแกรมเจาะระบบ ก็แสดงว่าคุณคงกำจัดไปเรียบร้อย แต่ก็อย่าเพิ่งย่ามใจ ให้เฝ้าระวังคอมต่ออีกสักพัก เผื่อยังมีอะไรแฝงตัวอยู่
  14. ถ้าคอมเคยถูกแฮกมาครั้งหนึ่งแล้ว เป็นไปได้ว่าทุกรหัสผ่านจะถูกบันทึกลง keylogger เรียบร้อย ถ้าแน่ใจว่าคอมคุณปลอดภัยดีแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมด และอย่าใช้รหัสผ่านเดียวกันในแต่ละบริการหรือเว็บไซต์
  15. พอเปลี่ยนรหัสผ่านแล้ว ให้ไปที่แต่ละเว็บหรือบัญชีแล้วลงชื่อออกให้หมด รวมถึงลงชื่อออกจากทุกอุปกรณ์ที่ใช้งานบัญชีนั้นๆ อยู่ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่ารหัสผ่านใหม่จะมีผลแล้ว และใครจะใช้รหัสผ่านเก่าแอบเข้ามาใช้งานไม่ได้
  16. ถ้าหาไม่เจอหรือกำจัดโปรแกรมเจาะระบบไม่ได้ ให้ล้างทั้งระบบ. ถ้ายังเห็นได้ชัดว่ามีคนแอบใช้งานระบบอยู่ หรือกลัวไปเองว่าคอมยังไม่ปลอดภัย ทางเดียวที่จะแน่ใจได้ว่าคอมปลอดภัย ก็คือต้องล้างข้อมูลแล้วลงระบบปฏิบัติการใหม่เลย อย่าลืม backup ข้อมูลสำคัญไว้ก่อน เพราะทุกอย่างจะถูกลบหายไปเพื่อรีเซ็ตระบบ
    • ตอนจะ backup ข้อมูลในคอมที่ถูกแฮก อย่าลืมสแกนแต่ละไฟล์ก่อน เพราะเป็นไปได้ว่าคอมอาจจะติดไวรัสกลับมาจากไฟล์เก่าที่คุณเก็บไว้นี่แหละ
    • สำหรับวิธีฟอร์แมตเครื่อง Windows หรือ Mac แล้วลงระบบใหม่ ให้หาอ่านเพิ่มเติมจากในเน็ตดู
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ป้องกันการเจาะระบบซ้ำสอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โปรแกรม antivirus ที่หมั่นอัพเดทอยู่เสมอ จะตรวจจับสิ่งผิดปกติต่างๆ ได้ก่อนทำอันตรายคอมของคุณ Windows นั้นมีโปรแกรม antivirus ชื่อ Windows Defender อยู่แล้ว เป็นโปรแกรมใช้ดีและอัพเดทประจำอัตโนมัติ โดยจะทำงานอยู่เงียบๆ ที่เบื้องหลัง นอกจากนี้ก็มีหลายโปรแกรมฟรีให้เลือกใช้ เช่น BitDefender, avast! และ AVG แต่ไม่ว่าจะเลือกโปรแกรมไหน ก็ขอให้ลงแค่โปรแกรมเดียวพอ
    • สำหรับวิธีเปิดใช้งาน Windows Defender ในเครื่อง Windows ให้ลองศึกษาเพิ่มเติมในเน็ตดู
    • รวมถึงวิธีติดตั้งโปรแกรม antivirus อื่นๆ เช่นกัน ในกรณีที่จะไม่ใช้ Defender ซึ่ง Windows Defender จะปิดตัวเองอัตโนมัติหากคุณลงโปรแกรม antivirus อื่นไว้
  2. ถ้าคุณไม่ได้เปิด web server หรือใช้โปรแกรมอื่นที่ต้อง remote access มายังคอม ก็ไม่ต้องเปิดพอร์ทไหนไว้ โปรแกรมส่วนใหญ่ที่ต้องใช้พอร์ท จะใช้ UPnP ที่จะเปิดพอร์ทตอนจำเป็น แล้วปิดเมื่อโปรแกรมไม่ได้ใช้ ถ้าเปิดพอร์ทไว้ตลอดก็เท่ากับเครือข่ายคุณมีช่องโหว่พร้อมเจาะ
    • ให้คุณตั้งค่า Forward Port ในเราเตอร์ และเช็คว่าทุกพอร์ทปิดอยู่ เว้นแต่ต้องใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่คุณเปิด
  3. ไฟล์แนบของอีเมลก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางให้ไวรัสและมัลแวร์เจาะระบบคุณได้ ขอให้เปิดอ่านเฉพาะไฟล์แนบจากผู้ส่งที่รู้จัก ไว้ใจได้ แต่ยังไงก็ต้องแน่ใจก่อน ว่าคนคนนั้นจะส่งไฟล์มาจริงๆ ถ้าเพื่อนใน contacts ติดไวรัสขึ้นมาละก็ อาจจะมีไฟล์ส่งมาจากเขาพร้อมไวรัสโดยที่เขาไม่รู้ตัว
  4. รหัสผ่านของแต่ละเว็บหรือโปรแกรมต้องจำง่าย (สำหรับคุณ) แต่เดายาก (สำหรับคนอื่น) และไม่เหมือนกันในแต่ละเว็บ/โปรแกรม แฮกเกอร์จะได้ไม่เจาะทีเดียวเข้าได้ทุกข้อมูลของคุณ ยังไงลองศึกษาเพิ่มเติมเรื่องใช้ password manager จัดการรหัสผ่านแทนคุณดู
  5. ถือว่าค่อนข้างเสี่ยง เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ควบคุมดูแลเครือข่าย จะไม่รู้เลยว่ามีใครในเครือข่ายเดียวกันแอบจับตาดู traffic เข้า-ออกคอมของคุณหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นผู้ไม่หวังดีสามารถดูเบราว์เซอร์ที่คุณเปิดอยู่ได้ หรืออาจอันตรายกว่านั้น คุณลดความเสี่ยงได้โดยใช้ VPN ทุกครั้งที่จำเป็นต้องใช้ Wi-Fi Hotspot สาธารณะ เพื่อเข้ารหัสข้อมูล
    • สำหรับวิธีตั้งค่าการเชื่อมต่อผ่านเว็บ VPN ให้ลองศึกษาเพิ่มเติมในเน็ตดู
  6. โปรแกรม "ฟรี" หลายตัวที่คุณเจอในเน็ต มักมีโปรแกรมไม่พึงประสงค์พ่วงมาด้วย ระหว่างติดตั้งโปรแกรมที่ต้องการให้คอยสังเกตดีๆ แล้วปฏิเสธการติดตั้ง "ข้อเสนอพิเศษ" หรือก็คือโปรแกรมอื่นเพิ่มเติม ที่สำคัญคืออย่าดาวน์โหลดโปรแกรมเถื่อน เพราะนี่แหละช่องทางยอดนิยมให้ไวรัสเจาะเข้าระบบได้ [2]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,237 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา