ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณเพิ่งจะผ่านการผ่าตัดมา แพทย์อาจแนะนำให้คุณดูแลสุขภาพให้แข็งแรงขึ้นโดยการลดวามดันโลหิตลง การเปลี่ยนแปลงทั้งอาหารการกินกับวิถีการใช้ชีวิตล้วนช่วยคุณทำเช่นนั้นได้ หลังผ่าตัดนั้นมันสำคัญมากที่คุณต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงกิจวัตรใดๆ แพทย์จะสามารถให้คำแนะนำได้ว่าทำอะไรบ้างร่างกายถึงสามารถรับไหว [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้การเปลี่ยนแปลงด้านอาหารการกินเมื่อไม่อาจออกแรงได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โซเดียมนั้นมีอยู่ในเกลือ ฉะนั้นโดยการลดบริโภคเกลือก็เท่ากับลดโซเดียมลงด้วย การทานอาหารรสเค็มนั้นเป็นรสนิยมส่วนตัว บางคนที่เคยชินกับการปรุงอาหารด้วยเกลืออาจทำให้ได้บริโภคโซเดียม (ในเกลือ) สูงได้ถึง 3,500 มก.ต่อวัน ถ้าคุณเป็นความดันโลหิตสูงและจำต้องลดมันลงหลังการผ่าตัด แพทย์น่าจะแนะนำให้ลดเกลือลงอย่างมาก นั่นอาจหมายถึงการทานโซเดียมวันละแค่ 2,300 มก. หรือต่ำกว่านั้น ลองทำสิ่งต่อไปนี้: [2]
    • สังเกตและกลั่นกรองอาหารว่างที่ทานให้ดี แทนที่จะทานขนมรสเค็มอย่าง มันฝรั่งทอด เพร็ตเซล หรือถั่ว เป็นอาหารว่าง ให้ลองเปลี่ยนเป็นแอปเปิ้ล กล้วย แครอท หรือพริกหยวกเขียวดีกว่า
    • มองหาอาหารกระป๋องที่ไม่ดองในน้ำเกลือหรือที่บนฉลากเขียนว่ามีโซเดียมต่ำ
    • ลดปริมาณเกลือที่เติมปรุงอาหารให้มากหรือหยุดเติมเกลือไปเลยก็ได้ แล้วไปปรุงรสด้วยเครื่องเทศที่เหมาะสมกว่าแทน เช่น อบเชย พริกปาปริกา ผักชีฝรั่ง และออริกาโนเป็นอาทิ เอาที่เหยาะเกลือออกไปพ้นโต๊ะอาหารจะได้เตือนตัวเองว่าห้ามเติมเองทีหลัง
  2. โฮลเกรนหรือธัญพืชเต็มเมล็ดจะมีสารอาหารมากกว่า ไฟเบอร์มากกว่า และทำให้อิ่มท้องนานกว่าแป้งขาวขัดสี คุณควรรับแคลอรี่จากโฮลเกรนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอื่นๆ ตั้งเป้าไว้ที่หกถึงแปดหน่วยบริโภคต่อวัน หนึ่งหน่วยบริโภคเท่ากับข้าวสุกครึ่งถ้วยหรือขนมปังหนึ่งชิ้น เพิ่มการบริโภคโฮลเกรนขึ้นด้วยการ: [3]
    • ทานโอ๊ตมีลหรือปลายข้าวเป็นอาหารเช้า เติมผลไม้สดหรือลูกเกดเพื่อเพิ่มรสหวาน
    • ตรวจดูฉลากข้างห่อขนมปังดูว่ามันเป็นแบบโฮลเกรนหรือเปล่า
    • ซื้อพาสต้ากับแป้งแบบโฮลเกรนแทนที่จะเป็นแบบแป้งขาว
  3. ปริมาณผักกับผลไม้ที่แนะนำคือสี่ถึงห้าหน่วยบริโภคต่อวัน หนึ่งหน่วยบริโภคเท่ากับครึ่งถ้วย ผักกับผลไม้อุดมด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อการควบคุมความดันโลหิต เช่น โปตัสเซียมกับแมกนีเซียม คุณสามารถเพิ่มปริมาณผักกับผลไม้ได้โดยการ: [4]
    • เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยสลัด โดยการเริ่มต้นด้วยสลัดนั้นจะได้คลายหิวลงไปบ้างจากตอนที่หิวจัด อย่ารอปิดท้ายด้วยสลัด เพราะถึงตอนนั้นคุณจะเริ่มอิ่มจนทานได้น้อย ทำให้สลัดดูน่าทานตลอดด้วยการเติมผักกับผลไม้สลับลงไป ใช้ถั่วอบเกลือ ชีส หรือน้ำสลัดแต่น้อยเพราะพวกมันมีเกลือสูง ใช้น้ำมันกับน้ำส้มสายชูราดแทนเพราะมันมีโซเดียมต่ำ
    • เตรียมผักกับผลไม้ติดตัวสำหรับทานเล่น ติดแครอทหั่นแท่ง พริกหยวกหั่นฝอย หรือแอปเปิ้ลติดตัวไปทำงานหรือไปเรียน
  4. อาหารที่มีไขมันสูงสามารถทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความดันโลหิต แต่ถึงอย่างนั้น ยังมีวิธีน่าอร่อยหลายวิธีที่ช่วยลดปริมาณไขมันที่ทาน โดยยังคงได้รับสารอาหารที่ร่างกายต้องการนำมาฟื้นฟูสภาพหลังการผ่าตัด
    • ผลิตภัณฑ์จากนมเช่น น้ำนมกับชีสที่อุดมแคลเซียมและวิตามินดี แต่มักจะมีไขมันกับเกลือในปริมาณสูง เลือกนม โยเกิร์ต และชีสแบบพร่องมันเนย ชีสเองควรจะเป็นแบบพร่องเกลือด้วย [5]
    • ทานเนื้อเป็ดไก่ที่ไร้มันแทนที่จะเป็นเนื้อแดง ถ้าเนื้อที่ทานมีมันอยู่ตามขอบ ให้หั่นทิ้ง ทานเนื้อไม่เกิน 170 กรัมต่อวัน คุณยังสามารถทำให้เนื้อนั้นดูดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นโดยการอบหรือย่างแทนการผัดหรือทอด [6]
    • ลดปริมาณไขมันเพิ่มเติมที่คุณบริโภค นั่นรวมถึงเนยกับมายองเนสบนแซนด์วิช การทำอาหารด้วยครีมข้น หรือเนยขาว อย่างเช่น เนยหรือ Crisco หนึ่งหน่วยบริโภคจะเท่ากับหนึ่งช้อนโต๊ะ ตั้งเป้าไว้ที่วันละสามหน่วยบริโภคหรือน้อยกว่านั้น [7]
  5. การทานน้ำตาลแปรรูปจะทำให้คุณทานมากเกินความจำเป็นเพราะพวกมันไม่ได้ให้สารอาหารจำเป็นที่จะทำให้รู้สึกอิ่ม พยายามทานลูกอมเกินห้าเม็ดต่อสัปดาห์ [8]
    • สารให้ความหวานสังเคราะห์เช่น Splenda, NutraSweet, และ Equal นั้นช่วยเติมเต็มอาการอยากของหวานได้ แต่พยายามที่จะทดแทนของหวานด้วยตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าอย่างผักกับผลไม้แทน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้วิถีชีวิตหลังผ่าตัดที่ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลิกสูบบุหรี่ . การสูบบุหรี่หรือเคี้ยวยาเส้นสามารถทำให้หลอดเลือดแข็งตัวขึ้นและตีบขึ้น ทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูง หากคุณอาศัยอยู่กับคนที่สูบบุหรี่ ขอร้องให้เขาไปสูบบุหรี่ข้างนอกเพื่อจะได้ไม่ต้องหายใจรับควันบุหรี่เข้าไป ซึ่งยิ่งสำคัญมากถ้าคุณกำลังพักฟื้นหลังการผ่าตัด ถ้าตัวคุณเองต้องการความช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ คุณสามารถลอง: [9] [10]
    • ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนรักษาที่เหมาะกับตัวคุณ
    • รับแรงสนับสนุนให้กำลังใจจากทางศูนย์สายด่วน กลุ่มให้กำลังใจ หรือผู้ให้คำปรึกษาด้านการเสพติด [11]
    • ลองใช้ยาหรือการบำบัดทดแทนนิโคติน
  2. ถ้าเพิ่งผ่าตัดมา คุณอาจต้องใช้ยาในการควบคุมสุขภาพและช่วยฟื้นฟูร่างกาย แอลกอฮอล์อาจทำปฏิกิริยากับยาเหล่านั้น [12]
    • นอกจากนี้ ถ้าแพทย์แนะนำให้คุณลดน้ำหนัก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีแคลอรี่สูง ทำให้ลดยาก
    • ถ้าต้องการความช่วยเหลือในการ เลิกเหล้า ปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้ยาหรือกลุ่มสนับสนุน แพทย์อาจแนะนำการรักษา กลุ่มสนับสนุน และบริการนักบำบัดเพื่อช่วยคุณได้
  3. การฟื้นตัวจากการผ่าตัดนั้นเป็นเรื่องเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจต้องใช้เทคนิคการผ่อนคลายที่ใช้กันแพร่หลายมาช่วยแม้ในเวลาที่คุณยังมีสมรรถณะการขยับเขยื้อนร่างกายอย่างจำกัดก็ตาม อันได้แก่: [13]
    • การนั่งสมาธิ
    • ใช้ดนตรีบำบัดหรือศิลปบำบัดเพื่อผ่อนคลายความเครียด
    • ฝึกการหายใจลึกๆ
    • จินตนาการภาพเพื่อสงบใจ
    • คลายเครียดด้วยการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อเป็นส่วนๆ ไปทีละกลุ่มกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่าง
  4. การออกกำลังกายเป็นวิธีลดความเครียดและลดน้ำหนักได้ดีเยี่ยม อย่างไรก็ดี ถ้าคุณกำลังพักฟื้นหลังการผ่าตัด มันจำเป็นที่คุณจะต้องไม่ออกแรงทำอะไรเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว [14]
    • การเดินทุกวันเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยหลังการผ่าตัดหลายประเภท ฉะนั้นตรวจสอบกับแพทย์ดูว่าเหมาะกับคุณหรือไม่ และคุณจะเริ่มทำได้เมื่อไหร่
    • ปรึกษาแพทย์และนักกายภาพบำบัดเพื่อสร้างแผนการออกกำลังกายที่ปลอดภัยสำหรับคุณ ให้แน่ใจว่าได้ไปตามนัดในการตรวจสภาพร่างกายเพิ่มทั้งกับแพทย์และนักกายภาพบำบัดครบทุกครั้ง เพื่อที่พวกเขาจะยืนยันได้ว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปรึกษาแพทย์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โทรหาแพทย์ถ้าคุณคิดว่าเริ่มเป็นความดันโลหิตสูง. คนส่วนใหญ่ที่เป็นความดันโลหิตสูงมักไม่รู้ว่าตนเองเป็น เพราะมันมักไม่ปรากฏอาการ อย่างไรก็ตาม อาการที่เกิดได้ก็เช่น: [15]
    • หายใจถี่
    • ปวดศีรษะ
    • เลือดกำเดาไหล
    • สายตาพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อน
  2. ควบคุมความดันโลหิตด้วยยาถ้าแพทย์เห็นว่าจำเป็น. แพทย์อาจรู้สึกว่าจำเป็นที่คุณต้องใช้ยาในระหว่างพักฟื้นหลังการผ่าตัด แต่เพราะพวกมันสามารถทำปฏิกิริยากับยาตัวอื่นจึงจำเป็นที่คุณต้องแจ้งยาที่ใช้อยู่ทุกตัวกับแพทย์ นั่นรวมถึงยาที่วางขายทั่วไป อาหารเสริม และยาสมุนไพร แพทย์อาจสั่งจ่าย: [16]
    • ยาขยายหลอดเลือดและลดการทำงานของหัวใจ (ACE inhibitors) ยาตัวนี้ทำงานโดยทำให้หลอดเลือดคลายตัว ยาตัวนี้จะทำปฏิกิริยากับยามากมาย จึงต้องแน่ใจว่าได้ปรึกษาแพทย์ในยาทุกตัวที่ใช้อย่างรอบคอบ
    • ยาปิดกั้นแคลเซียม (Calcium channel blocker) ยาตัวนี้จะขยายหลอดเลือดและอาจลดอัตราการเต้นของหัวใจลง พึงระวังว่าคุณไม่สามารถดื่มน้ำเกรปฟรุตในระหว่างใช้ยาตัวนี้ได้
    • ยาขับปัสสาวะ ยาตัวนี้จะทำให้คุณปัสสาวะบ่อยขึ้นและลดระดับเกลือในร่างกาย
    • เบต้า บล็อกเกอร์ (Beta-blockers) ยาตัวนี้จะทำให้หัวใจเต้นช้าลงและเบาลง
  3. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาตัวอื่นที่กำลังใช้อยู่. หากคุณเป็นกังวลว่ายาตัวอื่นที่ใช้หรือจำเป็นต้องใช้หลังผ่าตัดอาจทำให้ความดันโลหิตแย่ลง ให้ปรึกษาแพทย์ แพทย์จำเป็นต้องได้ภาพที่สมบูรณ์ของทุกอย่างที่คุณใช้เพื่อจะได้สั่งจ่ายยาที่เหมาะกับคุณที่สุด อย่าหยุดใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน ยาที่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้แก่: [17]
    • ยาแก้ปวดที่วางขายทั่วไป นั่นรวมไปถึงยาแก้อักเสบแบบไม่มีสเตียรอยด์ (ไอบูโปรเฟน และอื่นๆ) ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเหล่านี้เพื่อรับมืออาการปวดระหว่างพักฟื้น
    • ยาเม็ดคุมกำเนิดบางตัว
    • ยาลดน้ำมูกกับยาแก้หวัด โดยเฉพาะพวกที่มีส่วนผสมของซูโดเอฟีดรีน
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,073 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา