ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทุกคนมีเหตุผลที่หลากหลายในการลดน้ำหนัก บางคนพยายามที่จะลดน้ำหนักเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ทางกาย ในขณะที่คนอื่นพยายามที่จะลดน้ำหนักโดยมุ่งหวังจะเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรที่คุณพยายามจะลดน้ำหนักให้ได้ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะจำไว้ว่าการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายเพื่อให้น้ำหนักลดลงต้องอาศัยความสม่ำเสมอและความตั้งมั่น เคล็ดลับในบทความนี้จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายของการลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การลดน้ำหนักผ่านการรับประทานอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งสำคัญที่สุดในขั้นตอนแรกของลดน้ำหนักผ่านการรับประทานอาหาร คือการเลือกแผนการรับประทานอาหาร ปรับเปลี่ยนแผนดังกล่าวให้เข้ากับการดำเนินชีวิตของคุณ และกำหนดเป้าหมายของจำนวนน้ำหนักที่ต้องการจะลดให้ชัดเจน มันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการกำหนดแผนที่เหมาะสมกับเป้าหมาย และประวัติทางการแพทย์/สุขภาพของคุณ บางครั้งนักโภชนาการจะจัดการในเรื่องนี้ได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายวิธีในการบรรลุผลการลดน้ำหนักผ่านการรับประทานอาหาร ด้านล่างหัวข้อนี้แสดงให้เห็นถึงแผนการรับประทานอาหาร 2–3 รายการ
    • จำไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรับประทานอาหารแบบไหนที่คุณเลือก ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่าการลดน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์ ไม่ปลอดภัยสำหรับร่างกายคุณ และจากการศึกษาพบว่า การลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วเพิ่มความเสี่ยงในการกลับมามีน้ำหนักตัวเท่าเดิม ในการลดน้ำหนักให้ได้ 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยจำเป็นต้องตัดปริมาณแคลอรี่ระหว่าง 500 - 1,000 แคลอรี่ต่อวันจากอาหารที่ของพวกเขารับประทาน [1] [2]
    • การรับประทานอาหารแบบโลว์หรือโนคาร์บ: วิธีการลดน้ำหนักแบบนี้จะใช้ประโยชน์จากการจำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต และทดแทนคุณค่าสารอาหารของคาร์โบไฮเดรตด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิธีการลดน้ำหนักแบบนี้ นอกเหนือจากจะเป็นประโยชน์กับการลดน้ำหนัก แต่สามารถนำไปสู่การขาดสารอาหาร เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเป็นสารธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของมนุษย์ [3]
    • การรับประทานอาหารแบบโลว์แฟต (ไขมันต่ำ): การลดน้ำหนักแบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตัดการรับไขมันจากการรับประทานอาหารของคุณ ทำให้กำจัดแคลอรี่ส่วนเกินที่สามารถนำไปสู่การมีน้ำหนักเพิ่ม นอกจากนี้ การลดไขมันยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ [4]
    • การรับประทานอาหารแบบโลว์แคลอรี่: การลดน้ำหนักแบบนี้ควบคุมการรับปริมาณแคลอรี่ที่ถูกพบได้ในอาหารทุกประเภท เพื่อช่วยลดปริมาณของมวลร่างกายในแต่ละบุคคล การลดน้ำหนักแบบนี้บ่อยครั้งสามารถนำไปสู่ความเหนื่อยล้า เนื่องจากการรับแคลอรี่ลดต่ำลง ส่งผลให้พลังงานในร่างกายลดลง [5]
  2. มันเป็นสิ่งสำคัญเสมอที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มต้นโปรแกรมลดน้ำหนัก
  3. การดื่มน้ำไม่เพียงแค่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังสามารถช่วยลดความหิวโหย และการกระตุ้นให้อยากกินโดยการทำให้คุณรู้สึกอิ่ม นอกจากนี้ การรับประทานวิตามินรวมในแต่ละวันสามารถช่วยทดแทนสารอาหารพิเศษที่คุณอาจสูญเสียจากการลดน้ำหนัก [6]
    • แพทย์แนะนำว่า ผู้ชายในวัยผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 3 ลิตรต่อวัน และผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2.2 ลิตรต่อวัน [7]
    • วิตามินเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากหลายๆ คนที่เริ่มแผนลดน้ำหนักมีแนวโน้มที่จะตัดปริมาณการรับประทานอาหารที่ร่างกายเคยได้รับ ทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร
  4. การลดน้ำหนัก “ไม่ใช่” การอดอาหาร การรับประทานอาหารเช้าตรงข้ามกับความเชื่อที่เคยมีมา จริงๆ แล้วมันช่วยให้คุณเริ่มต้นกระบวนการเผาผลาญอาหาร หรือเมตาบอลิซึ่ม ซึ่งมีส่วนช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินตลอดทั้งวัน [8]
    • เริ่มต้นวันด้วยมื้ออาหารที่มีปริมาณแคลอรี่ระหว่าง 500–600 แคลอรี่ โดยมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพมากๆ และมีปริมาณแคลอรี่ที่ควรบริโภคตามที่กำหนดนี้จะประกอบไปด้วย กล้วย ข้าวโอ๊ตบดหยาบๆ 1 ชาม ขนมปังธัญพืชเต็มเมล็ด และตามด้วยเนยถั่ว 1–2 ช้อนโต๊ะ โดยทั้งหมดที่กล่าวมาจะให้ส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ซึ่งคาร์โบไฮเดรตจะให้พลังงานอย่างรวดเร็ว และโปรตีนจะให้พลังงานไปตลอดทั้งวัน [9] [10]
  5. หากคุณได้รับประทานอาหารเช้า และวางแผนที่จะรับประทานเย็นไว้แล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รับประทานอาหารกลางวันมื้อใหญ่ อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถรับประทานมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเติมเต็มในเวลาอาหารกลางวันได้ [11]
    • สำหรับอาหารกลางวัน ให้รับประทานอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่อยู่ระหว่าง 300–400 แคลอรี่ โดยสลัด โยเกิร์ต แซลมอน ไก่ (งดไก่ทอด แต่เป็นไก่ย่างได้) ผลไม้ เนยคอทเทจชีส ผักต้ม หรือซุป เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งหมด [12] [13]
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำมัน หรือมีแคลอรี่สูง โดยรวมไปถึงอาหารทอด หรืออาหารที่อุดมไปด้วยซอส และครีม
  6. สำหรับใครหลายๆ คน อาหารมื้อเย็นอาจเป็นมื้ออาหารที่ใหญ่ที่สุดของวัน ดังนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่คุณจะจำกัดสัดส่วนของอาหารที่คุณรับประทานในอาหารมื้อเย็น อย่าเผลอเรอ และหลีกเลี่ยงการตบท้ายมื้อเย็นด้วยของหวาน [14]
    • คุณควรรับประทานอาหารมื้อเย็นที่มีปริมาณแคลอรี่ระหว่าง 400–600 แคลอรี่ ไก่ย่างกับเส้นพาสต้าแป้งโฮลวีต มาฮี มาฮี ทาโก้ ผัดเนื้อบร็อกโคลี่ และเห็ดชิตาเกะ หรือสันในหมูซอสทับทิม เป็นตัวเลือกที่ล้ำเลิศ ที่ให้สารอาหารที่จำเป็น ในขณะที่มีปริมาณแคลอรี่อยู่ในช่วงที่กำหนด [15]
  7. หลีกเลี่ยงของทานเล่น โซดา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ. ของทานเล่น หรือมันฝรั่ง ขนมหวาน อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอื่นๆ ในระหว่างมื้ออาหารเป็นการทำลายล้างการลดน้ำหนักของคุณ ของทานเล่นที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่กล่าวมามีปริมาณแคลอรี่ที่ไม่มีความหมายสูง หรือระดับไขมันสูง ซึ่งส่งผลทำให้มีแคลอรี่ส่วนเกินจากกระบวนการเผาผลาญอาหารของคุณ และถูกเก็บไว้สำหรับการใช้งานในภายหลัง นอกจากนี้ โซดาและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ มีปริมาณแคลอรี่สูง และโดยทั่วไปไม่มีความจำเป็นต่อความต้องการสารอาหารของร่างกายคุณ [16]
    • ทางเลือกที่มี ให้รับประทานของทางเล่น เช่น เมล็ดอัลมอนด์หนึ่งกำมือ แครอทสติ๊ก และฮุมมุส ของทานเล่นแบบซองที่จำกัดปริมาณแคลอรี่ หรือโยเกิร์ต [17]
    • มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการชี้ให้เห็นว่า โซดาที่ปราศจากน้ำตาลไม่ได้ถูกพิสูจน์ว่าได้ผลในการใช้เป็นเครื่องมือในการลดน้ำหนัก แท้จริง ความหวานของโซดาที่ปราศจากน้ำตาลหลอกร่างกายของคุณให้คิดว่าได้รับปริมาณแคลอรี่ที่สูงโดยปราศจากการให้ปริมาณแคลอรี่ที่แท้จริง เพราะเหตุนี้การดื่มโซดาที่ปราศจากน้ำตาลมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความหิวโหย และความปรารถนาในของหวาน และอาหารที่มีแคอลรี่สูง [18]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การลดน้ำหนักผ่านการออกกำลังกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ร่างกายของคุณสามารถรับการออกกำลังกายมากๆ ได้ก่อนที่มันจะรับไม่ไหว ด้วยเหตุนี้มันเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดหลักเกณฑ์ในการออกกำลังกายไม่ให้เกินความสามารถของร่างกายคุณ นอกจากนี้ จำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของคุณในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ (เดิน หรือปั่นจักรยานแทนที่จะขับรถ เดินขึ้นบันไดแทนที่จะขึ้นลิฟต์ เป็นต้น) สามารถเพิ่มปริมาณการออกกำลังกายให้กับร่างกายของคุณได้ตลอดวัน ซึ่งทำให้การออกกำลังกายอย่างจริงจังเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นน้อยลง [19]
    • การกำหนดเป้าหมายที่สูงเกินไปสามารถสร้างสิ่งแวดล้อมเชิงลบ และทำให้คุณล้มเลิก พยายามกำหนดเป้าหมายที่เล็กลงมา สัปดาห์ต่อสัปดาห์ แทนที่จะเป็นเป้าหมายใหญ่ ที่ดูเหมือนว่าจะทำไม่ได้
  2. แน่ใจว่าร่างกายของคุณสามารถรับมือกับการออกกำลังกายได้. มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะรู้ว่าร่างกายของคุณจะสามารถรับมือกับการออกกำลังกายได้ขนาดได้ หากหัวเข่าคุณไม่ดี หลีกเลี่ยงการวิ่ง หรือวิ่งเหยาะๆ บนพื้นผิวที่แข็ง หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือโรคทางร่างกายอื่นๆ แน่ใจว่าคุณได้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรูปแบบในการออกกำลังกาย ว่ามันจะปลอดภัยสำหรับคุณหรือไม่ [20]
  3. แน่ใจว่าคุณเตรียมร่างกายของคุณให้พร้อมก่อนการออกกำลังกาย โดยการยืดกล้ามเนื้อของคุณก่อนการออกกำลังกายจริง วิธีนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ การยืดกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายจะช่วยป้องกันความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ
    • พึงระวังว่าอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายทำให้แผนการลดน้ำหนักของคุณต้องพักไว้ก่อน กล้ามเนื้อตึงหรืออักเสบจะทำให้คุณไม่สามารถออกกำลังกายได้อีกหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนในแต่ละครั้ง และคุณจะมีน้ำหนักกลับมาเท่าเดิม [21]
  4. เลือกการออกกำลังกายที่มีการกระทบกระเทือนต่ำ. ในขณะที่การออกกำลังกายแบบที่มีการกระทบกระเทือนต่ำฟังดูเป็นเรื่องที่เป็นอันตรายต่อการลดน้ำหนัก แต่นี่หมายความว่า ให้หลีกเลี่ยงการใช้แรงมากเกินไปที่ข้อต่อ และกล้ามเนื้อของคุณในระหว่างการออกกำลังกาย การเดิน และวิ่งเหยาะๆ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนอกเหนือจากการวิ่ง เครื่องออกกำลังกายอื่นๆ เช่น เครื่องเดินวงรี (Ellipticals) เครื่องออกกำลังกายที่เลียนแบบการขึ้นบันได (Stair-climbers) และเครื่องกรรเชียงบก (Rolling Machine) จะทำให้คุณแน่ใจว่าร่างกายของคุณไม่ต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น ในระหว่างการออกกำลังกายที่เผาผลาญไขมันส่วนเกิน (Cardio Workouts) [22]
    • นอกเหนือจากการวิ่ง การวิ่งเหยาะๆ การว่ายน้ำ หรือการเดิน ให้คุณออกกำลังกายอย่างง่ายๆ เช่น หมุนแขนเป็นวงกลม เกร็งตัวขึ้นลง (Up Down Planks) นั่งยองตัว (Squats) ยกขา นั่งยองตัวแยกขาขึ้นลง (Pile Squat Rises) ท้าวแขนไว้ด้านหลังลำตัวกับม้านั่ง และยกตัวขึ้นลง (Bench Dips) เตะลม การถือเวตหนักๆ ไว้หว่างขาในความสูงระดับเข่า (Duck Walks) การเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว (Lunges) และการออกกำลังกายอื่นๆ สามารถเป็นเทคนิคที่เป็นประโยชน์ในการช่วยคุณลดน้ำหนัก
  5. ตรวจสอบว่าร่างกายของคุณรู้สึกอย่างไรกับการออกกำลังกาย. แน่ใจว่าคุณบันทึกอัตราการเต้นของชีพจร การหายใจ และอัตราการเต้นของหัวใจของคุณในระหว่างการออกกำลังกาย เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของคุณรับมือกับการใช้แรงในการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หากคุณสังเกตความผิดปกติ หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปรกติในการทำงานของร่างกายคุณ ให้พบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์โดยทันที [23]
  6. การออกกำลังกายนานๆ ครั้งจะมีผลน้อย หรือไม่มีผลเลยกับน้ำหนักของร่างกายคุณ ทันทีที่คุณวางแผนการออกกำลังกายของคุณ ให้ยึดมันเป็นกิจวัตรประจำวัน มีสองเหตุผลสำหรับเรื่องนี้ เหตุผลแรก คุณจะลดน้ำหนักได้ เมื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เหตุผลที่สอง การออกกำลังกายเป็นพักๆ หรือบางช่วงเวลาจะทำให้การลดน้ำหนักของคุณทำได้ยากมากขึ้น เพราะว่าพวกมันไม่ได้สนับสนุนในการเพิ่มเวลา หรือความเข้มข้นที่คุณสามารถให้กับการออกกำลังกาย [24]
    • ต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ยึดมั่นในการออกกำลังกาย และจำไว้ว่าสิ่งใดๆ ที่คุ้มค่าที่จะมีไว้ต้องใช้เวลา มันอาจเป็นความท้าทาย แต่มันก็คุ้มค่า
  7. หากคุณไม่มีตาชั่ง ให้หาซื้อไว้สักอัน! เพื่อทำให้คุณแน่ใจว่าการออกกำลังกายของคุณกำลังช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ คุณมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจดูน้ำหนักของคุณอยู่เสมอ
  8. การลดน้ำหนักผ่านการออกกำลังกายจะไม่เกิดขึ้นได้ในทันทีทันใด มันต้องใช้เวลานานในการเห็นผลที่วัดได้ และในบางครั้ง คุณอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก่อนที่คุณจะลดมันได้ ยึดมั่นกับแผนออกกำลังกายของคุณ และลองให้โอกาสที่จะทำมันอย่างจริงจัง [25]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร (Gastric Bypass Surgery)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนัก เป็นขั้นตอนที่น่าหนักใจที่จะทำ และมีโอกาสที่จะเป็นอันตรายได้ พยายามลองทุกวิธีในการลดน้ำหนัก ก่อนที่จะพิจารณาเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร [26] [27]
  2. รู้ถึงข้อดี และข้อเสียของการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร. การผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ดังนั้นมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะรู้ว่าประโยชน์ และผลข้างเคียงที่เกิดจากการผ่าตัดมีอะไรบ้าง
    • ข้อดี ได้แก่:
    • ข้อเสีย ได้แก่:
      • การผ่าตัดเป็นเรื่องอันตราย มีราคาแพง และประกันสุขภาพอาจไม่มีผลครอบคลุมในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนนี้ [32]
      • คุณสามารถทำให้กระเพาะฉีกขาด หากคุณรับประทานมากเกินไป [33]
      • กระเพาะอาหารของคุณสามารถยืดตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป หมายความว่า การผ่าตัดไม่มีผลถาวร [34]
      • มันไม่ช่วยแก้ปัญหาประเด็นของการมีน้ำหนักเพิ่ม [35]
      • มันสามารถนำไปสู่การขาดอาหารอย่างรุนแรงได้ [36]
  3. ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อาจสามารถช่วยคุณลดน้ำหนักโดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารได้ เขา หรือเธออาจแนะนำทางเลือกในการรักษาอื่นๆ การลดน้ำหนัก โปรแกรมบำบัดรักษา หรือการออกกำลังกายเพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความซับซ้อน และข้อจำกัดต่างๆ ของการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของกระเพาะอาหาร [37] [38]
    • นอกจากนี้ บางคนที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร ในความเป็นจริงอาจมีขนาดตัวที่ใหญ่มากเกินกว่าที่จะเข้าสู่กระบวนการ นี่เป็นเหตุผลสำคัญพอๆ กันที่จะพบแพทย์ และอธิบายถึงความเป็นจริงของการผ่าตัด เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำหนักตัวของคุณ [39]
  4. ตัดสินใจหากการลดน้ำหนักมันคุ้มค่าที่จะเสียสละ. แพทย์จะบอกคุณ หากคุณเหมาะสมสำหรับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารหรือไม่ และควรบอกคุณให้รู้ถึงข้อจำกัดที่คุณจะต้องเผชิญหลังการผ่าตัด ข้อจำกัดดังกล่าว ได้แก่ ข้อจำกัดของความสามารถในการรับประทานอาหาร ข้อห้ามเรื่องอาหารที่คุณสามารถรับประทานได้ และความรู้สึกไม่สบายท้องในระหว่าง หรือหลังการรับประทานอาหาร [40] [41]
  5. นัดหมายกำหนดการ และเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนการ. การผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารไม่สามารถทำได้อย่างง่ายๆ มันเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่มีความซับซ้อน ที่ทำให้คุณมีความจำเป็นต้องลาหยุดงานเพื่อพักฟื้น และจำเป็นต้องมีผู้ช่วยที่เป็นเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวเพื่ออยู่เฝ้าคุณหลายได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือหลายวัน หลังจากกระบวนการผ่าตัดเสร็จสิ้น ดังนั้นแน่ใจว่าคุณได้วางแผนไว้ล่วงหน้า [42]
  6. ทันทีที่คุณเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร คุณจำเป็นต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดสำหรับการฟื้นฟู เพื่อให้แน่ใจถึงผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ผู้ที่ผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหารจำเป็นต้องมาพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจวัดว่าคุณกำลังฟื้นตัวจากกระบวนการได้ดีแค่ไหน [43]
    • หากคุณเข้าสู่กระบวนการนี้เพื่อมุ่งหวังที่จะมีรูปร่างที่ดูดีขึ้น พึงตระหนักว่าจำเป็นต้องมีการผ่าตัดอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อกำจัดผิวส่วนเกิน และทำให้พื้นที่ที่ถูกผ่าตัดเข้ารูป และดูสวยงาม [44]
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • เปลี่ยนแปลงสิ่งที่คุณรับประทาน คุณจะรู้สึกเบื่อ หากคุณไม่ทำ
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามออกกำลังกายให้มากเกินไป หากคุณรู้สึกไม่ดี หรือเจ็บปวด ให้หยุด เนื่องจากคุณกำลังทำให้ร่างกายของคุณได้รับการบาดเจ็บ และเกิดความตึงเครียด!


โฆษณา
  1. http://www.eatingwell.com/nutrition_health/weight_loss_diet_plans/what_does_a_1500_calorie_day_look_like
  2. http://www.health.com/health/gallery/0,,20513624_3,00.html
  3. http://www.caloriecount.com/
  4. http://www.eatingwell.com/nutrition_health/weight_loss_diet_plans/what_does_a_1500_calorie_day_look_like
  5. http://www.health.com/health/gallery/0,,20513624_8,00.html
  6. Jillian Michaels, The Master Your Metabolism Cookbook (New York: HarperCollins, 2005)
  7. http://www.health.com/health/gallery/0,,20513624,00.html
  8. http://www.health.com/health/gallery/0,,20778689,00.html
  9. http://www.health.com/health/gallery/0,,20778689,00.html
  10. http://www.health.harvard.edu/healthbeat/10-tips-for-exercising-safely
  11. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/fitness/multimedia/stretching/sls-20076840
  12. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/fitness/multimedia/stretching/sls-20076840
  13. http://www.health.harvard.edu/healthbeat/10-tips-for-exercising-safely
  14. http://www.health.harvard.edu/healthbeat/10-tips-for-exercising-safely
  15. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/exercise/art-20050999?pg=1
  16. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/exercise/art-20050999?pg=1
  17. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007199.htm
  18. http://www.mayoclinic.org/tests-procedures/bariatric-surgery/basics/definition/prc-20019138
  19. https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=134&ContentID=154
  20. https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=134&ContentID=154
  21. https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=134&ContentID=154
  22. https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=134&ContentID=154
  23. https://asmbs.org/patients/bariatric-surgery-procedures#bypass
  24. http://www.lapbypass.com/risks-and-benefits/
  25. http://www.lapbypass.com/risks-and-benefits/
  26. https://asmbs.org/patients/bariatric-surgery-procedures#bypass
  27. http://www.lapbypass.com/risks-and-benefits/
  28. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007199.htm
  29. http://www.mayoclinic.org/tests-procedures/bariatric-surgery/basics/definition/prc-20019138
  30. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007199.htm
  31. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007199.htm
  32. http://www.mayoclinic.org/tests-procedures/bariatric-surgery/basics/definition/prc-20019138
  33. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007199.htm
  34. http://www.mayoclinic.org/tests-procedures/bariatric-surgery/basics/definition/prc-20019138
  35. https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/007199.htm

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,727 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา