ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ลดน้ำหนักหลายกิโลในอาทิตย์เดียวฟังแล้วดูย๊ากยาก แต่จริงๆ แล้วก็พอมีวิธีอยู่ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมใน 1 อาทิตย์ให้คุณเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขาวิจัยกันมาแล้ว ว่าวิธีลดน้ำหนักได้เร็วทันใจที่สุด ก็คือกินอาหารที่ไม่ค่อยมีคาร์โบไฮเดรต (low-carb) [1] พวกแป้งๆ น่ะลดหน่อย ถ้าอยากลดได้ใกล้ 5 กิโลใน 1 อาทิตย์ที่สุด
    • คาร์โบไฮเดรตมีอยู่ในอาหารมากมายหลายอย่าง ขอให้ลดอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเยอะเป็นพิเศษอย่างแป้งหรือธัญพืช เช่น ขนมปัง ข้าว บะหมี่ และธัญพืชต่างๆ ยังไงคุณก็ได้สารอาหารจากเมนูอื่นทดแทนแน่นอน
    • ผลิตภัณฑ์นม ผักที่มีแป้งเยอะ และผลไม้บางอย่างก็มีคาร์โบไฮเดรต พวกนี้ก็ต้องลดปริมาณ แต่อย่าถึงกับงดไปเลย เพราะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย [2]
  2. นอกจากอาหาร low-carb แล้ว ขอให้กิน lean protein หรือโปรตีนไขมันต่ำด้วย ยิ่งคาร์โบไฮเดรตต่ำแต่โปรตีนสูง ก็ยิ่งน้ำหนักลดเร็ว [3]
    • เน้นแต่โปรตีนไขมันต่ำ เพราะแคลอรี่ก็ต่ำตามไปด้วย น้ำหนักจะได้ลดเร็ว ให้กินพวกเนื้อไก่ไร้หนัง ไข่ เนื้อไม่ติดมัน อาหารทะเล ถั่วฝัก แล้วก็เต้าหู้ เป็นต้น
    • ทั้งมื้อหลักและของว่างต้องมีโปรตีน จะได้ถึงตามปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน โปรตีน 1 serving (1 หน่วยบริโภค) จะประมาณ 3 – 4 ออนซ์ หรือก็คือขนาดประมาณสมุดเช็คนั่นเอง [4]
    • โปรตีนช่วยให้น้ำหนักลดเพราะคุณจะอิ่มนาน ไม่หิวบ่อยจนกินจุ๊บจิ๊บ
  3. อาหารแต่ละมื้อจะครบหมู่ ถ้าครึ่งหนึ่งของจานเป็นผักผลไม้ พวกนี้เป็นอาหารแคลอรี่ต่ำแต่อุดมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
    • สสส. หรือสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ยังเคยแนะนำ (กระทั่งทำโฆษณาออกมา) ว่าอาหารแต่ละมื้อควรมี "ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง" แต่เราขอเสริมว่าให้เพิ่มผลไม้ด้วย ถึงจะบอกว่ากำลังไดเอ็ตอยู่ก็กินได้ไม่ทำให้อ้วน (แถมอิ่มนาน) แต่ต้องเลือกผลไม้ดีๆ เพราะบางชนิดจะหนักคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล
    • แต่ละมื้อต้องมีผัก 1 serving หรือก็คือผักใบเขียวประมาณ 1 - 2 ถ้วยตวง [5] ถ้าชอบผลไม้ก็กินสัก 1 ชิ้น หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1/2 ถ้วยตวงแทน [6]
    • ทั้งผักและผลไม้เป็นอาหารที่แคลอรี่ต่ำ อาหารแต่ละมื้อเลยพลอยลดแคลอรี่ลงไปได้เยอะ น้ำหนักก็จะลดลง
  4. ไม่ว่าจะลดหรือไม่ลดน้ำหนัก ก็ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ ข้อนี้ไม่ได้เน้นลดน้ำหนัก แต่เพื่อสุขภาพที่ดี
    • นักโภชนาการส่วนใหญ่แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 2000 มล. (ประมาณ 64 ออนซ์ หรือ 8 แก้วต่อวัน) ซึ่งเป็นเรื่องที่เราน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ปริมาณที่แนะนำอาจสูงได้ถึง 13 แก้วต่อวัน อันนี้แล้วแต่น้ำหนักตัวและกิจกรรม [7]
    • เลือกดื่มแต่น้ำที่ไม่มีแคลอรี่ (แคลอรี่ต่ำ) และมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำเปล่า น้ำแต่งรส/กลิ่น หรือชา/กาแฟคาเฟอีนต่ำ (ไม่เพิ่มนมและน้ำตาล)
    • เวลาร่างกายขาดน้ำ จะส่งสัญญาณไปที่สมอง ทำให้รู้สึกเหมือนหิวและโหย คุณเลยซัดแหลก ไม่ว่าจะอาหารหรือขนม จนแคลอรี่เกินพิกัด [8]
    • พยายามดื่มน้ำ 1 - 2 แก้วก่อนมื้ออาหาร จะได้อิ่มเร็วขึ้นโดยไม่กินอาหารมากเท่าเดิม
  5. แอลกอฮอล์ไม่เพียงจะเพิ่มแคลอรี่ ยังกระตุ้นให้คุณรับประทานมากขึ้นอีก คนส่วนใหญ่จะดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าหนึ่งหน่วยบริโภคเป็นธรรมดา ยิ่งหมายถึงแคลอรี่เพิ่มเร็ว การเลิกดื่มจึงช่วยให้คุณผอมลงไวขึ้นและตามเป้ามากขึ้น [9]
    • การจำกัดแอลกอฮอล์อาจช่วยให้คุณมีพลังงานมากขึ้นด้วย
  6. จำกัดปริมาณคาเฟอีนเพื่อไม่ทำให้ระบบร่างกายรวน. คาเฟอีนปริมาณเล็กน้อยช่วยลดน้ำหนักได้เพราะมันช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหารในระยะสั้น และอาจลดความอยากอาหารลง อย่างไรก็ตาม คาเฟอีนยังทำหน้าที่เป็นตัวขับของเหลว นั่นหมายถึงร่างกายจะขาดน้ำ อีกทั้งแหล่งที่ให้คาเฟอีนทั้งกาแฟ ชาหรือช็อกโกแล็ตนั้นล้วนมีส่วนผสมเป็นแคลอรี่เพิ่มเข้ามาจากทั้งนมและน้ำตาล [10]
    • เวลาดื่มชากาแฟ อย่าเติมนมกับน้ำตาล
  7. ชาเขียวหรือมัตฉะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดน้ำหนัก ดื่มชาเขียวเป็นประจำจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญภายในช่วงหลังดื่ม [11]
    • อย่าเติมสารให้ความหวานลงในชา เพราะจะไปเพิ่มแคลอรี่
  8. ลองรับประทานอาหารให้เสร็จก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง. การตัดอาหารค่ำช่วยคุณลดแคลอรี่ ถ้าคุณชอบทานอาหารว่างตอนดึก แม้การทานอาหารดึกจะไม่ส่งผลต่อการเผาผลาญหรือการที่ร่างกายใช้แคลอรี่ แต่ช่วงค่ำเป็นการทานที่ไม่จำเป็นที่สุด [12]
    • เช่ คุณอาจวางแผนไม่รับประทานอะไรอีกหลังหนึ่งทุ่มเป็นต้นไป
    • อีกประโยชน์หนึ่งคือการห้ามทานแต่หัวค่ำช่วยคุณเผาผลาญไขมันได้มากกว่าถ้าคุณไม่ทานอะไรเลยอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เช่น ถ้าคุณหยุดทานในเวลาหนึ่งทุ่มและไม่ได้ทานมื้อเช้าจนกระทั่งถึงเวลาเจ็ดโมงเช้านั้น ร่างกายอาจไปหยิบไขมันที่สะสมไว้มาใช้ให้พลังงานแทน ซึ่งจะช่วยในการลดน้ำหนัก [13]
  9. นักโภชนาการหรือคุณหมอบางคนอาจมองว่าการลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมใน 1 อาทิตย์ดูไม่ค่อยปลอดภัยและเป็นไปไม่ค่อยได้ แต่ถ้าลดอาหาร เปลี่ยนไปเน้นอาหารเสริมแท่งหรือพวกโปรตีนเชค ก็อาจลดน้ำหนักตามที่ตั้งเป้าไว้ได้ [14]
    • อาหารเสริมสำหรับลดน้ำหนักส่วนใหญ่จะเป็นพวกโปรตีนเชคหรือโปรตีนบาร์แบบแคลอรี่ต่ำมาก ซึ่งก็กินแทนอาหารได้เลย เพราะมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ เกลือแร่และวิตามินต่างๆ ที่จำเป็นมากพอๆ กับอาหารทั่วไป [15]
    • เดี๋ยวนี้มีอาหารเสริมให้คุณเลือกซื้อมากมายสารพัดแบบ แต่ทางที่ดีให้ปรึกษาคุณหมอหรือนักโภชนาการก่อน จะได้เข้ากับสภาพร่างกายของคุณที่สุด ข้อเสียคืออาหารเสริมพวกนี้มักขายเป็นชุดหรือเป็นโปรแกรม ราคาค่อนข้างแพง ถ้าสนใจก็ขอให้เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือและคนนิยม
    • ตามห้างหรือซูเปอร์ เดี๋ยวนี้ก็มีอาหารเสริมพวกนี้ขาย ยังไงลองศึกษาข้อมูลออนไลน์ก่อน แล้วเลือกที่ตรงกับงบ สภาพร่างกาย และชีวิตประจำวันของคุณที่สุด
    • ควรกินอาหารเสริมสำหรับลดน้ำหนักแค่ชั่วคราวตามระยะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แต่เราแนะนำว่าอย่ากินอาหารเสริมแคลอรี่ต่ำแบบนี้นานเกิน 1 - 2 อาทิตย์จะดีที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ออกกำลังกายหน่อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอหรือแอโรบิกจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้เยอะ ยิ่งถ้าคุณกินอาหารที่เหมาะสม คาร์ดิโอเสริมแล้วรับรองลดน้ำหนักเร็วทันใจ [16]
    • จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เผยแพร่โดยสสส. ก็แนะนำว่าให้ออกกำลังกายหนักปานกลางให้ได้อย่างน้อย 150 นาที หรือประมาณ 2 1/2 ชั่วโมง ต่ออาทิตย์ แต่ถ้าอยากเบิร์นให้ได้มากกว่านั้น ก็ต้องเป็น 300 นาทีต่ออาทิตย์แทน (เด็กและวัยรุ่นสามารถออกได้มากถึงวันละ 60 นาที หรือ 420 นาทีต่ออาทิตย์เลยทีเดียว) [17]
    • Moderate intensity activity หรือการออกกำลังกายแบบหนักปานกลางนั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน ขอแค่คุณออกแล้วหายใจหอบ เหงื่อแตก (ไม่มากเกินไป) แต่ยังออกต่อได้อย่างน้อย 20 – 30 นาที
    • กิจกรรมที่น่าสนใจก็เช่น เดินเร็ว วิ่ง จ็อกกิ้ง ว่ายน้ำ ชกมวย หรือเล่นเครื่อง elliptical
  2. นอกจากคาร์ดิโอแล้ว อาจจะลองเสริมการออกกำลังกายหนักๆ อย่าง interval training หรือ HIIT เข้ามา โดย HIIT นั้นจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มเติมในแต่ละอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี [18]
    • HIIT ถือเป็นการออกกำลังกายแนวใหม่ที่คนนิยมกัน เขาวิจัยกันมาแล้วว่าช่วยเบิร์นแคลอรี่มหาศาลในช่วงเวลาแค่แป๊บเดียว ร่างกายคุณจะเผาผลาญแคลอรี่จากไขมันได้เพิ่มขึ้นเยอะเลย [19]
    • HIIT ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญหรือ metabolism ของร่างกายได้ดีมาก ถึงจะออกกำลังกายเสร็จไปแล้ว แต่ร่างกายคุณจะเบิร์นแคลอรี่ส่วนเกินต่อไปได้อีกหลายชั่วโมง บางทียาวถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว [20]
    • ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบ HIIT ก็เช่น วิ่งเร็ว (sprint) 1 นาที ต่อด้วยวิ่งเหยาะๆ 1.5 นาที เป็นต้น โดยคุณต้องออกสลับกันไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 นาที รวม warm up 5 นาที และ cool down 5 นาทีด้วย
  3. ถ้าอยากเบิร์นแคลอรี่เรื่อยๆ ตลอดวัน ก็ต้องอย่าอยู่เฉย ยิ่งคุณขยับตัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเผาผลาญได้มากขึ้นเท่านั้น
    • Lifestyle หรือ baseline activity คือกิจวัตรประจำวันที่คุณทำตามปกติ เช่น เดินไปมา ขึ้นรถลงรถ หรืองานบ้านต่างๆ
    • ถ้าทำแต่กิจวัตรประจำวันก็ต้องเพิ่มให้หนักหรือมากขึ้น รวมถึงเดินให้เยอะๆ ขึ้นบันไดแทนลิฟท์ อย่าใช้ทางลัดเวลาไปไหน จอดรถให้ไกลออกไป หรือวิ่งอยู่กับที่ตอนดูทีวีแล้วพักโฆษณา
  4. ถ้ากินก็ต้องเป็นของที่มีประโยชน์ แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักเร็วๆ ก็ต้องกินแต่อาหารมื้อหลักเท่านั้น จะได้ควบคุมแคลอรี่ถูก
    • ถ้าเกิดหิวระหว่างมื้อ ให้ดื่มน้ำเปล่าสักแก้ว หรือชา/กาแฟที่ไม่หวานและคาเฟอีนต่ำ อย่างน้อยน้ำและรสชาติจะได้หลอกสมองว่าคุณอิ่มแล้ว
    • ถ้าทนไม่ไหวอยากกินของว่างจริงๆ ก็ขอให้เลือกอะไรที่แคลอรี่ต่ำกว่า 100 - 150 แคลอรี่ แต่ดีที่สุดคือโปรตีนไขมันต่ำ จะได้เพิ่มโปรตีนระหว่างวัน
    • ของว่างที่ปลอดภัยก็เช่น อัลมอนด์หรือถั่วต่างๆ 1 หยิบมือ (8 เมล็ด) นมถั่วเหลือง 1 แก้ว ฮัมมัส 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ไข่ต้มสุก หรือกรีกโยเกิร์ตแบบไร้ไขมัน [21]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปรับกิจวัตรประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนอนหลับพักผ่อนถือว่าสำคัญต่อสุขภาพร่างกายมาก ยิ่งตอนลดน้ำหนัก ร่างกายอาจอ่อนเพลีย ยิ่งต้องพักผ่อนเยอะๆ ถึงจะลดน้ำหนักแค่อาทิตย์เดียวก็เหมือนกัน [22]
    • ถ้านอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะต่อต้าน ทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้น อดนอนแล้วร่างกายจะยิ่งหลั่งฮอร์โมนมากขึ้นจนทำให้คุณหิวบ่อยแทน แถมคนที่นอนไม่พอจะโหยอาหารมันๆ อ้วนๆ อีกต่างหาก [23]
    • นอนให้ได้อย่างน้อย 7 - 9 ชั่วโมงต่อวัน ให้เข้านอนแต่หัวค่ำ แล้วเดี๋ยวดึกๆ ก็หลับไปเอง อย่าลืมเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่อาจส่งเสียงหรือมีแสงรบกวนการนอน
  2. ก็เหมือนการนอน ถ้าเครียดจัดจะทำให้ลดน้ำหนักยากยิ่งขึ้น [24] ให้ผ่อนคลายความเครียดให้ได้มากที่สุด
    • คนเราเครียดกันได้เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเครียดไม่เลิก ถึงจะแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ร่างกายก็หลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากกว่าปกติอยู่ดี ฮอร์โมนนี้แหละที่จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ยาก แถมยังทำให้รู้สึกเหนื่อยและหิวกว่าปกติด้วย [25]
    • ใช้เทคนิคผ่อนคลายความเครียดร่วมกับการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ เช่น ไปเดินเล่น อาบน้ำอุ่นจัด คุยกับเพื่อนหรือครอบครัว ไม่ก็ดูหนังฟังเพลง อ่านหนังสือ
    • ถ้าเครียดจัดเกินจะผ่อนคลาย หรือต้องกินคลายเครียด กินแต่ของไม่มีประโยชน์แต่ทำให้สบายใจ ควรปรึกษา life coach หรือนักจิตบำบัดจะดีที่สุด
  3. ลดน้ำหนักเยอะๆ ในเวลาอันสั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก อีกวิธีคือลองกินยาขับปัสสาวะจากร้านขายยาดู แบบนี้น้ำหนักก็ลดลงแน่นอน
    • ยาขับปัสสาวะ (diuretic) เป็นยาที่กินแล้วร่างกายจะขับน้ำส่วนเกินออกมา เพราะอาหารกับชีวิตประจำวันของคุณอาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ไม่รู้ตัว เลยทำให้ตัวบวมๆ อืดๆ หรือน้ำหนักที่ชั่งได้เยอะกว่าที่ควร
    • แต่ต้องกินแค่ 2 - 3 วันเท่านั้น แค่พอให้ขับน้ำออกมาแล้วน้ำหนักลดเพิ่มอีกไม่กี่โลก็พอ [26]
    • ห้ามกินต่อเนื่องนานๆ เด็ดขาด เพราะอันตรายมาก ควรปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรก่อน ว่าปลอดภัยแค่ไหน และเหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณหรือเปล่า
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก่อนจะลดน้ำหนักเยอะๆ เปลี่ยนแปลงอาหารการกิน หรือออกกำลังกายหนักขึ้น ให้ปรึกษาคุณหมอก่อน
  • ถ้าหิวจัด ให้ดื่มน้ำ 2 แก้วก่อน แล้วค่อยกินอาหาร จะได้กินน้อยแต่อิ่มเร็วขึ้น
โฆษณา
  1. https://www.verywellfit.com/can-caffeine-help-you-lose-weight-1087894
  2. https://www.healthline.com/nutrition/matcha-green-tea#benefits
  3. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4425165/
  4. https://www.medicalnewstoday.com/articles/322293.php
  5. http://www.weightlossresources.co.uk/diet/meal_replacement.htm
  6. http://www.diabetes.co.uk/diet/meal-replacement-diet-plans.html
  7. http://www.cdc.gov/physicalactivity/basics/adults/
  8. http://www.thaihealth.or.th/Content/34044-%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%20%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84.html
  9. http://www.shape.com/fitness/workouts/8-benefits-high-intensity-interval-training-hiit
  10. http://www.shape.com/fitness/workouts/8-benefits-high-intensity-interval-training-hiit
  11. http://www.shape.com/fitness/workouts/8-benefits-high-intensity-interval-training-hiit
  12. http://www.eatrightontario.ca/en/Articles/Food-technology/Biotechnology/Novel-foods/The-truth-about-nitrates.aspx#.V2BOizUq4b0
  13. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/expert-answers/sleep-and-weight-gain/faq-20058198
  14. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/expert-answers/sleep-and-weight-gain/faq-20058198
  15. http://www.prevention.com/weight-loss/weight-loss-tips/how-prevent-weight-gain-due-stress-and-anxiety
  16. http://www.prevention.com/weight-loss/weight-loss-tips/how-prevent-weight-gain-due-stress-and-anxiety
  17. http://www.health.com/health/gallery/0,,20517473_16,00.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,636 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา