ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อาการนิ้วบวม อาจจะเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บหรืออาการบวมน้ำ ซึ่งเป็นอาการทั่วไปที่ทำให้ของเหลวส่วนเกินถูกเก็บไว้ในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ มือ เท้า ข้อเท้า และขา อาการบวมน้ำอาจจะเกิดจากการตั้งครรภ์ ยา หรือภาวะทางการแพทย์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับไต ภาวะแทรกซ้อนในระบบน้ำเหลือง หรือภาวะหัวใจล้มเหลว นี่คือคำแนะนำเพื่อการลดอาการนิ้วบวม

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

วินิจฉัยอาการบวม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การรับประทานอาหารรสเค็มมากเกินไปสามารถทำให้นิ้วบวมได้ อาหารบางอย่างมีปริมาณโซเดียมอยู่สูงมากอย่างอาหารที่ผ่านการแปรรูปอย่างสูงเช่น: [1]
    • ซุปกระป๋อง
    • เนื้อตัดเย็น
    • พิซซ่าแช่แข็ง
    • ซอสถั่วเหลือง
    • ค็อทเทจ ชีส
    • มะกอก
  2. หาดูว่าอาการบาดเจ็บใดๆ เป็นสาเหตุของการบวมหรือไม่. การบาดเจ็บเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยๆ ของเหลวอย่างเช่น เลือดนั้นจะสะสมอยู่ในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บทำให้เกิดอาการบวม รักษาอาการบาดเจ็บก่อนโดยใช้ความเย็น (ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดหดตัว) แล้วค่อยใช้ความร้อน [2] (ซึ่งนี่จะช่วยทำให้ของเหลวกระจายตัวออกไป)
    • ถ้ารอยฟกช้ำหรืออาการบาดเจ็บของคุณคงอยู่นานกว่าสองสัปดาห์ อาการเริ่มรุนแรงขึ้นหรือบ่อยขึ้น หรือมีสัญญาณของการติดเชื้อที่ผิวหนังแล้วล่ะก็ ให้ปรึกษาแพทย์ทันที
  3. เมื่อร่างกายของคุณเผชิญกับบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการแพ้ มันจะปล่อยสารฮีสตามีนสู่กระแสเลือดของคุณ [3] คุณสามารถกินยาแก้แพ้เพื่อลดอาการบวมได้ ถ้าคุณประสบปัญหาอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการหายใจหลังจากเกิดอาการแพ้ ให้ปรึกษาแพทย์ทันที
  4. ชั่งน้ำหนักเพื่อดูว่าอาการบวมเกิดจากความอ้วนหรือไม่. โรคอ้วนทำให้ระบบน้ำเหลืองในร่างกายเกิดการชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้มีอาการบวมน้ำที่มือและเท้า ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อหาแผนลดน้ำหนัก ถ้าคุณเชื่อว่าอาการบวมของคุณนั้นอาจจะเป็นผลมาจากโรคอ้วน
  5. บอกแพทย์ว่าคุณคิดว่าอาการบวมนั้นอาจเกิดจากการติดเชื้อ. ยกตัวอย่างเช่น มือของคุณอาจจะเกิดปัญหาโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome) หรือเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis) การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ส่งผลกระทบต่อมือนั้นจะเข้าสู่กระแสเลือดและต่อมน้ำเหลือง คุณจึงควรปรึกษาแพทย์ถ้าคุณสงสัยว่าเกิดการติดเชื้อใดๆ ก็ตาม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

การเข้าใจตัวเลือกในการรักษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขยับนิ้วไปมาจะสูบของเหลวส่วนเกินกลับเข้าสู่หัวใจ การเคลื่อนไหวทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณนั้น ซึ่งจะกระตุ้นความดันที่จำเป็นในการสูบของเหลวส่วนเกินออกไป การออกกำลังอาจจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างการพิมพ์บนแป้นพิมพ์ การงอนิ้ว หรือใช้มือในการแต่งตัวหรือจัดอาหารเช้า การเคลื่อนไหวนิ้วมือใดๆ ก็ตามจะลดอาการบวมได้
    • ถ้าคุณไม่มีเวลาออกกำลังกายแบบเดิมๆ ให้ลองเดินเร็วๆ 15 นาทีวันละครั้ง การเดินแค่เพียง 10-15 นาทีนั้นเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเพิ่มการไหลเวียนทั่วร่างกายของคุณ แกว่งหรือขยับมือขึ้น-ลงในขณะที่คุณเดิน
    • คนที่เป็นโรคอ้วนมีแนวโน้มว่าจะเกิดอาการบวมน้ำมากกว่า เพราะว่าระบบน้ำเหลืองทำงานช้าลง อาการบวมอาจจะลดลงหากระบบน้ำเหลืองกลับมาทำงานได้อีกครั้ง การออกกำลังกายบ่อยขึ้น การวางแผนกินอาหารที่มีดีต่อสุขภาพที่ประกอบด้วย ผัก ผลไม้ และโปรตีน และการดื่มน้ำมากขึ้นอาจจะช่วยให้ร่างกายมีระบบน้ำเหลืองที่ทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
  2. อาการบวมอาจจะเกิดจากการไหลเวียนไม่ดีหรือเลือดที่คั่งอยู่ในมือของคุณ การยกมือขึ้นจะช่วยทำให้เลือดที่คั่งอยู่ไหลกลับสู่ร่างกาย
    • ยกนิ้วที่บวมให้อยู่เหนือหัวใจเป็นเวลา 30 นาที อย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้งเพื่อรักษาอาการบวมน้ำอย่างรุนแรง แพทย์ยังแนะนำให้ยกมือขึ้นเหนือหัวใจตอนนอนหลับอีกด้วย
    • ยกมือและนิ้วมือขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ เพื่อบรรเทาอาการบวมเล็กน้อย
    • ลองยกมือขึ้นเหนือศีรษะของคุณ ประสานกัน และวางไว้ด้านหลังศีรษะ ดันหัวไปข้างหลังและต้านแรงมือเล็กน้อย ปล่อยมือออกหลังจาก 30 วินาที สะบัดมือ และทำขั้นตอนนี้ซ้ำหลายๆ ครั้ง
  3. นวดเนื้อเยื่อในนิ้วที่บวมไปยังหัวใจของคุณ ใช้แรงถูที่หนักแน่น การนวดมือจะกระตุ้นกล้ามเนื้อและการไหลเวียนของเลือดไปยังนิ้วมือของคุณ ซึ่งจะช่วยผลักของเหลวส่วนเกินที่เป็นสาเหตุให้นิ้วมือของคุณบวมออกไป
    • ลองไปนวดมือและนวดเท้าที่ร้านนวด การนวดมือและนวดเท้าอาจจะมีราคาไม่แพงมาก
    • นวดมือด้วยตัวเอง ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของมือข้างหนึ่งบีบเบาๆ แต่มั่นคงบนมืออีกข้างหนึ่ง ไล่นิ้วโป้งและนิ้วชี้จากฐานของฝ่ามือไปจนปลายนิ้ว ทำซ้ำบนแต่ละนิ้ว จากนั้นให้เปลี่ยนมือ
  4. ถุงมือบีบรัดทำให้เกิดความดันที่มือและนิ้วของคุณ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของเหลวส่วนเกิน
  5. เกลือทำให้ร่างกายของคุณกักน้ำและของเหลวส่วนเกินไว้ ซึ่งอาจจะมีผลต่อนิ้วมือของคุณ คุณจะลดโอกาสในการกักของเหลวส่วนเกินได้โดยการจำกัดปริมาณการบริโภคเกลือ ถ้าคุณรู้สึกว่าอาหารจืดเกินไปเมื่อใส่เกลือน้อยลง ให้ใช้เครื่องปรุงรสอื่นๆ เพื่อปรุงรสอาหารของคุณ
  6. รักษาอุณหภูมิในบ้านหรือที่ทำงานของคุณให้พอเหมาะ. อุณหภูมิปานกลางจะช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้น รักษาอุณหภูมิรอบๆ ตัวให้คงที่เพื่อลดอาการบวมที่นิ้วที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่มากเกินไป
    • งานศึกษาต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการอาบน้ำร้อนจากฝักบัวหรือจากอ่างอาบน้ำ และการประคบร้อนจะเพิ่มอาการบวมในส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ได้เกิดอาการ เช่น นิ้วมือ [4]
    • การสัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวจัดอาจจะเพิ่มอาการบวมได้เช่นกัน ถ้าอาการบวมที่มือของคุณเกิดจากอาการฟกช้ำ อุณหภูมิที่เย็นปานกลาง (เช่น ถุงประคบเย็นที่ห่อด้วยผ้า) จะลดอาการบวมได้
  7. ยาขับปัสสาวะมักจะลดการกักของเหลวในผู้ป่วยที่มีอาการบวมน้ำและอาการบวม อาการบวมที่นิ้วมือของคุณอาจจะบรรเทาลงได้โดยใช้ยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • วางถุงประคบเย็นไว้บนนิ้วที่บวม ถ้ามันไม่ยุบลง อาจจะเป็นเพราะกระดูกที่มีเลือดออกนั้นเคล็ดหรือหัก
  • วิธีการบรรเทาที่อาจจะช่วยได้วิธีหนึ่ง คือ พยายามดึงนิ้วนาง แล้วก็นิ้วกลาง ตามด้วยนิ้วชี้ แล้วก็นิ้วก้อย และจบด้วยการดึงนิ้วโป้ง นี่สามารถช่วยลดอาการปวดนิ้ว รวมไปถึงโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือได้ [5]
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าอาการบวมยังคงอยู่เป็นเวลานานโดยไม่ดีขึ้นหรือเกิดอาการบวมอย่างรุนแรง ให้ติดต่อแพทย์ทันที อาการบวมน้ำอย่างรุนแรงหรือเรื้อรังอาจจะเป็นสัญญาณของภาวะที่รุนแรงมากกว่านั้น เช่น เนื้องอก หัวใจล้มเหลว หรือปัญหาทางการแพทย์อื่นๆ ที่ต้องรับการรักษาทันที
  • หญิงตั้งครรภ์ควรจะติดต่อแพทย์เสมอก่อนเริ่มกินยาชนิดใดๆ ก็ตามเพื่อลดอาการบวมที่มือหรือนิ้วมือ ไม่แนะนำให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ใช้ยาขับปัสสาวะ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ถุงมือบีบรัด
  • ยาขับปัสสาวะ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 109,414 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา