PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การลดไขมันรวมของร่างกายไม่เพียงแต่จะช่วยคุณลดน้ำหนัก แต่ยังมีส่วนสำคัญในการทำให้สุขภาพดีขึ้น ประโยชน์ของการลดไขมันส่วนเกินนั้นมีทั้งการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ [1] เวลาที่คุณพยายามจะลดน้ำหนัก จะดีที่สุดถ้าจะลดเฉพาะไขมันส่วนเกิน อย่างไรก็ดี ถ้าปราศจากการวางแผนที่ถูกต้องแล้ว การลดน้ำหนักจะกลายเป็นการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อแทน [2] ถึงแม้จะเห็นว่าน้ำหนักโดยรวมนั้นลดลง ทว่าการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อนั้นจะทำให้รู้สึกอ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรง เหนื่อยล้า มีสมรรถภาพการออกกำลังลดลง และลดอัตราการเผาผลาญอาหาร [3] แผนการควบคุมอาหารที่มีความสมดุลจะช่วยลดมวลไขมันส่วนเกิน ช่วยให้มวลกล้ามเนื้อสูญเสียน้อยที่สุด และทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คาร์ดิโอเป็นวิธีเผาผลาญแคลอรี่ได้ทันทีที่รวดเร็วที่สุด ออกกำลังกายในระดับปานกลางไปจนถึงเข้มข้นสัปดาห์ละสองสามครั้งและเน้นการออกกำลังกายที่มีความหนักสลับกับเบาเพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมัน นี่จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่จากไขมันนอกเหนือจากการทำให้สุขภาพของหลอดเลือดหัวใจดีขึ้น [4]
    • ตั้งเป้าที่จะออกกำลังระดับความเข้มข้นปานกลาง (ซึ่งคุณยังพูดประโยคสั้นๆ ได้อย่างสบาย) อย่างน้อย 150 นาทีในแต่ละสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม รวมการออกกำลังแบบเข้มข้น (ซึ่งคุณไม่สามารถพูดเกินหนึ่งหรือสองคำ) ซึ่งจะเผาผลาญแคลอรี่ต่อนาทีได้สูงกว่าเข้าไปด้วย [5]
    • คุณไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองออกวิ่งไปตามทาง การว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ต่อยมวย และตีเทนนิสล้วนเป็นทางเลือกนอกเหนือจากการวิ่งและการใช้เครื่องเดินวงรี
    • หากคุณยังไม่ค่อยพร้อมจะออกกำลังแบบเข้มข้น ให้เริ่มเดินเร็วๆ บนลู่วิ่งไฟฟ้าในระดับชัน ใช้จักรยานปั่นกับที่ หรือทำความคุ้นเคยกับเครื่องเดินวงรี คุณสามารถออกกำลังบนอุปกรณ์เหล่านี้โดยปรับให้เข้ากับสมรรถภาพของตัวเอง
    • เพื่อจะลดไขมันเป็นปริมาณสูงที่สุด การผสมระหว่างการเล่นเวทกับคาร์ดิโอเป็นวิธีการออกกำลังกายที่จะได้ผลที่สุด [6]
  2. ถึงแม้คาร์ดิโอจะเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าในระยะสั้น การยกเวทหรือฝึกความแข็งแกร่งนั้นจะช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อซึ่งจะเพิ่มจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไปได้ในระยะยาว [7]
    • รวมการเล่นเวทอย่างน้อย 20 นาทีเข้าไปสัปดาห์ละไม่น้อยกว่าสองครั้ง ยิ่งคุณใช้เวลาฝึกยกเวท คุณก็จะยิ่งสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น [8]
    • มวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญอาหาร จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารและเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้นในตอนที่ร่างกายกำลังพักผ่อน [9]
  3. การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารก็จริง แต่การออกกำลังแบบสลับความหนักเบา (interval training) จะเพิ่มมันได้ยิ่งกว่า การฝึกสลับหนักเบาแบบมีความเข้มข้นสูงนั้นได้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่จากไขมันได้สูงกว่าการออกกำลังกายรูปแบบอื่น [10]
    • การฝึกแบบสลับหนักเบายังแสดงให้เห็นว่าช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญอาหารและยังคงรักษาอัตราที่สูงนั้นไว้ได้นานถึง 24 ชั่วโมงหลังการออกกำลังกาย [11]
    • การฝึกแบบสลับความหนักเบาเป็นการฝึกช่วงสั้นๆ ที่สลับระหว่างการทำกิจกรรมที่มีความเข้มข้นระดับสูงกับกิจกรรมที่มีความเข้มข้นระดับปานกลาง การออกกำลังกายแบบนี้ควรใช้เวลาระหว่าง 15-25 นาที และคุณควรจะรู้สึกเหนื่อยสุดๆ ในตอนท้ายของการออกกำลังกายเช่นนี้ [12]
    • การฝึกแบบสลับความหนักเบาอาจเป็นเรื่องยากและไม่เหมาะสำหรับทุกระดับความฟิต ให้ปรึกษาหมอก่อนจะเริ่มเสมอ และเริ่มออกกำลังกายแนวนี้อย่างช้าๆ จนกว่าคุณจะรู้สึกทำได้สบาย
  4. กิจกรรมในวิถีชีวิตคือกิจกรรมและการเคลื่อนไหวที่คุณทำในวันปกติ การเคลื่อนไหวเพิ่มตลอดทั้งวันจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่กับไขมันได้มากขึ้น [13]
    • กิจกรรมในวิถีชีวิตนั้นส่วนใหญ่มักเป็นการออกกำลังในความเข้มข้นระดับต่ำถึงปานกลาง นั่นหมายความว่าคุณมีการขยับกาย อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังไม่เหนื่อย กิจกรรมอาจได้แก่: การเดินเข้าออกจากรถ การเดินระหว่างไปร้านสะดวกซื้อ การเดินขึ้นบันไดไปที่ทำงานหรือการทำงานบ้าน (อย่างการกวาดบ้านทำสวน)
    • กิจกรรมเหล่านี้จะอยู่ในกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อว่า “โซนเผาผลาญไขมัน” ถึงแม้คุณจะเผาผลาญแคลอรี่โดยรวมได้น้อยลงเมื่ออยู่ในโซนนี้ แต่แคลอรี่ที่เผาผลาญนั้นจะมาจากไขมันที่กักเก็บไว้เป็นหลัก [14]
    • ผสมการออกกำลังกาย (อย่างการจ๊อกกิ้ง 30 นาที) นอกเหนือจากการเพิ่มกิจกรรมในวิถีชีวิต (อย่างการจอดรถให้ห่างจากประตูทางเข้ามากขึ้น) จะช่วยลดปริมาณมวลไขมันได้มาก [15]
  5. หากคุณพบว่าการออกไปข้างนอกเป็นเรื่องไม่สะดวกหรือไม่ได้เป็นสมาชิกยิมไหน ก็ยังมีการออกกำลังกายหลายรูปแบบที่คุณสามารถทำได้ที่บ้านโดยใช้อุปกรณ์น้อยหรือไม่ต้องใช้เลย
    • ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น ลองเดินอยู่กับที่ ยกขาขึ้นจากเก้าอี้ หรือเอาตัวดันกำแพง พวกนี้เป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นต่ำ เหมาะสำหรับคนเริ่มต้น ที่จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ กระชับกล้ามเนื้อและช่วยลดมวลไขมัน
    • ถ้าคุณเคยออกกำลังกายมาจนอยู่ตัวแล้ว คุณสามารถลองท่าออกกำลังกายแบบก้าวหน้าขึ้นได้ที่บ้าน ให้ทำกิจกรรมอย่าง: วิดพื้น ซิทอัพ วิ่งอยู่กับที่ สควอท หรือท่าวิดพื้นแบบนักปีนเขา กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้คุณเสียเหงื่อและช่วยลดมวลไขมัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปริมาณที่เพิ่มขึ้นมาของโปรตีนไม่ได้สร้างมวลกล้ามเนื้อ (วิธีเดียวที่จะสร้างกล้ามเนื้อคือออกกำลังมัน) แต่มันจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายการลดน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน [16]
    • โปรตีนไร้มันจะช่วยลดน้ำหนักและทำให้รู้สึกอิ่มได้นานกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคาร์โบไฮเดรต [17]
    • โดยทั่วไป ผู้หญิงต้องการโปรตีนวันละ 46 กรัม และผู้ชายต้องการวันละ 56 กรัม [18] ในแต่ละมื้อรวมมื้อของว่างให้กินโปรตีนหนึ่งหน่วยบริโภคจะช่วยให้บรรลุเป้าหมาย
    • เนื้อ เนื้อไก่ หรือเนื้อปลา หนึ่งหน่วยบริโภคควรจะมีขนาดและความหนาราวฝ่ามือของคุณ (ซึ่งเท่ากับราว 100-120 มิลลิลิตร)
    • โปรตีนไร้มันที่ควรมีในอาหารได้แก่: ไข่ เนื้อไก่ ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ เนื้อวัวไร้มัน ถั่วเลกูม เนื้อหมู อาหารทะเล และเต้าหู้
  2. จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการควบคุมอาหารโดยให้คาร์บต่ำนั้นส่งผลให้น้ำหนักลดลงเบื้องต้นอย่างมากและยังลดไขมันในระยะยาวได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการทานแบบเน้นไขมันต่ำ [19] จำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่บริโภคจะช่วยลดน้ำหนัก และยังลดไขมันส่วนเกินที่มีอีกด้วย
    • คาร์โบไฮเดรตนั้นพบได้ในอาหารหลากหลายประเภทเช่น: ผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเลกูม ธัญพืช และผักที่มีคุณสมบัติเป็นแป้ง เนื่องจากมันมีมากมาย จึงไม่ใช่แนวคิดที่ดีหรือปลอดภัยนักถ้าจะควบคุมอาหารแบบลดคาร์บให้เหลือต่ำสุดหรือไม่มีเลย เพราะคุณจะถูกจำกัดจากอาหารหลากหลายอย่าง ตั้งเป้าว่าจะบริโภคคาร์โบไฮเดรตในระดับปานกลางดีกว่าหลีกเลี่ยงมันเลย
    • จำกัดคาร์โบไฮเดรตจากธัญพืชอย่างขนมปัง ข้าว พาสต้า หรือแครกเกอร์ เพราะมันไม่ได้เต็มไปด้วยสารอาหารเหมือนคาร์โบไฮเดรตอื่นอย่างผลไม้หรือผักที่มีคุณสมบัติเป็นแป้ง [20] อีกทั้งยังเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องจำกัดธัญพืชที่ผ่านการขัดสีหรือทำจากแป้งขาวอย่าง ขนมปังขาว เส้นพาสต้าทั่วไป หรือข้าวขาว
    • ถ้าคุณเลือกที่จะบริโภคอาหารที่เน้นธัญพืช ให้เลือกธัญพืชเต็มเมล็ด 100% แทนธัญพืชที่ผ่านการขัดสี ธัญพืชเต็มเมล็ดมีไยอาหารสูงกว่าและมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ [21] เลือกอาหารอย่าง: ขนมปังจากธัญพืชเต็มเมล็ด 100% ข้าวกล้อง หรือข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด
  3. ทานอาหารที่สมดุลและดีต่อสุขภาพ. ถ้าเป้าหมายคุณคือลดไขมัน คุณอาจต้องเน้นไปที่โปรตีนไร้มันกับการจำกัดคาร์บ แต่ก็สำคัญไม่แพ้กันที่จะต้องแน่ใจว่าคุณยังทานอาหารที่สมดุลอยู่นั่นหมายถึงมีผักผลไม้เพียงพอ [22]
  4. การศึกษาพบว่าน้ำตาลกับแอลกอฮอล์ล้วนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือเพิ่มปริมาณไขมันส่วนเกิน [26] การตัดหรือลดอาหารเหล่านี้จะช่วยลดน้ำหนักและลดปริมาณไขมันส่วนเกินลงได้
    • คำแนะนำในปัจจุบันบอกว่าให้จำกัดแอลกอฮอล์เพียงวันละหนึ่งแก้วสำหรับผู้หญิงและวันละสองแก้วสำหรับผู้ชาย อย่างไรก็ตาม การจำกัดแอลกอฮอล์มากขึ้นกว่านี้จะเหมาะกับการลดน้ำหนักและลดไขมัน [27]
    • จำกัดหรือเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ลูกอม คุกกี้ เค้ก เครื่องดื่มรสหวาน (น้ำอัดลมหรือชาเติมน้ำตาล) กาแฟเติมน้ำตาล น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่
  5. มียาหลากหลายในท้องตลาดที่สัญญาว่ามีประโยชน์ทางการควบคุมอาหาร รวมถึงการลดน้ำหนักกับไขมันแบบเห็นผลทันตา ยาลดน้ำหนักเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการอนุญาตขององค์กรอาหารและยา จึงอาจมีผลตามมาที่รุนแรงได้ ความคลั่งยาเหล่านี้ไม่เพียงแต่อาจเกิดอันตรายเท่านั้น มันยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าใช้ได้ผลด้วย
    • จากการศึกษาที่จัดทำโดยองค์กรอาหารและยานั้นพบว่ายาลดน้ำหนักที่มีวางขายตามท้องตลาดหลายตัวมีการผสมหรือปนเปื้อนยาอันตรายอื่นๆ หรือเป็นการผสมตัวยาที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ [28] จงใช้มันด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
    • ยาใช้ยาลดน้ำหนักที่มีวางขายโดยไม่ได้ปรึกษาหมอก่อน ยาเหล่านี้อาจไปกระทบกับยาที่คุณใช้อยู่หรือสุขภาพของคุณในขณะนี้ได้
    • หลีกเลี่ยงยาหรือผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างว่าลดน้ำหนักได้ง่ายและรวดเร็วทันใจ เช่น "ลด 5 กิโลกรัมใน 1 สัปดาห์" หรือ "ลดรอบเอวกางเกงได้หนึ่งไซส์ใน 2 วัน" ถ้ามันดูง่ายดายและดูดีเกินจริง มันก็คงเป็นอย่างนั้นแหละ ใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงพวกมันจะดีกว่า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

รักษาพฤติกรรมการกินแบบใหม่ไว้

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำบันทึกอาหาร. จดสิ่งที่กินจะช่วยให้คุณยังอยู่ในพฤติกรรมการกินอาหารแบบใหม่นี้ได้ในระยะยาว มันจะช่วยคุณจดจำและเข้าใจว่าได้กินอะไรเข้าไปบ้างทุกวัน [29]
    • การทำบันทึกอาหารจะช่วยให้คุณตระหนักเวลาที่ "พลาด" หรือช่วยให้มองเห็นว่าควรมีการปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้างถ้าจำเป็น
    • ซื้อสมุดบันทึกอาหาร ใช้เศษกระดาษที่มี หรือดาวน์โหลดแอพบันทึกลงในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
    • ให้แน่ใจว่าคุณซื่อสัตย์และถี่ถ้วนในการทำบันทึก ผู้คนมักจะประเมินปริมาณอาหารที่ตนเองกินลงไปต่ำกว่าความเป็นจริง
  2. ผ่อนคลายความเครียดเป็นประจำ. การศึกษาแสดงให้เห็นว่าระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้นนั้นจะทำให้ระดับคอร์ติซอลสูงขึ้น มันคือฮอร์โมนที่มักถูกอ้างถึงว่าเป็นฮอร์โมนในการ "จะสู้หรือหนี" เวลาที่ระดับมันพุ่งสูงขึ้นจากความเครียดเรื้อรังนั้น มันจะไปเพิ่มไขมันส่วนเกินในร่างกาย ดดยเฉพาะตรงบริเวณรอบเอว [30]
    • ความเครียดนั้นเป็นเรื่องที่ยากจะหนีให้พ้นได้ แต่การตรวจสังเกตเพื่อให้ทราบว่าอะไรเป็นต้นเหตุของความเครียดในชีวิตและจะจัดการมันอย่างไรนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงของการเพิ่มมวลไขมันได้
    • มวลไขมันที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตรงรอบเอว ถูกเชื่อมโยงกับความเสี่ยงทางสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอันได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง [31]
    • ลองไปพบผู้ให้คำแนะนำชีวิตหรือนักบำบัดพฤติกรรมเวลาที่รู้สึกว่าเครียดจนควบคุมไม่ได้หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมในการควบคุมความเครียดให้ได้ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้สามารถให้แนวทางวิธีจัดการความเครียดได้
    • เขียนความคิดหรือกิจกรรมที่คุณคิดว่าผ่อนคลายหรือเหมาะกับตนเอง เวลารู้สึกเครียด พยายามทำกิจกรรมเหล่านั้นเพื่อช่วยสงบสติอารมณ์ คุณสามารถลอง: ฟังเพลง ออกไปเดินเล่น อ่านหนังสือ หรือคุยกับเพื่อน
  3. เมื่อคุณควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และลดน้ำหนักไปเรื่อยๆ วิธีวัดความก้าวหน้าที่ดีที่สุดคือการชั่งน้ำหนักและวัดสัดส่วนอยู่เป็นประจำ มันอาจเป็นแรงขับเคลื่อนให้คุณได้ทำต่อไป [32]
    • ชั่งน้ำหนักสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ตั้งเป้าให้ชั่งในวันเดิมและเวลาเดิมเพื่อผลที่เชื่อถือได้
    • และทำการวัดสัดส่วนของร่างกาย เช่น วัดรอบเอว สะโพก หรือต้นขา เมื่อคุณลดน้ำหนักและลดไขมันลง คุณจะสังเกตเห็นว่าร่างกายคุณมันกำลังหดเล็กลง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ไปหาหมอก่อนเริ่มลดน้ำหนักหรือออกกำลังกายเสมอ
  • ถ้าคุณรู้สึกอาการปวดหรือไม่สบายตัวในระหว่างออกกำลังกาย ให้หยุดทันทีและพบหมอก่อนกลับมาฝึกใหม่
  • กินอาหารว่างที่ถูกสุขภาพทุกสามชั่วโมงเพื่อให้รู้สึกอิ่ม อาจจะเป็นผลไม้สดทั้งลูก โยเกิร์ต หรือถั่วก็ได้
  • มีขวดน้ำติดตัวเสมอ จะช่วยเอาชนะอาการหิวที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวได้
โฆษณา
  1. http://www.prevention.com/fitness/strength-training/common-workout-mistakes-prevent-weight-loss
  2. http://www.prevention.com/fitness/strength-training/common-workout-mistakes-prevent-weight-loss
  3. http://www.prevention.com/fitness/strength-training/common-workout-mistakes-prevent-weight-loss
  4. http://www.berkeleywellness.com/fitness/exercise/article/low-intensity-exercise-fat
  5. http://www.berkeleywellness.com/fitness/exercise/article/low-intensity-exercise-fat
  6. http://www.berkeleywellness.com/fitness/exercise/article/low-intensity-exercise-fat
  7. http://www.prevention.com/fitness/strength-training/common-workout-mistakes-prevent-weight-loss
  8. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25926512
  9. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/25926512
  10. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/low-carb-diet/art-20045831?pg=2
  11. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/low-carb-diet/art-20045831?pg=2
  12. http://wholegrainscouncil.org/whole-grains-101/what-are-the-health-benefits
  13. http://www.cdc.gov/healthyweight/healthy_eating/fruits_vegetables.html
  14. http://www.choosemyplate.gov/vegetables
  15. http://www.choosemyplate.gov/fruit
  16. http://www.choosemyplate.gov/vegetables
  17. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/8653140
  18. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/alcohol/art-20044551
  19. http://www.fda.gov/ForConsumers/ConsumerUpdates/ucm246742.htm
  20. http://www.heart.org/HEARTORG/GettingHealthy/WeightManagement/LosingWeight/Food-Diary---How-to-Keep-Track-of-What-You-Eat_UCM_320180_Article.jsp
  21. http://www.todaysdietitian.com/newarchives/111609p38.shtml
  22. http://www.todaysdietitian.com/newarchives/111609p38.shtml
  23. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18198319

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,111 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา