ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณคิดว่าคุณร้องเพลงไม่เก่งเอาเสียเลย ก็อย่ากังวลไป คุณยังคงมีความหวัง ที่จริงแล้ว คุณคงจะร้องเพลงได้ดีกว่าที่คุณคิดนัก! เชื่อมั่นในตัวเอง และอย่าปักใจกับความคิดที่ว่าคุณร้องเพลงได้ไม่ดี ในทางกลับกัน ให้คิดถึงสิ่งดีๆ ในเสียงร้องเพลงของคุณ ด้วยความช่วยเหลือจากเคล็ดลับและแบบฝึกหัดร้องเพลงสักหน่อย คุณก็สามารถปรับปรุงเสียงร้องเพลงของคุณให้ดีขึ้น พัฒนาหูชั้นใน และสร้างความมั่นใจขึ้นมาได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ฝึกพื้นฐานให้เชี่ยวชาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การจะร้องเพลงอย่างถูกต้องได้ คุณก็ต้องมีท่าทางที่ดี คุณควรยืนหรือนั่งด้วยหลังที่ตรง ร่างกายของคุณไม่ควรเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ให้แน่ใจว่าศีรษะของคุณไม่โน้มไปข้างหน้า หรือเอนไปข้างหลัง [1]
    • เพื่อที่จะได้รู้ว่าการจัดตำแหน่งท่าทางที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร ให้ลองร้องเพลงขณะนอนหงาย หรือยืนหลังติดผนังเพื่อที่ไหล่ทั้งสองและด้านหลังของศีรษะของคุณจะได้แตะกับผนังเอาไว้ [2]
  2. การหายใจที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับการร้องเพลง เมื่อคุณหายใจ ให้แน่ใจว่าคุณรับอากาศเข้ามาจากกะบังลมแทนที่จะมาจากหน้าอก นั่นหมายความว่า เมื่อคุณหายใจเข้า ท้องของคุณก็จะขยายแทนหน้าอกของคุณ เมื่อคุณร้องเพลง คุณจะดันกะบังลมลงไปขณะที่ไล่สเกลขึ้น และปล่อยออกเมื่อคุณไล่สเกลลงมา [3] การหนุนเสียงของคุณด้วยกะบังลมเป็นกุญแจสำคัญอันหนึ่งของการร้องเพลง
    • ในการฝึกซ้อม ให้วางมือเอาไว้บนท้องของคุณแล้วหายใจเข้าทางจมูก ช่องท้องของคุณควรจะขยายและพองออกเมื่อคุณหายใจเข้า หน้าอกของคุณไม่ควรขยับออกหรือขึ้น ขณะที่คุณหายใจออก ดันลมออกและหดกล้ามเนื้อหน้าท้อง มันควรจะให้ความรู้สึกเหมือนการทำซิทอัพ ทำซ้ำๆ จนมันรู้สึกเป็นธรรมชาติเมื่อคุณร้องเพลง
    • อีกทางเลือกหนึ่งในการซ้อมคือ ให้เอนกายลงบนพื้น และวางหนังสือเอาไว้บนหน้าท้อง ให้แน่ใจว่าหนังสือถูกยกขึ้นเมื่อคุณหายใจเข้า และยุบกลับลงไปเมื่อคุณหายใจออก
  3. วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ร้องเพลงได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็วก็คือการเปิดเสียงสระ เทคนิคนี้เรียกว่า การเปิดช่องคอ ให้เริ่มด้วยการออกเสียง “อา” หรือ “เออ” ยืดปากของคุณออกโดยไม่ต้องขยายให้กว้างขึ้น คุณต้องการแยกลิ้นออกจากเพดานอ่อนตลอดเวลาที่ร้องเพลง ลิ้นของคุณควรแนบอยู่กับกรามด้านล่าง มันจะทำให้คุณภาพการร้องเพลงของคุณดีขึ้น
    • ลองพูด เอ อี ไอ โอ อู กรามของคุณไม่ควรปิดลงมาขณะกล่าวเสียงเหล่านี้ ถ้าคุณไม่สามารถรักษาให้กรามของคุณอ้าอยู่ได้ ก็ให้ใช้นิ้วช่วยดันกรามลงมา ออกเสียงสระเหล่านี้ซ้ำๆ จนกระทั่งคุณสามารถออกเสียงได้โดยที่ปากเปิดอยู่
    • ร้องเสียงสระ เปิดกรามของคุณเอาไว้เหมือนเวลาที่คุณพูดเสียงสระเหล่านั้น จากนั้น ให้ร้องเพลงสักท่อนหนึ่ง และเปิดกรามของคุณเอาไว้เมื่อร้องเสียงสระแต่ละตัว
    • คุณอาจจะต้องฝึกฝนสักหน่อยถึงจะสามารถทำได้ แต่มันจะช่วยปรับปรุงคุณภาพการร้องเพลงของคุณให้ดีขึ้น [4]
    • ด้วยวิธีนี้ เสียงของคุณจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ [5]
  4. ในขณะที่คุณร้องตัวโน๊ตสูงๆ และพยายามใส่พลังเข้าไป ให้หลีกเลี่ยงการยก หรือกดคางลงมา ศีรษะของคุณมีแนวโน้มที่จะเงยขึ้นเมื่อคุณร้องตัวโน๊ตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้กับเส้นเสียงของคุณได้ การร้องเพลงในขณะที่คุณจดจ่อกับการรักษาให้คางขนานกับพื้นจะช่วยเพิ่มกำลังให้กับเสียงของคุณ และช่วยให้คุณสามารถควบคุมเสียงได้ดีขึ้น [6]
  5. ประการแรก คุณต้องหาช่วงเสียงของตัวเองให้ได้ก่อน จากนั้น คุณก็สามารถเริ่มเพิ่มช่วงเสียงของตัวเองได้ โดยต้องใช้เทคนิคที่ถูกต้อง คุณต้องมีเสียงสระที่ปราศจากลม และมีความกังวานในเสียงที่ถูกต้องก่อนที่คุณจะสามารถขยายช่วงเสียงได้
    • ในการขยายช่วงเสียง ให้ทำครึ่งขั้นตอน หรือเต็มขั้นตอนในแต่ละครั้ง ฝึกซ้อมสเกลสั้นๆ และทำให้คุ้นชินกับการร้องตัวโน๊ตใหม่ก่อนที่จะพยายามร้องเสียงที่สูงขึ้น หรือต่ำลง
    • การเรียนจากโค้ชด้านการใช้เสียงเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขยายช่วงเสียงของคุณ
  6. เสียงของคุณประกอบไปด้วยสามพื้นที่ การสลับไปมาระหว่างพื้นที่เสียงเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงความกังวานของเสียงคุณ การเรียนรู้ที่จะควบคุมความเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยทำให้คุณร้องเพลงได้ดีขึ้น
    • เสียงผู้ชายจะมีอยู่สองพื้นที่ ได้แก่ เสียงกลาง และเสียงหลบ โน๊ตเสียงหลบจะสูง ในขณะที่โน๊ตจากเสียงกลางจะต่ำกว่า
    • เสียงผู้หญิงจะมีอยู่สามพื้นที่ ได้แก่ เสียงเชสโทน เฮดโทน และเสียงกลาง แต่ละพื้นที่หมายถึงช่วงตัวโน๊ตที่ร้องออกมาจากร่างกายส่วนนั้นๆ
    • เสียงเฮดโทนเป็นพื้นที่เสียงที่สูงกว่าพื้นที่เสียงอื่นๆ เวลาที่คุณร้องโน๊ตตัวสูงๆ มันจะก้องกังวานอยู่ในหัวของคุณ วางมือบนศีรษะของคุณขณะร้องโน๊ตสูงเพื่อสัมผัสความสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น เชสโทนเป็นพื้นที่เสียงที่ต่ำกว่า เวลาร้องตัวโน๊ตที่ต่ำ มันจะก้องในหน้าอกของคุณ เสียงกลาง หรือเสียงผสม คือพื้นที่ระหว่างเสียงเชสโทน และเฮดโทนของคุณนั่นเอง พื้นที่นี้คือส่วนที่เสียงของคุณจะเคลื่อนผ่านจากหน้าอกไปยังศีรษะเพื่อที่จะร้องตัวโน๊ตได้อย่างถูกต้อง
    • ขณะที่คุณเคลื่อนจากตัวโน๊ตสูงลงมายังตัวโน๊ตต่ำ คุณก็ต้องเคลื่อนจากเฮดลงมายังเชสโทน คุณควรรู้สึกได้ถึงตัวโน๊ตที่เคลื่อนขึ้นไปยังศีรษะของคุณ หรือลงมายังหน้าอกของคุณขณะร้องเพลง อย่าให้ตัวโน๊ตอยู่กับที่ขณะที่คุณร้องไล่เสียงขึ้นหรือลง เพราะมันจะจำกัดคุณภาพเสียงของคุณ [7]
  7. น้ำช่วยรักษาให้เส้นเสียงของคุณชุ่มชื้นและลื่นเพื่อที่มันจะสามารถเปิดและปิดได้อย่างง่ายดาย คุณยังสามารถดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่เติมน้ำตาล ไม่มีคาเฟอีน และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน ตั้งเป้าดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 470 ml [8]
    • น้ำอุ่นๆ ดีที่สุดสำหรับคอของคุณ ให้ดื่มอะไรอุ่นๆ เช่นน้ำอุ่น หรือชาอุ่นผสมน้ำผึ้ง พยายามหลีกเลี่ยงของเย็นๆ เช่นไอศกรีม หรือน้ำอัดลมเย็นๆ เพราะมันสามารถทำให้กล้ามเนื้อของคุณเกร็งตัว [9]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ฝึกซ้อมเสียงของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณอยากจะร้องเพลงได้ดีขึ้น คุณก็ต้องฝึกเสียงของคุณ ซึ่งต้องอาศัยความมุ่งมั่น การฝึกฝนเสียงไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน จะไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดหรอก ให้ฝึกเสียงของคุณทุกๆ วันเลย คุณต้องฝึกมันและสร้างกล้ามเนื้อเพื่อที่จะทำให้เสียงของคุณดีขึ้น [10]
    • อย่าลืมวอร์มอัพก่อนทำแบบฝึกหัดเสียงใดๆ ก็ตาม
    • คุณสามารถใช้เครื่องมือช่วยในการฝึกซ้อมได้ เช่นแอป Vanido
    • พยายามซ้อมในห้องว่างเพื่อช่วยให้คุณจดจ่อ
  2. ให้พูดว่า “ฮืมม?” หรือ “ฮืมม” เหมือนเวลาที่คุณไม่แน่ใจว่าคุณจะเชื่อคนๆ หนึ่งได้หรือไม่ เสียงทั้งสองนี้ควรมีการเปลี่ยนระดับเสียง เมื่อคุณฝึกซ้อมสเกลขณะที่ฮัมไปด้วย คุณควรรู้สึกถึงความสั่นที่จมูก ตา ศีรษะ และลงมาถึงหน้าอกของคุณด้วย [11]
    • ฮัมเสียงไล่สเกล โด มี โซ ขึ้นไป จากนั่นก็ไล่กลับลงมาที่ มี โด ขณะที่ฮัมเสียง ให้ฝึกฝนความแม่นยำในระดับเสียง
  3. ลิปทริล คือการที่คุณเป่าลมผ่านทางปากจนทำให้มันกระพือและสั่น มันจะเกิดเสียง “บรือ” เหมือนกับเวลาที่คุณรู้สึกหนาว ถ้าปากของคุณเกร็งขณะที่เป่าลมออกมา มันก็จะไม่เกิดการสั่น ให้พยายามผ่อนคลายริมฝีปาก และถ้านั่นยังไม่ช่วยอีก ก็ให้ดันมุมปากของคุณขึ้นไปทางจมูกขณะที่คุณทำแบบฝึกหัดนี้ [12]
    • ลองทำทริลที่ลิ้น มันจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนเพื่อที่คุณจะได้ให้มันผ่อนคลายตลอดการร้องเพลง
  4. เวลาที่คุณพยายามร้องให้ถึงตัวโน๊ตสูงๆ คุณก็ควรรักษากล่องเสียงของคุณให้นิ่ง แทนที่จะยกมันขึ้น วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถควบคุมเสียงได้ดีขึ้นและช่วยหลีกเลี่ยงการตึงเครียด ในการฝึกรักษาให้กล่องเสียงนิ่ง ให้พูดว่า “มัม” หลายๆ ครั้ง ทำเช่นนี้จนกว่าคุณจะรู้สึกผ่อนคลายเวลาออกเสียงคำนี้ [13]
    • เอานิ้วหัวแม่มือแตะไว้ที่ข้างใต้คางของคุณ กลืนน้ำลาย คุณควรรู้สึกได้ถึงการทำงานของกล้ามเนื้อกลืน หรือกล้ามเนื้อช่องคอ เมื่อคุณร้องเพลง คุณต้องการให้กล้ามเนื้อเหล่านี้ผ่อนคลาย ร้องสเกลขณะที่คุณทำเสียง “อืมมม” และปิดปากเอาไว้ กล้ามเนื้อคอของคุณควรจะผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา
    • คุณอาจจะเผลอทำหน้าตาตลกๆ เวลาที่คุณพยายามรักษาให้เสียงอยู่ที่ส่วนบนของใบหน้า ซึ่งมันก็โอเคเลย ให้ขยับหน้าหรือทำเสียงเว่อร์ๆ ไปเลยถ้าจำเป็น สิ่งสำคัญคือการฝึกกล้ามเนื้อกลืนให้ผ่อนคลายเข้าไว้ขณะที่คุณฝึกซ้อมสเกล
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

สร้างความมั่นใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยให้คุณก้าวข้ามความตื่นกลัวได้ก็คือการซ้อมที่บ้าน เวลาที่คุณซ้อม คุณควรทำให้มากกว่าธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น ร้องเพลงให้ดังขึ้น หรือหนักขึ้น ลองท่าทางประกอบแบบต่างๆ หรือแสดงออกแบบสุดเหวี่ยงไปเลย สร้างความมั่นใจให้กับตัวคุณเองก่อนที่จะพยายามสร้างความมั่นใจต่อหน้าคนอื่น [14]
    • หาที่ที่คุณรู้สึกสะดวกใจสำหรับการฝึกซ้อม. คุณควรจะสามารถร้องเพลงได้ดัง และทำหน้าตา หรือเสียงตลกๆ ได้โดยไม่ต้องรู้สึกเขิน
    • เมื่อคุณซ้อมหน้ากระจกหรือบนวีดิโอ ก็ให้เรียนรู้ที่จะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกบนเวที ในตอนแรก มันอาจจะรู้สึกแปลกๆ ที่คุณจะแสดงออกอย่างเปิดเผยเช่นนั้นบนเวที แต่นักร้องอาชีพหลายๆ คนก็มีความมั่นใจที่จะร้องเพลงอย่างจริงใจและด้วยอารมณ์ [15]
  2. วิธีการหนึ่งที่คุณจะสามารถสร้างความมั่นใจขึ้นมาได้ก็คือ การก้าวออกมาจากเขตที่คุณรู้สึกสบายอยู่เสมอๆ ซึ่งทำได้หลายอย่าง คุณอาจจะลองร้องเพลงต่อหน้าผู้ชม หรือมันอาจหายถึงการขยายช่วงเสียงของคุณ หรือการร้องเพลงแนวอื่น พัฒนาเสียงของคุณ ลองสิ่งใหม่ๆ และเรียนรู้ทุกอย่างที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ ก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณ [16]
  3. หลังจากได้ฝึกซ้อมและเรียนรู้ทักษะการร้องเพลงใหม่ๆ แล้ว คุณก็ต้องเริ่มร้องเพลงต่อหน้าผู้คน เริ่มต้นด้วยการร้องเพลงต่อหน้าเพื่อนสนิทและคนในครอบครัว เริ่มจากหนึ่งคน แล้วค่อยๆ เพิ่มอย่างช้าๆ มันจะสามารถช่วยทำให้คุณคุ้นชินกับการร้องเพลงต่อหน้าผู้คนได้ [17]
    • ขอให้พวกเขาช่วยวิจารณ์คุณเวลาที่คุณร้องเพลง วิธีนี้สามารถช่วยพัฒนาคุณได้ถ้าคุณยังมีข้อผิดพลาดอยู่
  4. อีกวิธีที่จะช่วยในการสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้ก็คือการร้องเพลงในชุมชนของคุณ ซึ่งมันอาจไม่ยากหรือน่ากลัวเท่ากับการแสดงคอนเสิร์ต หรือในงานที่เป็นทางการกว่า ลองหาโอกาสไปร้องเพลงที่สถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลเด็กก็ได้
    • ลองไปออดิชั่นกับโรงละครท้องถิ่น หรือสมัครเรียนการแสดง มันอาจช่วยสร้างความมั่นใจในการแสดงบนเวทีต่อหน้าผู้คนให้กับคุณโดยที่ไม่ต้องร้องเพลง จากนั้น คุณก็สามารถนำความมั่นใจนั้นไปปรับใช้กับการร้องเพลงได้
  5. แม้ว่าการร้องคาราโอเกะกับเพื่อนๆ จะไม่ใช่การแสดงคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ แต่การร้องเพลงในสภาพแวดล้อมแบบนั้นก็สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้ แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยในเรื่องของเทคนิคการใช้เสียง แต่คุณก็จะเริ่มคลายความวิตกกังวลที่คุณรู้สึกเวลาร้องเพลงต่อหน้าผู้คนได้ [18]
  6. ครั้งแรก หรือสองครั้งแรกที่คุณร้องบนเวที ให้ร้องเพลงที่รู้จักเป็นอย่างดี มันจะช่วยในเรื่องของความมั่นใจตั้งแต่เริ่มต้น เลือกเพลงที่อยู่ในช่วงเสียงของคุณที่ทำให้คุณร้องได้ไพเราะ ไม่ต้องพยายามใส่อะไรเข้าไปให้มากมาย แค่ร้องให้เหมือนกับต้นฉบับ หัวใจหลักในขั้นตอนนี้คือการฝึกให้คุณรู้สึกสบายใจที่จะร้องเพลงบนเวทีต่อหน้าผู้คน
    • ในขณะที่คุณสร้างความมั่นใจ คุณก็สามารถทำให้เพลงเป็นของคุณเองได้ ปรับสไตล์ของคุณ และเปลี่ยนมัน [19]
  7. ถ้าคุณตัวสั่น ก็ให้ขยับไปมาเพื่อปกปิดความกลัวของคุณ คุณสามารถขยับสะโพก หรือเดินไปมาสักหน่อยเพื่อทำให้คุณดูมั่นใจและจดจ่อพลังความกังวลของคุณไปในทางอื่น
    • พยายามมองไปที่จุดใดจุดหนึ่งเหนือผู้ชมถ้าคุณตื่นเวทีมากๆ อย่ามองไปที่พวกเขา หาจุดบนกำแพงด้านหลังเพื่อจดจ่อความสนใจทั้งหมดของคุณไปที่นั่นในขณะที่คุณมองข้ามผู้ชมไป [20]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าคุณเริ่มเจ็บคอ ให้หยุดร้องเพลงสักหนึ่งชั่วโมง ดื่มน้ำเพื่อวอร์มอัพเสียงของคุณ แล้วค่อยลองใหม่อีกครั้ง
  • บันทึกเสียงของคุณ แล้วคุณจะได้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้น
  • ถ้าคุณไม่สามารถร้องได้ตรงโน๊ต ก็ให้พยายามร้องโน๊ตที่ต่ำลงมาตัวหนึ่ง แล้วสร้างเส้นเสียงขึ้นมา ใช้แอพอย่าง Sing True ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ
  • หาเพื่อนที่เป็นนักร้อง แล้วลองเปรียบเทียบโน้ตสำหรับการร้องเพลงดู นอกจากนี้ คุณยังสามารถแบ่งปันวิธีการฝึกเสียงให้กันและกันได้อีกด้วย
  • เข้าวงคอรัส หรือกลุ่มร้องเพลงเพื่อที่จะได้ใช้เวลากับนักร้องคนอื่นๆ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติม
  • ลองร้องคลอไปกับเพลงที่คุณชื่นชอบ และฝึกซ้อมจนกระทั่งคุณสามารถร้องมันได้ดี
  • ถ้าคุณรู้สึกหายใจไม่ทัน ก็ให้พยายามบริหารกะบังลมและปอดของคุณ มันจะได้แข็งแรงขึ้น ทำให้คุณร้องเพลงได้นานขึ้นโดยไม่ต้องหายใจเพิ่ม
  • ถ้าคุณรู้สึกประหม่า ให้หลับตาแล้วจินตนาการว่าคุณกำลังร้องอยู่คนเดียว
  • พยายามปรับระดับเสียงถ้ามันฟังดูไม่ถูกต้อง บางครั้ง คุณก็อาจร้องเพลงหนึ่งด้วยระดับเสียงที่ผิดไปทั้งหมดอย่างไม่รู้ตัว จนกว่าจะได้ลองระดับเสียงอื่น
  • ถ้าคุณรู้สึกประหม่าในการร้องเพลงต่อหน้าคนอื่น ก็ให้ฝึกร้องอยู่คนเดียวก่อนจนคุณร้องมันได้ดีขึ้น จากนั้นให้ร้องให้เพื่อนที่คุณสนิทใจ หรือคนในครอบครัวฟัง แล้วให้พวกเขาวิจารณ์คุณอย่างสร้างสรรค์
  • จินตนาการว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย แสร้งทำเป็นว่าคุณกำลังร้องเพลงให้ตัวเองฟัง คุณยังสามารถเอาผ้าปิดตาแล้วไม่ต้องฟังการแสดงความคิดเห็นของคนอื่นๆ
  • ถ้าคุณต้องการมีช่วงเสียงที่กว้างขึ้น ก็ให้ร้องสเกลซอลเฟจ (โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด) เริ่มจากระดับเสียงต่ำ แล้วค่อยๆ ไล่ขึ้นไปทีละนิด คุณควรจะทำเช่นนี้ด้วยการเริ่มจะระดับเสียงที่สูงแล้วค่อยๆ ไล่ลงมาเช่นกัน (ร้องสเกลซอลเฟจแบบกลับลงมาจะดีเยี่ยมสำหรับแบบฝึกหัดนี้) ดื่มน้ำก่อนทำแบบฝึกหัดนี้ หายใจอย่างถูกต้อง แล้วใช้ท่าทางสำหรับการร้องเพลง!
  • ฝึกเสียง และวอร์มอัพเสียงก่อนร้องเพลง
  • ฝึกร้องโน้ตสูง และต่ำ จนกว่าคุณจะสามารถร้องได้อย่างถูกต้อง
  • ฝึกซ้อมกับเปียโนเพื่อให้แม่นยำในเรื่องของจังหวะ และตัวโน๊ต นอกจากนี้ พยายามให้ถึงที่สุดในการทำให้ระดับเสียงของคุณตรงกับการเปลี่ยนเสียงของเปียโน วิธีนี้จะทำให้คุณเห็นได้ถึงการร้องเพลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
  • มั่นใจเข้าไว้! อย่ากลัวที่จะก้าวออกไปแล้วลองดู!
โฆษณา

คำเตือน

  • พยายามอย่าตะโกนให้บ่อยจนเกินไป
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ร้อนจัดเนื่องจากมันจะทำลายเส้นเสียงของคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,868 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา